ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 459 ความรู้สึกแบบนี้เรียกว่าจับมัดห้อยและ เฆี่ยนตี



ตอนที่ 459 ความรู้สึกแบบนี้เรียกว่าจับมัดห้อยและ เฆี่ยนตี

ตอนที่ 459 ความรู้สึกแบบนี้เรียกว่าจับมัดห้อยและเฆี่ยนตี

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนมืดลงเรื่อยๆ แสงที่สวยงามเพิ่งจะสว่างขึ้น เมืองหลวงถูกย้อมกลายเป็นสีที่งดงามฟุ่มเฟือย หลายค่ำคืน หลายทิวทัศน์ที่งดงามสาดส่องคน คืนนี้กลับมีความรู้สึกที่ไม่ เหมือนกัน

หลงเซียวจับพวงมาลัยไว้ ขับกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ระหว่าง ทางได้รับสายของหลงจื่อ

ความสัมพันธ์ของทั้งสองในตอนนี้มีความอึดอัดที่พูดไม่ออก เล็กน้อย ทางหนึ่ง เขาเจ็บใจความบริสุทธิ์ใจของหลงจื่อ อีก ทางหนึ่ง เขายืนอยู่ด่านที่ไม่เข้าก็ถอย

ไม่ว่าทำยังไง ล้วนยากที่จะหลีกเลี่ยงการทำร้ายเขา หลงเซียวใส่หูฟังบลูทูธ รับโทรศัพท์ขึ้นมา “เสี่ยวจื่อ”

“พี่ชายใหญ่! คุณอยู่ที่ไหนล่ะ? คุณก็อยู่ในเมืองหลวงอยู่ใช่ ไหม? คุณอยู่ในเมืองหลวงไหม?” เสียงของหลงจื้อยากที่จะอด ความตื่นเต้นดีอกดีใจที่จะพุ่งออกมาได้ หนึ่งเดือนแล้วนะ ใน ที่สุดเขาก็ได้ติดต่อกับพี่ใหญ่เขาแล้ว

“ใช่แล้ว ผมอยู่เมืองหลวง เพิ่งคุยกับพ่อเสร็จ เตรียมตัวที่จะ กลับบ้าน”
ตาทั้งคู่ของหลงเซียวจ้องมองทางข้างหน้า ท้ายรถไฟข้าง หน้ากะพริบแสงสีแดง

“คุณรับปากแล้วหรือ? พรุ่งนี้คุณก็จะมาบริษัทอย่างแน่นอน ใช่ไหม? พี่ชายใหญ่ ผมก็รู้ว่าคุณจะกลับมาอย่างแน่นอน บริษัท MBK เป็นของคุณ แต่ก่อนเป็นก็เป็น ตอนนี้ก็เป็น อนาคตก็เป็นเช่นกัน! พี่ชายใหญ่ คุณยอมกลับมาช่างดีมากๆ เหลือเกินจริงๆ!”

หลงจื่อที่อยู่ทางโน้น ตื่นเต้นดีอกดีใจจนเหมือนดั่งเด็กผู้ชาย คนนั้นในหลายปีก่อน ทุกครั้งเห็นเขาได้ทำเรื่องอะไรสำเร็จ แล้ว ล้วนจะชื่นชมหมอบกราบอย่างโอเวอร์ ดูเขาเป็นไอดอล ในชีวิตของตนเอง

นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวเพิ่มแรงมากขึ้นหลายส่วน ข้อ กระดูกดันขึ้นผิวของหลังมือ ซีดขาวเล็กน้อย

“เสี่ยวจื่อ แกคิดแบบนี้จริงๆหรือ?”

เขากลับมา ก็หมายความว่าเสี่ยวจื่อต้องออกจากตำแหน่งที่ นั่งของประธาน เขาไม่ถือสาสักนิดจริงๆหรือ?

“เป็นเช่นนี้แน่นอนอยู่แล้ว พี่ชายใหญ่ คุณคือคนที่ผมเลื่อมใส ศรัทธาที่สุดๆในชาตินี้ ผมก็จะไม่แย่งชิงกับคุณตลอดไป ไม่ ว่าสิ่งของใดๆล้วนจะไม่แย่งชิงตาม พี่ชายใหญ่คุณโปรด วางใจเถอะ”
ริมฝีปากบางๆของหลงเขียวสั่นเบาๆหนึ่งที ตอนที่ต่อสู้ทั้งต่อ หน้าและลับหลังกับหลงถิง พูดเป็นต่อยหอยกับแผนการมั่นคง ของเขา คิดไม่ถึงอยู่ต่อหน้าหลงจื่อล้วนไม่สามารถใช้ได้สัก นิด หรือว่าคือเขาตัดใจไม่ลง

เขาเคยเข้าใจผิดว่าหลงจื่อกลับมาประเทศคือเพราะว่าที่ จะแย่งชิงอำนาจการสืบทอดของบริษัท ตอนนี้ลองคิดดูแล้ว ความคิดนั้นของตนเองสกปรกมากขนาดไหน

“เสี่ยวจื่อ พี่ชายใหญ่ขอบคุณแก” ไม่มีอารมณ์แปดเปื้อนมาก เท่าไหร่ ไม่มีคำพูดอธิบายมากเท่าไหร่ เขาพูดขอบคุณไปคำ หนึ่ง ศรัทธาจริงใจ ออกจากใจจริง

หลงจื่อหัวเราะอย่างซื่อๆ “พี่ชายใหญ่ ผมควรขอบคุณคุณ ที่ คุณยอมกลับมาผมดีใจมากจริงๆ พี่ชายใหญ่ พรุ่งนี้ผมรอคุณ อยู่ที่บริษัท MBK! พรุ่งนี้พวกเราไม่เจอไม่เลิกรา!”

ทางโน้น เสียงหัวเราะเช่นดั่งเด็กๆเหมือนเดิม เต็มเปี่ยมด้วย การเฝ้ารอ ดูเหมือนพรุ่งนี้ตนเองไม่ใช่จะยกอำนาจออกจากมือ แต่คือจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ที่ลงมาจากฟ้าชิ้นหนึ่ง

หลงเซียวถอดหูฟังออก มือหนึ่งจับสันจมูก จับแล้วจับอีก เรื่องที่เขาจะทำ อาจจะต้องทำร้ายเขา นี่เป็นผลที่เขาไม่อยาก จะเห็นที่สุด

เสี่ยวจื่อ ถ้าหากว่าผมทำให้แกบาดเจ็บ แกจะให้อภัยผมหรือ

ไม่?
หลงจื่อวางสายลงแล้ว ส่งข้อความให้หลินซีเหวินข้อความ หนึ่ง เนื้อหาในข้อความสั้นมาก เขาตื่นเต้นดีอกดีใจมากเหลือ เกิน ตื่นเต้นดีอกดีใจจนไม่รู้ว่าจะเรียงคำพูดยังไง

“คนบ้านนอก คุณพูดถูกแล้ว”

หลงเซียวขับรถเข้าไปในคฤหาสน์ เป็นกลางคืนสองทุ่มกว่า แล้ว ห้องรับแขกของคฤหาสน์ไฟสว่าง เครื่องประดับสวารอฟ สกี้ส่องแสงระยิบระยับ หลงเซียวทั้งเดินทั้งดึงเนกไทให้หลวม สูดลมหายใจลึกๆเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายคำ

ลั่วหานเห็นเขากลับมา ลุกขึ้นออกไปต้อนรับ “ทำไมดึกขนาด นี้ล่ะ?”

เธอเพิ่งถามจบ เงากายเรียวยาวของหลงเซียวอยู่ดีๆกอดเธอ ไว้อย่างอบอุ่นและพึ่งพากันลักษณะของเขาดูแล้วเหนื่อยมาก

ลั่วหานอยู่เฉยๆตามใจเขากอดไว้ เสียงต่ำๆถามอย่างอ่อน โยนว่า “เป็นยังไงแล้วล่ะ? เหนื่อยมากหรือ?”

หลงเซียวหลับตาลง มือใหญ่จับลูบผมยาวของเธอ จากบน ศีรษะเลื่อนลงไปข้างล่าง เลื่อนลงไปถึงปลายผม “ผมไปเจอ พ่อแล้ว”
ลั่วหานรู้คร่าวๆว่าจะเป็นสภาพแบบไหน ใจเจ็บนิดหนึ่ง แขน ทั้งสองข้างถอดเขาไว้อย่างแน่น “คุณกำลังคิดถึงเสี้ยวจื้ออยู่ หรือไม่? คุณกลับไปบริษัท MBK เขาก็ต้องออกจากตำแหน่งที่ นั่งในปัจจุบันนี้ คุณไม่อยากทำร้ายเขา ใช่ไหม?

หลังของหลงเชียวตึงขึ้นหนึ่งที ทันทีนั้นทั้งคนปล่อยตัวอยู่ใน อ้อมอกของเธออีก “คุณฉลาดมากจริงๆ ลั่วถั่ว

“คุณไม่ต้องคิดแบบนี้ อีกทั้งเสี่ยวจื่อดูเหมือนไม่อยากอยู่ที่ บริษัท MBK เลย คุณอย่าเสียงใจ”

หลงเซียวหลับตาอยู่เหมือนเดิม ความในใจที่หนักหนาอย่าง หนักกดทับเขาจนหายใจไม่ออกเล็กน้อย สิ่งที่เขาคิดจากแค่ ง่ายแบบนี้เท่านั้นหรือ?

เขากลับไปที่บริษัท MBK……เจตนาจะแค่ช่วยมันกอบกู้ ความยิ่งใหญ่กลับมาใหม่เท่านั้นที่ไหนล่ะ?

ไม่ใช่!

“ไม่มีอะไรแล้ว พรุ่งนี้ผมไปบริษัท อาจจะต้องยุ่งไปทั้งวัน ใช แล้ว โครงการของโรงพยาบาลหวาเซี่ยเริ่มดำเนินการใหม่ แล้ว”

เขาปล่อยไหล่ของเธอลง ได้เห็นเธอก็เหมือนดั่งเห็นคบเพลิง หนึ่งในฤดูหนาว แสงไฟสว่างและอบอุ่น
ลั่วหานพยักหน้า “ฉันรู้ แค่คุณออกหน้าปัญหาทั้งหมดล้วน ไม่เป็นปัญหาอีกเลย สําหรับเสี่ยวจื่อคุณสามารถส่งเสริมเขา ถ้าหากว่าเขามีเจตนาที่จะบริหารบริษัทจริงๆ ฉันสามารถยก บริษัท ชื่อให้เขา”

อยู่ดีๆหลงเซียวยิ้มขึ้นมา เส้นโค้งดึงดูดใจคนของรอยยิ้มริม ฝีปากที่ดูงดงามเซ็กซี่ “คุณให้เขาออกจากบริษัท MBK ไป บริษัทฉู่ซื่อหรือ? ไอ้โง่ บริษัท MBK คือตำแหน่งอะไรหรือ? อยู่ในระดับสูงของบริษัท MBK หาตำแหน่งมั่วๆอย่างหนึ่ง ยิ่ง สะใจกว่าบริหารทั้งบริษัท ซื่อ”

“คุณดูถูกบริษัท ซื่อหรือ? คุณถึงขนาดกล้าดูถูกมันหรือ?” คิ้วเรียวงดงามของลั่วหานตึงตรง แกล้งทำโมโห

“ไม่ใช่อย่างแน่นอน บริษัทฉ่ซื่อจะกลายเป็นวิสาหกิจยิ่งใหญ่ กว่าบริษัท MBK ในสักวันหนึ่ง เพียงแค่ยังไม่ถึงเวลา” เขาลูบ แก้มของเธอแล้ว ลูบแล้วลูบอีก ยิ้มพูดว่า “ผมหิวแล้ว กินข้าว ได้หรือยัง?”

“พูดสักประโยคหนึ่งที่น่าฟังกล่อมฉันสักหน่อย”

“ไม่กล่อม คุณไม่ให้กินข้าวหรือ?” เขาดึงเนกไทให้หลวม แขวนอยู่ไม้แขวนเสื้อที่อยู่ทางเข้า เตะรองเท้าหนังออก

ลั่วหานก้มตัววางรองเท้าเตะให้เขาดีๆ “ใช่แล้ว ไม่ให้กินข้าว”
มือใหญ่ของเขาวางไว้อยู่บนไหล่ของเธอ ก้มตัวจ้องมองเธอ ยิ้มอย่างร้ายกาจ “ไม่กินข้าวแล้วจะกินคุณ

“คุณ……….กินข้าว!”

วันรุ่งขึ้น แสงอาทิตย์เจิดจ้า ท้องฟ้าแจ่มใส

หน้าอาคารใหญ่บริษัท MBK ผู้ถือหุ้นที่นั่งเฝ้ารอตั้งแต่เมื่อคืน เช้าตรู่ก็ยกป้ายตะโกนเสียงดัง วันสุดท้ายแล้ว ความอดทน ของพวกผู้ถือหุ้นถึงขีดสูงสุดแล้ว เสียงตะโกนของพวกเขายิ่ง มายิ่งรุนแรง

สถานีโทรทัศน์ใหญ่แต่ละแห่งในเมืองหลวง ถ่ายทอดสดทาง อินเทอร์เน็ต นักข่าวของนิตยสารตั้งแต่เช้าตรู่ก็ล้อมวงหนึ่งวง อยู่ข้างนอกแล้ว ฉากหนึ่งของบริษัท MBK ในประวัติศาสตร์ พวกเขาย่อมไม่พลาดอยู่แล้ว

ในคืนนี้หลงจื่อในที่สุดก็ได้หลับสบาย แต่ว่าเขายังไม่ตื่นก็ ถูกโทรศัพท์สายหนึ่งตัดฝันหวานของเขา จับโทรศัพท์ขึ้นมา ตะโกนออกไปด้วยไฟแรง “แม่มึงเอ่ยเป็นใคร!”

ทางโน้นคือเสียงของจี้ตงหมิง ถูกหลงจื่อตะโกนออกมาเต็ม คำ จี้ตงหมิงอึ้งไปเลย “คุณชายรอง สภาพการณ์หน้าประตู บริษัทย่ำแย่เล็กน้อย ท่านเข้ามาเร็วหน่อยได้ไหม?”
หลงจื่อลุกขึ้นมานั่งจากในผ้าห่ม ขยี้หัวสองที “วันสุดท้ายแล้ว ก็ไม่ให้สงบเช่นกัน ไม่ต้องสนใจพวกเขา วันนี้พี่ชายใหญ่ก็มา ถึง ให้พวกเขาโวยวายไปเถอะ โวยวายไปเถอะ!”

“ได้ครับ ก็ตามเจตนาของคุณชายรอง”

จี้ตงหมิงได้รับการชี้แนะของหลงจื่อ พยักหน้ากับเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของบริษัท MBK “ไม่ต้องสนใจพวกเขา ให้พวกเขาโวยวายต่อไป”

ผลที่เฝ้ารอก็คือ จากตีห้าถึงเจ็ดโมงครึ่ง ลานของบริษัท MBK ถูกผู้ถือหุ้นยืนเต็มจนหนาแน่นไปหมด สภาพการณ์ โอ่อ่ายิ่งใหญ่กว่าพิธีเคารพธงชาติ ผู้ถือหุ้นหลายพันคนใน มือยกป้ายไวนิล ธงใหญ่ป้ายไฟไว้ ข้างบนใช้สีทาบ้านสีแดง เขียนว่า “บริษัท MBK ไสหัวออกไปจากเมืองหลวง!” “โจมตี บริษัท MBK!” ตัวหนังสือแบบนี้เป็นต้น ลักษณะยิ่งใหญ่อยู่ใน วิสาหกิจทั้งเมืองหลวงไม่เคยเห็นในประวัติศาสตร์

จี้ตงหมิงยืนอยู่ข้างหลังประตูหมุน จ้องมองนาฬิกาข้อมือหนึ่ง ที แปดโมงเช้าแล้ว

แปดนาฬิกาตรง จี้ตงหมิงโทรไปหาหลงเซียว “เจ้านายสภาพ การณ์ควบคุมไม่ได้เล็กน้อย จะเกิดการจลาจลได้ทุกเวลา ท่านจะวางแผนยังไงล่ะ?”

หลงเซียวนั่งดื่มน้ำชาอยู่ระเบียง เหลียวมองหนึ่งที “ผมไปส่ง ลั่วลั่วไปทำงานก่อนให้พวกเขารอไป”
“ได้ครับ”

แต่ว่าเจ้านาย ส่งภรรยาไปทำงานสำคัญมากขนาดนั้นจริง หรือ? จำเป็นต้องส่งวันนี้หรือ? วันนี้เป็นวันอะไรท่านรู้หรือ เปล่า?

แปดโมงครึ่ง หลงถึงได้รับโทรศัพท์ บริษัท MBK ถูกนักข่าว กับผู้ถือหุ้นล้อมรอบจนน้ำไหลผ่านไม่ได้ ท่าทีลักษณะการ เรียกร้องในเหตุการณ์รุนแรงมาก มีคนไม่น้อยเริ่มทุบประตู ใหญ่ของบริษัท

“หลงเซียวล่ะ! ให้เขาไสหัวออกมา!”

“คุณชายใหญ่ไม่รับโทรศัพท์……” คนในฝั่งโน้นตอบกลับมา ประโยคหนึ่งอย่างตัวสั่น

ความดันของหลงถึงสูงขึ้นไปถึงบนศีรษะ “เลวทรามชั่วช้า!”

“พ่อ พี่ชายใหญ่พูดแล้วจะออกมางาน ก็ต้องมาสิ” หลงจื่อผูก เนกไทเสร็จ พูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างระมัดระวัง

หยวนซูเฟินจ้องมองทั้งสองอย่างสงบเยือกเย็นมาก ไม่พูดไม่ จา นิ้วมือช่ำชองช่วยหลงถึงผูกเนกไทจนเสร็จ ไหล่ลื่นมาก

หลงถิงดิ้นอย่างรุนแรง ผลักมือของหยวนชูเฟินออก “เขา อยากต่อต้านกลับ!”
ทางนี้ค่าจบ หลงถึงโทรหาหลงเซียว ทั้งฟังเสียงโทรศัพท์ทั้ง เดินก้าวใหญ่ออกไปข้างนอก “เลวทรามชั่วช้าวันสำคัญขนาด นี้ถึงขนาดมาสาย!”

หลง อพยักหน้าอย่างเคารพ พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกกับ หยวนชูเฟิน ถอยออกจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์

สายติดแล้ว รถของหลงถึงสตาร์ทขึ้นแล้ว “หลงเซียว แกเล่น แผนการอะไรอีก! ข้อเรียกร้องของแกผมทำให้พอใจหมดแล้ว แกยังคิดอยากจะทำอะไรอีก!”

หลงเซียวจ้องมองเวลาหนึ่งที “ห่างจากเวลาทำงานปกติยังมี ยี่สิบนาที พ่อบอะไรหรือ?”

“แกมันเลวทรามชั่วช้า ตอนนี้สภาพการณ์ของบริษัทเป็นยัง ไงแกไม่รู้หรือ?! คือแกกลัวแล้วหรือ? จัดการไม่ได้แล้วหรือ?”

หลงเซียวหมุนหัวรถกลับ รักษาความเร็วที่ไม่รีบไม่ร้อนออก จากโรงพยาบาลไปบริษัท “หรือว่าพ่อจัดการได้หรือ? ถ้าไม่ ท่านไปล่ะ?”

“แก! ผมไม่สนว่าแกจะเล่นแผนอะไรอีก เก้านาฬิกาตรงถ้า หากว่าไม่เห็นแก ผมให้แกไสหัวออกจากตระกูลหลงไป!”

โทรศัพท์ถูกหลงถึง ถูกหลงถึงตัดสายแล้ว

ในที่สุด ตอนที่คนกำลังโมโหอยู่จะอดไม่ได้พูดความคิดแท้ๆที่ซ้อนอยู่ในใจลึกๆออกมา ซ่อนเร้นดีขนาดไหนก็จะมีพิรุธ เช่นกัน

เขาอยากจะไล่เขาออกจากตระกูลหลงมานานแล้ว ช่าง ประชดประชันจริงๆ!

“หลอกลวง! บริษัท MBK ก็คือหลอกลวง!? หลงเซียวล่ะ?” ทำไมถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหรือ

“บริษัท MBK หน้าไม่อาย! คิดไม่ถึงว่าหลอกลวงพวกเขา! ทุบ เลย! ทุบป้ายชื่อของพวกเขาเลย!”

“ทบบริษัท MBK เลย!”

ผู้ถือหุ้นที่โมโหพุ่งเข้าไปพร้อมกัน ฝูงชนที่หนาแน่นเบียดกัน อยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของบริษัท MBK พนักงานที่จะมาทำงาน ไม่สามารถเข้าประตูได้สักนิด ในเวลานั้น พนักงานทั่วไป พนักงานคอเสื้อสีทองที่ใส่ชุดทำงาน ผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท MBK ทั้งหมดล้วนถูกผู้ถือหุ้นล้อมรอบติดอยู่ตรงกลาง

ผู้ถือหุ้นสะบัดทองที่อยู่ในมือ โอ้วโอ้ว ตะโกนไปทั่ว ยิ่งมีคนที่ พูดจาไม่น่าฟังเอ่ยปากชี้ด่าแล้ว

“บริษัท MBK ต้องล้ม!”
“บริษัท MBK ไสหัวออกไปจากตลาด!”

รถของหลงถึงกับหลงจื่อมาถึงนอกประตูใหญ่ของบริษัทตาม กันมา เห็นการถกเถียงโมโหร้องที่อยู่ข้างหน้าจากไกลๆ คน ขับรถหยุดรถไว้

“ท่านประธานกรรมการ เกรงว่าขับไปยังข้างหน้าอีกไม่ได้ แล้ว คนเหล่านี้ตอนนี้สูญเสียสติไปแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วนทำ ออกมาได้”

หน้าอกของหลงถิงกั้นความโมโหไว้ เขายังไม่เคยอยู่ใน สถานการณ์คับขันลำบากขนาดนี้ ไม่เคยมีมาก่อน “กี่โมง แล้ว!”

“แปดโมงห้าสิบห้านาที ตามเวลาทำงานปกติยังมีเวลาอีกห้า นาที”

ห้านาที…..อยู่ดีๆหลงเซียวจะไม่เปลี่ยนความคิดล่ะหรือ?

อยู่ดีๆหลงถึงกระวนกระวายใจไม่เป็นสุข กระวนกระวายใจ ไม่เป็นสุขอย่างรุนแรง คิดไม่ถึงแย่งชิงเส้นประสาทของเขาไป เลย เขารู้สึกตัวอย่างกะทันหันว่า เขาถึงขนาดพึ่งพาอาศัยการ ช่วยเหลือของเขา

เขาถึงขนาดกังวลว่าเขาจะถอยออกกะทันหัน

ชีพจรชีวิตของเขา ดูเหมือนถูกเขาจับอยู่ในมือ เขาตั้งใจ!
ใช้ห้านาทีสุดท้ายทำให้เขาเข้าใจ ตัวเองอยู่ในสภาพการณ์ ที่โดนตบฝ่ายเดียว ไม่มีสิทธิ์คุยเงื่อนไขกับเขา…คืบหน้า จนถึงเก้าอี้ได้ยังไงล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ