ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 450 สถานีสุดท้าย เกินความคาดของเขา เป็นคนวางแผน



ตอนที่ 450 สถานีสุดท้าย เกินความคาดของเขา เป็นคนวางแผน

ตอนที่ 450 สถานีสุดท้าย เกินความคาดของเขาเป็นคน วางแผน

แสงอาทิตย์ส่องลงมากระทบบนศีรษะของพวกเขาอย่าง จางๆขึ้น

หลงจื่อลืมตาขึ้นมองศีรษะของเธอ และพบว่าแสงอาทิตย์ที่ สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างตกกระทบบนเส้นผมของเธอจน เป็นประกาย จากนั้นเขาก็ค่อยๆรู้สึกอุ่นใจขึ้น

จิตสงบ จู่ๆเขาก็นึกถึงคำพูดที่ซุกซ่อนอยู่ในใจขึ้น ที่แท้คือจิต

สงบ

“เจ้าคนที่มเขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงแหบแห้งแฝงเหนื่อยล้า เล็กน้อย แต่เมื่อเรียกแบบนี้ เขากลับรู้สึกอบอุ่นใจมาก

เขาเคยหลงรักลั่วหานมาโดยตลอด และเขาก็ถูกเธอดึงดูด ความสนใจอย่างง่ายดายด้วย แต่การหลงรักประเภทนี้เมื่อ ผ่านไปนานมักทำให้เหนื่อยหน่ายได้

แต่ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดไม่เหมือนกัน ตอนที่โอบกอดเธอ หลงจื่อรู้สึกผ่อนคลายทั่วทั้งร่างกาย และยังรู้สึกเป็นตัวเอง ด้วย

หลินซีเหวินที่ถูกเขาเรียกกระซิบข้างหูรู้สึกเสียวหูเล็กน้อยจึงตอบกลับว่า “อืม?” ในตอนนี้เสียงของเขาดังสะท้อนในหัว สมอง จนทำให้เธอลืมจุดประสงค์แรกที่มาแล้ว

‘ตอนทีคุณอ่านข่าว คุณรู้สึกว่าผมไร้ประโยชน์หรือเปล่า?” หลงจื่อพูดประชดประชันตัวเองขึ้น ขณะเดียวกันก็ยกมือลูบ บนเส้นผมของเธอ ซึ่งบนตัวเธอนั้นมีกลิ่นหอมของส้มโอปะปน กับกลิ่นยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลอยู่ แต่เขากลับไม่รู้สึกแสบ จมูกเลย ในทางกลับกันรู้สึกสบาย และผ่อนคลายมากกว่า

หลินซีเหวินกำชุดสูทของเขาอย่างแน่น จนเธอเหมือนกับเธอ จะเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างนั้น “คุณพูดเองแล้ว แล้วยัง จะมาถามฉันอีกหรอ? ฉันไม่ชอบพูดโกหก”

“เห่อเห่อ”

หลงจื่อหัวเราะขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะหลินซีเหวินจะกล้าหาญพูด ความจริง “ผมเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เหมาะสมกับคุณ ชั่วชีวิตนี้ ผมไม่มีทางเหนือชั้นกว่าพี่ใหญ่ ไม่สิ แม้แต่ฝีเท้าที่ก้าวเดินของ เขา ผมยังเดินไม่ทันเลย”

หลินซีเหวินพูดคำพูดแทงใจ ไม่ออก เขายอมพูดความจริง อย่างกล้าหาญ เลยยิ่งทำให้เธอรู้สึกเอ็นดู เห็นอกเห็นใจ เธอ ยกมือตบบนแผ่นหลังของเขาเบาๆ และช่วยเขาระบายความ รู้สึก “โธ่ๆ ชีวิตของพวกเราสองคนช่างยากลำบาก ชั่วชีวิตฉัน ก็ไม่สามารถเหนือชั้นกว่าพี่สะใภ้ของนาย เธอเป็นซุปเปอร์วู แมนของแผนกหัวใจ เป็นเสาหลักของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ฉัน เป็นเพียงเด็กน้อยต่อหน้าเธอ คุณชายริง ใต้ต้นไม้น่าตากอากาศ แต่ถ้ายืนใต้ต้นไม้ แล้วตัวเองไม่ใช่ต้นไม้ แบบนี้มันไม่ดีเลยนะค่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

จู่ๆหลงจอก็หัวเราะออกมา ทำให้ความกลุ้มใจและความ รำคาญใจได้ถูกปลดปล่อยออกมา ชั่วพริบตาเขายิ้มแย้ม อย่างผ่อนคลายมากขึ้น เขาลูบบนหัวของเธออย่างเบาๆ จาก นั้นก็ก้มหน้าหอมหน้าผากของเธอหนึ่งที “เจ้าคนทุ่ม ในหมู่บ้าน ของเธอคงมีต้นไม้มากเลยสินะ?”

“ใช่ มีต้นไม้เยอะมาก และมีคันนาด้วย ช่วงฤดูใบไม้ผลิปลูก ข้าว ส่วนฤดูใบไม้ร่วงเก็บเกี่ยวข้าว คุณชายรองที่คาบซ้อน ทองมาเกิดคงไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้หรอก”

หลงจื้อถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย “เจ้าคนทีม ถ้าหากผม ไม่มีอะไรเลย พวกเราเหมาซื้อคันนามาปลูกข้าวกันไหม? ผม ไม่ถือที่จะไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง”

หึม!

หลินซีเหวินแอบด่าทอในใจเงียบๆว่า คุณชายรอง สมองของ คุณได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่า?

ปลูกข้าวหรอ? ไปอยู่บ้านฝ่ายหญิงหรอ?

คุณชายรอง คุณสติเลอะเลือนแล้ว!
“เห่อเห่อเห่อ โอเค! ถ้าหากคุณชายรองไม่มีอะไรเลยจริงๆก็ มาพึ่งพาฉันเลย ที่บ้านของฉันมีคันนา ซึ่งสามารถปลูกต้นฝ้าย ข้าวโพด ข้าวเปลือก ถั่วเหลืองเป็นต้น ฤดูใบไม้ผลิเพาะปลูก รดน้ำ ใส่ปุ๋ย จับแมลง ฤดูใบไม้ร่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต พวกเรา สามารถปีนเขานั่งดูดวงดาว และพระจันทร์ข้างบน พร้อมกับ พูดโม้โอ้อวดว่า ตัวเองเคยเป็นประธานของบริษัทที่มีตึกสูง ที่สุดในเมืองหลวงด้วย”

“หากเป็นแบบนี้คงดีมากแน่เลย”

หลงจื่อจินตนาการตามคําบรรยายของหลินซีเหวินอย่างใจ จดใจจ่อ จนทําให้ความกดดันที่ได้รับจากการวิพากษ์วิจารณ์ และข่าวด้านลบของสื่อมวลชนที่เกือบท่าลายหัวใจของเขา แตกสลาย ในตอนนี้กลับไม่มีผลแล้ว

“เจ้าคนทม ผมรู้สึกเหนื่อย” เขาโอบกอดเธอ พร้อมกับทิ้งน้ำ หนักตัวลงบนเธอทีละนิด

หลินซีเหวินพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้แล้ว ฉันอ่านข่าวแล้ว แต่ ว่า…..หลงจื้อ คุณอยู่ต่อหน้าฉันจะพูดอะไรก็ได้ แต่คุณต้องมี สติ ตอนนี้คุณคือประธานของบริษัท MBK ไม่ว่าจะเกิดปัญหา อะไรขึ้น คนที่พวกเขาต้องการพึ่งพาคนแรกคือนาย พวกเขา ไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นมือใหม่ และไม่สนใจความรู้สึกของ คุณด้วย วงการธุรกิจก็น่ากลัว และโหดร้ายแบบนี้แหละ แต่ นายต้องเผชิญหน้า”

หลินซีเหวินค่อยๆดึงตัวเองออกจากหลงจื้อเล็กน้อย พร้อมกับ สบสายตาของเขา และพบว่าภายใต้แว่นตามีดวงตาแบกความเหนื่อยล้าของเขาทั้งหมดอยู่

นับตั้งแต่ที่หลงจื่อลงเรือลำนั้น เขาจอดเทียบเรือชั่วคราวไม่ น้อยเลย “เจ้าคนทึ่ม คุณเข้าใจอะไรไม่น้อยเลยนะ”

“ถึงแม้ไม่เคยกินเนื้อหมู แต่ฉันไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหมูวิ่งสัก หน่อย?”

“เจ้าคนทุ่ม! คุณพูดแบบนี้แสดงว่ามีอะไรอยากพูดแน่เลย”

หลินซีเหวินพยักหน้าเล็กน้อย “อืม”

เธอเคยซักถามพ่อของเขาอย่างอ้อมค้อมแล้วว่า สถานการณ์ ของบริษัท MBK ในตอนนี้ควรทํายังไง แต่คําตอบกลับไม่น่า พึงพอใจ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ หลินซีเหวินคิด ว่า ถึงเวลาที่ต้องช่วยเขาแล้ว

“อย่างแรก ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องเอาตัวเองซ่อนข้างหลังพี่ใหญ่ ของคุณ เขาคือเขา คุณคือคุณ คนไม่ต้องเป็นหลงเชียวคนที่ สอง แต่เป็นหลงจื้อเพียงคนเดียวเท่านั้น”

หลงฉื่อยกมือจับคางของหลินซีเหวิน “นี่คือเจ้าคนทีมที่ผม

รู้จักหรอ?”

หลินซีเหวินดึงมือของเขาออก และมองบนใส่เขาหนึ่ง แล้วพูด ต่อว่า “อย่างที่สอง หลงเซียวเขามีความสามารถเฉพาะตัวของ เขา ซึ่งไม่มีใครสามารถทำแทนได้ และไม่สามารถหลอกเลียนได้ด้วย แต่คุณชายรอง คุณไม่มีความสามารถ อะไรเลยหรอ? คุณก็มีความสามารถที่เขาไม่สามารถเรียนรู้ ได้ชั่วชีวิตเหมือนกัน อย่ากดดันตัวเอง จงเป็นตัวเอง”

หลงจื้อนิ่งอึ้งเล็กน้อย พร้อมจ้องมองหลินซีเหวินด้วยสายตา เป็นประกาย “เจ้าคนที่ม….”

“ฟังฉันพูดให้จบก่อน ฉันคิดว่า ที่พี่ใหญ่ของคุณสามารถยืน หยัดที่บริษัท MBK อย่างมั่นคงได้ อย่างแรกเขามีพรสวรรค์ ด้านการบริหาร ทุกคนมักชื่นชมคนมีพรสวรรค์ อย่างที่สอง เขาใช้เวลาสิบปีในการสร้างความมั่งคงในวงการธุรกิจของตัว เอง จนไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ อย่างที่สามเขารู้ตำแหน่ง ของตัวเองชัดเจน ตอนที่บริษัท MBK ประสบวิกฤต เขาเผชิญ หน้าแก้ไข ตอนที่บริษัท MBK เจริญรุ่งเรือง เขาถอนตัว มีเจ้า นายแบบนี้ใครบ้างจะไม่ชอบ?”

ว้าว……

หลงจื้อพูดอุทานในใจอย่างเงียบๆ เจ้าคนทึ่มไม่ธรรมดาเลย

จริงๆ

“ดังนั้นหลงจื่อ นายไม่สามารถทดแทนเขาได้ พี่ใหญ่ของนาย ถูกกำหนดเป็นหัวหน้า นายต้องรู้ฐานะของตัวเองให้ชัดเจน นับ ตั้งแต่ตอนนี้ อย่าอยู่ในบริษัท MBK ด้วยตำแหน่งประธาน แต่ เรียนรู้ไต่เต้าตัวเองอยู่ตำแหน่งผู้ช่วย เหมือนกับฉันที่หมอฉู่ให้ ฉันเป็นผู้ช่วย ฉันเองก็ไม่ค่อยยินยอม แต่ทำยังไงได้ล่ะ ฝีมือ การผ่าตัดของหมอฉู่ยอดเยี่ยมจริงๆ สามารถรักษาคนไข้หาย เร็ว หรือว่าฉันต้องกําจัดเธอเพื่อให้ตัวเองทดแทนหรอ? ตลกสิ้นดี! หรือฉันต้องฆ่าเธอหรอ!”

เห่อเห่อ!” หลงจื่อทั้งรู้สึกช็อกและสบายใจ สุดท้ายเขาถูก ” เธอประชดประชันจนรู้สึกขำ

เขาหยิบได้ของมีค่าแล้ว! เจ้าคนทึ่มคือของมีค่าที่ซุกซ่อน!

หลินซีเหวินตบบนบ่าของเขาเพื่อให้กำลังใจ “ฉันพูดไร้สาระ มากขนาดนี้ คุณพอจะเข้าใจไหม?”

เธออุตส่าห์พูดอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ ถ้าไม่เข้าใจอีกก็โง่ แล้ว

“เข้าใจแล้วครับ ผมอยากเหมือนกับคุณ เป็นผู้ช่วยที่คอย ช่วยเหลือ และอยากเป็นผู้ช่วยของพี่ใหญ่”

“เยี่ยมมาก! นายก็ไม่ได้โง่อะไรขนาดนั้นสักหน่อย แต่นาย อย่าเพิ่งท้อใจนะ เมื่อเป็นผู้ช่วยนานๆก็จะสามารถสะสม ประสบการณ์ ต่อไปฉันต้องเป็นหมอผ่าตัดหลักได้เหมือนกัน”

“ใช่! เจ้าคนที่มต้องมีสักวันที่ทำสำเร็จ”

ในดวงตาของหลงจื่อแฝงสายตาเป็นประกาย หลังจากได้ยิน เธอพูดแบบนี้เขาก็มีท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น
“ผมรู้แล้วว่าควรทำยังไง เจ้าคนที่ม” จู่ๆหลงจื่อก็โอบกอดเธอ พร้อมกับออกแรงจูบบนริมฝีปากของเธอ

“คุณคิดจะทํายังไงต่อหรอ?”

“ทําตามคําแนะนำของคุณ ตอนนี้พ่อของผมไม่ยินยอมให้พี่ ใหญ่กลับมา แต่ผมจะคิดหาวิธีการบีบคั้นให้เขาหมดหนทาง ถึงตอนนั้นต่อให้ไม่ยินยอมก็ต้องยอมให้พี่ใหญ่กลับมา”

พวกคุณสามคนพ่อลูกช่างน่าสนใจดีนะ ฉันไม่เคยเห็นแบบนี้ ” มาก่อนเลย” หลินซีเหวินหัวเราะแห้งๆขึ้น

“ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง ผมจะไม่มีวันแย่ง ชิงตำแหน่งสืบทอดกับพี่ใหญ่อย่างแน่นอน”

“อืม บริษัท MBK มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ ไม่คิดช่วงชิง คุณไม่รู้

สึกเสียดายหรอ?”

“ผมไม่ชอบงานธุรกิจ ผมพูดตามตรงว่า ผมเป็นคนไม่ค่อยมี ความทะเยอทะยาน

หลินซีเหวินหัวเราะเล็กน้อย “หลงจื่อ การได้พบคุณถือเป็นสิ่ง

ที่ดีมากเลย”
จู่ๆลมแรงของทะเลทรายโกบีที่ปกคลุมด้วยหมอกฝุ่นสี เหลืองก็พัดผ่านเข้ามา เม็ดทรายสีเหลืองล่องลอยปกปิด ทัศนวิสัยเบื้องหน้า และเบื้องหน้าแว่นตาที่มีความหนาเห็น เพียงเนินทรายที่ทับถมกัน

ไม่มีโครงสร้างตายตัว และไม่เห็นจุดสิ้นสุดด้วย…

“หลงเซียว คุณคิดยังไงถึงมาที่นี่เป็นสถานีสุดท้าย?” ลั่วหาน สวมผ้าคลุมหนาบนหัวเหมือนกับผู้หญิงอาหรับสวมทุกวัน เธอ สวมผ้าคลุมปิดครึ่งหน้าของเธอ และสวมแว่นตา แถมสวมชุด ที่ปกคลุมทั้งตัวขนาดใหญ่ไม่เผยทรวดทรงด้วย

หลงเซียวกุมมือเธอไว้อย่างแน่น ก่อนมาที่นี่เขาได้ตรวจสอบ อากาศของที่นี่แล้ว วันนี้เป็นวันที่มีลมแรง และพรุ่งนี้ที่นี่จะ เผชิญกับฝนตกปรอยๆ

อยู่ทะเลทรายแล้วสามารถเห็นฝนตก ไม่รู้ว่าภรรยาของเขา จะมีปฏิกิริยาตอบสนองยังไง

“ยังจําสามปีก่อนได้ไหม?” หลงเซียวหันหน้ามองทะเลทรายที่ ไม่มีจุดสิ้นสุด ขณะเดียวกันเหมือนมีเม็ดทรายพัดเข้าในปาก ของเขา รสชาติ…แย่มาก

“คุณคงไม่ใช่มาทะเลทราย เพราะสามปีก่อนฉันหนีคุณมา ทะเลทราย คุณเลยตั้งใจให้ฉันต้องมาลำบากอีกครั้งหรอกใช่ ไหม?”
ผมไม่ได้เป็นอาฆาตแค้นขนาดนั้นเลยหรอ?

หลงเซียวดึงผ้าของลั่วหานมาปิดปากและจมูกของตัวเอง “ได้ยินมาว่าครั้งก่อนคุณมาที่นี่กับถังจิ้นเหยียน และเกิดเรื่อง ขึ้นไม่น้อย ที่ผมมาเพราะผมอยากสัมผัสด้วยเหมือนกัน”

ลั่วหาน : “…..คุณหึงหวงอีกหรอ? คิดไม่ถึงว่าคุณ…ยังจะหึง ถังจิ้นเหยียนอยู่อีก! พระเจ้า!”

“แน่นอน ผมเป็นคนจำฝังใจ”

“คุณ….ชนะแล้ว!”

ที่ไกลโพ้น บนทะเลทรายมีฝูงอูฐเดินอยู่ พวกมันมีขนาดสูง ใหญ่และกำลังเดินลงมาจากเนินทราย ข้างหลังของพวกเขา ถูกเม็ดทรายปกคลุมเล็กน้อย ขณะเดียวกันแสงอาทิตย์ก็สาด ส่องทําให้อู กลายเป็นเงาสีดำ

“หลงเซียว! ดูนั้นสิ อูฐ!”

เธอชี้ตรงที่อูฐที่อยู่ไม่ไกลอย่างตื่นเต้นเหมือนกับเด็กน้อย

“ใช่ อูฐ อุปกรณ์การเดินทางที่ควรมีในทะเลทราย”

“สวยจัง! พวกมันสวยมากเลย! หลงเซียว คุณดูสิ!”
ฝ่าเท้าอันหนากว้างของอูฐบนทรายนุ่มๆ มันเดินย่ำด้วย ท่าทางที่แข็งแรง พร้อมกับยื่นคออย่างสง่าผ่าเผยเหมือนกับ หงษ์

สวยจ้ง สวยอย่างตกตะลึง!

หลงเซียวพูดขึ้นว่า “ลั่วลั่ว ในสายตาของคุณ ทุกอย่างดูสวย ไปหมดเลยหรอ? เนเธอร์แลนด์สวย ทะเลทรายก็สวยหรอ?”

“ใช่ สวยไปหมด! ทุกสถานที่ที่คุณพาฉันไปล้วนสวยหมด เลย” เธอโอบกอดเขา “ไม่ว่าจุดประสงค์ที่คุณออกเดินทางคือ อะไร แต่การเที่ยวครั้งนี้ฉันมีความสุขมากจริงๆ”

หลงเซียวเงยหน้ามองทะเลทรายที่ปกคลุมด้วยเม็ดทรายสี เหลือง และเมื่อหันหน้าเห็นรอยยิ้มของเธอ เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจ มาก “นี่เป็นสถานีสุดท้ายของการท่องเที่ยวของพวกเราแล้ว สามปีก่อนผมสูญเสียคุณที่นี่ วันนี้ผมมาหาคุณที่นี่อีกครั้ง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ