ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 309 ตอนนี้นายอยู่ในความดูแลของฉัน



ตอนที่ 309 ตอนนี้นายอยู่ในความดูแลของฉัน

ตอนที่ 309 ตอนนี้นายอยู่ในความดูแลของฉัน

“คืนลูกชายฉันเมาเดี๋ยวนี้! เอาชีวิตลูกชายฉันคืนมา! ฮืออออ ลูกชายฉันต้องตายเพราะพวกคุณ! พวกฆาตกร!”

“ที่รัก!! ตื่นสิ รัก! นายจะตายไม่ได้นะ ถ้านายตายฉันจะทำยัง ไง?”

“ที่รัก!!”

ที่หน้าห้องมีคนกำลังร้องไห้โวยวายเสียงดัง ไม่นานนักถึงจิ้นเห ยียนซึ่งสวมชุดกาวน์เดินออกมาด้วยสีหน้านิ่ง ชายหนุ่มไม่ทันจะ หยุดฝีเท้าดี หญิงสองคนนั้นก็จู่โจมเข้าไป!

“เป็นเพราะการผ่าตัดของพวกคุณ! ลูกชายฉันต้องตายเพราะ คุณ! คุณมันฆาตกร!

“เอาสามีฉันคืนมา!

หญิงสองคนนั้นเกาะขากับแขนเขาแน่นจนไม่สามารถขยับตัว ไปไหนได้ “คุณป้าใจเย็นๆก่อนครับ อาการของลูกชายคุณป้า สาหัสตั้งแต่ก่อนถึงโรงพยาบาล พวกเราพยายามอย่างสุดความ สามารถแล้วครับ”
“พูดบ้าอะไรของคุณ! ใครใช้ให้คุณผ่าตัดลูกชายฉัน! ถ้าไม่ผ่าตัด เขาคงไม่ตาย! เราไม่ได้เซ็นชื่อ! ไม่ได้เซ็นชื่อ!”

ถังจิ้นเหยียนแก้ตัวไม่ออก “คุณป้าปล่อยผมก่อนครับ”

“เพียะ!!”

ฝ่ามือสะบัดลงบนแก้มของถังจิ้นเหยียนอย่างแรง ภรรยาของ คนไข้ต้องหน้าเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ “ถุย!!”

เจิ้งซิ่วหยาเห็นผู้หญิงคนนั้นลงไม้ลงมือกับถังจิ้นเหยียน ก็รีบ ก้าวขาฉับๆเดินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนคนรอบข้างไม่ทันสังเกต ร่างบางก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าถังจิ้นเหยียนแล้วเรียบร้อย รังสี อึมครึมแผ่ซ่านไปทั่ว

“นี่! คุณทำร้ายร่างกายคนอื่นได้ยังไง!”

หญิงสาวในชุดกระโปรงปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน ทำเอาหญิงสาว สองคนนั้นตกใจ ภรรยาของคนไข้ที่ร้องไห้โวยวายเมื่อครู่หยุด ชะงัก มือข้างที่ตบค้างไปกับที่ เธอมองหน้าผู้มาใหญ่แบบงงๆ

“เธอเป็นใครไม่ทราบ! หลีกไป!”
ในที่สุดหญิงคนนั้นก็ตั้งสติกลับมาได้ เธอหันไปเอาเรื่องเจิ้งซิ่วห ยา เพราะต้องสูญเสียสามี ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ถูกมองว่าเป็นศัตรู ของเธอทั้งหมด ถึงคราวที่เจิ้งซิ่วหยาต้องตอบโต้บ้าง

ดังนั้นเหยียนกลัวผู้หญิงคนนี้จะทำร้ายคนไปทั่วเพราะ เสียใจจนขาดสติ จึงหันไปพูดกับเจิ้งซิ่วหยา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไร กับเธอ กลับไปก่อนเถอะ

แต่เจิ้งซิ่วหยาไม่ยอม “จะไม่เกี่ยวกับฉันได้ยังไง ตั้งแต่นี้เป็นต้น ไปเรื่องของคุณก็เหมือนกับเรื่องของฉัน เรื่องใหญ่ที่มีชีวิตคนเข้า มาเกี่ยวขนาดนี้ จะให้ฉันนั่งนิ่งดูดาย ฉันทำไม่ได้

ผู้หญิงที่กอดขาถังจิ้นเหยียนร้องห่มร้องไห้รั้งไม่ให้เขาไป เอา ลูกชายฉันคืนมา! เอาลูกชายฉันคืนมา

“เอาสามีฉันคืนมา! เอาสามีฉันคืนมา!

ใบหน้าข้างที่ถูกฝ่ามืออรหันต์ตบขึ้นเป็นรอยมือแดง เจิ้งซิ่วหยา เห็นรอยนั่นประทับบนใบหน้าที่แสนสง่างามและอ่อนโยนของ เขา ลูกไฟดวงเล็กๆก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเธอ “ถังจิ้นเหยียน โดนคุณตบขนาดนี้เขายังไม่ตอบโต้อะไรสักอย่าง คุณเป็นบ้าหรือ ไง”
หญิงสาวเริ่มหันไปดึงทิ้งเสื้อผ้าของถังจิ้นเหยียน ชายหนุ่มก้ม ลงมองเสื้อกาวน์สีขาวของตัวเองที่ถูกทิ้งจนไม่เป็นทรง ในขณะ ที่ปากของพวกเขาก็ยังคงโอดครวญไม่หยุด

“คุณนายหลี่ เรารู้สึกเสียใจต่อการจากไปของสามีคุณ แต่หมอ ทุกท่านในโรงพยาบาลเราพยายามอย่างสุดกำลังแล้วจริงๆ สามี คุณได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสมาก คุณจะดูผลชันสูตรก็ได้”

“ผลชันสูตรอะไรกัน! คุณนั่นแหละที่ทำเขาตาย! คุณมันฆาตกร

เจิ้งซิ่วหยาชักเหลืออดกับผู้หญิงสองคนนี้ “พวกคุณสองคน ร้องไห้โวยวายไปสามีคุณก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอกค่ะ เวลานี้ไม่ใช่ เวลามาร้องไห้ แต่ควรมานั่งคิดกันว่าจะจัดการกับปัญหาใน อนาคตยังไงต่างหาก”

คำพูดของเจิ้งซิ่วหยาเสียดแทงแม่สามีลูกสะใภ้คู่นั้นอย่างไม่ ต้องสงสัย พวกเธอหันใบหน้าดุดันไปยังเป้าหมายใหม่ “หล่อนคิด ว่าตัวเองเป็นใคร ออกไป! ไสหัวไป!”

ขณะพูด หญิงสองคนนั้นก็หันมาโจมตีร่างบอบบางของเจิ้งซิ่วห

ยา

ถังจิ้นเหยียนเห็นพวกเขาพุ่งเป้ามายังเจิ้งซิ่วหยา ก็รีบยื่นแขนเข้าไปปกป้อง แต่ใครจะคิด แขนของชายหนุ่มยังไม่ทันจะ ยื่นออกไปสุด เจิ้งซิ่วหยายื่นมือเข้ามารับฝ่ามืออรหันต์ของผู้หญิง คนนั้นก่อนแล้ว แขนถูกเจิ้งซิ่วหยาบิดจนไร้เรี่ยวแรงจะต่อสู้ได้อีก

หมอหวังกับหมอเฉิน และพยาบาลอีกหลายคนที่อยู่รอบๆมอง หญิงสาวร่างบางเป็นสายตาเดียว สลับกับหันไปมองถังจิ้นเหยียน ซึ่งมีสีหน้าอึ้งๆ ทุกคนส่งคำถามผ่านสายตา นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ถังจิ้นเหยียนยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เจิ้งซิ่วหยาก็ยื่นมือข้างที่ เหลือตรึงร่างของอีกคนไว้ ภายในชั่วพริบตาหญิงสองคนนั้นก็ถูก เธอจัดการเป็นที่เรียบร้อย

“นังบ้า! ปล่อยฉันนะ!”

เจิ้งซิ่วหยาไม่สนใจพวกเธอที่พยายามขัดขืนพร้อมทั้งคำก่น ด่า เธอยังล็อคแขนของทั้งคู่ไว้ไม่ปล่อย “ฉันเห็นใจที่พวกคุณ สองคนต้องสูญเสียคนรัก แต่การที่พวกคุณทำร้ายหมอในโรง พยาบาลเพื่อระบายความโศกเศร้าฉันว่ามันไม่ถูกค่ะ”

สุดท้ายความวุ่นวายทั้งหมดก็สงบลงได้ด้วยการใช้กำลังของ เจิ้งซิ่วหยา ญาติทั้งสองของคนไข้ร้องห่มร้องไห้บอกลาศพ
แต่เรื่องนี้ยังไม่จบ

หญิงทั้งสองคนเดินจากไป บรรดาหมอก็พากันส่ายหน้าถอน หายใจด้วยความปวดหัว “เรื่องของคนไข้รายนี้จะส่งผลกระทบ ตามมาไม่น้อยเลยนะครับ…

“ถ้าคนไข้เสียชีวิตเพราะตกตึก บริษัทก่อสร้างจะต้องเป็นผู้ชดใช้ แต่ถ้าหากเสียชีวิตจากการผ่าตัดล้มเหลว ไหนจะเป็นการผ่าตัด โดยที่ไม่ผ่านการยินยอมจากญาติด้วยแล้ว โรงพยาบาลเราต้อง ชดใช้หนักเลยเลย

“ไม่ใช่แค่โรงพยาบาล แต่จะส่งผลกระทบต่อหมออย่างมาก เลยล่ะ”

เสียงพูดคุยของเหล่าคุณหมอเจิ้งซิ่วหยาพอจะจับใจความได้ แต่ ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เธอเดินเข้าไปหาถังจิ้นเหยียนซึ่งมีท่าทีเหม่อ ลอย “นายเป็นยังไงบ้าง? คงไม่โดนตบจนถึงขั้นเบลอหรอกนะ?”

ถังจิ้นเหยียนไม่มีอารมณ์พูดเล่นกับเธอ เขาหันไปจัดเสื้อกาวน์ แล้วพูดกับเธอ”ทำไมเธอยังไม่กลับอีก?”

เจิ้งซิ่วหยาเบ้ปาก “ฉันขับรถพานายมา ก็ต้องขับรถไปส่งนายก ลับสิ ฉันว่าผู้หญิงสองคนนั้นไม่เลิกราวีนายง่ายๆหรอก ยืนยัง รักษาความเป็นสุภาพบุรุษอยู่แบบนี้ สักวันสองคนนั้นคงได้ฉีกนายออกเป็นชิ้นๆ

ถังจิ้นเหยียนลากสายตาไปมองเธอ “ผมกลับเองได้”

“นี่! ถังจิ้นเหยียน ทีกับฉันมาทำเย็นชาใส่ แน่จริงเมื่อกี้ทำไมไม่ ทำใส่ยัยสองคนนั้นล่ะ” เจิ้งซิ่วหยาปล่อยแขนแข็งแรงออก ต่อไป นี้เขาจะเป็นจะตายยังไงเธอก็จะไม่สนใจอีก

แม้ถังจิ้นเหยียนจะเห็นคนตายมาเยอะ แต่ทุกชีวิตที่สูญเสียไป มักจะฝังอยู่ในจิตใจของเขา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า ใจ เป็นความเศร้าใจที่หมอคนนึงต้องเห็นคนไข้ในการดูแลของ ตัวเองจากไป “พวกเขาเพิ่งจะสูญเสียญาติ เธอไม่เข้าใจความรู้สึก ของพวกเขาหรอก

เจิ้งซิ่วหยาโกรธจนยกมือขึ้นสางเส้นผมที่ปรกหน้าไปไว้ด้าน หลัง “ฉันว่าหลังถังจิ้นเหยียน นายยังโอเคใช่หรือเปล่า? ถ้าใน ทุกๆวันมีคนไข้ตาย ชีวิตนายก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี”

มันไม่เหมือนกับเคสอื่นๆ คนไข้รายนี้เขากับลั่วหานช่วยกันชุบ ชีวิตขึ้นมา ลั่วหานถึงขั้นเป็นลมสลบไปกลางห้องผ่าตัด ไหนจะ เกือบเสียมือขวาเพราะเขาอีก จะไม่ให้เขารู้สึก ไม่ให้เขาเสียใจได้ ยังไง

ถังจิ้นเหยียนเดินไปที่หน้าลิฟต์ช้าๆ โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแม้แต่ เสื้อผ้า “คุณเจิ้ง ผมไม่รู้ว่าโลกของคุณเป็นยังไง คุณเองก็ไม่เข้าใจผม คุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับการจากไปของคนไข้ แต่ผมไม่ใช่”

เจิ้งซิ่วหยาแอบสบถ า าในใจ จากนั้นดึงตัวร่างสูงไว้ก่อน จะเดินเข้าลิฟท์ตามไปติดๆ “ถังจิ้นเหยียน จะดราม่าอะไร นักหนา! ถังจิ้นเหยียนถูกดึงไม่ทันตั้งตัว หันกลับไปมองมือเล็ก จับเสื้อผ้าเขาอยู่ “จะทําอะไรอีก?”

เจิ้งซิ่วหยาดึงถังจิ้นเหยียนไม่ปล่อย เธอกดไปที่ชั้นB1 “ถามว่า ฉันทำอะไรหรอ? ดูสภาพนายตอนนี้ซะก่อน ยังมีหน้าไปสงสาร คนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ”

หลังลงจากลิฟท์ เจิ้งซิ่วหยาหมดแรงไปกับการลากร่างสูงเข้า มาในลานจอดรถ “ถ้านายยังเป็นผู้ชายอยู่ก็นั่งนิ่งๆ ห้ามไปไหน!

ถังจิ้นเหยียนถูกคนตัวเล็กลากไปมาจนโกรธอยู่ไม่น้อย เขามอง เธออย่างหน่ายใจ “เจิ้งซิ่วหยา ถ้าคุณจะไร้เหตุผลก็ควรให้มันมีลิ มิต อย่าให้มันมากจนเกินไป”

เจิ้งซิ่วหยาเข้ามาในรถก็คาดเข็มขัด จากนั้นจึงเดินเกียร์ “มาก เกินไปแล้วยังไง ถ้าฉันจะทําซะอย่าง อย่าลืมว่าตอนนี้สถานะ ของนายคือแฟนฉัน ไม่ต้องสนว่าจะแฟนจริงหรือแฟนเก๊ สนแค่ ว่าตอนนี้นายอยู่ในความดูแลของฉันก็พอ”
เจิ้งซิ่วหยาพูดคํานั้นออกมาด้วยความมั่นใจและเผด็จการ ถัง จิ้นเหยียนทั้งหมดแรงและหมดค่จะพูด ที่สําคัญคือเขาไม่มี อารมณ์แม้แต่จะโมโห จึงไม่ได้ต่อปากต่อคำกับเธออีก “เอาที่เธอ สบายใจ”

ถังจิ้นเหยียนในชุดกาวน์มองโรงพยาบาลหวาเซียผ่านหน้าต่าง รถของเจิ้งซิ่วหยา

หลินซีเหวินนอนอยู่บนเตียงคนไข้ หลังมือเสียบเข็มให้น้ำเกลือ ใบหน้าขาวซีดเพราะอาการปวดอย่างรุนแรงเมื่อครู่ โดยเฉพาะริม ฝีปากที่ไม่มีแม้แต่สีเลือดฝาด

ตอนนี้อาการปวดหายไปบ้างนิดหน่อย หญิงสาวกระพริบตาปรับ โฟกัสภาพ เห็นหลงจื่อนั่งอยู่ข้างเตียง หลินซีเหวินเลียริมฝีปาก แห้งผากของตัวเอง “คุณชายรองหลง ทำไมนายยังอยู่ตรงนี้ อีก?”

เห็นหลินซีเหวินฟื้น หลงจื้อจึงคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง “ชิท เธอทําฉันตกใจแทบแย่รู้ตัวหรือเปล่า? ยัยบ้านนอก คราว หลังอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ หัวใจฉันไม่ได้แข็งแรงมากขนาด นั้น ครั้งหน้าเอาแต่พอดีก็พอ เข้าใจไหม?”

แม้จะพูดจาไม่รักษานําใจ แต่ในใจหลงจื้อกลับโล่งขึ้นมากเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมา

หลินซีเหวินเบ้ปาก เสียงของเธอฟังดูอ่อนแรง “คุณชายรอง หลงหัดทำตัวเป็นเจ้าชายดูแลเจ้าหญิงหน่อยไม่ได้หรอไง?”

สายตาของหลงจื้อจับจ้องไปที่สายน้ำเกลือของหญิงสาว ของเหลวข้างในใกล้จะหมด นี่ผ่านไปตั้งสองชั่วโมงแล้วหรอ ชายหนุ่มสงสัยว่าตัวเองทนนั่งรอมาได้ยังไง

“ฉันทำตัวเป็นเจ้าชายได้อยู่แล้ว แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ ยัยบ้าน นอกเธอเป็นเจ้าหญิงหรือไงไม่ทราบ?”

“ฟ็ค! พี่สาวฉันพึ่งพ้นจากความตายมา นี่นายจะพูดจาเสียดแทง ให้ฉันตายไปจริงๆหรือไง?” หลินซีเหวินก้อนใส่หลงจื้อ จากนั้น น้ำเสียงก็ค่อยๆอ่อนลงนิดหน่อย “เอ่อ เมื่อกี้นายนั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ ตลอดเลยหรอ?”

หลงจื้อยิ้มเหอะๆ “ข้ามๆมันไปเถอะ ฉันเนี่ยนะนั่งเฝ้าเธอ? มโน เมื่อกี้ฉันเพิ่งออกไปตากลมเดินกลับมาเธอก็ตื่นพอดี ก็แค่บังเอิญ เท่านั้นแหละ”

เชอะ!!

“กินน้ำไหม?”
หลงจื่อเทน้ำอุ่นเตรียมจะป้อน แต่จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าการกระทำ แบบนี้มันออกจะดูแลใส่ใจกันมากไปหน่อย “อยากกินก็ลุกขึ้นมา กินเองละกัน”

หลินซีเหวินถลึงตาใส่ “ไม่กิน!”

ตอนแรกตั้งใจจะกิน แต่พอหลงจื้อพูดแบบนี้ให้หิวตายเธอก็จะ

ไม่กิน

“ดี ไม่กินก็ดี เธอนอนเถอะฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย” พูดจบ หลงจื้อก็ก้าวขาฉับๆออกจากห้อง แล้วเลี้ยวไปทางห้องน้ำ

สักพักพยาบาลก็เข้ามา เธอมองถุงน้ำเกลือ จากนั้นก็สำรวจ อาการคนไข้ ก่อนจะพูดยิ้มๆด้วยความอิจฉา “แฟนคุณใส่ใจคุณ มากเลยนะคะ ตั้งแต่ส่งตัวคุณเข้ามาในโรงพยาบาลเขาก็คอยเฝ้า อยู่ไม่ห่างเลยสักวินาทีเดียว แถมยังถามดิฉันตั้งหลายครั้งว่าคุณ จะเป็นอะไรหรือเปล่า ดูตื่นตระหนกสุดๆเลยล่ะค่ะ แถมยังหล่อซะ ขนาดนั้น น่าอิจฉาจังเลยนะคะ”

“คะ?”

หลินซีเหวินอยากจะเบ้ปากสักสามร้อยหกสิบองศา หลงจื้อจะ ใจดีขนาดนั้นเนี่ยนะ? คงไม่ใช่เพราะกลัวต้องแบกความรับผิด ชอบถ้าฉันตายหรอกมั้ง?
คิดๆดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้อีก เขาเป็นถึงคุณชายรองแห่งตระกูล หลง จะกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้? ยิ่งไปกว่านี้สำหรับเขาเธอก็เป็น แค่สาวบ้านนอกก็เท่านั้น

คิดยังไงก็คิดไม่ตก

“ตอนนี้ให้ยาหมดไปสองขวดแล้ว คนไข้รู้สึกดีขึ้นหรือยังคะ? ยัง ปวดอยู่ไหมคะ?” พยาบาลถามขึ้นช้าๆ

หลินซีเหวินลูบท้อง “ดีขึ้นมาแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ปวดแล้ว”

นางพยาบาลยิ้ม “เมื่อกี้คุณสลบไปคงไม่รู้สินะคะ คุณหมอสั่งว่า ถ้ารักษาความอบอุ่นบริเวณหน้าท้องจะช่วยให้ฟื้นอาการได้เร็ว ขึ้น แฟนคุณเขาก็เลยเอาถุงน้ำร้อนมาประคบให้อยู่ตั้งนานสอง นานแหนะ”

“คะ?!”

หลินซีเหวินงงไปหมดแล้ว “คนที่คุณหมายถึง คือผู้ชายคนเมื่อกี้ หรือเปล่าคะ?”

ไม่น่าเชื่อสุดๆ!

“ใช่ค่ะ เขานั่นแหละ เขาอ่อนโยนจังเลยนะคะ!
เหอๆๆ! หลินซีเหวินคิดว่าตัวเองหูฝาดไปแน่ๆ! ต้องเป็นแบบนั้น แน่ๆ! ถ้าหลงจื้อใจดีขนาดนั้น เธอจะไปตายอีกสักรอบ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ