ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 259 ใส่ยาแก้อาการสมองพิการให้กับคุณ



ตอนที่ 259 ใส่ยาแก้อาการสมองพิการให้กับคุณ

ตอนที่ 259 ใส่ยาแก้อาการสมองพิการให้กับคุณ

หลงจื่อหมุนเก้าอี้ พบพื้นที่หนึ่งด้านหน้าหันตรงเข้าหาหลินซี เหวินในทันที

“ทำไมถึงเป็นคุณ? ! ”

“คิดไม่ถึงว่าคือคุณ !!”

ทั้งสองคนเอ่ยขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างตื่นเต้น ต่าง ฝ่ายต่างโมโห ต่างฝ่ายต่างหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ลั่วหานมองดูหลงจื้อ แล้วมองดูผู้ช่วยคนใหม่อีกครั้ง สายตา วนเวียนระหว่างพวกเขาทั้งสอง “พวกคุณ รู้จักกัน

“รู้จัก ! ”

“ไม่รู้จัก ! *

ทั้งสองคนเอ่ยปากขึ้นพร้อมกับอีกครั้ง เรียกได้ว่ารู้ใจกันโดย ปริยายยิ่งกว่าฝึกซ้อมมาหลายร้อยรอบเสียอีก ระดับความ สอดคล้องพอดีกันเต็มร้อย
ล้วหานเอ่อ…

“เสี่ยวหลิน พวกคุณรู้จักหรือไม่รู้จักกันแน่?” ลั่วหานเลือกตี แตกทีละคน เห็นท่าทางนี้ของทั้งสองคน จะม้วนแขนเสื้อเริ่ม ชกต่อยกันทุกวินาที ยังบอกว่าไม่รู้จัก? คนที่มีสมองหน่อยต่าง ก็ไม่เชื่อ

หลินซีเหวินกลอกตามองบนใส่หลงจื้ออย่างแรง ความดูหมิ่น ที่อยู่ในสายตานั้น ไม่ได้แย่ไปกว่าการมองเห็นศัตรูสิบกว่าชาติ ของตนเอง

และหลงจื้อก็อุทานออกมาอย่างเยือกเย็นด้วยใบหน้าที่ หน่ายแหนง มีความไม่พอใจต่อหลินซีเหวินเป็นอย่างมาก

“รู้จักค่ะ แต่ว่ายังไม่ถึงขั้นรู้จัก

หลงจื้อหัวเราะเหอะๆอย่างประชดประชันอยู่สักพัก ปลาย เท้าจิ้มไปบนพื้น ใบหน้าไม่แยแส “ใครอยากจะรู้จักกับคุณกัน? ความเจ้าเล่ห์มีมาก ดังนั้นถูกความเจ้าเล่ห์กดทับจนตัวเท่านี้ แล้วล่ะสิ”

หลินซีเหวินจะยอมให้เขาประชดประชันตัวเองขนาดนี้ได้ที่ ไหนกัน แทบจะคว้าเคสผู้ป่วยมาโยนใส่หัวสมองของหลงจื้อ ดีที่วินาทีสุดท้ายควบคุมพลังบุพกาลแห่งการกำเนิดโลกเอาไว้ได้ “ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนที่ราวกับคนไข้ก็ไม่ปาน โดย เฉพาะอย่างยิ่งคนไข้ที่มีโรคหัวใจ ขอให้คุณแข็งแรงไวๆ อีก อย่าง ฉันแนะนำให้คุณไปแผนกอายุรกรรมประสาท ตรวจดูสัก หน่อย ว่านอกจากหัวใจแล้ว สมองก็เกิดปัญหาเหมือนกันด้วย ใช่หรือเปล่า

ล้วหานนวดคลึงบริเวณหัวคิ้ว “หลงจื้อ เธอทำอะไรกับแม่สาว น้อยเขา? ทำให้เธอโมโหขนาดนี้ ช่างมีความสามารถจริงๆ

หลงจื้อชี้ไปที่จมูกของตนเองด้วยใบหน้าที่รู้สึกได้รับความ ไม่เป็นธรรม “ผมทำเธอ? พี่สะใภ้ใหญ่ อย่าล้อเล่นเลยได้หรือ เปล่า? ดูเธอก็รู้ว่าเป็นคนที่เรื่องเยอะสร้างความวุ่นวายได้ ตลอด ผมควรจะขจัดภัยร้ายให้กับประชาชนถึงจะถูก

สีหน้าของหลินซีเหวินกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ตกตะลึง อย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ได้ยินเขาเรียก พี่สะใภ้ใหญ่”คำ นั้น หางตากระตุก มองไปทางลั่วหาน “เขา…เขาเรียกคุณว่าพี่ สะใภ้ใหญ่?”

“ทําไม? คิดจะมาหาผมเพื่อตีสนิท? ผมบอกคุณให้ ไม่มีทาง จากผมที่นี่คุณไม่มีทางลัดให้เดินแม้แต่น้อย เข้าใจ? ผมขอ เตือนคุณว่าทางที่ดีที่สุดรู้จักกาลเทศะหน่อย ที่ไหนเย็นสบาย ก็ไปอยู่ที่นั่นอย่ามาวุ่นวายต่อหน้าผม
หลินซีเหวินกัดฟัน สองมือกำหมัดแน่น แว่นตากรอบ กด ทับอยู่ที่สันจมูก หนึ่งก้าวใหญ่ๆข้ามไปที่ด้านหน้าของหลง จื้อ โน้มตัวมองดูใบหน้าที่น่าต่อยนั่นของหลงจื้อ “ฉันคือผู้ช่วย ของแอนน่า คนที่ควรจะไปอยู่ที่อื่นน่ะคือคุณ

“อั๊ยยะ ! ใจกล้าไม่น้อย รู้ว่าผมเป็นใครหรือเปล่า? กล้าพูดจา เช่นนี้กับผม?” สองมือของหลงจื้อไขว้เข้าหากัน กอดอยู่บน หน้าอกของตนเอง ปากยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย แสดงท่าทีของ ความเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์เต็มร้อย

หลินซีเหวินสอดมือเข้าไปในกระเป๋าบนชุดกาวน์ ประคอง แว่นตาขึ้น มองเขาด้วยความดูหมิ่นอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นตัดสินใจ ไม่สนใจเจ้าหนุ่มที่น่าเบื่อคนนี้อีก หันศีรษะไปหาลั่วหาน “แอน น่า คุณเรียกฉันเข้ามามีอะไรจะสั่งคะ?”

ลั่วหานพิงไปที่โต๊ะทำงาน นวดคลึงที่บนหัวคิ้ว “รินน้ำให้เขา แก้วนึง”

หลงจื้อยิ้มจนตาหยีลงไปครึ่งหนึ่ง โบกไม้โบกมือ “ผู้ช่วย หลิน ยังไม่ไปอีก?”

หลินซีเหวินพยักหน้า ยิ้ม กัดฟันเอาไว้เบาๆ “ค่ะ ! กรุณารอ สักครู่ ! ”
ยกนําชา น าให้กับเขา? ทีที !

หลงจื้อถอนหายใจ ๆออกมา พี่สะใภ้ใหญ่ นี่ก็คือผู้ช่วยที่ เพิ่งจะรับสมัครเข้ามา? ภาพลักษณ์ คุณสมบัตินี้ แล้วก็บุคลิก ท่าทางนี้ จุดไหนกันที่สอดคล้องกับมาตรฐานผู้ช่วยของพี่ เทียบกับLisaแล้วห่างไกลกันมาก

“เธอกับผู้ช่วยคนใหม่ของพี่ เกิดเรื่องอะไรกันขึ้น?”

ลั่วหานยืนอยู่ ตอนที่มองหลงซื้อสามารถมองลงไปได้พอดี ลองคิดพิจารณาอย่างรอบด้าน หลงจื้อคุณชายผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ กับหลินซีเหวินที่อยู่ในรั้วโรงเรียนตลอดเวลาดูเหมือนจะไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องอะไรกันได้นอกเสียจากหลงจื้อเจ้าเด็กนี่รังแก หลินซีเหวินก่อน หลังจื้อนะหลงจื้อ จะรังแกใครไม่รังแก คิด ไม่ถึงว่าจะรังแกมาถึงผู้ช่วยของเธอได้

หลงจี๋อโบกมือขึ้น ดูเหมือนไม่ยินดีเอ่ยถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก “หลายปีก่อนรู้จักกันที่มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ผมยังนึกว่า เธอจะซื่อๆเหมือนอย่างที่เห็นจริงๆ ใครจะรู้ว่าคือแม่เสือสาวที่ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจนน่าตกใจ

“อ๋อ? มีความคิดเห็นยังไงบ้าง?” คราวนี้ลั่วหานรู้สึก ประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เธอรู้อยู่แล้วว่าหลินซีเหวินไม่ใช่คนที่ จะยุแหย่ได้ง่ายๆ แต่เรื่องซุบซิบที่ดีขนาดนี้ ไม่ฟังไม่เสียดายแย่หรอ ?

หลงจื้อได้แต่กัดฟันเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น พูดจบก็ คือคําด่าขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง ตัวเองถูกเล่นอย่างแรง ในใจไม่ โมโห ถึงแปลก

“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ดูเหมือนผู้ช่วยของพี่ไม่ได้รับมาผิด จริงๆ” ลั่วหานยิ้มขึ้นอย่างเข้าใจถ่องแท้

เธอยังกลัวว่าผู้ช่วยของตัวเองจะเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอ ตี ไม่ได้ด่าไม่ได้ว่าไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ดูเหมือนหลินซีเหวินกลับ เป็นคนที่มีศักยภาพแฝงที่มีโอกาสจะกลายเป็นผู้ช่วยที่มี ประสิทธิภาพของเธอมาก

หลงจื้อตะลึงงัน “ไม่ใช่มั้งพี่สะใภ้ใหญ่? พี่มั่นใจว่าจะเก็บผู้ ช่วยแบบนี้ไว้ที่ข้างกาย? นี่ไม่ใช่เป็นการฝังระเบิดไม่ระบุเวลา ให้กับตัวเองหรอกหรอ? ผมเตือนพี่จะต้องระวังไว้ให้มากๆ ! ”

นิ้วมือของ วทานตบไปบนไหล่ของหลงจื้อเบาๆ “ใครว่า ระเบิดจะต้องระเบิดบนร่างกายของพี่ล่ะ? ไม่แน่ ที่ระเบิดน่ะคือ คนอื่น”

สมองของหลงจื้อหมุนวนอย่างกะทันหัน จากนั้นกระตุกขึ้นการตอบสนองกลับคืนมาอย่างรุนแรง “พี่สะใภ้ใหญ่ ! ฉลาด มาก ! ข้างกายของพี่เรื่องเยอะเหลือเกิน มีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นมา พอดี แต่ว่าพี่สะใภ้ใหญ่พี่ก็ต้องระวังให้มาก แม่สาวคนนี้แสบ มาก ๆ ไม่ใช่ดูเหมือนเรียบง่ายไม่มีพิษมีภัยแบบนี้อย่าง แน่นอน”

เรียบง่าย?

ล้วทานไม่รู้จริงๆว่าหลงจื่อเอาข้อสรุปนี้ออกมาจากที่ไหนกัน ข้อมูลของหลินซีเหวินลั่วหามดูมาแล้ว อาศัยเรื่องชาติกำเนิด เธอน่ะคือคุณหนูตัวจริงเสียงจริง

คุณหนูในรูปแบบเด็กเรียน

ผ่านไปสักพัก หลินซีเหวินถือแก้วใสใบหนึ่งเดินเข้ามา ภายในแก้วสั่นไหวไปด้วยน้ำแร่ที่ใสแจ๋ว น้ำที่คุณต้องการ ดื่ม

ลั่วหานมองดูแก้วน้ำแวบหนึ่ง ยิ้มแต่กลับไม่ได้พูดอะไรออก

มา

หลงจื้อใช้มือข้างเดียวรับเอาแก้วน้ำเข้ามา เหลือบมองหลิน ซีเหวิน “แม่สาวน้อย ผมขอเตือนคุณว่า คุณอยู่ข้างกายพี่สะใภ้ ใหญ่ของผมทางที่ดีที่สุดว่านอนสอนง่ายหน่อย หากถูกผมรู้ว่าคุณแอบลงไม้ลงมือล่ะก็ ผมไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่”

หลินซีเหวินพยักหน้า “ได้ค่ะ ! ฉันจะ…ไม่แอบลงไม้ลงมือ อย่างแน่นอน”

พี่ชอบทำแบบโจ่งแจ้ง !

หลงจื้อยกแก้วขึ้นดื่มเข้าไปคำใหญ่…

“พรวด!!!”

น้ำคำใหญ่ที่เพิ่งจะเข้าไปในปากถูกเขาพ่นออกมาจนหมด ทำให้พื้นเปียกจนกลายเป็นวงกว้าง “WTF ! คุณให้ผมดื่มบ้า อะไรกัน !! ”

หลินซีเหวินยักไหล่ “คุณไม่ใช่ว่าหัวใจไม่ดีหรอกหรอคะ? สมองก็ไม่ค่อยใช้การได้ดีสักเท่าไร ฉันใส่ยาแก้อาการสมอง พิการให้กับคุณ รสชาติดีไหมคะ?”

“คุณแม่ง ! เล่นผมใช่ปะ ! ”

ดวงตาของหลินซีเหวินโค้งขึ้นเล็กน้อย “ฉันจะกล้าได้ยังไงกัน? เพียงแต่ในฐานะที่เป็นหมอ รักษาโรคช่วยชีวิตคนคือ วิชาชีพ คุณป่วยจนกลายเป็นแบบนี้แล้ว ฉันจะสามารถทำเป็น ไม่เห็นได้ยังไงกันคะ?”

หลงจื้อยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของหลินซีเหวินเอาไว้ “คุณออกมากับผม ! ปกติผมไม่ลงมือกับผู้หญิง แต่ไม่ได้ หมายความว่าจะไม่ลงมือกับคุณ

“เอาล่ะ หลงจื้อ ปล่อยมือ เมื่อครู่นี้เธอว่าเขาไม่น่าฟังขนาด นั้น ก็ไม่แปลกที่หมอหลินจะหยอกเธอกลับ เรื่องนี้เสมอกัน แล้ว”

“พี่สะใภ้ใหญ่ ! คือผมที่เสียเปรียบ !

“เธอเป็นผู้ชาย ใจกว้างหน่อยไม่ได้หรือยังไง? พอแล้ว เธอ กลับไปก่อน

หลงจื้อจ้องหลินซีเหวินที่มีใบหน้าที่ได้ใจอยู่ครู่หนึ่ง กัดฟัน ขยับนิ้วมือเล็กน้อย “คุณรอผม เราสองคนยังไม่จบ

“รอก็รอค่ะ กลัวคุณหรอ? อีกอย่างนะคะ คุณหลงจี๋อ ฉันล่ะ กลัดกลุ้มจริงๆ ไอดอลของฉันคือพี่สะใภ้ใหญ่ของคุณ ทำไม บุคลิกลักษณะเล็กน้อยคุณก็ยังไม่เป็น บ๊ายบาย ไม่ส่งนะคะ”
คุณชายหลงจื้อคิดเอาเองว่าตัวเองมีประสบการณ์มากใน แวดวงผู้หญิง แต่หลินซีเหวินคนนี้เขาค่อนข้างจะไม่แน่ใจแล้ว “อย่าได้ใจ ผู้ช่วยน้อย ได้ใจกว่านี้ยังไม่ใช่ต้องยกน้ำชาให้กับ ผม?”

“งั้นหรอคะ? กลับมาฉันจะทำให้คุณได้เปิดประสบการณ์ ใหม่ๆ ฉันไม่ใช่แค่ยกน้ำชาเป็น ยังฉีดยาให้คุณได้ด้วย

ส่งหลงจื้อกลับไป ลั่วหานเอ่ยขึ้นกับหลินซีเหวินว่า “แจ้งให้ หวาเทียนทราบ หลังจากนี้สิบนาทีประชุม คืนนี้มีการผ่าตัดเคส หนึ่ง พวกคุณสองคนสังเกตเรียนรู้ไปก่อน

“ค่ะหมอแอนน่า

“รอก่อน” ลั่วหานเรียกเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจาก ห้องทํางาน

“ผู้ช่วยหลิน ต่อไปเรียกฉันว่าหมอฉีก็พอแล้วค่ะ”

“หมอจู่? คุณไม่ใช่นามสกุลเฉียวหรอกหรอคะ?

“ต้องการให้ฉันอธิบายให้คุณฟังอย่างชัดเจนไหมคะ? ผู้ช่วย หลิน” สายตาของลั่วหานเปล่งประกายขึ้น ที่ถามแม้ว่าจะอ่อน โยน แต่ความรู้สึกกดดันได้ไม่ต้องพูดก็รู้กัน
“ไม่ต้องค่ะ…หมอฉี่”

หลินซีเหวินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง หลงจื้อเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ ใหญ่ แต่ภรรยาของหลงเซียวตั้งแต่ต้นจนจบดูเหมือนมีเพียง แค่ ลั่วหานคนเดียว ตอนนี้เธอแก้ไขนามสกุลให้ถูกต้องด้วย ตัวเอง

หรือว่า แอนน่าก็คือลั่วหาน?

หลินซีเหวินถูกการวิเคราะห์ของตนเองทำให้ตกใจเสีย ยกใหญ่ แต่ก็รู้สึกอีกว่าข้อสรุปแบบนี้เป็นไปตามเหตุผลเป็น อย่างมาก

แอนน่าเพิ่งจะเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

มองเห็นเบอร์ที่อยู่ด้านบน แอนน่าก็โบกมือให้ผู้ช่วยเข้าไป ก่อน ตัวเองพิงไปที่ด้านนอกประตูรับสายขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น?”

ทางนั้น เสียงหัวเราะของผู้หญิงดังสะท้อนเข้ามา ในเสียงหัวเราะยังมีเสียงจ๊ปากในตอนที่ริมฝีปากกับบุหรี่สัมผัสกันขณะ สูบบุหรี่ดังออกมา “ขอบคุณที่ช่วยฉัน คราวนี้เงินเหลียวถูก เฉือนเนื้อชิ้นใหญ่ออกไปเต็มๆ

อ๋อ?

ไป์เวยกอดอกยืนอยู่ริมหน้าต่าง ระหว่างนิ้วมือคีบบุหรี่สำหรับ เพศหญิงที่เรียวยาวเอาไว้ “เรือบรรทุกสินค้าของเงินเหลียว เมื่อคืนนี้ถูกปล้น เขาสูญเสียธุรกิจล็อตใหญ่ เรื่องนี้ ฉันคิดว่า ต่อให้ไม่ใช่คุณที่ช่วยทำ ก็คือคุณหลงที่ทำ

“เขารู้ไหม? สืบหาเบาะแสออกมาได้แล้วหรอ?”

ลั่วหานรู้ว่า เรื่องนี้ก็คือหลงเซียวที่ทำ แต่ในเมื่อไป์เวย สามารถเดาออก ถ้างั้นเสิ่นเหลียวก็ต้องเดาออกอย่างแน่นอน

“ฝ่ายตรงข้ามที่เขาสงสัยมีอยู่หลายคน แต่ไม่ได้มั่นใจว่าเป็น ใคร เพียงแต่คุณหลงสำหรับเขาแล้ว เป็นหนามยอกอกมาโดย ตลอด ช่วงนี้ฉันสงสัยว่าเงินเหลียวจะนุ่มบ่ามโดยที่ไม่สนใจ อะไรทั้งสิ้น คุณให้คุณหลงระวังตัวหน่อย ตัวคุณเองก็ระวังด้วย เช่นเดียวกัน”

“อืม”
วางสายโทรศัพท์ลง ล้วหานคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น ยิ้มออกมา หลงเซียวปล้นเรือบรรทุกสินค้าของเงินเหลียว อย่างไร้ซุ่มไร้เสียง ทำได้สวยงามมาก !

ในเวลานี้ ห้องทํางานประธานบริษัทMBK

กู้เยนเซินกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา สภาพนอนหลับไม่สนิท มาหลายวันหลายคืน “ฉันว่านะคุณชายใหญ่หลง แกกล้าไม่ คมขนาดนี้ได้หรือเปล่า? เพิ่งจะปล้นเรือของเสิ่นเหลียวไป ตอนนี้ก็ให้เขาเซ็นสัญญาความร่วมมือ นี่ที่เปิดเผยให้เห็น อย่างชัดเจนก็คือข้อตกลงที่ต้มตุ๋น ไอ้นี่ระดับสติปัญญาก็หลุด หายไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเป็น”

“ฉันชอบถือโอกาสตีเหล็กตอนที่มันยังร้อน นอกเหนือจาก นั้น ฉันให้แกมา มีข่าวดีเรื่องหนึ่งจะบอกกับแก” มุมปากด้าน นึงของหลงเซียวยกสูง ยิ้มขึ้นด้วยมุมที่คนรอบข้างไม่อาจจะ คาดเดาได้

พอเขายิ้ม ในใจของกู้เยนเซินก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา “แม่ง อย่ายิ้มจนอย่างกับนางเฒ่าทาริกาเทียนชัว แกยังสามารถมี ข่าวดีให้กับฉัน? ฉันไม่เชื่อ

หลงเชียวนําจดหมายเชิญฉบับนึงโยนผ่านฟ้าไปให้ กู้เยน เซินยื่นมือออกไปรับได้ในทันที เปิดออกด้วยความสงสัย
“เหอะๆ ! น่าสนใจ แม่งโคตรน่าสนใจเลย !

หลงเซียวหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน “ฉันก็คิดว่าน่าสนใจ มาก ดังนั้นอยากจะแชร์ให้กับแก

กู้เยนเซินนําจดหมายเชิญวางใส่ในมือตบลงไป “สมองของ โม่หรูเฟยผู้หญิงคนนี้ช่างคล่องตัวดีจริงๆ รู้ว่าแกต้นไม้ใหญ่ต้น นี้ปีนขึ้นไปไม่ถึงแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังรู้จักเปลี่ยนแผน จู่ๆ ! ”

บนจดหมายเชิญ บนภาพพื้นหลังสีแดงสด รอยตัวอักษรสีดำ ค่อนข้างที่จะประชดประชัน ค่อนข้างที่จะทิ่มแทงลูกตา

หลงเซียวอุทานออกมาอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้เธอคือผู้ จัดการใหญ่ของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป คงจะตระหนักรู้แล้วว่าเส้น ทางธุรกิจไม่ได้เดินง่ายๆ

กู้เยนเซินนั่งตัวตรงขึ้น “เธอหมั้นกับซุนปิงเหวิน เชิญแกไป เข้าร่วม แกจะแสดงออกยังไง? ไปหรือว่าไม่ไป? แกกับไม่หรู เฟยแต่ก่อนเป็นถึงคู่ที่ถูกทุกคนพูดถึงกันอย่างเหนือธรรมชาติ สุดๆ นี่เพิ่งจะหมุนตัวไป คุณเขาก็เข้าสู่อ้อมกอดของซุนปิงเห วินแล้ว อัยโยะๆ ! แม่งโอเวอร์ดีจริงๆ !

หลงเซียวท่านเย็นชา จุดยืนที่มีต่อเรื่องนี้มองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ชอบคือเรื่องหนึ่ง กลอุบายบนธุรกิจเป็นอีกเรื่อง

หนึ่ง

“แน่นอนว่าไป

“ไปจริงดิ? พูดตามจริง นี่เท่าๆกับว่า แฟนเก่าสาวหมั้น แฟน เก่าชายเข้าร่วมงานเลี้ยง แกจะ…ทุ่มออกไปสุดตัวจริงๆ ?”

หลงเซียวหมุนแหวนแต่งงานไร้ชื่อที่อยู่บนนิ้วไปหลายรอบ “นั่นก็ต้องลองดูว่า ใครจะมีความสามารถในการเอาชนะผู้ที่ เก่งกาจเหล่านั้นยิ่งกว่ากัน อีกอย่าง ฉันกับโม่หรูเฟยไม่ใช่ แฟนเก่า เธอไม่เคยเป็นผู้หญิงของฉันหลงเซียวมาก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ