ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 543 มาเยี่ยมคุณจากแดนไกล



ตอนที่ 543 มาเยี่ยมคุณจากแดนไกล

ตอนที่ 543 มาเยี่ยมคุณจากแดนไกล

ณโรงพยาบาลหวาเซี่ย

ลั่วหานทำงานตรวจห้องคนไข้รอบเช้าเสร็จและนั่งอ่าน หนังสืออย่างชิวๆในห้องทำงานพร้อมกับน้ำร้อนหนึ่งแก้ว เธอพลิกกระดาษทักษะทางการแพทย์ แล้วหยิบแก้วขึ้น มาจิบชา

โทรศัพท์ที่อยู่ตรงมุมโต๊ะก็สั่น

ลั่วหานไม่ได้ละสายตาจากหนังสือ แต่คลำหาโทรศัพท์ แล้วปลดล็อกและเปิดออก เป็น ข้อความWeChat ที่ ลู่ซ วงซวงส่งมา

หลังจากเปิดฟังข้อความเสียง ก็มีเสียงตื่นเต้นของลู่ซวง ซวงดังขึ้นมา

“ที่รัก งานยุ่งไหม? ถ้าไม่ยุ่งช่วยดูอะไรให้หน่อยได้ไหม? ฉันอยากออกแบบชุดแต่งงานให้ตัวเอง แต่เมื่อก่อนฉัน ออกแบบแต่ชุดแฟชั่น ฉันยังไม่เคยทำชุดแต่งงานเลย เธอรสนิยมดี ช่วยฉันเช็คหน่อย”

ฮี้ม? เตรียมชุดแต่งงานเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ดูเหมือนว่าสาวอายุเยอะจะเริ่มกังวลเล็กน้อยแล้ว

“ออกแบบชุดแต่งงานให้ตัวเอง เป็นความคิดที่ดีนะ ต้อง ทำให้ดี ถ้าทําได้ดีอาจจะเป็นการโฆษณาให้ตัวเองได้ ด้วย”

ลั่วหานก็ส่งข้อความเสียงกลับไปให้เธอเช่นกันเฮ้เฮ้ ที่รักเธอเข้าใจฉันจริงๆเลย รอก่อนนะ เดี๋ยวฉันส่งให้ดู”

ลั่วหานส่งสติ๊กเกอร์กลับ เป็นสติ๊กเกอร์โอเคทีเวอร์มาก

หลังจากนั้นไม่นาน ลู่ซวงซวงก็ตอบกลับมาเป็นชุด รูปภาพหลายรูปและแบบร่างการออกแบบ ซึ่งตัดออกมา อย่างคร่าวๆบนตัวหุ่น และทำการจัดแต่งคร่าวๆ

ตัวเนื้อผ้าของชุดแต่งงานไม่ได้ใช้ผ้าโปร่งสีอ่อนที่นิยม ใช้กันในชุดแต่งงานทั่วไป แต่เป็นผ้าไหมแก้วมีลักษณะ เป็นสามมิติมากกว่า แต่ไม่นุ่มพอ

ลั่วหานดูภาพแล้วครุ่นคิด “ซวงซวง ตัวเธอไม่สูงเท่าไหร่ ถ้าสวมรองเท้าส้นสูงแล้วจะสูงประมาณ 160 กว่า ชุด แต่งงานนี้เธอทำโดดเด่นเกินไปหรือเปล่า เธอเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่อยากเดินสายสาวเก่งเท่หรอ?”
เธอเดาความในใจของลู่ซวงซวงออก เธอก็สารภาพว่า “โอเคโอเค แต่ฉันอยากจะดูมีพลังสักหน่อย ฉันไม่อยาก เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ฉันอยากเป็นเหมือนเธอ ที่แค่เดินออก มาก็ทำให้ทุกคนในงานอึ้งกันหมด โอ้ยที่รัก เธอช่วยฉัน หน่อยสิ เธอมีคำแนะนำอะไรไหม?”

ลั่วหานจับคางของเธอไว้และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อ พิจารณาจากแบบออกแบบในตอนนี้ อยากทำให้เป็น สไตล์สาวมีพลังก็โอเคดี แต่มันไม่เหมาะกับลู่ซวงซวงซะ เท่าไหร่ ” ที่รัก ใบหน้าเธอกลม ถ้าใช้เสื้อคอวีมันจะมาก เกินไป มันจะยื่นคางของเธอออกมาแบบแปลก ๆ ลองทำ เป็นคอกลมเถอะ เอวต่ำเกินไปทำให้ลำตัวส่วนบนยาว และช่วงล่างของลำตัวสั้น เธออยากเป็นหัวไชเท้าหรือไง? อีกอย่าง ตัดกระโปรงเป็นแบบสั้นด้านหน้าและด้านหลัง ยาวไหม ใช้ผ้าไหมแก้วสีแชมเปญที่ด้านหน้าส่วนด้าน หลังใช้ผ้าไหมบางๆยาวลากพื้น ตกแต่งแบบเรียบง่าย แล้วจะดูดีมีระดับ

ลั่วหานดูรูปภาพไปด้วยและส่งข้อความถึงให้เธอด้วย เธอบอกปัญหาเล็ก ๆที่ตัวเองเห็นให้กับเธอไป

“โอ้วพระเจ้า!”

ลู่ซวงซวงกระโดดลงจากเก้าอี้พร้อมถือโทรศัพท์มือถือ ไว้ เธอส่งข้อความเสียงด้วยความตื่นเต้นและหัวเราะ อย่างเสียงดัง “ว้าว ที่รักเธอยอดเยี่ยมมากจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ว่าจะรู้เกี่ยวกับชุดแต่งงานอีกด้วย ฉันชื่นชมคุณมาก!”

ลั่วหานมองออกไปนอกหน้าต่าง ยิ้มอย่างหวานชื่น ฝน ข้างนอกหยุดตกไปแล้ว ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มสว่างขึ้น และท้องฟ้าเหนือเมืองเป็นสีฟ้าสะอาดทั้งหมด

ทำไมถึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับชุดแต่งงานงั้น เหรอ?

ปีนั้นที่เธอและหลงเซียวได้ตกลงกันว่าจะแต่งงานกัน เธอเคยไปที่ร้านขายชุดเจ้าสาวหลายแห่งตามลำพังและ ลองชุดแต่งงานมานับไม่ถ้วน มีสไตล์รูปแบบและการ ตกแต่งที่แตกต่างกัน …

เธอคิดว่าพวกเขาจะถ่ายภาพแต่งงานสุดโรแมนติกก่อน ที่จะแต่งงานเหมือนคนอื่นๆ เธอสวมชุดเจ้าสาวสีขาวและ เขาสวมสูทสีดำาหรือสีขาว พวกเขาสามารถไปที่บาร์เซ โลนา ไปเวนิส ไปปารีสและวาติกัน สามารถไปที่ไหนก็ได้ และถ่ายภาพที่มีความสุขหน้าอาคารสถานที่สำคัญเหล่า นั้น

แต่สุดท้ายแล้ว เธอกลับกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ชุดเจ้าสาว เธอศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสถานที่มากมายที่ เหมาะสําหรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง

จนตอนนี้ลั่วหานก็ยังจำได้ว่าตอนนั้นเธอรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดแค่ไหน

หรือเป็นเรื่องที่เธอใส่ใจมาก แต่เขากลับไม่สนใจเลย มันทำให้เธอเข้าใจเขาผิดครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าเขาไม่ได้ รักเธอ

ลั่วหานดึกสติกลับมาและตลกตัวเองในตอนนั้น เธอโง่ เกินไปจริงๆ เธอเด็กเกินไป มองแค่ด้านเดียวอ่อนไหวง่าย เกินไป และไร้เดียงสาเกินไป

ลู่ซวงซวงรอเป็นเวลานานและไม่มีการตอบสนองเลย ถามว่า “ที่รัก คุณยังฟังอยู่ไหม?คุณเป็นอะไร?”

“อืม ฉันกำลังฟัง เพราะฉะนั้นหัวหน้าของพวกเราลู่ซวง ซวงกำลังจะแต่งงานแล้วหรือ?” ลั่วหานดึงสายตากลับมา แล้วแซวเธอเล่น

“ดูพูดงี้ ฉันเป็นคนที่หาสามีไม่ได้หรือไง? คนที่อยาก แต่งงานกับฉันเข้าแถวตั้งแต่ถนนเหอผิงตะวันตกไปจนถึง ถนนเฟิงเฉียวเลยเชียว แต่แค่ฉันไม่ยอมแค่นั้นเอง”

“โอ้ย คุณซวงซวงที่ฮอตมากเลยนะคะ หวาเทียนกดดัน มากเลยนะเนี่ย” ลั่วหานแกล้งเธอ และในขณะเดียวเธอ ก็เงยหน้ามองไปที่โต๊ะทำงานของ หลินซีเหวินและหวา เทียนที่อยู่ด้านนอก
ผู้ชายที่มีนิสัยเงียบๆอย่างหวาเทียนเมื่ออยู่กับลู่ซวงซวง ที่พูดมากๆ ก็ดูเข้ากันดีนะ

ลู่ซวงซวงถอนหายใจ “น่าเสียดายจัง แต่คนบางคนไม่รู้ จ๊กรักษา”

“ หวาเทียนไม่ได้ขอเธอแต่งงาน?”

ลั่วหานถามตรงจุดความลับและจี้โดนประเด็นที่สำคัญ ที่สุด

ลู่ซวงซวงโกรธมาก “หึ! ไอ้คนโง่? ฉันใบ้เขาไปตั้งหลาย ครั้ง แต่เขาก็ไม่ตอบสนองเลย โกรธจริงๆเลย น่าโกรธ ที่สุด!”

“ หรือจะให้ฉันลองเชิงให้เธอหน่อย”

นี่แหละคือสิ่งที่ฉันรอ ลู่ซวงซวงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าทุบกระเทียมอีก “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอรักฉันมาก ที่สุด และเธอจะเป็นสุดที่รักของฉันตลอดไป รักนะรัก นะ!”

หลังจากวางสายลู่ซวงซวง ลั่วหานก็ส่ายหัวอย่างช่วย ไม่ได้ ไอ้ซวงซวงนี่ เสี่ยวจื่อพูดถูก เธอเป็นผู้หญิงเด็กๆที่ โตแล้วจริงๆ ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ เธอก็ยังมีนิสัยแบบ เด็กๆ เรียบง่ายและไร้เดียงสาเสมอ
ผ่านไปสองนาที เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ทำลาย ความเงียบอีกครั้ง

คราวนี้ชื่อที่กระพริบบนหน้าจอ ทำให้ลั่วหานไม่สามารถ ตอบกลับได้อย่างสบายๆและมีความสุขเหมือนคราวที่ แล้ว

เควิน … ตัวอักษรภาษาอังกฤษเควินพวกนี้ ได้สร้างภาพ ที่เป็นรูปธรรมในดวงตาของลั่วหานอย่างรวดเร็ว และรวม เอาใบหน้าอันหล่อเหลาของตู้หลิงเซวียนที่ยังคงรอยยิ้ม ของสุภาพบุรุษไว้เสมอ

ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ขึ้น ตอบโดยรักษาระยะห่างแบบ เพื่อน “คุณตู่”

คำว่าคุณตู้แค่คำเดียว ดึงเขาจากตำแหน่งของเพื่อนไป ยังคนแค่รู้จักกันทันที

ส่วนอีกฝั่งตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ในรถ BMW สีดำ ด้านหลัง เป็นภาพสนามบินที่ไกลลงเรื่อยๆ “แอนน่า ฉันมาที่เมือง หลวงแล้ว ตอนเที่ยงมาเจอกันหน่อยไหม”

ริมฝีปากสีชมพูของ ลั่วหาน แสดงรอยยิ้มเย้ยหยันเล็ก น้อย “คุณคิดว่าเรายังจำเป็นต้องพบหน้ากันอีกไหม?”

ตอนนั้นเกิดเรื่องแย่ๆเรื่องเข้าใจผิดมามากมาย และทำให้เราต่างไม่แฮปปี้กัน ตอนนี้จะมานั่งมองหน้ากันใน ความรู้สึกแบบไหน? สถานะอะไร อารมณ์ไหน?

ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง เขาเล่นหนังสือในมือเขา อย่าชิวๆ เขาเปิดหน้าหนึ่งในนั้นมาและบนกระดาษสีขาว นั้นมีคำสามคำที่เขียนอยู่ที่มุมล่างขวาของกระดาษ ฉู่ลั่ วหาน โครงร่าง และจังหวะการหยุดของตัวหนังสือนั้นเป็น ลักษณะที่พิเศษ

เขามุมริมฝีปากของเขายกขึ้นลึก ๆ เขาใช้นิ้วแตะไปที่ เส้นขีดของตัวหนังสือ ราวกับกำลังสัมผัสร่างกายของผู้ หญิงคนหนึ่ง “ แอนน่า ฉันไม่ได้หาคุณเพื่อกิจส่วนตัว แต่ เพื่อเรื่องงานเธอไม่ได้ไปที่สหรัฐอเมริกามานานเกินไป แล้ว ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจ บริษัท ของพ่อเธอมาก นักใช่มั้ย?”

ลั่วหานระแวงขึ้นมาทันทีและเสียงของเธอก็หนักขึ้นมา เช่นกัน “คุณจะทำอะไร?”

ตู้หลิงเซวียนปิดหนังสือเล่มนั้นและวางมันลง “อีก สามสิบนาที เจอกันที่ร้านกาแฟหลันเจี่ย”

ตู้หลิงเซวียนวางโทรศัพท์ลงแล้วเอนตัวลงบนเบาะ เขา วางมือไขว้กันมองไปที่ทิวทัศน์ของเมืองที่กำลังถอยหลัง อยู่นอกหน้าต่างด้วยสายตาที่สงบ “เมืองหลวงเปลี่ยนไป และพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ”
คนขับรถกล่าวด้วยความเคารพว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน มา เมืองหลวงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ราคาที่อยู่ อาศัยในสถานที่ที่รถไฟใต้ดินสามารถเข้าถึงล้วนสูงขึ้น อย่างมาก และในไม่ช้าก็จะมีการเพิ่มวงแหวนรอบนอกอีก 1 สาย ถึงตอนนั้นแล้วเมืองรอบๆตัวก็จะเจริญตามๆกัน มา”

ตู้หลิงเซวียนประสานนิ้วมือ ความลึกของดวงตาของเขา กลายเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ “เมืองหลวง … เป็นสถานที่ดี นะ ที่นี่คือคลังสมบัติที่แท้จริง ส่วนความฝันไปอเมริกาใน ตอนนั้น เอามาไว้ที่นี่น่าจะเหมาะกว่า”

เขาเงยหน้ามองไปที่ถนนจากสนามบินกลับไปที่ตัวเมือง อสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่อยู่สองข้างทางอยู่ระหว่าง การก่อสร้าง เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์พื้นที่นี้จะได้ รับการพัฒนาขึ้น

เขากล่าวต่ออย่างช้าๆ “ประชากร 1.4 พันล้านคน เป็น ฐานของการทำกำไร ไม่ว่าอุตสาหกรรมหรือผลิตภัณฑ์ ใดก็ตาม ตราบใดที่เข้าร่วมกับตลาดขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ จะทำกำไรได้อย่างมั่นคงแน่นอน”

แต่แค่.……..

ดวงตาของเขาหดตัวลงอย่างแรง และหนึ่งในสามของ อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกสร้างขึ้นนั้น เขียนอย่างโดดเด่นว่า“MBK และพื้นที่ทั้งหมดถัดจากนั้นไป คืองานก่อสร้าง ของ MBKทั้งหมด

เค้กก้อนใหญ่ๆนี้ถูก MBK กลืนไปขึ้นใหญ่ๆเลย

ตู้หลิงเซวียนหลับตาลง “คุณเคยได้ยินเรื่องราวของ มังกรคู่หม”

คนขับกำลังจดจ่อกับการขับรถ และไม่เข้าใจว่าเขา หมายถึงอะไร ก็เลยส่ายหัว ” เรื่องมังกรคู่เหรอ? ท่าน ประธานตู้หมายความว่ายังไงครับ?”

ตู้หลิงเซวียนขำแห้ง “ไม่มีอะไร”

ร้านกาแฟหลันเจี๋ย

ไวโอลินเล่นเพลงดัง ” only love ” เสียงไพเราะมาก

ลั่วหาน และตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างหน้าต่าง ต่างคนคนต่างถือกาแฟของตัวเอง กลิ่นหอมของกาแฟ แอบขมเล็กน้อย

ลั่วหานยิ้มให้เขาเล็กน้อยอย่างคนไม่สนิท “คุณตู้บินจากนิวยอร์กมาที่เมืองหลวง คงไม่นั่งดื่มกาแฟกับฉันแบบ นี้ใช่ไหม?”

ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่ตรงหน้านั้นดูสง่างาม สูงส่ง และอ่อน โยน หากดูแค่รูปร่างหน้าตาของเขา เขาถือเป็นผู้ชายที่ดี ที่ควรค่าแก่การไว้วางใจ

แต่ น่าเสียดาย

ตู้หลิงเซวียนมองหน้าเธอพร้อมรอยยิ้ม แสงแดดยาม เที่ยงของฤดูใบไม้ร่วงที่ส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง และแสงที่นับไม่ถ้วนทอเป็นเส้นที่มีสีสันเหมือนรุ้ง แสง อาทิตย์หลังฝนตกอบอุ่นอย่างเป็นพิเศษ

เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ที่เขาคิดถึงมานับครั้ง ไม่ถ้วน ก็ดูนุ่มนวลและสวยเป็นพิเศษ

“แอนน่า ถ้าสามารถนั่งดื่มกาแฟกับคุณแบบนี้ได้ แม้ว่า จะไม่พูดอะไรหรือไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันก็เต็มใจที่จะข้าม มหาสมุทรแดนไกลมา”

ลั่วหานกวนกาแฟ หลังจากกวนเป็นเวลานาน เธอก็รู้สึก น่าเบื่อ เธอเลยใส่น้ำตาลลงไปหนึ่ง

ก้อน แล้วน้ำตาลก็ละลาย “คุณตู้แสดงความรู้สึกผิดที่ แล้วค่ะ ฉันยุ่งมาก ถ้าคุณตู้ไม่มีเรื่องอื่น ฉันคิดว่ากาแฟนี้ก็ไม่จําเป็นแล้วค่ะ”

ตู้หลิงเซวียนหยิบแก้วกาแฟพอร์ซเลนสีขาวขึ้นมา แล้วจิบเบาๆ ท่าทางของเขาดูสง่างามดูดี ไม่มีความ เหลาะแหละเลยแม้แต่น้อย ” ผมจำได้ว่าคุณดื่มกาแฟไม่ ใส่น้ำตาล”

“คุณตู้คะ คุณหาฉันมีเรื่องอะไรกันแน่คะ?” ลั่วหานเริ่ม หมดความอดทน

ตู้หลินเซียววางแก้วกาแฟลง แล้วหยิบแก้วของเธอมาจิบ แล้วชิม “ มันหวานเกินไป ไม่เหมาะสำหรับคุณ ผมจะสั่ง ใหม่ให้คุณนะ”

ลั่วหานดูทุกการกระทำของเขาด้วยสายตาเย็นชา และ พูดอย่างเย็นชาว่า “ตู้หลิงเซวียน! นายจะทำอะไรกันแน่?”

ตู้หลิงเซวียนยื่นแก้วให้เธอและยิ้มอย่างอบอุ่นและพอใจ เป็นอย่างมาก เขายิ้มอย่างร่าเริงและหัวเราะออกมาดัง ๆ ราวกับว่าเขาได้สมบัติย์ “ต้องให้ผมทำตัวนักเลง ถึงจะ ได้ยินคุณเรียกชื่อผมเหรอ? แอนน่า”

ดวงตาของลั่วหานเต็มไปด้วยความโกรธ เธอพูดอย่าง เย็นชาว่า “หึหึ ตู้หลิงเซวียน นายอารมณ์ดี จริงๆ ไม่เพียง แต่อารมณ์ดีแถมยังซาดิสซะด้วย ถ้าพูดอย่างชัดเจนก็คือ คุณเป็นโรค!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ