ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 233 ถูกคนใส่ร้าย



ตอนที่ 233 ถูกคนร้าย

“ดูเหมือนนายจะเดาได้ว่าเป็นฉันนะ ร้ายกาจจริงๆ

หลงเขียวเผยอยมมุมปาก “เอาล่ะ เลิกพูดจาไร้

สาระก่อน ตรวจอะไรเจอบ้างล่ะ?”

กู้เยนเซินเบะปาก “ฉันบอกให้นายรู้จักเป็นคนใจ กว้างหน่อยไม่ได้หรือไง? ทุกครั้งที่ติดต่อกับฉันสั่ง ปูนสั่งนี่ให้ฉันทำ แล้วแต่ละเรื่องมีเรื่องดีๆ อะไรบ้าง ล่ะ? ตั้งแต่คุณชายอย่างฉันกลับมาจากอเมริกา ต้อง มาหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน นี่ฉันเหนื่อย ราวกับหลานตัวน้อยแล้ว……….

“พูดไร้สาระเยอะจริงนะ พูดตรงๆ มาเลยดีกว่า ส่วนขั้นตอนอะไรนั่นของนาย ถ้ามีเวลาว่างมากล่ะ ก็ ค่อยเขียนเป็นหนังสือมาให้ฉันอ่านก็ได้นะ” หลง เชียววางเอกสารลง เอนหลังพิงพนัก พร้อมทั้งรอ คอยคําตอบจากกู้เยนเซินอย่างเอ้อระเหย

พอเห็นท่าทีของเขาแบบนั้น ก็คิดว่าเขาคงจะมีแผน อยู่ในใจแล้วแน่นอน
กู้เยนเซ็นยกกาแฟที่หลงเขียวใช้ดื่มมาก่อนขึ้นจิบ “โหย! ทำไมขมแบบนี้! นี่นายดื่มยาแผนโบราณอยู่ หรือไง”

กู้เย็นเข็นแลบลิ้นออกมา พร้อมทั้งรู้สึกขมไปทั่ว ลิ้น “นับวันฉันยิ่งเลื่อมใสในตัวนายเข้าไปอีกนะ ฉัน ตรวจสอบเรื่องเก่าๆ ไร้สาระมาแล้วล่ะ ไม่กี่วันนี้คนที่ เป็นพนักงานของบาร์แห่งหนึ่งน่ะ ดูอึกอักเป็นพิเศษ เลยล่ะ! เดี๋ยววันหลังฉันคงต้องเลี้ยงอะไรเป็นการ ชดเชยให้นายสักหน่อยแล้วล่ะ!”

“พูดมาได้แล้ว!”

กู้เยนเซ็นเป็นคนที่ทำอะไรน่าเชื่อถือมาก แต่เขามัก จะบ่นอะไรพิจี้พิไรตลอด ดูแล้วไม่ค่อยเป็นนิสัยที่ดี เท่าไหร่

“เอาล่ะๆ นายคงต้องนึกไม่ถึงแน่ๆ เรื่องนี้มัน เกี่ยวข้องกับน้องสาวของภรรยานายด้วยนะ หึๆ ราวกับละครน้าเน่าแหนะ”

หลงเซียวจ้องเขม็งมายังเขาด้วยแววตาที่คําขลับ “จะบอกว่าเป็นฉ่ซีหรานงั้นหรือ?”
กู้เยนเป็นพยักหน้า “ถูกต้อง เธอนั่นล่ะ ผู้หญิงคน นี้เดิมทีก็คิดอะไรกับนายแบบนั้นเหมือนกัน โอ้โห เสน่ห์ของแต่ละคนนี่ไม่เหมือนกันเลยจริงๆ นะ ไม่ว่า ไปที่ไหนก็มีแต่คนหึงหวง…อะแช่ม พูดนอกเรื่องไป หน่อย หลังจากที่นายกับฉู่ลั่วหานแต่งงานกันน่ะ ฉู่ซี หรานก็เก็บความเกลียดชังไว้ในใจ เธอนัด ลั่วหานอ อกไป มเหล่า แถมเธอยังเอาอะไรบางอย่างใส่ลง ในเหล้าให้เธอด้วย ฉู่ลั่วหานดื่มเหล้านั้นจนสลบไป ส่วนจะเป็นยาอะไรนั้นฉันเองก็ยังไม่รู้ แต่ว่าภรรยา ของนาย ถูกคนใส่ร้ายจริงๆ

หลงเชียวพลันกําหมัดขึ้นแน่น พร้อมด้วยอารมณ์ โกรธ คุกรุ่นอยู่ภายในอ

“น่าฆ่าให้ตายจริงๆ!!”

หลงเซียวลุกขึ้นพรวด พร้อมทั้งระบายความโกรธ ลงบนโต๊ะด้วยกำปั้นอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงดัง โครมครามออกมา แทบเผยให้เห็นกระดูกสีขาวใต้ ผิวหนังของเขา พร้อมกับหยดเลือดที่ซึมผ่านออก มา!

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!เป็นเพราะเรื่องนี้ ทำให้เขาเข้าใจผิดเธออยู่ตั้ง หลายปี! เขานี่มันเหมือนกับสัตว์ป่าที่โง่เขลาไม่มีผิด

พอเห็นท่าที่ตอบสนองของหลงเชียวแบบนั้น กู้เย็น เช่น พูดขึ้น “สงบจิตสงบใจลงก่อนเถอะ อย่าเพิ่ง อารมณ์ร้อนไป ตั้งสตินะตั้งสติ เรื่องมันเกิดไปตั้ง หลายปีแล้ว ตอนนี้ ล้วหานเองก็สูญเสียความทรง จําทั้งหมดไปด้วย เรื่องนี้ มันจะ..”

“ไม่ได้เด็ดขาด! วลั่วถูกทรมานตั้งเยอะแยะแบบ นั้น ฉันไม่มีทางนั่งมองเฉยๆ แล้วทำเป็นไม่สนใจได้ หรอกนะ”

กู้เยนเซินเองก็ถอนหายใจ ก่อนจะยกมือขึ้นนวด ขมับ แต่ว่า…ตอนนี้ฉ่ซีหรานก็เป็นแฟนของเงิน เหลียวด้วย ถึงแม้ว่าเสิ่นเหลียวจะไม่ได้มีอำนาจมาก ในเมืองก็ตาม แต่สําหรับเมืองเจียงเฉิงแล้ว ถือว่า เขาเองก็เป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่ง หากมีใครไปทำอะไร ผู้หญิงของเขาล่ะ…….

แววตาที่แหลมคมราวกับคมมีด กำลังมองไปยัง ทิศทางหนึ่ง ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เจ็บปวด เสียใจ โทษตัวเอง “ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม การที่กล้ามาทำร้ายผู้หญิงของฉันแบบนี้ มันต้องชดใช้

เบนเซินเห็นว่าเขาตัดสินใจแน่วแน่ ก็ถามขึ้นอย่าง ระมัดระวังว่า “แล้วนายคิดจะทำยังไงล่ะ? ต้องการ ไปเมืองเจียงเฉิงสักหน่อยหรือเปล่า?”

หลงเขียวพยายามควบคุมสติสัมปชัญญะไว้ ไม่ให้ ความโกรธเกลียดเข้าครอบงำ เขาสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพูดขึ้น “จับตาดูเสิ่นเหลียวเอาไว้

“ตกลง!”

ณ โรงพยาบาลหวาเซีย

“ใกล้จะประชุมแล้วนะคะ คุณหมอถัง!”

ถังจิ้นเหยียนที่กำลังตรวจดูประวัติผู้ป่วยอยู่นั้น พอได้ยินเสียงเรียกมาจากพยาบาลที่อยู่ด้านนอก เขาก็ได้สติกลับมา ก่อนจะหันไปพยักหน้ายิ้มให้กับ พยาบาลที่ผลักประตูเข้ามา “โอเค ขอบคุณนะ”

นางพยาบาลเองก็ยิ้มจนตาปริ “คุณหมอถังคะ คุณ มักจะเกรงใจแบบนี้ตลอดเลยนะคะ พวกเรารู้สึกเกรงใจแย่เลย”

ถังจีนเหยียนวางประวัติผู้ป่วยในมือลง ก่อนจะลุก ขึ้นจากเก้าอี้ ร่างกายที่สวมชุดกาวน์สีขาวดูสะอาด เอี่ยมอ่อง ทำให้เขาดูดีให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นมา “เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว”

หลังจากเดินออกมาจากห้องทำงาน ถังจิ้นเหยียนกั เดินมารออยู่หน้าประตูลิฟต์ ขณะที่ประตูลิฟต์เปิด นั้นเอง ทั้งคนด้านในและด้านนอกต่างก็ประสานตาม องกัน ถังจิ้นเหยียนเองก็ผงกหัวให้เบาๆ “สวัสดีครับ หัวหน้าเกา

เกาหยิ่งจือก้าวถอยหลังไปครึ่งก้าว อย่างไม่ค่อย เป็นธรรมชาติเสียเท่าไหร่ “สวัสดีตอนเช้า หมอถัง”

ขณะนั้นเองด้านในลิฟต์ก็มีคนอื่นๆ อยู่อีกสามสี่คน ที่เป็นหมอเช่นเดียวกัน กำลังจะไปประชุมด้วยเช่น เดียวกันกับพวกเขา ตั้งแต่ชั้นหนึ่งขึ้นมา ต่างก็มีคน เรียกลิฟต์เข้ามาด้วยอีกหลายคน ทำให้ถังจิ้นเหยี ยนต้องก้าวเท้าเข้าไปด้านใน เขาหันหน้าสู่ประตู พร้อมกับร่างกายของเกาหยิ่งจือที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขา
ตั้งแต่ที่แยกจากกันที่สนามเมื่อวันนั้น ทั้งสองคน เองก็เหมือนจะพยายามหลบเลี่ยงหน้ากันภายใน โรงพยาบาล โดยที่ไม่ได้มาเจอหน้ากันเลยแม้สัก ครั้ง เกาหยิ่งจือมองไปยังแผ่นหลังของถังจิ้นเหยียน พลางรู้สึกเหมือนกับมีโลกใบหนึ่ง ที่มากั้นระยะห่าง ระหว่างเธอกับผู้ชายคนนี้

พลันมีหมอผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น มาเล่นๆ ว่า “คุณหมอถัง ถึงแม้ว่าคุณจะมาที่โรง พยาบาลของพวกเราเป็นเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่คุณ มีชื่อเสียงมากๆ เลยนะ ตอนนี้พวกสาวๆ ทั้งโรง พยาบาลต่างก็เห็นคุณเป็นพ่อเทพบุตรกันหมดแล้ว ทั้งนั้น แถมยังมีแพทย์หญิงตั้งหลายคนที่เอาแต่จ้อง คุณด้วยนะ คุณหมอถังต้องเข้าใจนะว่าที่นี่ไม่ค่อย มีอะไรแบบนี้เท่าไหร่น่ะ คุณต้องป้องกันตัวเองจาก พวกหมาป่าผู้หญิงพวกนั้นด้วยนะ!”

ถังจิ้นเหยียนเองก็ยังคงยืนตัวตรงอยู่แบบนั้น มือ ของเขาห้อยอยู่ข้างลำตัว พร้อมกับยิ้มให้ “คุณหมอ หวังก็พูดไปครับ หมอหนุ่มๆ ของโรงพยาบาลนี้ก็ หล่อใช่เล่นเลยนะครับ มีแต่ของสดๆ ใหม่ๆ จะมีใคร ไปสนใจเนื้อเก่าๆ เน่าๆ อย่างผมกันล่ะครับ”

“ฮ่าๆ! นี่คุณหมอถังถ่อมตัวไปหรือเปล่าเนี่ย? ไม่ เชื่อก็ลองถามหัวหน้าเกาดูสิครับ รู้สึกเหมือนกันหรือเปล่าครับ ว่าคุณหมอกังน่ะ เป็นหน้าเป็นตาของ โรงพยาบาลเราเลยนะครับ?”

เพียงแค่การพูดเล่นหยอกล้อกันโดยไม่ได้มีความ หมายอะไร เป็นการแกล้งกันปกติระหว่างหมอด้วย กัน แต่เกาหยิ่งจือกลับรู้สึกบางอย่างในใจ เธอเงย หน้าขึ้นมองแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของถังจิ้นเหยียน พร้อมกับพูดด้วยความรู้สึกในใจที่ปิดไม่อยู่ “เสน่ห์ ของถังจิ้นเหยียน ไม่เพียงแค่จะมีแค่รูปร่างหน้าตา เท่านั้น แต่ด้วยลักษณะนิสัย ฝีมือทางการแพทย์อีก หากจะพูดแค่ว่าเขาแบกรับภาระด้านหน้าตาไว้ล่ะก็ คงจะไม่ครอบคลุมเท่าไหร่นะ

“ได้ยินแล้วหรือยังล่ะ? ในโรงพยาบาลหวาเซียนี้ คนที่ทำให้ผู้หัวหน้าที่สวยเลิศชมด้วยตัวเองได้แบบ นี้ ไม่ใช่ปกติแล้วนา! ”

ระหว่างที่พูดคุยกันไปมา ลิฟต์ก็พามาส่งถึงชั้นที่ ต้องการ ถังจิ้นเหยียนที่อยู่หน้าสุด ก็เดินออกจาก ลิฟต์ไปก่อน พร้อมกับฝูงชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปด้านใน ห้องประชุม ระหว่างทางนั้น เกาหยิ่งจื้อก็เดินสาวเท้า ตามถังจิ้นเหยียนไป ความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีให้กับถัง จิ้นเหยียนนั้น ทุกคนต่างก็มองออกหมดแล้ว
ขณะนั้นเอง สายตา ทุกคนก็มองกันไปมา ก่อนจะ แอบกันอย่างเงียบๆ

การประชุมที่อืดอาดยืดยาดแบบนี้มันดูน่าเบื่อ อย่างมาก แต่ผู้อำนวยการเฉินพูดเพียงประโยค เดียว ก็ทำให้ทุกคนมีชีวิตชีวาขึ้นทันที

ผมมีข่าวดีจะมาบอกทุกคนเรื่องหนึ่ง ตอนนี้แอน น่าได้กลับมาจากประเทศอเมริกาแล้ว! ฮ่าๆ แต่ช่วง นี้ต้องรอแอนน่าปรับสภาพตัวเองเสียก่อน เธอถึงจะ มาทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติได้อาทิตย์หน้าล่ะ นะ!”

แค่พูดว่าแอนน่าจะกลับมา ห้องประชุมที่ดูหมอง หม่นอยู่ พลันสุกสว่างขึ้นมาทันที ไม่เพียงแค่ผู้ชาย ที่ดีใจเท่านั้น แม้แต่ผู้หญิงไม่น้อย ต่างก็ดีใจจนปรบ มือตะโกนร้องออกมา

“เลย! หากแอนน่ากลับมาจริง ไม่เพียงแต่ โครงการโรคหัวใจ จะเจริญก้าวหน้าเหมือนกับเสือที่ ติดปีกบินเท่านั้น แต่ความรู้ของทั้งโรงพยาบาลก็จะ ยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งด้วย!

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ ด้วยรูปร่างหน้าตาของแอนน่าเองก็ทำให้รู้สึกสดชื่นมากด้วยนะ!”

“ใช่ๆๆ ทุกครั้งที่มองดูวิดีโอที่คุณหมอแอนน่าผ่าตัด น่ะ ฉันรู้สึกเหมือนกับเลือดสูบฉีดไปด้วยความตื่น เต้นทุกทีเลยล่ะ น่าเสียดายที่ตอนแรกฉันไม่ได้เรียน ศัลยกรรมมาเลย! ว้าวๆๆ ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาคอย เลยล่ะ!”

ถังจิ้นเหยียนที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นมา เช่นกัน ใบหน้าที่ดูอบอุ่นและสะอาดเอี่ยม เผยรอย ยิ้มที่ราวกับแสงอาทิตย์เจิดจ้าขึ้นมา มันช่างดูอ่อน นุ่มแอบอบอุ่น ราวกับย้อนกลับไปช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ สวยงามช่วงเดือนสี่เลย ถึงแม้ว่าเขาจะรักษาอาการ สงบเสงี่ยมแบบนั้น แต่เขาก็ปิดบังความดีใจ ที่เผยอ อกมาทางดวงตาของเขาไม่ได้

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า แอนน่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้!

พอเห็นสีหน้าและอาการของถังจิ้นเหยียนแบบนั้น เกาหยิ่งจื้อก็กำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ฉู่ลั่วหาน ไอ้คน ต่ำช้า! ต่ำช้าที่สุด

“ผู้อำนวยการเฉินครับ คุณหมอแอนน่ารับหน้าที่แค่ โครงการโรคหัวใจเท่านั้นนี่ครับ พอโครงการนี้เสร็จสิ้น ไม่ใช่ว่าเธอก็ต้องไปหรือครับ? อีกอย่าง พอสิ้นสุดโครงการนี้ สุดท้ายแล้วก็ต้องฟังคำสั่งจาก สำนักงานใหญ่นี่ครับ” พลันมีหมอคนหนึ่งพูดขึ้นมา อย่างหดหู่ใจ

เกาหยิ่งจือเองก็เบ้ปากพูด “เดิมทีแอนน่าไม่ใช่หมอ ของโรงพยาบาลหวาเซี่ยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็ คงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อยู่แล้วล่ะนะ”

แววตาของถังจิ้นเหยียนเองกีขรึมลง

ผู้อำนวยการเฉินยกมือขึ้นพูด “ทุกคนอยู่ในความ สงบก่อน ยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องประกาศ เมื่อครั้ง ก่อน คุณหมอแอนน่าประสบความสําเร็จ ในการ ริเริ่มผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ดังนั้นรอให้คุณหมอแอน น่ากลับมาก่อน ค่อยมารวมตัวเฉลิมฉลองกัน ส่วนค่า ใช้จ่ายทั้งหมดทางโรงพยาบาลเป็นคนออกเอง

“ดีจังเลย! ผู้อำนวยการแสนยานุภาพที่สุด!

การประชุมก็จบลงด้วยความฮึกเหิมของทุกคน

หมอทุกคนต่างก็เดินวิจารณ์กันไปแล้วเดินออกไป

พลันผู้อำนวยการก็พูดขึ้น “อยู่ก่อนสิคุณหมอถัง”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้ารับ ไม่ทราบว่าผู้อำนวยการ มีธุระอะไรหรือครับ?

ทุกคนต่างก็สลายตัวกันไปหมดแล้ว เกาหยิ่งจือเอง ก็ยืนมองผ่านกระจก เข้ามามองทั้งสองคนที่กำลังนั่ง คุยกันอยู่ในห้อง พลางกัดฟันกรอด

“พี่สะใภ้! เธอนี่สร้างความสุขได้ง่ายจริงๆ นะ!”

ขณะที่หลงจื่อขับรถมาอย่างรวดเร็วเพียงครึ่ง ชั่วโมงนั้น ในที่สุดเขาก็มาถึงบ้านพักของเธอ พลาง ตะโกนร้องเรียกอยู่หน้าประตู

“ไม่ใช่ว่านายเป็นคนให้ฉันกลับมาหรือไง?” แอน น่ายิ้ม พอเห็นท่าทีตื่นเต้นดีใจของหลงจื่อ แอนน่า ก็คิดถึงตอนที่เขามาสารภาพรักกับตัวเอง มันช่าง น่าแปลกประหลาดเหลือเกิน นี่เขาไม่ได้รู้สึกอะไร แปลกๆ เลยหรือไง?

หลงจื่อนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางที่หล่อเหลา ก่อน จะหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาลูกหนึ่ง แล้วกัดลงไปคำใหญ่ ในปากของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยแอปเปิ้ล จนทำให้พูดออกมาไม่เป็นจําเลย “นี่ฉันเป็นกำลังสำคัญให้ ขนาดนั้นเลยหรือ?”

แอนนาเองที่มองดูท่าทางเขากินแบบนั้น ก็อดจะ

ส่ายหัวหัวเราะไม่ได้ “ออกมาป่านนี้ คิดจะอู้งานหรือ ไง? คุณชายรองหลงแอบอู้งานของบริษัทตัวเอง ระวังพนักงานทั้งหมดจะหยุดงานเอานะ”

“ฉันทํางานจนแทบบ้าเลยนะ! แล้วพี่สะใภ้ล่ะว่ายัง ไง? พวกเรามาแข่งกันอีกรอบไหมล่ะ? ครั้งก่อนมัน ยังไม่สะใจพอน่ะ”

แอนน่าวางหนังสือในมือลง ก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปม “หลงจี๋อ ตอนนี้ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของนายแล้วนะ จะ เรียกฉันก็ระวังไว้หน่อยล่ะ”

“โอ้โห แต่ก่อนหน้านี้เป็นก็ถือว่าเรียกแบบนี้ไปละ กัน อีกอย่างด้วยความสามารถของพี่ใหญ่แล้ว ยังไง ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอกนะ”

ตรรกะที่ดูราวกับอันธพาลแบบนี้ ไม่รู้เลยนะว่าเป็น

ถึงสมบัติของตระกูลหลงน่ะ

“วันนี้จะแข่งอะไรล่ะ?”
หลง อมือสั่นเล็กน้อย ก่อนจะโยนแอปเปิ้ลในมือ ทิ้งลงถังขยะไป โดยที่ยังไม่ทันได้กินเสร็จเลยด้วย ซ้ำ “ก็ง่ายๆ วันนี้พวกเรามาเล่นอะไรที่ดูเป็นทางการ สักหน่อยดีกว่า แข่งรถกันสักรอบหนึ่งเป็นไง?”

แอนน่ายักไหล่ “ฉันโอเคทั้งนั้น นายเลือกสถานที่ แล้วกัน ส่วนฉันจะเป็นคนกำหนดกฎเอง”

หลงจื่อเลิกคิ้ว พร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “ดูใช้อำนาจเหลือเกินนะพี่สะใภ้ พูดแบบนี้ทำให้ผม ดูไม่ดีไปเลยนะ”

“ไม่กล้างั้นหรือ?”

“กล้าสิ! มีโอกาสได้อยู่กับพี่สะใภ้ทั้งที ใครจะไปไม่ กล้ากันล่ะ! ไปกันเถอะ!”

ในห้องทํางานที่ปิดสนิทและเงียบเชียบตอนนี้ บรรยากาศดูอึดอัดและกดดันอย่างมาก จนแทบจะ รู้สึกถึงจิตสังหารและรังสีฆ่าฟันได้เลย
“ฉันจะไม่มีทางให้ฉู่ลั่วหานได้มีชีวิตดีแน่ เธอทำให้ ฉันสูญเสียทุกอย่าง ฉันจะทำให้เธอชดใช้มันอย่าง สาสม

“หรูเฟย คิดให้ดีๆ ก่อนสิ หากลงมือไปแล้ว เธอจะ

“พี่คะ ฉันคิดดีแล้วค่ะ คำพูดนี้ ฉันไม่มีทางกลืนมัน กลับไปแน่! พี่วางใจเถอะ ฉันได้ยินทุกอย่างชัดเจน วันนี้ปายเธอจะไปแข่งรถด้วยกันกับหลงจี๋อ ขอ เพียงฉันลงมืออย่างเงียบๆ รับประกันได้ว่าแม้แต่เธอ ก็ต้องแตกเป็นชิ้นๆ ไปด้วยกันกับรถแน่ๆ!”

เกาหยิ่งจือหรี่ตาลง “ไม่ได้หรอก จะไปลงมืออะไร ที่สนามแข่งรถแบบนั้น จะถูกสืบสาวหาตัวเธอได้ ง่ายๆ เอานะ แล้วยิ่งคนแบบหลงเซียวด้วย เขาไม่มี ทางปล่อยให้คนทําลอยนวลอยู่แล้ว”

“พี่จะเสนอแนะอะไรหรือเปล่าคะ?” โม่หรูเฟยอยาก ให้ฉู่ลั่วหานตายไปเหลือเกิน แต่เธอรู้ดีว่า เวลาเกา หยิ่งจือจะทําอะไร มักจะเข้มงวดรัดกุมมากกว่าเธอ เสมอ

“ใช้เงินสักหน่อย หาใครสักคน แล้วเอามาเปรียบ192688596_945308806322073_6270922441744406578_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ