ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 547 ไอ้เลว



ตอนที่ 547 ไอ้เลว

ตอนที่ 547 ไอ้เลว

“ถังจิ้นเหยียน นายแม่งเป็นโรคอะไร คบกันอยู่ดีๆทําไม ต้องเลิกกัน นายบ้าไปแล้วเหรอ ” ความโกรธพุ่งปี๊ดขึ้นสม องของลั่วหาน เส้นเลือดตรงหน้าผากเต้นตุ้บๆๆ

เธอคว้าคอเสื้อเสื้อคลุมสีขาวของถังจิ้นเหยียนมา บิด จนเสื้อคลุมสีขาวของเขาเสียรูปไป ในสายตาเต็มไปด้วย ความโกรธเคือง ที่อยากจะยิงทะลุศีรษะของเขา!

ถังจิ้นเหยียนไม่ขยับเลย ปล่อยให้เธอระบายออกมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เหมือนป่าหลัง ฝนตกในช่วงกลางฤดูร้อน”ถือว่าฉันทำร้ายเธอ มันเป็น ความผิดของฉัน แต่เราคงไม่เหมาะสมกันจริงๆ ”

“พูดไปมั่ว!”

ลั่วหานโกรธมาก และไม่สนใจคำพูดที่ใช้ว่าดีหรือไม่ดี และไม่ได้พิจารณาว่า ถังจิ้นเหยียนผู้อ่อนโยนนี้สามารถ รับความหยาบคายของเธอได้ไหม ถึงยังไงเธอโกรธมากเ

“ ถังจิ้นเหยียน ผู้หญิงดีๆอย่างเจิ้งซิ่วหยาคุณก็ไม่รักษา ดีๆ นี่คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”
หญิงตั้งครรภ์โกรธมากไม่ได้ ลั่วหานควบคุมอารมณ์ได้ ดีมาตลอด แต่ในเวลานี้เธอไม่สามารถควบคุมมันได้แล้ว เมื่อเธอได้ยินว่าถังจิ้นเหยียนบอกเลิกกับเธอ เธออยาก จะแงะหัวของเขาออกมา!

ถังจิ้นเหยียนกดไหล่ของเธอเบา ๆ ด้วยมือทั้งสอง ทําให้ อารมณ์ของเธอคงที่ และพูดด้วยเสียงต่ำและอ่อนโยนว่า “ลั่วหาน เรื่องของความรู้สึก เรารู้ตัวเราเอง ไม่ใช่ว่ามันจะ เป็นไปอย่างที่คุณเห็น?”

ทันใดนั้นความโกรธแค้นของลั่วหานก็คลายลง และ ความคับข้องใจของเธอก็สะลายหายไป” คุณ … หมายความว่าคุณตำรวจเจิ้งทำอะไรให้คุณเสียใจงั้นเห รอ?”

“ไม่ใช่ เธอดีมาก ทุกอย่างดีมาก ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ” ถังจิ้นเหยียนอธิบายแทนเธออย่างจริงจัง

ลั่วหานขมวดคิ้ว “คุณทะเลาะกันเหรอ? เธอทำร้ายคุณ หรือเปล่า?”

เจิ้งซิ่วหยาเป็นตำรวจ และเธอค่อนข้างหยาบคาย เธอ ทำร้ายถังจิ้นเหยียนจริงหรือ?
ถังจิ้นเหยียนส่ายหัว “ไม่ใช่ เธอดีกับฉันมาก ตอนอยู่ บ้านเธออ่อนโยนมาก

ลั่วหานถามอีกครั้ง “ครอบครัวของเธอไม่เห็นด้วย?หรือ

ครอบครัวของคุณไม่เห็นด้วย ถังจิ้นเหยียนยังคงส่ายหัว “เปล่า พ่อแม่ของเธอไม่มี

ความเห็นใดๆ พ่อแม่ของฉันยังไม่รู้เรื่องของเรา”

ลั่วหานที่เพิ่งคลายความโกรธลงเล็กน้อย และความ โกรธก็กลับมาอีกครั้ง “นูก็ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่! ในเมื่อไม่มี เรื่องอะไร ทำไมต้องเลิกกัน? คุณเป็นคนมีเหตุผล จิ้นเหยี ยนอย่ามางี่เง่าดิ”

ถังจิ้นเหยียนปล่อยเธอ การกระทำนั้นไม่ได้ใช้แรงมาก แต่เขากลับใช้กำลังทั้งหมด เขามองเธอผ่านชั้นหมอก ราวกับว่ามีกำแพงเบอร์ลินหนาถูกสร้างขึ้นระหว่างเขาทั้ง สอง ตอนนั้นเขาสามารถปีนหน้าต่างจากตึกสูง มุ่งหน้าสู่ แอฟริกา ออกจากโรงพยาบาลไปเพื่อเธอ …

เขาเอาความหลงไหลในความรักของผู้ชายคนคนหนึ่ง ให้เธอไปจนหมด

ตอนนี้เขาไม่สามารถรักเจิ้งซิ่วหยาแบบนั้นได้อีกต่อไปไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังคงคิดถึงเธออยู่ในใจดังนั้นการ จากไปจึงเป็นทางเลือกเดียวของเขา

“ลั่วหาน การที่ครั้งหนึ่งเราเคยเห็นทะเลสวยงามนั้นยาก ที่จะชื่นชมต้นน้ำอื่นได้อีก นอกจากภูเขาลูกนี้แล้วสิ่งอื่น ไม่สวยงามอีกต่อไป

เขายิ้มอย่างนุ่มนวล รอยยิ้มของเขากลายเป็นเมฆหมอก สีขาว และมันจะละลายเมื่อเจอกับอุณหภูมิราวกับว่าไม่มี อะไรเกิดขึ้นเลย

ลั่วหามเข้าใจแล้ว เธอก็เลยตกตะลึง

“สตรีมีครรภ์ต้องการการพักผ่อนที่ดี และการนั่งตรวจ อาการก็เหนื่อยมาก ต้องวางงานในมือลง และดูแล ร่างกายให้ดี ลูกของคุณต้องฉลาดมากแน่ๆ ฉลาดเหมือน คุณ เหมือนหลงเซียว ยังไงก็ดีหมด

เขาพูดราวกับพูดข้อความอาลา เขาบอกความขมขื่น ทั้งหมดออกมาได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา เขาซ่อนความเจ็บปวด และความอดทนมากเกินไป แต่เขากลับเอารอยยิ้มให้เธอ ไป

ไหล่ของ ลั่วหานว่างเปล่า และมือของเขาเอาออกจาก ไหล่เธอไปแล้ว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกผิดและเจ็บปวดในใจ เป็นอย่างมาก
“จิ้นเหยียน … ” เป็นแบบนี้เพื่ออะไร?

ดวงตาของ ลั่วหานร้อนๆและเธออยากจะร้องไห้

ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างสง่าและสุภาพ “โอเค ฉันจะกลับ บ้านละ เจอกันพรุ่งนี้นะ

เขาบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้นะ แต่ลั่วหานรู้สึกว่าเธอจะไม่ได้ เจอเขาอีก

เขาจากไปและหายไปจากสายตาวหาน ลั่วหาน หลับตาลงและหัวใจของเธอก็เจ็บปวด

หลงเซียวพูดถูก ถ้าเขายอมแพ้ได้ง่ายๆ มันจะเป็นความ รักได้ยังไง ที่แท้แล้วถังจิ้นเหยียนยังไม่เคยลืมเธอเลย

เธอก็หวังอย่างมากว่า ตอนนั้นเขาจะแค่อารมณ์ชั่ววูบ

ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของเธอ มันเป็นความผิดของ เธอทั้งนั้น!

ถังจิ้นเหยียนนั่งในรถ แต่เขาไม่ได้สตาร์ทรถ เขาวาง วางมือไว้บนพวงมาลัย แล้วก้มหน้าผากลงและหลับตาไว้ แน่น
ตอนที่ยังหนุ่มเขายังไร้เดียงสา ได้เขียนสเตตัสในลาย เซ็น QQ ไว้ว่า มีหลุมฝังศพอยู่ในใจ ที่ฝังคนที่ยังไม่ตาย ไว้

ตอนนี้เป็นหนุ่มอายุ30แล้ว แต่กลับน้ำตาแตกเพราะค่า พูดนี้

ถังจิ้นเหยียนถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะนี้โทรศัพท์ ในกระเป๋าของเขาดังขึ้น เขาจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองเปลี่ยน เป็นโหมดเสียงเรียกเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่เสียงเรียกเข้านี้ เจิ้งซิ่วหยาเป็นคนตั้งให้เธอ โทรศัพท์ ของทั้งสองใช้บัญชี ID เดียวกัน และเธอซิงค์เพลงที่เก็บ ไว้จํานวนมากของเธอไปยังโทรศัพท์ของเขา

“ใต้เท้าให้ฉันไปตระเวนบนภูเขา ฉันจะเดินวนรอบ โลก … ”

ถังจิ้นเหยียน: “..

เสียงเรียกเข้าที่ร้อนแรงนี้กระทบกับ ถังจิ้นเหยียนจริงๆ

เป็นเสียงเรียกเข้าสําหรับเบอร์ของเจิ้งซิ่วหยา
ถังจิ้นเหยียนลังเลไปสักพัก แล้วปิดเสียงเรียกเข้าก่อน และขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อเขาเห็นชื่อที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ โทรศัพท์

คำกำกับที่เจิ้งซิ่วหยาแก้เอง “หยาหยา”

ไม่ได้มีแค่ตัวอักษรจีนเท่านั้น แต่ยังมีอิโมจิดาวที่ด้าน หน้าและด้านหลังอีกด้วย

หลังจากมองดูสักพัก ถังจิ้นเหยียนก็พลิกโทรศัพท์ไป และเหลือบไปเห็นเวลาด้านบนจากมุมตาของเขา เพราะ ฉะนั้นเวลานี้ เป็นเวลาสิบสองชั่วโมงแล้วที่เขาบอกเลิก

เธอ

เจิ้งซิ่วหยาสมกับที่เป็นตำรวจจริงๆ เธอควบคุมตัวเลขได้

อย่างแม่นยำ

เสียงเรียกเข้าหนึ่งนาทีสิ้นสุดลงแล้ว การสั่นสะเทือนก็ หายไปในมือของเขาด้วย ร่องระหว่างคิ้วของถังจิ้นเหยี ยนยังไม่หายไป แต่เขาสตาร์ทรถ

แต่หลายสิบวินาทีต่อมา โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง และ เขาก็ยังไม่รับสายเช่นเคย ในเมื่อเขาได้ตัดสินใจที่จะ เลิกรากันแล้ว ถังจิ้นเหยียนไม่อยากให้ความหวังเธอ เรื่องของความรู้สึกนั้น เจ็บสั้นๆดีกว่าเจ็บยาวๆ เขาอยาก ตัดให้ขาด
เป็นแบบนี้ไปเลย เขาขับรถไปตลอดทาง โทรศัพท์ก็ ดังตลอดทาง และเขาไม่ได้ปิดโทรศัพท์ อันที่จริงเขาก็ ใจร้ายไม่ลง

ถังจิ้นเหยียนขับรถกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา โดยที่ เขาไม่ได้กลับมาที่นี่สักพักแล้ว เขาไปเป็นพ่อครัวและพ่อ บ้านให้กับเจิ้งซิ่วหยามาเป็นเวลานาน เมื่อคิดดูแล้วมันก็ เหมือนกับความฝันที่มันเป็นไปไม่ได้

เมื่อตื่นจากฝันนี้ขึ้น มันเจ็บยิ่งกว่าเดิมซะอีก

เปิดประตู และเข้าไปในห้องรับแขก ถังจิ้นเหยียนนั่งลง บนโซฟา แล้วก้มศีรษะลง และสอดมือเข้าไปในผมสอง ข้าง

ภายในสถานีตำรวจ ที่ระเบียง

เจิ้งซิ่วหยาโทรออกไปมากกว่าร้อยสาย แต่ไม่มีใครรับ สายเลย ตาของเธอแดงไปหมด และเธอกัดฟันแล้วพูดว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย!ท่าไรเนี่ย”

โจวจั่นบังเอิญเดินผ่านไป เขาปิดปากไว้และหาวออกมา “บอสครับ บอสโทรมานานแล้ว ปวดแขนไหม? เดี๋ยวเรา จะสั่งอาหารมากิน คุณกินอะไรไหม ฉันเลี้ยง”

เดี๋ยวเราต้องเข้าเวรตอนกลางคืน ทุกคนเลยสั่งมากินที่นี่ทีเดียวเลย

เจิ้งซิ่วหยาก็ต้องปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน แต่ตอนนี้เธอนึกถึง สิ่งที่ถังจิ้นเหยียนที่พูดเมื่อเช้า เธอรู้สึกไม่จริงซะเท่าไหร่ เลิกงั้นเหรอ เลิกอะไรกัน น้ำเข้าสมองเหรอ!

” ฉันอยากกินคน มีมั้ย?” เจิ้งซิ่วหยายัดโทรศัพท์มือถือ ของเธอลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำอย่างดุกัน กัดฟันแล้ว พูดประโยคนี้ออกมา โจวจั่นตกใจมากจนเสียงหาวหาย ไป “หึหึ หัวหน้าครับใจเย็น ๆนะ กินคนมันผิดกฎหมาย เนื้อไก่เนื้อหมูเนื้อวัวเนื้อลาเอาไหม”

เจิ้งซิ่วหยาจ้องไปที่เขาอย่างหงุดหงิด” บอกกับหัวหน้า ว่า ฉันออกเวรตอนกลางคืนไม่ได้ ฉันมีธุระมีอะไรก็อย่า โทรหาฉัน ถ้าฟ้าไม่ถล่มอย่าโทรมาหาฉัน

โจวจั่นมองดูเธอเดินออกจากระเบียงไปที่โต๊ะทำงาน ด้วยความรีบร้อน แล้วคว้ากุญแจรถไป โห้ท่าเซียนมาก “เจ้านาย คุณเป็นอะไรรึเปล่า? คุณโอเคใช่ไหม? ต้องการ ให้ผมช่วยไหม?”

เจิ้งซิ่วหยาเดินออกจากประตูไป “ไปฆ่าคน จะไปเป็นหู เป็นตาให้ฉันไหม?”

“พัฟ!” โจวจั่นทําท่าอาเจียนออกมาเป็นเลือด “งั้นก็ แล้วไป หัวหน้าไปเถอะ ฉันจะคอยสวดภาวนาให้ ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมา อย่าลืมนะว่าถ้ายอมรับความ ได้รับ การผ่อนโทษ

“ไสหัวไป!”

ร่างสูงสีดำของเจิ้งซิ่วหยาจากไปอย่างสวยงาม และ อากาศก็ถูกเธอพัดพาไปด้วย ซึ่งเย็นมาก

เฉินเจาเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วชา ดื่มไปด้วยถามไป ด้วย “เธอไปไหนแล้ว?”

โจวจั่นเห็นหัวหน้า และทำความเคารพ “สวัสดีครับ หัวหน้า … เมื่อกี้เจ้านายบอกว่า เธอกำลังจะไปฆ่าใครสัก คน แต่จากการสังเกตของผมแล้ว เธอคงจะกำลังอกหัก”

ในฐานะตำรวจ การสังเกตการณ์แค่นี้เขาก็มีอยู่ แต่โจว จั่นไม่กล้าที่จะพูดออกมา

เฉินเจาหัวเราะเบา ๆ “อกหักเหรอ? เธอเคยมีความรัก

ด้วยหรือ?”

โจวจั่น: “…

ไปนินทาเธอแบบนี้ไม่ได้นะ
เจิ้งซิ่วหยาสตาร์ทรถและลมแรงพัดขึ้นจากใต้ยางรถ ไม่ นานรถของเธอก็ขับไปที่อพาร์ตเมนต์ของถังจิ้นเหยียน

เจิ้งซิ่วหยากัดฟันแน่นมาตลอดทาง พร้อมกับใบหน้าที่ มืดมนของ เธอกำมือไว้แน่น ดูท่าทางเธอกำลังจะฆ่าถัง จิ้นเหยียนในไม่กี่นาที

ตุ้บๆ

ทันใดนั้นกริ่งก็ดังขึ้น ทำลายความหดหู่ในห้องนั่งเล่นไป จนหมด

ถังจิ้นเหยียนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู และเดาว่า น่าจะเป็นเจิ้งซิ่วหยา แต่เขาก็ยังนั่งนิ่ง ไม่ได้ไปเปิดประตู

คิงดอง! ดึงดอง! คิงดอง!

เสียงออดที่เริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ ออกกำลังจะถูก กดเป็นรูอยู่แล้ว

เมื่อเจิ้งซิ่วหยาเห็นว่าการกดกริ่งนั้นไม่มีประโยชน์อะไร เธอก็เลยใช้มือตบประตู “ถังจิ้นเหยียน! นายอยู่ข้างใน หรือเปล่า?”
ไม่มีการตอบสนอง

เพียะๆๆๆๆ

เจิ้งซิ่วหยายังคงเคาะแผงประตูเรื่อยๆ “ถังจิ้นเหยียนฉัน รู้ว่าคุณอยู่ข้างใน! คุณเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ เปิดประตู!”

ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วแล้วลุกขึ้นโซฟา เดินออกไปข้าง นอก และเห็นใบหน้าที่โกรธเคืองของเจิ้งซิ่วหยาผ่านตา แมว เธอกำลังชกประตูด้วยหมัดของเธอ แค่ฟังก็รู้แล้วว่า มันเจ็บ

“ถังจิ้นเหยียน! เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะพัง ประตูแล้วนะ! นายรู้ว่าฉันมีแรงแค่ไหน!”

เขายังคงไม่ขยับ

เจิ้งซิ่วหยาเริ่มพังประตูจริงๆ รองเท้าบูทมาร์ตินสีดำ กระทืบไปที่แผงประตู และประตูกันขโมยก็โดนเธอเตะ จนมีเสียงดัง

โชคดีที่บ้านของถังจิ้นเหยียนเป็นแบบชั้นละหนึ่งห้อง มิ ฉะนั้นอาจจะเกิดการฆาตกรรมขึ้นอย่างแน่นอน
“ถังจิ้นเหยียน ถ้านายยังไม่ออกมาอีก ฉันจะทุบประตู นาย แล้วจะค้นบ้านในฐานะตำรวจ!”

ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วและมีเมฆดำลึกอยู่ในคิ้วของเขา

แรงของเจิ้งซิ่วหยานั้นเยอะมาก แต่ไม่ว่าเธอจะ แข็งแกร่งแค่ไหนเธอก็ไม่ใช่คู่แข่งของประตูรักษาความ ปลอดภัย เพราะฉะนั้นเธอเหนื่อยแล้ว หลังจากที่ตะโกน นานกว่าครึ่งชั่วโมง เธอก็พบว่าเธอกลายเป็นผู้หญิงงี่เง่า ปากร้ายไปแล้ว

เสียงนั้นหยุดลงอย่างกะทันหัน และเจิ้งซิ่วหยาตัดสินใจ ที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยการถอยออกไป

“ โอเค ฉันไปก่อนนะถังจิ้นเหยียน คุณใจร้ายมาก ขนาด นี้แล้วยังไม่เปิดประตูอีก ฉันได้แผลแล้ว มือของฉันใช้ งานไม่ได้แล้ว!”

ยังคงไม่มีการตอบสนอง

“คุณไม่อยากเจอฉันใช่มั้ย ได้ฉันจะออกไป! ฉันจะออก ไปไกล ๆเลย !” เจิ้งซิ่วหยาทิ้งประโยคนี้ไว้และเดินจากไป
เธอพึมพำไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงของเธอก็หายไปในที่สุด

ถังจิ้นเหยียนยืนอยู่ตรงประตูด้วยความเชื่อบ้างไม่เชื่อ บ้าง มือของเขากำลูกบิดประตูไว้ แค่เขาหมุนมัน ประตูก็ จะเปิดออก

แต่เขาคิดอยู่นาน

ภายในใจของเขานั้นสับสนเป็นอย่างมาก ความรู้สึกที่ ซับซ้อนก็รุมเร้าอยู่ในใจ

เป็นอยู่นาน แล้วเขาก็หลับตาลงและหายใจเข้าลึก ๆ

“ครึคๆ” เขาหมุนลูกบิดประตู แล้วเปิดประตูออกมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ