ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 17 ไสหัวไปภายในหนึ่งนาที



ตอนที่ 17 ไสหัวไปภายในหนึ่งนาที

เสี่ยวจื้อ ?

มือของจับมือถือไว้ของหลงเซียวจึงค่อยๆจับแน่นมาก ขึ้น สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกกำลังมองทิวทัศน์ที่อยู่ข้างนอก หน้าต่าง จากนั้นก็ยืดตัวตรงแล้วทำเหมือนหลังของตัวเอง เป็นสันเขา

ห้าปีที่ไม่ได้เจอกัน ในความทรงจำของเขา น้องชายคน นี้ยังคงเป็นคนที่ชอบหลบอยู่ข้างหลังตนเองแล้วคอยขอ ความช่วยเหลือ ดูๆแล้วตอนนี้เขาโตแล้วจริงๆ อีกอย่างยัง ชอบมายุ่งเรื่องของคนอื่นอีกด้วย

“จับตาดูเขาไว้” หลงเซียวจึงได้ออกคำสั่งอย่างเย็นชาขึ้น ให้จตงหมิงตามรถของหลงจื้อไปก่อน เขาอยากดูเหมือน กันว่าหลงจื้อยังคิดอยากจะทำอะไรกันแน่?

นิ้วมืออันเรียวยาวของเขาเคาะบนโตะ หรือว่า เขาควรจะ มองหลงจื้อในด้านที่เปลี่ยนไป และเปลี่ยนความทรงจำที่ คิดว่าน้องชายคนนี้จะเป็นยังไงๆ
ตอนนี้ รถของหลงจื้อก็กำลังมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล จ ลั่วหานดูออกว่าระหว่างทางจะได้เจออะไรบ้าง จึงได้ขมวด คิ้วขึ้นอย่างรุนแรง

“นายจะพาฉันไปไหน?” เสียงของฉู่ลั่วหานแหบพร่า เล็กน้อย เข่าสองข้างที่ยังเจ็บอยู่ ตอนนี้มันยังจะกดเส้น ประสาทของเธออยู่ เธอรู้สึกเจ็บไปถึงกระดูกสันหลัง และ รู้สึกเจ็บจนต้องขมวดคิ้วทรงสวยของเธอขึ้นแน่นๆ

หลงจื้อจึงเบะปาก “พี่สะใภ้ใหญ่ สมองของพี่โดนกระทบ กระเทือนตอนล้มหรือเปล่า? ระหว่างทางไปทำงาน พี่ยังจำ ไม่ได้อีกหรอ?”

ฉู่ลั่วหานจึงได้โน้มตัวไปข้างหน้า “จอดรถ! ฉันไม่ไปโรง

พยาบาล”

“พี่ได้รับบาดเจ็บต้องไปโรงพยาบาลไปทำแผล พี่สะใภ้ ใหญ่คงไม่อยากจะกลายเป็นพิการตั้งแต่ตัวเองยังสาวอยู่ ใช่หรือไม่?”

หลงจื้อพูดไปด้วยแล้วเร่งให้รถขับเร็วขึ้น เขารู้นิสัยของ พี่สะใภ้ใหญ่ท่านนี้ดี แค่ช่วงเวลาสั้นสองวัน เขาก็ได้เจอมา แล้ว เธอหัวดื้อ เอาแต่ใจ ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร อยากจะให้เธอให้ความร่วมมือดีๆ งั้นก็คงจะเป็นแค่ ความฝันเท่านั้น

“หลงจื้อ! ฉันสั่งให้นายหยุดรถ!” ฉู่ลั่วหานเห็นหลงจื้อไม่ เพียงแต่ไม่หยุด แต่กลับขับเร็วขึ้น เธอจึงยื่นมือไปตีเบาะที่ เขาพิง “หลงจื้อ ! นายหยุดรถเดี๋ยวนี้! ได้ยินไหม!”

หลงจื้อตั้งใจตะโกนเสียงดังและแสดงละครตบตา “พี่ สะใภ้ใหญ่พูดอะไรนะ? ไอยะ หูของผมเป็นอะไรไป? ไม่ ได้ยินที่พี่พูดเลย”

ฉู่ลั่วหานจึงกัดฟันไว้แน่นๆ และไม่ยอมไปโรงพยาบาล ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะ หลงจื้อ

ตอนที่รถจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล คู่ลั่วหานจึงไม่ ยอมลงจากรถ จากนั้นก็ใช้สายตาที่เย็นชา และมองหลงจี้ อด้วยความโมโห “หลงจื้อ ทางที่ดีที่สุด ตอนนี้นายกลับไป ทางเดิมเดี๋ยวนี้”

หลงจื้อจึงพยักไหล่ขึ้น จากนั้นก็โน้มตัวแล้วกำลังเตรียม ตัวอุ้มฉู่ลั่วหานขึ้น เธอจึงรีบขยับไปนั่งอีกเบาะหนึ่ง และกำลังจะหลบเลี่ยงแขนของเขา

“พี่สะใภ้ใหญ่ ผมน่ะไม่เข้าใจจริงๆ พี่ก็เป็นหมอที่ถือว่า โด่งดัง ได้รับแผลเจ็บ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือทำแผล เหตุผลง่ายๆแค่นี้พี่ไม่เข้าใจหรือไง? ฉันกำลังสงสัยว่าใบ อนุญาตที่จะได้มีอาชีพเป็นหมอ พี่ซื้อมาหรือเปล่า”

“ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ว่าบาดแบบไหนต้องจัดการแบบไหน และแบบนี้ที่ไม่ต้องจัดการอะไรใดๆ ฉันไม่เป็นไร คุณชาย สองตระกูลหลงวางใจเถอะ ขับรถ ส่งฉันกลับบ้าน!”

หลงจื้อจึงยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ คิ้วดกดำทั้งสองข้างก็ ค่อยๆกระตุกขึ้น จากนั้นก็รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก “เห้อๆ พี่ สะใภ้ใหญ่ พี่จะให้ผมส่งพี่กลับบ้านโดยตรง? นี่ก็ตรงเกิน ไปและ..ไม่รู้สึกละอายใจหรือไง?”

แย่แล้ว! ฉู่ลั่วหานกัดฟันตัวเองไว้แน่นๆกับท่าทางที่รู้สึก จกของหลงจื้อ พอเห็นแบบนี้ เหมือนจะไม่ไปก็ไม่ได้แล้ว

ไม่รอให้จู่ลั่วหานตอบสนองใดๆ หลงจื้อก็ได้จึงได้เปิด แขนออก แล้วอ้อมฉู่ลั่วหานเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง!

จู่ลั่วหานแค่รู้สึกว่าเธอกำลังถูกฟ้าผ่าให้สมองของเธอ

ช็อต! .

“หลงจื้อ! ฉันเป็นพี่สะใภ้นายนะ! ปล่อยฉัน! ปล่อย!”

หลงจื้อจึงมองไปข้างหน้า ระหว่างแขนทั้งสองจึงมีผู้หญิง ที่กำลังโวยวายที่ดิ้นไปดิ้นมา น้ำหนักเบาจนทำให้เขารู้สึก แปลกใจ ดูๆแล้วจู่ลั่วหานน้ำหนักแค่ไม่กี่กิโลเท่านั้น พอ อุ้มแล้วเหมือนคนที่ไม่เคยกินข้าวอิ่ม

หลงจื้อจึงก้าวขึ้นบันได จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “คุณหมอฉู่ หมอไม่แบ่งว่าเป็นชายหรือหญิง ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะที่มี เราจะแบ่งแยกไปทำไม?”

แต่ว่า มุมปากของหลงจื้อค่อยๆกระตุกขึ้น ผู้หญิงที่ โวยวายเหมือนสิงโตน้อย เขาจะต้องพัวพันกับเธออีก แน่นอน

หลงจื้อเป็นหน้าตาหล่อเหลาที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ ธรรมดาอุ้มลู่ลั่วหานเข้าประตูมา ทำให้ดึงดูดคนไปสนใจไม่ น้อย ตอนนี้สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังหลงจื้อ เป็นผู้ชายหน้าตาสวยงามและน่าทำให้ผู้อื่นลุ่มหล งมากๆ

ทันใดนั้น พยายามและหมอทุกคนก็ได้จับจ้องไปยังผู้ หญิงในอ้อมกอดของเขา!

“โอ้พระเจ้า! ผู้หญิงที่หนุ่มหล่อคนนี้อุ้มเข้ามาเป็นจู่ลั่วหา นที่อยู่ในแผนกอายุรกรรม?”

“คือเธอจริงๆ! คุณหมอจู่ลั่วหาน! ไม่ใช่มั้ง? หรือว่านี่เป็น แฟนหนุ่มของคู่ลั่วหาน?”

“ไม่มีทางเป็นไปได้หรือเปล่า? หนุ่มหล่อคนนี้เป็นน้องชาย เธอก็ค่อยว่าไปอย่าง? ฉันได้ยินมาว่าคู่ลั่วหานเป็นคนที่ไร้ ความรู้สึก ปกติก็เป็นคนที่เคร่งขรึม และคนอื่นก็มักจะไม่ กล้าเข้าใกล้เธอ ถือว่าเป็นแม่ชีมิกจ้อในแผนกอายุรกรรม!”

ได้ยินคำว่าแม่ชีมิกจ้อ สี่คำนี้ หลงจื้อจึงได้กัมหน้าลงแล้ว มองใบหน้าที่เขียวคล้ำของคู่ลั่วหาน และไม่ได้มองนาง พยาบาลที่แอบซุบซิบนินทากัน มุมปากของเขาจึงกระตุก ยิ้มที่เบิกบานขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่ ชื่อเสียงของพี่ไม่เลวหนิ และยังมีฉายาที่ไม่เลวด้วย แม่ชีมิกจ้อ? เหอะๆ บ้าอำนาจจริงๆเลยนะ”

จู่ลั่วหานจึงทำใช้สายตาอันอาฆาตมองเขา “หลงจื้อ ไม่ งั้นนายก็ไสหัวไป ไม่งั้นก็หุบปาก!”

“ได้ๆๆ แม่ชีมิกจ้อพูดเองแบบนี้ ผมจะกล้าไม่ฟังได้ยังไง”

หลงจื้อจึงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที

ในห้องตรวจ

หมอเห็นว่าหัวเข่าและหน้าแข้งของฉู่ลั่วหานได้รับบาด เจ็บ ในมือที่จับสำลีแท่งไว้ที่เอาไว้ฆ่าเชื้อก็ได้หยุดชะงัก ลงไปชั่วขณะ “คุณหมอ แผลตรงเข่าซ้ายบาดเจ็บมาสอง วันแล้วใช่ไหม?”

ฉ่ลั่วหานจึงพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไร

จู่ลั่วหานมีขาสองข้างที่มีความขาวผุดผ่อง หนึ่งข้างเขียว คล้ำ หนึ่งข้างม่วง จากหัวเข่าขึ้นมาจนถึงน่อง แทบจะ มองไม่เห็นผิวที่ดีเลย แผลเก่ายังไม่ทันได้หายดี ก็มีแผล ใหม่เพิ่มขึ้นอีก ขาอันเรียวเล็กของเธอเหมือนสามารถจับแค่ครั้งเดียวก็เลอะได้ แทบจะดูไม่แข็งแรงเลย

สักนิด

สายตาของหลงจื้อจึงหรี่ลง ไอ้พวกสารเลวที่มันไป โวยวายที่โรงพยาบาลครั้งนี้ เขาต้องกำจัดให้มันสิ้นซากไป เลย!

หมอที่ทำแผลก็ได้เงยหน้าขึ้นแล้วมองหลงจื้อที่กำลัง ทำสีหน้าที่เป็นห่วงและรู้สึกเจ็บปวดแทนเธอ จึงได้พูดขึ้น อย่างหยอกล้อ “คุณเกิดเป็นแฟนหนุ่มของคนอื่นได้ยังไง? แฟนสาวของคุณบาดเจ็บมาสองสามวันแล้วกลับพึ่งส่งมา โรงพยาบาลในวันนี้”

“คุณเข้าใจผิดแล้ว! เข้าไม่ใช่….

“หมอสั่งสอนได้ถูกต้องครับ ครั้งหน้าผมจะต้องส่งเป็นมา โรงพยาบาลเป็นลำดับแรก ลำบากหมอแล้วครับ”

“ยังจะมีครั้งหน้าอีก? ไอ้หนุ่ม นายพูดแบบนี้ เตรียมตัวที่ จะโดนหักอกใช่ไหม?”

ฉู่ลั่วหานจึงกัดฟันไว้แน่นๆ “เขาไม่ใช่แฟนของฉัน!”
บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความน่าสงสัยขึ้นมาทันที

หลงจื้อจึงกระตุกคิ้วขึ้น แล้วไม่ได้มองสายตาที่กำลัง โมโหของคู่ลั่วหาน ในใจกลับรู้สึกดีใจเบาๆ

หลังจากที่ทำแผลเสร็จจู่ลั่วหานก็ไม่ยอมให้หลงจื้อเข้า

ใกล้ตัวเองอีก!

ทีแรกเธอก็แค่รู้สึกอายุของหลงจื้อยังน้อย เลยชอบขี้เล่น ไปหน่อย แต่ว่าตอนนี้มาดูๆแล้ว ในใจของเขากลับไม่ได้ คิดแบบนี้ “พี่สะใภ้ใหญ่ เข่าของพี่ยังมีแผล เดินเร็วขนาดนี้ มันไม่ดีกับแผลนะครับ”

ลั่วหานจึงรู้สึกโมโหมากจริงๆ จึงได้ยื่นนิ้วชี้ของตัวเอง ไปหยุดฝีเท้าของหลงจื้อ “นายหยุด! ไกลจากฉันหน่อย!”

หลงจื้อถูกเธอตะคอกใส่ จนต้องหยุดฝีเท้าลงจากนั้น ก็ได้ใช้สายตาที่ยิ้มแย้มในการวัดระยะห่างของพวกเขา สองคน แล้วพูดขึ้นด้วยความอึดอัดใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ นี่ก็ ห่างจากสองสามเมตรแล้ว ยังไม่ไกลอีกหรอ?”

ฟันบนและล่างของจู่ลั่วหานจึงได้เสียดสีกันแรงๆ”นาย เงาของนายอยู่บนเท้าของฉันแล้ว!”

หลงจื้อ “. .” จากนั้นก็ได้ก้มหัวลงมอง ดั่งที่คาด พระอาทิตย์ได้สอดส่องและทำให้เงาของเขายืดยาวขึ้น จึง ได้ไปกระทบลงบนเท้าของเธอ จากนั้นก็มีจังหวะการเดิน และขยับตัวของตัวเองตามไปด้วย

หลงจื้อจึงหัวเราะออกเสียง “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่จะคิด ว่า…มันจริงแบบนี้สิ?”

ที่แท้ก็อยากจะบอกว่าน่ารัก แต่พอดูจากสีหน้าของจูล วหานแล้ว หลงจื้อรู้สึกเขาพูดสองคำนั้นออกมาแล้ว เขาก็ คงจะถูกฆ่าให้ตาย

“ใช่! ฉันเป็นคนที่รักสะอาด!”

เธอทั้งท้ายด้วยคำๆนี้ จู่ลั่วหานจึงได้เดินลงบันไดไปอย่าง โมโห ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจความเจ็บปวดเลยสักนิด

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่รอผมหน่อยสิ ผมขับรถส่งพี่กลับบ้าน

เอง!”
“ไม่ต้อง!”

หลงจื้อจึงตามไปต่อ “พี่สะใภ้ใหญ่อย่าโกรธสิ พี่ดุขนาดนี้ ใจที่เหมือนกระจกของเค้าก็ใกล้จะแตกสลายแล้ว”

“แตกไปก็ดี”

หลงจื้อไม่ย่อท้อ จู่ๆเขาก็สังเกตเห็นว่า จู่ลั่วหานที่ดู เหมือนจะเย็นชา จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นเหมือนที่ทุกคนรู้ กันแล้วเป็นคนที่ไม่ควรจะที่เข้าหา แต่ในทางกลับกัน เขา รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้น แต่น่ารักมากๆ

หลงจื้อจึงยื่นมือไปจับแขนของคู่ลั่วหานไว้จากนั้นก็มี

เสียงบางอย่างแทรกขึ้น

“คุณชายสอง”

หลงจื้อและจู่ลั่วหานก็ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน พอเห็น ตงหมิงกำลังพลิกข้อมือแล้วยืนอยู่ตรงหน้ารถเบนท์ลีย์สี ดำคันหนึ่ง และก็ได้อมยิ้มเบาๆพลางมองสองคนนี้ จู่ลั่วหา นจึงได้เดินขึ้นหน้าเหมือนถูกไฟช็อต เพื่อที่จะหลบเลี่ยง มือของหลงจื้อ
หลงจื้อจึงได้เกาๆผมของตัวเอง “ผู้ช่วยจี้ คุณมาที่นี่ได้ยัง

ไง?”

จ๊กตงหมิงจึงโค้งตัวลงเพื่อทำการทักทาย ได้ยินมาว่าที่ นี่มีคนมาโวยวายและสร้างเรื่องที่โรงพยาบาล และผู้เสีย หายก็คือคุณผู้หญิงของเรา ดังนั้นผมเลยมาดู”

หลงจื้อจึงได้เงยหน้าขึ้นแล้วแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “คุณ ผู้ช่วยจี้ทำงานช้าเกินไปหรือเปล่า? คนเขาไปกันหมดแล้ว เรื่องนี้ทุกอย่างมันเคลียร์กันหมดแล้ว คุณนี่มันได้เรื่อง จริงๆ”

ผู้ช่วยจี้จึงได้พูดขึ้นด้วยความเคารพ “ผมบกพร่องต่อ หน้าที่เองครับ คุณผู้หญิงครับ ขึ้นรถเถอะครับ”

คู่ลั่วหานจึงพยักหน้า “ได้รบกวนคุณผู้ช่วยไปส่งฉัน หน่อย”

หลงจื้อจึงเป่าลมออกจากจมูก “ผมก็จะกลับด้วย”

ฉู่ลั่วหานจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดิบดี “คุณกลับบ้านคุณ ฉัน กลับบ้านฉัน มาสร้างเรื่องสร้างปัญหาทำไม?”
จี๊ตงหมิงจึงขับเคลื่อนรถไปข้างหน้า จู่ลั่วหานที่นั่งอยู่ เบาะหลัง อยากจะเอ่ยปากถามขึ้นหลายครั้งว่าหลงเชียว เป็นคนสั่งให้เขามาหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ไม่หน้าด้านพอที่ จะเอ่ยพูดแบบนั้นขึ้น

“คุณผู้หญิงครับ ถึงแล้วครับ”

ตลอดทางเธอก็ได้เหม่อลอย นึกถึงเร็วขนาดนี้เลยหรอ?

จู่ลั่วหานจึงถูกจี้ตงหมิงพยุงลงจากรถ จากนั้นก็เงยหน้า ขึ้นแล้วมองประตูใหญ่ของวิลล่า แล้วเธอก็ได้ตั้งใจกัดริม

ฝีปากไว้แน่นๆ

“คุณผู้หญิงครับ คุณพักผ่อนดีๆนะครับ มีอะไรก็โทรมาผม

ได้ตลอด”

อม”

ดังนั้น ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ก็แค่เป็นเรื่องที่เลขาของ เขามาถามสารสุขดิบกับตัวเองเท่านั้นใช่ไหม?

ใช่ ยังไงมันก็เทียบเท่าโม่หรูเฟยไม่ได้หรอก ทุกอย่างเขาก็มักจะเป็นฝ่ายกระทำและออกแรงเอง คงอยากจะ ปกป้องเธอให้หลุดพ้นจากทุกอย่างด้วยตัวเองจนใจขาด

พอครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสามปีนี้ จู่ลั่วหานก็แค่รู้สึก เจ็บใจจนแทบจะหายใจไม่ออก

พอเข้าประตูไป เธอเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ฉู่ลั่วหานจึงได้

หันหลังแล้ว แล้วสะดุ้งตกใจ

โม่หรูเฟย ? !

โม่หรูเฟยทำไมถึงมานั่งอยู่ในบ้านได้

โม่หรูเฟยที่ใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนจึงนั่งอยู่บน

โซฟาแล้วนั่งข้อยขา บนโต๊ะจึงมีแก้วไวน์สีแดงวางอยู่หนึ่ง แก้ว ขอบของแก้วมันรอยลิปสติก

พอเห็นฉู่ลั่วหานเดินเข้ามา โม่หรูเฟยจึงกอดอก จากนั้นก็ พิงอยู่บนโซฟา

“น่าภูมิใจมากสินะ ! จู่ลั่วหาน!”
โม่หรูเฟยพูดขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา ลิปสีแดงตรงแก้วก็ถูก มองข้ามไป เพราะว่าคำดูถูกของเธอ เธอมองสีหน้าของคู่ล วหาน เหมือนเธอเป็นคุณผู้หญิงตัวจริงที่จับสามีของตัวเอง ที่ไปแอบมีคนอื่นข้างนอก

คู่ลั่วหานจึงพึมพำเสียงเบา จากนั้นก็โยนกระเป๋าถือลงบน โซฟา “เธอน่าภูมิใจกว่า ที่กล้าบุกรุกเข้ามาในบ้านของคน อื่นแบบนี้”

โม่หรูเฟยจึงยิ้มขึ้น เธอจึงเขย่าแก้วไวน์แดง “ฉันอยาก จะบอกเธอว่าเธอยังไม่รู้เรื่องอะไรอีกหรอ? นี่เป็นบ้านของ ใครกันแน่ ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน !”

เธอจึงเล่นกุญแจในมือของตัวเอง และตั้งใจให้ฉู่ลั่วหานดู และกุญแจดอกนั้นที่ดูคันเคย กลับเป็นของหลงเชียว!

“โอ้ย ถ้าที่นี่ไม่มีคุณผู้หญิงที่เหมาะสมก็ยังจะไม่ดี เธอดูสิ บ้านที่ดีขนาดนี้ จะกลายเป็นอะไร? จู่ลั่วหาน เธอแต่งงาน กับพี่เซียว ก็คงจะเป็นจุดบกพร่องที่สุดในชีวิตของเขา!”
ข้อต่อกระดูกตรงข้อมือของฉู่ลั่วหานขาวซีด เธอยันชั้น วางโบราณไว้เพื่อที่จะลดความหนักหน่วงตรงน่องขาของ เธอ เธอรู้สึกเจ็บปวดใจจนเหมือนแรงทั้งหมดของเธอหมด ไป แค่อยากจะทรุดลงบนพื้นแรงๆ..

หลงเซียวไม่รักเธอ เกลียดเธอ ต่อต้านเธอ แต่ว่าอย่าง น้อย บ้านหลังนี้เป็นพื้นที่สำหรับแค่พวกเขาสองคน สามปี มานี้ ไม่เคยมีบุคคลที่สามเข้ามาเลยสักคน

แต่ตอนนี้ ความรู้สึกดีที่มีต่อหลงเซียวที่หลงเหลือเล็ก น้อย ก็ถูกลบล้างไปแล้วใช่ไหม?

หลงเซียว คุณเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยหรือไง?

ในใจของคู่ลั่วหานเหมือนถูกมีดบาดจนรู้สึกเจ็บปวดมาก จากนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น จากนั้นเธอก็ใช้ท่าทีที่เธอเป็น คุณผู้หญิงที่บ้านนี้ แล้วมองโม่หรูเฟย จากนั้นเธอจึงยิ้ม อ่อนๆขั้น “เสียดายจริงๆ เธอไม่มีแม้แต่การที่ได้เป็นจุด บกพร่องในชีวิตเขาเลยสักนิด เธอคงทำได้เพียงพึ่งความ หน้าด้านของตัวเองแล้วยืนอยู่ตรงนี้

อีกอย่าง โม่หรูเฟย สิ่งสกปรกที่เธอเคยทำมา ถ้าไม่อยาก จะให้ฉันแฉทุกอย่างออกมา ฉันให้เวลาเธอหนึ่งนาที ไสหัวออกจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ