ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 533 เหอะเหอะ คงไม่ได้มารบกวนพวก คุณใช่ไหม



ตอนที่ 533 เหอะเหอะ คงไม่ได้มารบกวนพวก คุณใช่ไหม

ตอนที่ 533 เหอะเหอะ คงไม่ได้มารบกวนพวกคุณใช่ ไหม

จู่ๆก็มีริมฝีปากสีแดงอ่อนประทับลงบนใบหน้า ทําให้หลง เขียวอดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากบางขึ้น ยิ้มมุมปากและพูด ว่า “มีคนมองอยู่นะ ไม่อายแล้วเหรอ? ”

ลั่วหานกลับมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเองอีกครั้ง และทาน อาหารต่อ “มีคนเหรอ? ในสายตาฉันมีแค่คุณ มองไม่เห็น คนอื่น”

ปากของเธอกัดปลายตะเกียบไว้ ทําปากแบนซ่อนรอย ยิ้มไว้ในตา แต่ท่าทางที่ความสุขนั้นไม่สามารถซ่อนได้ เลย

เขาไม่ได้อาย แต่คนรับใช้กลับรู้สึกอายเล็กน้อย หลัง จากวางจานผลไม้ลงแล้วก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว ยาก ที่จะเห็นคุณชายและคุณหญิงออกตัวที่จะแสดงความรัก ความจริงคนรับใช้ก็อยากจะดู แต่ถ้าดูอีกต่อไปก็คงจะถูก ไล่ให้ออกไป ดังนั้นรีบจากไปก่อนถึงจะดีที่สุด

หลงเซียวนิ้วกระตุก รอยยิ้มเมื่อกี้ก็ลึกซึ้งมากขึ้น หว่าง คิ้วก็เต็มไปด้วยความรักใคร่ที่ไม่อาจหายไปได้ และคีบ เนื้อนุ่มๆหนึ่งชิ้นวางลงบนจานของเธอ “ไปเรียนมาจากไหน? ”

ลั่วหานคว้าข้อมือของเขาไว้โดยตรง ขยับริมฝีปากของ ตัวเองเข้าไปใกล้และใส่เนื้อนุ่มๆน่าอร่อยเข้าไปในปาก เคี้ยวอย่างเพลิดเพลิน “เรียนมาจากคุณ ตอนอยู่ที่เมือง เจียงเฉิน คุณเคยพูดคำพูดแบบนี้กับเจิ้งซินเหมือนกัน”

“เหอะเหอะ” เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี

ใช่ เขาเคยพูด แต่วันนี้ถูกเธอใช้มันอีกครั้ง แต่ในวันนี้มี ความหมายที่แตกต่างไปจากวันนั้น เขาดีใจมาก!

ลั่วหานทานอาหารไม่มาก แต่ก็ทานไม่ลงแล้ว กลัวว่า ทานมากไปจะอาเจียนอีกครั้ง จึงพูดว่า “เดี๋ยวฉันจะไป โรงพยาบาล ช่วงนี้ไม่มีเคสผ่าตัดของฉัน ไม่ต้องห่วง ไม่เหนื่อยมากแน่นอน เพียงแค่คนที่ฉันดูแลอยู่ยังไม่ สามารถทําหน้าที่คนเดียวได้ ฉันต้องกลับไปคอยให้คำ แนะนำ ถ้ามีเวลาว่าง ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนแม่

ลั่วหานเช็ดมุมปาก บ่งบอกว่าตัวเองจะไม่ทานแล้ว

หลงเซียวก็แทบจะวางตะเกียบลงในเวลาเดียวกัน “ผม ไปส่งคุณ ช่วงเช้าไม่มีประชุม ผมไปที่บริษัทสายหน่อยก็ ไม่เป็นไร”
“ไม่ต้อง ฉันขับรถไปเอง คืนนี้มีคนในแผนกศัลยกรรม หัวใจฉลองวันเกิด เราจะอยู่ฉลองกับเขาสักครู่ ทานเค้ก เสร็จแล้วก็กลับมา อีกอย่างจากที่นี่ไปที่โรงพยาบาลก็ไม่ ไกล ฉันไม่เป็นอะไรหรอก? “ลั่วหานเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ก้มลงจะเปลี่ยนรองเท้า

หลงเซียวขมวดคิ้ว และไปหยิบรองเท้าโลฟเฟอร์สีดำ ล้วนยี่ห้อ Givenchy จากตู้รองเท้าออกมาก่อนเธอ รอง เท้าโลฟเฟอร์ที่เรียบง่ายใส่สบายนั้นดูขี้เกียจและสบายๆ สะดวกที่จะเปลี่ยน ใส่ขับรถก็สบายมาก ใส่ในเวลาปกติก็ ไม่เมื่อยเท้า

แต่….นี่เป็นรองเท้าคู่ใหม่เอี่ยม ลั่วหานจำได้ว่าตัวเองไม่ เคยซื้อมา

“ที่รัก นี่มันอะไรกัน?”

ลั่วหานเปิดตู้รองเท้าชั้นบนด้วยความสงสัย ตะลึงไปชั่ว ครู่ ด้านในเป็นรองเท้าพื้นเรียบทั้งหมด! รองเท้าโลฟ เฟอร์ รองเท้าล่าลอง รองเท้าหุ้มส้น ล้วนเป็นรองเท้าส้น แบนและไม่มีสาย ต่างสไตล์ ต่างสี ซึ่งเพียงพอสำหรับ เธอที่จะใส่อย่างไม่ซ้ำกันได้ในเวลาหนึ่งเดือน

เดี๋ยวก่อน ด้านล่างก็เป็นรองเท้าแบบเดียวกัน แต่เพิ่มผ้า ฝ้ายเข้าไป แม้แต่รองเท้าในช่วงฤดูหนาวก็สั่งทำจนเสร็จแล้วเหรอ พระเจ้า! จะอบอุ่นเกินไปแล้วนะ?

หลงเซียวอุ้มเธอไว้ เปลี่ยนรองเท้าให้เธอทั้งสองข้างจน เสร็จ ถึงได้ปล่อยตัวเธอ

“ตอนนี้คุณท้องอยู่ ต่อไปพยายามอย่าใส่รองเท้าส้นสูง อีกเลย ใส่รองเท้าส้นสูงเหนื่อยเกินไป แถมอันตรายอีก ด้วย หลงเซียวพูดอย่างหนักแน่น

ลั่วหานเปิดตู้รองเท้าอีกตู้ ตู้รองเท้าขนาดใหญ่ในห้อง โถงมีรองเท้าที่มักจะสวมเมื่อออกไปข้างนอกในช่วงฤดูนี้ แต่รองเท้าส้นสูงข้างในหายไปหมด แม้แต่รองเท้าบูตมาร์ ตินส้นหนาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย รองเท้าของผู้ชายไม่ ถูกเคลื่อนย้าย รองเท้าผู้หญิงกลับเปลี่ยนไปมาก

“ไม่ต้องทําขนาดนี้หรอกมั้ง? เวลาออกไปเข้าร่วม กิจกรรมบางอย่างก็ยังต้องใส่รองเท้าส้นสูง อีกอย่างตอน นี้ฉันแทบไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการตั้งครรภ์เลย คุณหลงคุณจะกังวลมากเกินไปหรือเปล่า? “ลั่วหานพูด อวดเก่ง ในใจกลับถูกความอบอุ่นหลอมจนจะละลายไป หมดแล้ว

หลงเซียววางกุญแจรถไว้ในมือของเธอ พูดอย่างรัก และเอ็นดูว่า“ออกไปเข้าร่วมกิจกรรมก็ใส่รองเท้าแบบนี้ก็ พอแล้ว คุณสูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งความสูงจากรองเท้า อีกอย่าง สิ่งที่ทำให้คุณเหนือกว่าคนอื่นก็ไม่ใช่ ข้อได้เปรียบของความสูงอยู่แล้ว”

ลั่วหานออกจากบ้านพร้อมกับเขา ทั้งสองคนจับมือกัน เดินไปที่โรงรถ “โอ้? นั่นอะไร? ”

“บุคลิก”

ลั่วหาน: “

เขายิ้มอ่อน ช่วยเปิดประตูฝั่งคนขับให้เธอ ก้มศีรษะแล้ว พูดว่า “กลับบ้านก่อนเวลาสองทุ่ม ถ้าดึกกว่านั้น ผมจะไป รับคุณ”

“โอเคโอเค รู้แล้ว คุณหลงคุณไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อม เหมือนฉันเป็นเด็กหรอก ฉันเป็นคนที่กำลังจะเป็นแม่คน แล้วนะ”

ลั่วหานกลัวว่าถ้าอยู่กับเขาต่อไปจะไปทำงานสาย จึงรีบ สตาร์ทเครื่องยนต์

ทั้งสองแยกกันที่ทางสี่แยก และไปกันคนละทาง

ในช่วงเช้าลั่วหานยุ่งอยู่ในห้องปฏิบัติหน้าที่สักพัก ตรวจ สอบรายงานการผ่าตัดที่หลินซีเหวินส่งมาให้แก้ไขปรับปรุงข้อมูลบางอย่าง และในไม่ช้าก็ถึงเวลา อาหารกลางวัน

หลินซีเหวินยื่นศีรษะเข้ามา ใช้นิ้วเคาะประตูด้งก๊อกก๊อก “หมอฉู่ เราจะไปทานอาหารที่โรงอาหาร คุณจะไปด้วย กันไหม? ”

“ถึงเวลาทานอาหารไวขนาดนั้นเลย? “ลั่วหานมองไปที่ เวลาในโทรศัพท์ นึกไม่ถึงว่าจะเที่ยงแล้ว

“โธ่ หมอฉี่คุณเป็นคนบ้างานจริงๆเลย แม้จะไม่มีเคส ผ่าตัดแล้ว แต่ก็ยังสามารถดูข้อมูลจนหลงใหลได้ คุณนั่ง ที่นี่มาตั้งกี่ชั่วโมงแล้ว วิชาเทพจริงๆ ฉันนับถือมาก! ”

ลั่วหานรีบลุกขึ้นยืน จริงด้วย เธอท่าไปสามชั่วโมงกว่า แล้วไม่แม้แต่จะขยับเลยสักนิด ดูข้อมูลเสร็จก็ต่อด้วย หนังสือ แบบนี้ไม่ดีต่อพัฒนาการของเด็ก เธอตัดสินใจจะ ออกไปเดินเล่นสักหน่อย

ในเวลานี้ โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ลั่วหานขมวด คิ้ว เมื่อเห็นหมายเลขบนนั้น หัวหน้าหวังโทรมา

“พวกคุณไปทานอาหารก่อนเถอะ ฉันยังมีธุระต่อเล็ก น้อย”
หลังจากส่งหลินซีเหวินออกไป ลั่วหานก็รับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ หัวหน้าหวัง”ลั่วหานเดินออกจากห้องทำงาน เดินไปในขณะที่พูด

“หมออู่ เรื่องของคุณฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ใบ อนุญาตให้ผ่านฉันส่งให้กับศุลกากรของญี่ปุ่นและจีน โดยตรงแล้ว คุณฟางหลิงหญ้สามารถกลับไปจีนได้ทุก เมื่อ

หัวหน้าหวังแจ้งอย่างเป็นงานเป็นการ ไม่ได้มีความรู้สึก เฉยชา แต่ก็ไม่ได้สนิทสนม คนที่รับราชการเป็นผู้บริหาร ไม่ชอบที่จะถูกคนอื่นชักจูง เขาก็ไม่ต่างกัน

ไวขนาดนี้เลยเหรอ?

“โอเค ขอบคุณหัวหน้าหวังมาก ไว้ฉันจะเลี้ยงอาหาร คุณวันหลัง เพื่อขอบคุณคุณด้วยตนเอง ไม่คิดว่าหัวหน้า หวังจะทำงานมีประสิทธิภาพมากขนาดนี้ ปล่อยให้ผ่าน โดยตรงเลย

หัวหน้าหวังปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาว่า“ทานอาหารก็ ไม่ต้องแล้ว เรื่องนี้อย่างไรก็ไม่ใช่ความผิดของคุณฟาง หลิงหยู้ ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมควรทำเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น หวังว่าต่อไปหมอฉู่จะแยกแยะให้ชัดเจน”
ลั่วหานยิ้มแห้งอย่างรู้ทัน “แน่นอน หัวหน้าหวังงานยุ่ง ฉันจะไม่รบกวนตามอำเภอใจ ขอให้คุณทำงานอย่างราบ รื่น”

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ลั่วหานก็รีบโทรออกในหมายเลข ของฟางหลิงหยู้ บอกเรื่องที่เธอจะได้กลับประเทศจีน อย่างคร่าวๆหนึ่งรอบฟางหลิงหยู้ที่อยู่ทางนั้นดีใจจนจะ สามารถกระโดดออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ขอบคุณกับลั่วหานหลายพันรอบหมื่นรอบ ราวกับความ แตกร้าวของทั้งสองคนนั้นหายไปในทันที

ฟางหลิงหยู้กลับประเทศจีน ที่เมืองเจียงเฉินคงจะสนุก ครึกครื้นแล้ว!

ลั่วหานวางสายโทรศัพท์ มองไปที่ปฏิทินด้านบน ไว จริงๆเลย ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ แต่ก็ถูก เข้า ฤดูใบไม้ร่วงมาหลายวันแล้ว เทศกาลไหว้พระจันทร์ก็ ใกล้จะมาถึงแล้วหล่ะ!

ให้ฟางหลิงหยู้ได้กลับจีนก่อนเทศกาลไหว้พระจันทร์ และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับฉู่ซีหราน เธอก็ถือว่าได้ ทําความดีเรื่องหนึ่งแล้ว
ห้องทํางานประธานบริษัทอู่ซ่อ

ไป์เวยจับเอกสารไว้และโยนมันลงบนโต๊ะทำงานอย่าง แรง น้ำหนักแรงที่ใช้แรงจนทําให้สิ่งของที่ใช้ในการ ทํางานที่อยู่บนโต๊ะทำงานสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและ เสียงดัง

เดิมทีกู้เยนเซ็นนั่งกุมมือดูคอมพิวเตอร์วิเคราะห์ ตลาดหุ้นอยู่บนโซฟาอยู่ดีๆ เมื่อเธอปาของ ทำให้กู้เยน เซินตกใจจนมือที่ตั้งอยู่ไหลลงมา และเกือบจะขว้าง คอมพิวเตอร์

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องอารมณ์เสียขนาดนี้? ใครที่มี ตาหามีแววไม่มาสวมเขาให้คุณเหรอ? ผมจะไปต่อยเขา ให้ยับ! “กู้เยนเซินวางคอมพิวเตอร์ลง เดินไปปลอบใจไป

เวย

“เหี้ยเอ๊ย! สารเลว! “ไปเวยโมโหจนใบหน้าแดงไป หมด ฟันขาวกัดริมฝีปากแดงไว้ ด้วยน้ำหนักแรงที่รุนแรง ริมฝีปากสีชมพูของเธอถูกกัดจนขาวซีด

กู้เยนเซินดึงเอกสารฉบับนั้นออกจากมือของเธออย่าง ระมัดระวัง เปิดพลิกไปมา ดวงตาก็หรี่ลงในทันใด “เหี้ย ช่างหน้าด้านจริงๆเลย ยื่นมือเข้าไปแย่งอาหารจากถ้วย ของคนอื่น เรื่องแบบนี้ก็สามารถทำได้!
ไปเวยนั่งกระแทกลงบนเก้าอี้อีกครั้ง เก้าอี้หมุนไปมา เพราะน้ำหนักตัวของเธอที่ปล่อยลงไป “บริษัท ชื่อกําลัง จะลงทุนในเมืองหนิงไห่ ก็ถูกคนอื่นแย่งทำไปก่อน ยังให้ ราคาที่ต่ำกว่าบริษัทฉู่ซื่อ50%ปล่อยให้บริษัทไห่ลุนได้ผล ประโยชน์ไป นี่มันแย่งธุรกิจกันชัดๆ เหี้ยเอ๊ย! ”

กู้เยนเซ็นนวดหว่างคิ้ว แล้วดูเอกสารอีกหนึ่งครั้ง การก ระทําของบริษัทไหลุนก็ยังไม่เลว ที่สารภาพในสิ่งที่ตัวเอง เลือก เพียงแต่ เมื่อเห็นตัวหนังสือที่เขียนว่าบริษัทหลั เทียน กู้เยนเซินอยู่ไม่นิ่งแล้ว “เหอะเหอะ ที่แท้ก็เขา นี่เอง เล่นเล่ห์เหลี่ยมเหรอ ตู้หลิงเซวียนก็พอเลยจริงๆ ผม เหอะเหอะลุงเขาสิ

ไปเวยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง พูดด้วยความโกรธว่า “ขยับแค่ฝีปากจะไปมีประโยชน์อะไร? เตรียมจะเอาคืน อย่างไร? บริษัทไห่ลุนเป็นด่านแรกที่บริษัทฉ่ซื่อจะบุก เข้าไปในเมืองหนิงไห่ได้ แต่กลับถูกตู้หลิงเซวียนแย่งชิง ไปก่อน ไม่รู้สึกแย่หรืออึดอัดบ้างเหรอ? ”

กู้เยนเซินวางเอกสารลง แล้วมือทั้งสองข้างกอดอกไว้ “เรื่องเอาคืนนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ตู้หลิงเซวียนช่างไร้ยาง อายจริงๆ ตอนที่ตามจีบฉู่ลั่วหานในตอนนั้นก็พยายามทุก วิถีทางจริงๆ ตอนนี้ตามจีบไม่สำเร็จ คาดไม่ถึงว่าจะรัก มากก็เกลียดมาก แย่งธุรกิจกับบริษัทอู่ซื่อโดยตรง การ ฉีกหน้าก็คงเป็นแบบเขานี่แหละ.….….…….
ไปเวยส่งเสียง 8 “หยุด น นได้แล้ว พูดมา เตรียมจะทํา อย่างไรต่อ? บริษัทหลันเทียนและบริษัทไหลุนร่วมมือ กัน ตู้หลิงเซวียนจะต้องบินตรงไปเซ็นสัญญาที่หนิงไห่ แน่นอน เหี้ยเอ๊ยยังจะกล้ามาที่ประเทศจีนอีก ฉันจะฆ่า เขาให้ตาย! ”

กู้เยนเซินกลืนน้ำลายลงคอ เหี้ย การชอบใช้ความ รุนแรงของแฟนสาวของเขานั้นจะชัดเจนเกินไปแล้วนะ? เผ็ดพอ เขาชอบ!

“เซ็นสัญญาวันไหน? เราไปเจอกับเขาที่หนิงไห่สัก หน่อย โครงการนี้แย่งกลับมาไม่ได้ หน้าของตู้หลิงเซวียน ก็อย่าคิดจะเอากลับไปที่อเมริกาเลย ดีไหม? “กู้เยนเซ็น นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยสะโพกครึ่งหนึ่ง ก้มมองลงไปที่ใบหน้า ของไปเวยอย่างคลุมเครือ

ไป์เวยอารมณ์เสียบีบคางของเขาไว้อย่างแรง จะจัดการ กับตู้หลิงเซวียนอย่างไร ฉันจะคิดหาวิธีเอง แต่เรื่องนี้ คุณคิดจะบอกกับท่านเซียวอย่างไร? ท่านเซียวพวกเขา เคยเป็นศัตรูเรื่องความรักกัน ตอนนี้เป็นคู่แข่งด้านธุรกิจ ความข้องใจกันลึกมากๆ

กู้เยนเซินโน้มตัวลงอีกครั้ง อยากจะจูบริมฝีปากของไป เวย ลมหายใจร้อยมากขึ้น “ทางด้านคุณชายใหญ่หลง ผมจะบอกเอง แต่ว่าเขาต้องอารมณ์เสียกับเรื่องแบบนี้ แน่นอน เพื่อปลอบประโลมจิตใจดวงน้อยๆที่เปราะบาง ของผม ก่อนจะโทรศัพท์ ขอกำลังใจหน่อยได้ไหม? “
ริมฝีปากสีแดงของไปเวยเปิดออกเล็กน้อย ริมฝีปากที่ น่าดึงดูดของเธอราวกับดอกกุหลาบ บานสะพรั่ง ช่าง ฉูดฉาดและน่าหลงใหล “คุณคิดจะบอกท่านเซียวจริงๆเห รอ? อย่าเลย อย่างไรแล้วบริษัทฉู่ชื่อก็อยู่ในความรับผิด ชอบของเรา ใช่ว่าเรื่องเล็กน้อยอะไรก็จะต้องไปรบกวน เขา เรื่องของตู้หลิงเซวียนเราจัดการกันก่อนเถอะ จัดการ ไม่ได้ค่อยบอกท่านเขียว”

กู้เยนเซ็นเบ้ปาก “ผมว่าที่รัก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็มักจะ คิดเผื่อคุณชายใหญ่หลงเสมอ ผมถึงจะเป็นผู้ชายที่แท้ จริงของคุณ”

ไป๋เวยดึงเก้าอี้มาแล้วนั่งลง “ใช่ ท่านเซียวเป็นเจ้าชาย เจ้าชายก็ต้องอยู่อย่างสูงส่งมิอาจล่วงละเมิดได้คุณคือ ผู้ชาย ผู้ชายก็ควรที่จะทำงานหนักรับใช้เหมือนม้าเหมือน วัว ไม่พอใจเหรอ? ถ้าไม่พอใจคุณก็ไปต่อสู้ท่านเซียวสิ ไม่ว่าจะด้านไหนๆ เพียงแค่คุณชนะฉันก็จะยอมรับในตัว คุณ

กู้เยนเซินยิ้มเยาะอย่างร้ายกาจ และเข้าไปแอบจูบไป๋ เวยทีหนึ่ง “แข่งก็แข่ง แข่งใครหน้าด้านกว่ากัน ผมชนะ เขาแน่นอน!”

“ไอ้บ้า! รีบออกไป! “ไป่เวยพูดอย่างไม่พอใจ แต่ริม ฝีปากกลับกำลังยิ้ม
กู้เยนเซ็นรู้ว่าทำให้เธอมีความสุขแล้ว จึงรีบพูดอย่าง ดีใจว่า “ออกไป ออกไปไหนหล่ะ? ไปในอ้อมกอดคุณได้ ไหม?

ก๊อกก๊อก……

ทั้งสองคนถกเถียงกันยังไม่ทันจบ ประตูห้องทำงานถูก ก็ถูกเคาะทีหนึ่ง ไป๋เวยรีบผลักกู้เยนเซินออกไป เงยหน้า ขึ้นมองไปทางด้านนอกประตู

โจวโร่หลินแอบยิ้มมุมปาก ใช้เอกสารบังหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง อย่างเขินอาย ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาขัดจังหวะจริงๆ แต่ เพราะรอนานเกินไปกลัวว่าจะทำงานล่าช้า!

“เออประธานไป…..ประธานกู้ คงไม่ได้มารบกวนพวก คุณใช่ไหม? ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ