ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 413 ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความโรแมนติก



ตอนที่ 413 ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความโรแมนติก

ตอนที่ 413 ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความโรแมนติก

เวลาสองทุ่มในงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่เมืองเจียงเฉิง ด้านนอก มีสวนเพลนทรีที่งอกงามห้อมล้อมอยู่ แสงจากไฟนีออนทำให้ บรรยากาศโดยรอบสว่างขึ้นมา

ถึงมันจะเป็นภาพบรรยากาศเดิมๆ แต่ตอนนี้ในใจมีความคาด หวังที่ไม่เหมือนเดิมทำให้วันนี้ของเจิ้งซินเต็มเปี่ยมไปด้วย ความรู้สึกที่แสนโรแมนติก

เธอเดินลงจากรถด้วยความอารมณ์ดี ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทแล้ว ฝนที่ตกจางๆ ก็เพิ่งหยุดไป เมืองเจียงเฉิงตอนนี้ค่อนข้างชื้น แฉะ ในอากาศเต็มไปด้วยหมอกที่ยังไม่สลายไป

เจิ้งซินยักไหล่ๆ เดินมาด้วยรองเท้าส้นสูงที่สูงมาก ผิวพรรณ ที่ขาวนวล เผยรอยยิ้มที่ไม่อาจปิดบังได้ สายตากวาดมองไป รอบๆ “คุณหลงเซียวอยู่ที่ไหนน้า?”

หัวใจที่พวงโตของเด็กสาว มันตื่นเต้นจนแทบจะทะลุออกมา แล้ว เจิ้งซินเม้มปากแล้วมองไปยังทางเข้า แล้วถามหวังเจี้ยน ไปโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าเขาเลย

หวังเจี้ยนโค้งตัวลงพร้อมกับตอบไปว่า “คุณเจิ้งครับ งาน ดนตรีใกล้จะเริ่มแล้ว คุณเข้าไปก่อนเถอะครับ ท่านประธาน อาจจะอยู่ในนั้นก็ได้ครับ…..
ความเป็นไปได้นี้เขารู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่ความจริง ตอนน นายท่านต้องอยู่บนเครื่องแน่ๆ สันนิษฐานได้จากการที่โทรหา ท่านไม่ติด ส่งข้อความก็ไม่อ่าน

เจิ้งซินยังคงรักษาความตื่นเต้นนั้นไว้ โดยไม่ได้ลดน้อยลง เลย แล้วพยักหน้าไปด้วยความดีใจ จินตนาการถึงการเดท ของเธอและหลงเชียว จินตนาการถึงวันที่ตัวเองและหลงเซียว ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว…….

ภาพเหล่านั้นมันค่อยๆ แล่นเข้ามาในหัว มันค่อยๆ ทำให้เธอ คาดหวังมากขึ้น

เจิ้งซินก้าวขาที่เรียวยาวของเธอขึ้นบันไดไป พนักงานที่รอ อยู่เปิดประตูออกเป็นการต้อนรับเธอ งานดนตรีที่จัดขึ้นเพื่อ เธอสองคน ความโรแมนติกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเธอคนเดียว เท่านั้น

การเซอร์ไพรส์แบบนี้ ใครจะไม่ชอบหล่ะ?!

เจิ้งซินเดินเข้าไปในงานดนตรี สายตาที่เป็นประกายจ้องมอง ไปบนเวที เหล่านักดนตรีได้เตรียมตัวอยู่ตรงนั้นแล้ววาทยกร และนักดนตรีเตรียมพร้อมที่จะเริ่มเล่นได้ทุกเมื่อ

แต่บนที่นั่งของแขกนับพันกลับไม่มีใครนั่งอยู่เลย

มีเพียงแค่ที่นั่งVIPด้านหน้าที่มีโซฟาสไตล์บารอกแบบเดี่ยว เล็กตั้งอยู่ ลายดอกที่ประดับอยู่ทั่ว กับการออกแบบที่ดูหรูหรา ข้างๆ มีโต๊ะกระจกตั้งอยู่ บนโต๊ะมีแจกันทรงสูงสีเส วางอยู่และในแจกันก็มีดอกลิลีเสียบอยู่หลายดอก

ข้างๆ ยังมีไวน์แดงวางอยู่ครึ่งแก้ว ผลไม้ ของว่าง บวกกับแสง ไฟที่ส่องแสงสลัวๆ กลายเป็นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก

เจิ้งซินยิ้มหวานอย่างดีอกดีใจ คุณหลงเซียว….ที่แท้ก็เป็นผู้ เชี่ยวชาญเรื่องความโรแมนติกนี่เอง

เธอรู้สึกชอบมาก!

ผู้ชายที่ทำเรื่องแบบนี้ให้เธอมีมากมาย แต่เธอก็ไม่เคยสนใจ ถึงขั้นไม่ชายตามองเลยด้วยซ้ำ แต่พอหลงเซียวเป็นคนมา ทําให้ เธอชอบ!

แต่ว่า ทำไมหลงเซียวถึงไม่อยู่ที่นี่นะ?

เจิ้งซินค่อนข้างมั่นใจ นอกจากเหล่านักแสดงแล้วในนี้ก็ไม่มี คนอื่นอยู่เลย แม้แต่พนักงานสักคนยังไม่มีเลยเนี่ยนะ?

นี่เขาตั้งใจสร้างบรรยากาศที่มีแค่เราสองคนรึเปล่านะ?

เจิ้งซินเดินลงบันไดมาทีละก้าวด้วยหัวใจที่สั่นไหว

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเธอก็ได้ดังขึ้น
ตอนแรกนึกว่าหลงเซียวเป็นคนโทรมา เจิ้งซินแทบจะหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่สั่นรัว แต่พอมองดูเบอร์ที่โทรมาหัวใจ ของเธอก็ดิ่งจากร้อยลงมาติดลบสิบองศาในทันที!

กัดฟันแน่น จ้องมองไปยังชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ จากนั้นก็ กดตัดสายทิ้งไปทั้งอย่างนั้น

พอเดินไปไม่กี่ก้าว มือถือก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เจิ้งชินกัดฟันอีกครั้ง เหลือกตามองบนแล้วจำใจรับสายนั้นไป ไม่รอให้อีกฝั่งได้พูด เธอก็ชิงต่อว่าคนทางนั้นไปก่อนเลย

“ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ อย่าโทรหาฉันอีก! ทำไม? ไม่เชื่อ เหรอ? ฮึ!”

ผู้ชายที่อยู่ฝั่งนั้นทําเสียงเหมือนอ้อนวอนเล็กน้อย “ซินซินครั บ ผมทําอะไรผิด แม้แต่บอกเลิกยังไม่บอกเลยคุณก็จากผม ไปเสียแล้ว? อย่างน้อยคุณก็ช่วยบอกเหตุผลให้ผมได้รู้หน่อย ไม่ได้เหรอครับ? เรายังรักกันดีอยู่เลยไม่ใช่เหรอครับ? บทจะ เปลี่ยนคุณก็เปลี่ยนไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอครับ?”

เจิ้งซินขาออกมาอย่างรำคาญใจ ลิปสติกสีแดงสดกับริม ฝีปากที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดี พูดออกมาอย่างดูแคลนว่า “ดีๆ กันอยู่เหรอ? ฉันไปดีๆ กับคุณตั้งแต่เมื่อไหร่? คุณช่วยอย่า เข้าใจเรื่องนี้ผิดได้ไหม? ฉันไม่เคยชอบคุณมาก่อนเลย”

หลังจากตอบไปอย่างหยิ่งยโส เจิ้งซินก็เดินตรงไปยังที่ๆ
เป็นของตนเอง ทีละก้าวทีละก้าว เหมือนเจ้าสาวที่กำลังเดินไป หาเจ้าบ่าวของตัวเอง เจ้าหญิงเดินไปหาเจ้าชาย

“ผู้ชายทางนั้นเริ่มร้อนรนแล้ว “ซินซิน เดือนก่อนในงานเลี้ยง ของตระกูลเส็น คุณยังเป็นคนรักของผมอยู่เลย แล้วทำไม ตอนนี้อยู่ๆ ก็กลายเป็นแบบนี้ไปได้ครับ? คุณทำอย่างนี้กับผม ได้ยังไง?”

ชายหนุ่มเหมือนจะจริงจังกับความรักในครั้งนี้ไปแล้ว ยิ่งได้ มาฟังคำปฏิเสธจากปากเจิ้งซินแบบนี้ เขาก็ร้อนรนขึ้นมาทันที จึงได้ถามออกไปอย่างไม่คิด

เจิ้งซินขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ฮึๆ งานเลี้ยง…..นั่นเพ ราะเสิ่นคั่วดูชื่นชมคุณจะตาย ชมจนคุณเป็นเทพบุตรแล้วมั้ง ฉันก็แค่ช่วยคุณเล่นละครเท่านั้นเอง คุณคิดเหรอว่าฉันจะ สนใจคนอย่างคุณเข้าจริงๆ? ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะโจวจิ้น คุณไม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ชายของฉันเลย ตัดใจซะ เถอะ!”

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าโจวจิ้นยิ่งร้อนรนขึ้นไปอีก “ซินซิน อย่างน้อยก็ช่วยบอกเหตุผลให้ผมรู้หน่อยได้ไหมครับ? คุณมี คนอื่นใช่ไหมครับ? มันเป็นใคร?”

เจิ้งซินนั่งลงอย่างสง่าผ่าเผย “รู้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร สำหรับคุณหรอก มันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกต้อยต่ำจนไม่มีที่ยืน เลยหล่ะ!
“ผมไม่เชื่อ! มันเป็นใคร! ผมชื่อโจวจิ้น ผมเองก็มีหน้ามีตาใน เมืองเจียงเฉิงอยู่เหมือนกันนะ ผมจะไม่ยอมพ่ายแพ้ไปอย่าง ไม่รู้อะไรเลยแบบนี้เป็นอันขาด!”

“ถ้าคุณอยากรู้มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หลงเซียว ชาย คนนั้นชื่อว่าหลงเชียว ฮีๆ คุ้นชื่อนี้ไหม!”

“หลงเซียวงั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขา….…..

“ไม่ใช่ว่าอะไร?! ต่อไปเขาจะกลายเป็นผู้ชายของฉัน!” หลังจากตะคอกไปอีกครั้ง เจิ้งซินก็ตัดสายเขาไป

ในตอนนั้นเอง วงดนตรีก็ได้เริ่มเล่นขึ้นมาแล้ว เพลงแรกคือ เพลง เดอะบลูดานูบ วงออร์เคสตราที่ดูยิ่งใหญ่กำลังบรรเลง เพลงอย่างก้องกังวานอยู่ในโรงละคร

เจิ้งซินดื่มฉ่ำกับไวน์พร้อมทั้งท่วงทำนองที่ไพเราะ แต่หลัง จากที่เพลงแรกจบลงหลงเซียวก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา

เธอจึงโทรหาเขาอย่างไม่สบายใจ แต่ก็โทรไม่ติด

เป็นไปได้ยังไง?

เธอยังไม่เชื่อจึงโทรไปอีกรอบ ยังคงเป็นเหมือนเดิม
เจิ้งซินมองดูเวลา นี่มันสองทุ่มยี่สิบแล้ว

เสียงเพลงยังคงก้องกังวาน แต่ที่นั่งที่ว่างเปล่าเหล่านั้นมัน ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย ทำไมหลงเซียวถึงยังไม่ มา? หรือเขากำลังเล่นละครอะไรอยู่หรือเปล่า?

ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว เจิ้งซินหยิบกระเป๋าถือขึ้นมา เตรียมที่จะเดินออกไป

บทเพลงที่สอง วาทยกรหันกลับมาแล้วโค้งตัวลง “บทเพลง ต่อไปถูกเตรียมมาเพื่อคุณเจิ้งซินโดยเฉพาะเลยครับ”

หลังจากคำพูดที่รวบรัดของวาทยกรจบลง เขาก็หันไป โบกมือ แล้วเสียงดนตรีก็ดังกังวานขึ้นอีกครั้ง

เจิ้งซินต้องหยุดเท้าที่ยกขึ้นของตัวเองลง หลงเซียว ความ เซอร์ไพรส์ที่คุณเตรียมไว้ให้ฉันอยู่ในบทเพลงใช่ไหม?

แล้วเธอก็ปล่อยวางหัวใจที่กังวลลงชั่วคราว เจิ้งซินยกแก้ว ไวน์ขึ้นมาแล้วดื่มกับบทเพลงไพเราะที่ได้จัดเตรียมไว้ สำหรับเธอ

แต่เจิ้งซินไม่มีทางรู้หรอกว่า พอบทเพลง [เซเรเนด] ของชู เบิร์ตเล่นมาได้เพียงแค่ครึ่งเดียว เธอก็ได้หมดสติไปอย่างสิ้น เชิง

เรี่ยวแรงค่อยๆ หายไป วิสัยทัศน์เริ่มเลือนรางไปเรื่อยๆสุดท้ายก็ทนต่อไปไม่ไหวฟุบลงบนโต๊ะแล้วหลับไป

ในขณะเดียวกัน บนเครื่องบิน

หลงเชียวหันไปมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา แล้วหันไปเตรียม

ข้อมูลที่เอาไว้ใช้ในการประชุมในคืนนี้ต่อ พอลงเครื่องมา หลงเซียวก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่อง

สายที่ไม่ได้รับเด้งขึ้นมามากมาย หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างแรง

แล้วเดินออกมาจากสนามบินอย่างรวดเร็ว หวังเจี้ยนได้ขับรถ มารออยู่ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว พอเห็นหลงเซียวเดินมา หวัง เจี้ยนก็เปิดประตูรถออก

“ท่านประธานครับ ผมส่งคุณเจิ้งไปที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ครับ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านวางแผนไว้เลยครับ ไม่มีอะไร ผิดพลาดเลยสักนิดครับ”

หลงเซียวพยักหน้า “ดี ส่งผมไปประชุมที่บริษัทก่อน”

“ครับ ท่านประธาน

รถมุ่งตรงไปที่บริษัท หลงเซียวไปประชุมก่อน

หลงเซียวเดินมาถึงหน้าประตูห้องประชุม เขาก็ได้ยินเสียงปรึกษากันที่ดังขึ้นอย่างเงียบๆ

“คุณชายยังไงก็คือคุณชาย สั่งให้เราประชุมเมื่อไหร่ เราก็ ต้องมาในเวลานั้น เราไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเลยหรือไงเนี่ย

“นี่คุณกลานินทาคุณชายอย่างนั้นเหรอ? ผมว่าคุณคงไม่ อยากอยู่ต่อแล้วสินะ”

“เริ่มประชุมสี่ทุ่ม กว่าจะประชุมเสร็จอย่างน้อยก็คงตีหนึ่งตี สองน่นแหละมั้ง? พรุ่งนี้วันศุกร์ด้วย จะให้พักก็ไม่ได้”

“อดทนไว้”

เงาร่างของหลงเชียวปรากฏออกมาหลังจากที่การพูดคุยจบ ลงไปแล้ว คนที่อยู่ภายในรีบนั่งกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยไม่มีกล้าพูดอะไรออกมาเลย

มีแผนงานหลายอย่างที่ต้องประชุมกันเกี่ยวกับโครงการใหม่ หลงเซียวได้เอาแผนงานที่เขาได้เตรียมไว้แล้วออกมาทําเอา คนที่นั่งประชุมอยู่ด้านในไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งสิ้น

ได้แต่นั่งดูข้อมูลที่ถูกฉายออกมาจากโปรเจคเตอร์อย่าง เงียบๆ ตาเล็กตาใหญ่ ต่างคนต่างมองหน้ากัน

แผนงานที่ท่านประธานเตรียมมามันค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องหารืออะไรกันเลย!
หลงเซียวชี้ไปที่จอโปรเจคเตอร์ น้ำเสียงแหบซ่านที่จริงจัง และดุดัน “แผนงานที่พวกคุณส่งมาผมดูมาแล้ว ผมติดอยู่ ที่เดียวก็คือ ทุกท่านเป็นถึงนักกลยุทธ์ที่มากประสบการณ์ ของMBK ผมอยากรู้จริงๆ ว่าวุฒิการศึกษาของพวกคุณนั้น ซื้อมา หรือว่าตอนมาสมัครงานพวกคุณใช้เส้นสายเข้ามาหรือ เปล่า?”

พอเขาเปิดปากพูด ทุกๆ คนต่างก็นิ่งเงียบเลย

หลงเซียวพูดต่อ “ผมบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ จำมาตรฐาน ของผมเอาไว้ ถ้าครั้งต่อไปยังให้ผมเห็นกองขยะพวกนั้นอีก ทางฝ่ายบุคคลก็จะส่งคำทักทายของผมไปแน่นอน”

การตักเตือนที่ดุดัน ช่างดูทรงอิทธิพลเหลือเกิน!

ไม่ถึงห้าทุ่มการประชุมก็ได้จบลงแล้ว รวดเร็วและเรียบง่าย ไม่มีอะไรต้องให้คิดมากเลย

บรรดาผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์หลายคนตกใจจนหน้าซีดเลย

หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง หลงเซียวก็รับกุญแจมาจาก หวังเจี้ยน “เดี๋ยวผมจะไปโรงแรมต่อ คุณกลับไปพักผ่อนได้ เลยครับ”

หวังเจี้ยนพยักหน้า แล้วก็ถามไปว่า “ท่านประธานครับ….…… แผนงานที่ใช้ประชุมในวันนี้ท่านเอาเวลาที่ไหนไปเตรียมเหรอ ครับ? ”
“ระหว่างนั่งเครื่องมาที่นี่” ตอบกลับไปอย่างเรียบเฉย แล้ว หลงเซียวก็เดินจากไป ทิ้งแผ่นหลังที่สูงใหญ่ไว้ให้เขาดู

หวังเจี้ยน” ……

ระหว่างนั่งเครื่องกลับเหรอ?

นั่นมันเป็นแผนงานที่ฝ่ายกลยุทธ์ทําขึ้นมานะ…..พวกเขาใช้ เวลาตั้งหนึ่งอาทิตย์ถึงคิดออกมาได้เลยนะ! แต่ก็ไม่สามารถ เทียบได้กับแผนงานที่ท่านประธานใช้เวลาคิดเพียงแค่หนึ่ง ชั่วโมงได้เลย

คนเทียบคน เครียดตายห่า

ระหว่างทาง หลงเซียวหยิบหูฟังไร้สายออกมาแล้วโทรหา ใครบางคน “เตรียมคัดลอกลายนิ้วมือของเจิ้งซินไว้ได้เลย เธอ อยู่ที่โรงแรมแล้ว”

“ครับนายท่าน ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”

“สิ่งที่ผมให้คุณไปสืบผลเป็นยังไงบ้าง?” สายตาที่คาดการณ์ ไม่ได้มองไปยังท้องฟ้าที่มืดมน เขารู้สึกไม่ชอบใจกับสภาพ อากาศของเมืองเจียงเฉิงเลยแม้แต่น้อย

“สืบได้แล้วครับ คนชู้ของจ้าวฟางฟาง เป็นนักแสดงคุณภาพ รอง ไม่ค่อยมีชื่อเสียงอะไรมากครับ ตอนนี้ถูก จ้าวฟางฟาง เลี้ยงดูอยู่ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วครับ เสิ่นคั่วอายุมากแล้วไม่มีทางที่จะชดเชยในเรื่องนั้นไหเธอ ได้หรอกครับ ดังนั้นเธอถึงได้..………….

พอพูดถึงตรงนี้ก็เป็นที่รู้ๆ กันแล้ว

แล้วได้หลักฐานมาไหม?” หลงเชียวหมุนพวงมาลัย โรงแรม อยู่ห่างไปไม่ไกลแล้ว

“ตอนนี้ได้มาแค่รูปถ่ายครับ แต่ว่าครั้งต่อไปที่จ้าวฟางฟาง กับชายคนนั้นออกสู่สาธารณะอีกผมจะรีบถ่ายวีดีโอไว้เลย ครับ”

หลงเซียวเคาะนิ้ว “เวลามีไม่มากแล้ว ภายในสามวันผม ต้องการได้รับหลักฐานที่แน่นหนาที่สุด”

“ครับ! ผมจะพยายามให้ถึงที่สุดครับ เออจริงด้วยครับท่าน ประธาน ท่านจะเอาลายนิ้วมือของเจิ้งซินไปทำอะไรเหรอ ครับ?”

หลงเซียวขับรถไปจอดไว้ที่ลานจอดของโรงแรม จอดรถจน สนิท “เจิ้งชินกับพ่อของเธอร่วมมือกันทุจริต แอบยักยอกงบ ประมาณไปจำนวนมาก ผมต้องการหลักฐานจากมือเธอ”

คนทางนั้นรู้สึกตกใจจนอุทานออกมา “ท่านครับ ท่าน…..….. ตอนแรกที่ท่านเข้าหาเจิ้งซินก็เพราะเหตุนี้เหรอครับ?”

หลงเซียวเปิดประตูรถออก เดินเข้าลิฟต์ไปอย่างสง่าผ่าเผย”ไม่งั้นหล่ะ?”

รถของชายคนนั้นก็ขับมาถึงที่โรงแรมแล้วเหมือนกัน เขา หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข “ผม……..ผมคิดว่าคุณแค่ ต้องการตกเธอแบบชายหญิงซะอีกครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ