ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 235 พาคุณกลับมาจากความเจ็บช้ำ



ตอนที่ 235 พาคุณกลับมาจากความเจ็บช้ำ

หลงเขียวหันไปมองรถที่เป็นรอยบุบไปทั่วทั้งคัน โดยที่ยังไม่ยอมจะคลายมือออกจากเธอ ก่อนจะ ขมวดคิ้วถามขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? คุณแข่งรถ กับหลงจื่อ แต่ทำไมถึงแข่งกันเป็นแบบนี้ได้?

หลงจื่อรู้สึกไม่เป็นธรรมจะแย่ เขาไม่ได้ทำอะไร กับรถของพี่สะใภ้เลยด้วยซ้ำ ฟ้าโปรดมีเมตตาด้วย เถอะ!

แอนน่าสายหัว “ไม่ใช่หรอก มันเป็นรอยระหว่างที่ ฉันกลับมาที่บ้านนี้เอง พอดีฉันไปเจอรถแข่งคันหนึ่ง เข้าน่ะ แถมยังเอาแต่โจมตีฉันอีก แต่สุดท้ายแล้วก็ โดนฉันเหวี่ยงออกไปอยู่ดี

หลงเซียวยังคงทำหน้ามุ่ย ดูเยือกเย็นแบบนั้น “ฟัง จากน้ำเสียงคุณ เหมือนว่าคุณจะพอใจมากเลยงั้น ? ทําไมล่ะ? อยากจะกลับไปแข่งอีกรอบหรือไง?”

แอนน่าเองก็ยิ้มขึ้น แต่รอยยิ้มของเธอกลับดูบิด เบี้ยวไป จนแก้มทั้งสองข้างของเธอเกิดรอยบุ๋มตื้นๆ ขึ้นมา ใบหน้าที่ดูขาวนวลช่างดูน่ารัก ออกมาจากความซุกซนของเธอนั้น

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย อีกอย่าง คนที่ฉันชนะไปนั้น ฉันก็ไม่อยากจะไปแข่งด้วยอีก ครั้งหรอกนะ”

หลงเขียวกลับหรี่ตามองเตือนเธอ พร้อมกับถามขึ้น ต่อ “เป็นใครกัน?”

เขาคิดว่า คงไม่ใช่ศัตรูธรรมดาๆ แน่นอน

การทีแอนน่าเริ่มมีความสัมพันธ์กับหลงเซียว อาจ จะทําให้ในสายตาคนหลายคนเกิดอิจฉาขึ้นมา เขา ไม่เชื่อหรอกว่านี่คือความบังเอิญ

“ไม่รู้เลย อีกฝ่ายปิดป้ายทะเบียนเอาไว้ด้วย คนใน รถก็มองไม่เห็น เหมือนจะเป็นพวกคนที่แข่งรถใต้ดิน กันน่ะนะ”

แววตาของหลงเซียวพลันหรี่ลงเหลือเพียงขอบ ตาเป็นเส้นเท่านั้น พลันเขาก็ใช้มือขนาดใหญ่ของ เขา ดึงตัวแอนน่าเข้ามาสู่อ้อมอกของเขาอีกครั้ง ยัง ไม่ทันที่เธอจะย็นได้คงที่ที ก็ได้ยินเสียงที่เย็นชา ของเขาพูดขึ้น “นี่คุณผู้หญิง คุณชักจะรู้เรื่องมากเกินไปแล้วหรือเปล่า?”

การแข่งรถใต้ดินนี้น่ะหรือ? หรือว่าช่วงนี้ เขาเอง ก็ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการค้าตลาดมืดด้วยเหมือน กัน?

แอนน่าก็หัวเราะพลางขอให้เขายกโทษ “เรื่องนี้ไม่ ได้เกี่ยวกับฉันเลยนะ ฉันฟังหลงจื่อพูดมาอีกที ใช่ ไหมล่ะหลงจื่อ!”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันด้วยความรัก อยู่นั้น จู่ๆ ก็ดึงหลงจื่อเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย หลง จื่อทำสีหน้างุนงง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากหลังรถ ผุ้คันนั้น พร้อมกับพยักหน้าโดยที่ยังไม่รู้อะไรที “อือ ใช่แล้วล่ะ”

“เสี่ยวจื่อ! ดูเหมือนว่าช่วงนี้นายจะอยู่สุขสบายไป สินะ! พรุ่งนี้ จะเตรียมของเซอร์ไพรซ์นายให้เอง”

หลงเซียวพูด พลางดึงมือของแอนน่าเดินไปทาง ลานกว้างของบ้าน ทำให้เหลือเพียงหลงจื่อ ที่ยืนรับ ลมอย่างงุนงงไปแบบนั้นคนเดียว

ไม่ใช่หรอกมั้ง เมื่อกี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะ?
แอนน่า ถูกเขาพาเดินไปอย่างเร็ว ก่อนสาวเท้า ยาวตามเขาไป “หลงเชียว หลง จื่อยังอยู่ข้างหลังอยู่ เลยนะ รถเองก็อยู่ข้างหลังด้วย

“เขามีขานี่ เดินไปเองได้อยู่แล้ว”

“แต่ว่า อุตส่าห์มาถึงที่บ้านแล้ว ไม่เชิญให้เขาเข้า

มานั่งดีมขาสักหน่อยหรือ?”

แอนน่าหันกลับไปมองหลงจื่อที่ดูเหมือนยังไม่ ได้สติ พลันหัวของเธอก็ถูกฝ่ามือขนาดใหญ่โอบเอา ไว้ จนเข้าไปสู่อ้อมกอดของเขา

“อีกนิดเดียวเขาก็เกือบทําร้ายภรรยาของผมแล้ว ผมจะยังเชิญเขาเข้ามาดื่มชาอยู่อีกทำไม? ผมอยาก ให้เขากินลูกปืนมากกว่าด้วยซ้ำ!

ช่างมีพลังความแค้นเหลือเฟือจริงๆ!

แอนน่าจึงทําได้เพียงเงียบปากไปก่อน ขณะ เดียวกันเธอเองก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง ว่าเมื่อกี้นี้ตอน ที่เธอกล่าวโทษหลงจื่อไป เหมือนกับเอาหิมะไปโปะ ลงบนน้ำแข็งช้า เธอทําผิดไปแล้วสินะ เอาไว้วันหลัง ค่อยไปชดเชยให้เขาแล้วกัน
หลง อเองก็เกาหัวด้วยความงุนงง ก่อนจะเดินกลับ ไปที่รถของตัวเองอย่างไม่สบายใจ

“ไม่ได้เรื่อง!!!”

ไม่หรูเฟยค่าออกมาอย่างเสียงดัง ก่อนที่จะมีเสียง ฝ่ามือตบเข้าดังฉาด ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน!

รอยนิ้วมือทั้งห้า ต่างก็ถูกประทับลงบนใบหน้าของ ฝ่ายชาย ใบหน้าที่ดูแข็งแกร่งของฝ่ายชาย ก็บวม รู้สึกเจ็บแสบจนเข้าเนื้อ ตอนนี้เธอยิ่งโกรธจนตัว สั่นระริกเข้าไปอีก!

หลังจากชักมือกลับไป เธอก็เหวี่ยงฝ่ามือตบลงไป บนหน้าของเขาอีกครั้ง!

ถึงฝ่ายชายจะถูกตบหน้าด้วยกันสองครั้งก็ตาม แต่ เขาก็ยังไม่กล้าออกเสียง ไม่กล้าต่อต้านอะไร ฝ่าย ชายที่มีร่างกายสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร กำลัง ยืนอยู่ต่อหน้าโม่หรูเฟย โดยไม่กล้าทำอะไรออกมา
โม่หรูเฟยเองก็ดูเหมือนว่าแค่ตบจะยังไม่สาแก่ใจ เธอจึงใช้รองเท้าส้นสูงของเธอ เหยียบลงไปบนหลัง เท้าของฝ่ายชาย ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บ ปวด หลังเท้า ราวกับมีกระดูกขนาดใหญ่ที่มแทงลง ไป มันเจ็บปวดเสียจนใบหน้าของฝ่ายชายถอดสี

แต่เขาก็ยังไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมา

แค่เรื่องเล็กๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไร ได้! บริษัทโมชื่อให้ทรัพยากรพวกนายตั้งเยอะแยะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ! แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็ยังสู้ ไม่ได้! แล้วยังคิดจะแข่งรถหลังจากนี้อีกหรือ! ฝันไป ก่อนเถอะ!”

โม่หรูเฟยได้รับความช่วยเหลือ จากกลุ่มรถที่ สนับสนุนบริษัทโมชื่อ แล้วเลือกคนที่มีฝีมือการแข่ง รถที่ดีที่สุดออกมาคนหนึ่ง แล้วให้เขาตามรอยรถ ของฉู่ลั่วหานไป แถมยังกำชับเขาไว้ด้วยไว้ไม่ต้องมี เมตตาใดๆ ต้องหาวิธีทำให้รถเธอพลิกคว่ำให้ได้

แต่ด้วยความที่ฝ่ายชายยังมีฝีมือไม่พอ จึงถูกฉี วหานทําให้รถของเขาพลิกคว่ำแทน
แล้วแบบนี้โม่หรูเฟยจะไม่โกรธได้ยังไงล่ะ! ตอนนี้ เธอโกรธเสียจนอยากจะฆ่าคนขึ้นมาแล้วจริงๆ ด้วย

“พูดออกมา! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

โม่หรูเฟยค่าเสียจนอ่อนแรง เธอนั่งลงกับเก้าอี้ ภายในห้องทํางานที่กว้างใหญ่ตอนนี้ ความโกรธข องเธอกำลังฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง ดูโหดร้ายและรุนแรง จนไม่สามารถเก็บมันได้ในทีเดียว

ฝ่ายชายยังคงก้มหน้ากําหมัดด้วยความน่าละอาย เขาที่เป็นถึงนักแข่งรถ แต่กลับแพ้ให้กับหญิงสาวที่ ไม่ได้ทำงานสายนี้ด้วยซ้ำ นี่มันช่างน่าอายเสียเหลือ เกิน ตัวเขาเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเช่นกัน “คุณหนูครับ ฝีมือของเธอไม่ธรรมดาเลยนะครับ อีกอย่างยังใช้ ทักษะที่มีได้อย่างเป็นประโยชน์ ผมแพ้แล้วล่ะครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดต่อ แต่ผมยังไม่ยอมแพ้หรอก ครับ!”

ไม่ยอมแพ้งั้นหรือ?

โม่หรูเฟยยกขาที่อยู่ภายใต้กระโปรงของเธอขึ้น ไขว้ ก่อนจะโน้มตัวลงมา พร้อมกับยิ้มอย่างเยือกเย็น “ไม่ยอมแฟนหรือ? ฉันอยากจะเห็นเหลือเกิน ว่านายจะไม่ยอมแพ้ยังไงกัน!

“คุณหนูโปรดวางใจเถอะครับ ผมต้องชนะเธอแน่

“มาก แต่ถ้าหากนายไม่ชนะเธอล่ะก็ ฉันจะ ถอนทุนออก ให้กลุ่มรถของนายสลายตัวไปเป็นเด็ก ล้างรถซะ!”

ฝ่ายชายก้มหัวให้อย่างนอบน้อม ครับ คุณหนู”

หลังจากที่นักแข่งรถนั้นจากไป โม่หรูเฟยก็ทรุด ลงบนเก้าอี้ เพราะโกรธจนหน้ามืดตามัว เธอเหลือบ มองเหล่าเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่ความ โกรธของเธอจะปะทุขึ้นมาอีกระลอก!

“ไปตาย! ไปตายกันให้หมด!

โม่หรูเฟยปัดกองกระดาษที่อยู่บนโต๊ะนั้นจนปลิว ว่อน จนทำให้พื้นหินอ่อนที่ดูสว่างสุกใส กองเต็มไป ด้วยกองกระดาษเอกสาร

ขณะนั้นเอง เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นประหลาด เป็นเบอร์ที่ประหลาดมาก

ประหลาดจนทำให้ไม่หรูเฟยรู้สึกว่า นี่เธอเข้าใจผิด ไปเองหรือเปล่า

ซุนปังเหวินนั่งฝั่งเก้าอี้อยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้เลย เวลาเลิกงานไปแล้ว จึงทำให้ในห้องที่ดูกว้างใหญ่นี้ เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น พร้อมด้วยในมือที่ถือ โทรศัพท์เอาไว้ พร้อมทั้งสายตาที่จับจ้องไปยังหน้า จอคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งเผยรอยยิ้มที่ดูเยือกเย็น ราวกับน้ำแข็งออกมา

“ประหลาดใจใช่ไหมล่ะ คุณโม?”

โดยไม่รอให้โม่หรูเฟยได้ถามอะไร ซุนปิงเหวิน ถือโอกาสพูดขึ้นก่อน จริงๆ แล้วนั้น เธอก็ประหลาด ใจอยู่จริงๆ

โม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินเคยคบกันมาก่อน แต่เป็น เพราะความรักระหว่างตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง นั้น มันก็เป็นแค่การแสดงละครเท่านั้น ถ้าหากจะ พูดถึงความรักจริงๆ ล่ะก็ เธอกล้าพูดได้เลยว่า ไม่มี แน่นอนยิ่งไม่ต้องพูดถึงกับนป้งเหวินคนนี้เลย ถึงแม้ว่าจะ เป็นพี่ชายของเธอเอง ถาม ถึงจะประสบปัญหาด้าน การเงิน แต่ก็คงไม่มีทางยื่นมือมาแน่ ไม่อย่างนั้นฟอ จะไปหาความช่วยเหลือจากหลงถึงทำไม แทนที่จะ เป็นเกาจึ่งอาน?

“จริงๆ แล้วฉันประหลาดใจมากเลยล่ะประธาน น จริงๆ แล้วคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ว่าคุณจะโทรมาหา ฉันแบบนี้น่ะ”

โม่หรูเฟยหันไปมองดูพื้นที่ระเกะระกะ ก่อนจะพูด ด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่

ซุนปิงเหวินเองก็หัวเราะออกมา “ก็คุณโม่ได้ขึ้นเป็น ผู้บริหารของบริษัทโมซื่ออย่างเป็นทางการแล้วนี่ ก็ ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกัน แล้วทำไมผมจะไม่โทร มาอวยพรล่ะครับ?”

โม่หรูเฟยได้ยินก็ยิ้มเยาะ “ประธานซุนเกรงใจไป แล้วล่ะ”

ซุนปีงเหวินลุกขึ้นยืน ก่อนจะจัดเสื้อสูทของตัวเอง “คืนนี้ไม่ทราบว่าคุณไม่ว่างหรือเปล่าล่ะครับ? ผม อยากจะเชิญคุณไปดื่มอะไรด้วยกันสักแก้ว”
“ได้สิคะ! หากเป็นคนอื่นชวน ฉันก็คงจะไม่ว่าง แต่นี่ เป็นถึงประธานชุนมาเชิญเอง ฉันจะปฏิเสธได้ยังไง กันล่ะคะ?”

ซุนป้งเหวินแสดงท่าทีดีใจออกมา เมื่อเห็นว่า เธอยอมรับข้อเสนอไป โม่หรูเฟยเองถึงจะไม่มี ประสบการณ์ แต่ก็เดาออกว่าที่เขาโทรมากำลังมี แผนอะไรอยู่แน่

“ผมชอบคุณโมที่เป็นผู้หญิงที่สดชื่นมีความสุขแบบ นี้ล่ะ ผมจะรอคุณอยู่ที่คลับBOSS สองทุ่มนะครับ”

“ไว้เจอกันค่ะ”

ณ บ้านพัก ช่วงเวลาตกดึก แสงไฟที่เหลืองนวล ที่ส่องลงบนพื้น ทำให้บรรยากาศในโถงรับแขก ดู เหมาะสมขึ้นมาอย่างมาก

คนๆ หนึ่งที่กำลังพลิกหน้าหนังสืออ่านอย่างใจจด ใจจ่อ พลันรู้สึกร้อนผ่าวที่ด้านหลัง ก่อนที่จะตกเข้าสู่ อ้อมกอดอันแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไป
เธอที่กำลังหันหลังให้เขาอยู่ตอนนี้ เผยรอยยิ้มมุม ปาก นมาบางๆ “คุณนี่เป็นหัวขโมยชั้นยอดได้เลย นะคะหลงเชียว”

หลงเชียวผายแขนพร้อมกับโอบเธอไว้ในอ้อม กอดจนหมด แขนโอบสนิทจนแทบไม่มีรอยให้ลม ไหลผ่าน หน้าอกของเขาอยู่ติดกับแผ่นหลังของเธอ ราวกับว่าแบบนี้มันยังไม่พอ เขาคิดจริงๆ ว่าอยากจะ ทําให้เธอเข้าไปในร่างกายของเขา เขาจะได้พาเธอ ไปไหนมาไหนได้สะดวกจริงๆ

*แต่ก็ไม่เท่ากับแม่ยอดนักหนีของผมหรอกนะ” เขาเองก็หยอกเธอกลับ เขาปิดตาลงพร้อมกับเอา คางค้ำไว้บนหัวของเธอ และสูดดมกลิ่นหอมอ่อนที่ ระเหยออกมาจากเส้นผมของเธอ

แอนน่าเองก็เบ้ปาก ตอนนี้เธอคงอ่านหนังสือในมือ ไม่รู้เรื่องแล้ว จึงวางมันไว้ข้างๆ พร้อมทั้งเอามือที่ ว่างเปล่านั้นกุมมือของเขาเอาไว้ และรู้สึกมันไปด้วย กันกับหลงเซียว มันช่างสวยงามเหลือเกิน ตัวเธอเอง ก็ยากจะอธิบายมันได้ ว่าทำไมจู่ๆ มันถึงพัฒนากัน มาจนถึงขั้นนี้ได้กัน?

ในเมื่อมันอธิบายไม่ได้ ก็คืออธิบายไม่ได้ยังไงล่ะ “หลงเชียว ที่คุณไปปฏิเสธโม่หรูเฟยอย่างโจ่งแจ้ง แบบนั้น ทําให้เธอรู้สึกทุกข์ต่อหน้าคนมากมายแบบ นั้น คุณไม่กลัวว่ากลัวจะแก้แค้นคุณหรือคะ?”

หลงเซียวซุกอยู่บนหัวของเธอ พลางสูดหายใจเข้า ลีก “บนโลกใบนี้ เรื่องที่ผมกลัวที่สุด คือการสูญเสีย คุณไป ส่วนเรื่องอื่น ผมไม่กลัว”

พลันในสมองของเขาก็มีเรื่องที่ฉู่ซีหรานทำร้ายเธอ ผุดขึ้นมา ทำให้หลงเซียวขมวดคิ้วแน่นเข้าไปอีก!

มือที่เรียวละเอียดของแอนน่าพลันกุมมือที่กว้าง ใหญ่ของเขาไว้ นิ้วมือที่เรียวยาวแต่ละนิ้ว ต่างก็สอด เข้ากับนิ้วมือของเขาเข้าด้วยกัน ผิวหนังของทั้งสอง คนดูขาวใสอย่างมาก เมื่อมารวมกันเป็นมือเดียว มัน เหมือนกับคู่ที่สวรรค์สร้างมายังไงยังงั้น

“หลงเชียว ฉันอยากจะลองอะไรเรื่องหนึ่งน่ะ” จู่ๆ แอนน่าก็เปลี่ยนน้ำเสียงพูดไป

“หือ? เรื่องอะไรหรือ?” แอนนาเอนพิงกายของเขา ทำให้ตัวของเธอ ง ด หน้าอกของเขาอย่างเกียจคร้าน ราวกับเด็กน้อยที อยากได้ความสุขจากอ้อมกอดของเขา “ฉันอยาก ตามหาความทรงจำที่เสียไปกลับมา ตอนแรกที่ฉัน ตกลงไปในหน้าผาอย่างไม่ระวังนั้น ไม่ว่าจะคิดยัง ไงมันก็ดูไม่ปกติเอาเลย”

“คุณจะพูดว่าอะไรกัน?

แอนน่าย้อนกลับไปคิดถึงตอนที่หลงจื้อ กำลังพูด คุยถึงฉู่ลั่วหานข้างๆ อย่างละเอียด พร้อมทั้งขมวด คิ้วพูด “ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่ได้เป็นคนโง่ถึงขนาดนั้น ไม่มีทางพลัดตกลงหน้าผาอย่างไม่ระวังแบบนั้น หรอก ถึงแม้ว่าร่างกายของฉันจะไม่ดีก็ตาม แต่ก็ คงไม่โง่ถึงกับเอาตัวเองไปทิ้งที่หน้าผานั้นหรอกใช่ ไหม? ฉันก็เลยสงสัยว่า ต้องมีคนที่จ้องจะทําร้ายฉัน แน่

หลงเซียวพยักหน้า “อืม”

“นี่คุณตอบสนองปกติไปหรือเปล่าเนี่ย?” แอนน่า

หันกลับมามองหลงเซียว นี่เขาตอบง่ายๆ แค่นั้นน่ะ นะ!
หลงเชียวพูด “ผมคิดมาก่อนแล้วล่ะ ว่าคุณไม่ใช่ คนโง่แบบนั้น เพียงแต่ที่ผ่านมาผมไม่ได้ลงมือตรวจ สอบจริงจังเท่านั้น เป็นผมที่โง่เอง แต่ตอนนี้ ผม ตรวจสอบมันออกมาหมดแล้ว”

แอนน่าหันหน้ามาหาเขาอีกครั้ง “แล้วเจออะไรบ้าง หรือคะ?”

หลงเขียวปัดจมูกของเธอ “เมื่อคืนวันนั้น คนที่อยู่ ด้วยกันกับคุณทั้งหมด ผมสงสัยพวกเขา แล้วผมก็ ไม่รังเกียจที่จะไปซักถามเป็นรายคนด้วย”

“ในเมื่อไม่มีหลักฐานอะไรเลย ทำไมพวกเขาถึง ยอมรับล่ะ? นี่เป็นอาชญากรรมเลยนะคะ คุณชาย หลงของฉัน”

ไม่มีของพิสูจน์ ไม่มีคนพิสูจน์ ถ้าหากอยากจะ ตรวจหาความจริงล่ะก็ คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่

“ถ้าหากแม้แต่เรื่องแค่นี้ผมยังทำไม่ได้ล่ะก็ ผมก็คง ไม่เหมาะที่จะเป็นสามีของคุณหรอก วางใจเถอะนะ ในเมื่อคุณไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนี้ ผมต้องทำ ทุกอย่างแทนคุณอยู่แล้วล่ะ” 199623139_944681296312174_2014194116271466941_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ