ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 209 ใช้จบเป็นการพิสูจน์ สถานะ ของเธอ



ตอนที่ 209 ใช้จูบเป็นการพิสูจน์ สถานะของเธอ

แอนน่า?

กลัว?

เล่นเปียโน

เป็นเสียงเดียวกันโดยสิ้นเชิง

ตกหน้าผาเหมือนกัน สูญเสียความทรงจำ…

ระหว่างพวกเธอ ไม่ได้มีความพัวพันอะไรกันเลยเห รอ? ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ เลยเหรอ?

หน้าตาไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ลายมือก็หาร่อง รอยไม่ได้ มือขวาฟื้นฟูความมีสัญชาตญาณ…..

ตกลงว่าอันไหนถึงจะเป็นความจริง?

แอนน่าคือคนรักที่เขาสูญเสียไป? ใช่ไม่ใช่
นิ้วมือที่แบ่งข้อต่อกระดูกไว้ของหลงเขียวกดทับ ไปยังขมับอย่างโหดเหี้ยม เพราะว่าใช้แรงมากเกิน ไป ข้อต่อนิ้วมีสีขาว ดบาดตายื่นออกมา เสียงสอง ชนิดลั่นดังขึ้นมาที่หนังศีรษะพร้อมกัน ราวกับว่า แรงสองแรงนี้ดึงยื้อเชือกเส้นไว้อยู่ เอาตัวเขาเป็น

จุดศูนย์กลาง แล้วดึงไปสองทาง

ราวกับว่าเอาคนมารัดเอวแล้วสับทิ้ง

กู้เยนเซ็นไม่ได้ยินเสียงตอบรับของหลงเชียวมา โดยตลอด จึงกระแอมออกมาด้วยความไม่สบายใจ เล็กน้อย “คุณชายใหญ่หลง นี่เป็นอะไรไปเนี่ย? ได้ยินว่าศัตรูหัวใจคนก่อนจะกลับมา ตื่นเต้นเหรอ? ตื่นเต้นอะไร? พวกคุณทั้งสองเคยเป็นศัตรูกัน นั่น ก็เพราะว่ามีเป้าหมายการแข่งขันร่วมกัน ตอนนี้ก็ ไม่มีแล้วไม่ใช่เหรอ? ดังนั้น พวกคุณทั้งสองก็ควรจะ กลายมาเป็นเพื่อนสนิทรู้ใจกันสิถึงจะถูก”

สติปัญญาของหลงเซียวโอนเอนไปอีกครั้ง ถังจิ้น เหยียนเคยตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่กลับประเทศ ตอน นี้กลับทําลายการตัดสินใจของตนเอง ต้องเป็น เพราะว่าในประเทศมีพลังแรงที่ทำให้เขาเบี่ยงเบน

การตัดสินใจ
หากว่าโทรศัพท์เป็นแอนนาทีโทรไป ถ้าอย่างนั้น เสียงของเธอก็ต้องเป็นการโจมตีถึงขั้นปางตายสุดๆ ครั้งหนึ่ง

เสียงที่หนักแน่นดั่งคลื่นกระทบโขดหินของหลง เขียว พูดเป็นคำๆ ว่า ฉันสงสัยว่า “แอนน่าก็คือ ลั่วลั่ว”

คำพูดคำเดียวก็จุดชนวนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่ โตได้ กู้เยนเซ็นรู้สึกว่าตัวเองกลืนแมลงวันไป ติดคอ จนไอออกมาเสียงดังหลายครั้งถึงจะรู้สึกโล่งหน่อย “ไม่ใช่หรอก พี่สุดหล่อของผม บิ๊กบอส ท่านประธาน คุณชายใหญ่ ข้อมูลก็บอกไว้อย่างชัดเจนแล้ว เธอ ชื่อเฉียวแอนน่า โอเค? คุณหนูมั่งคั่งจากตระกูล เฉียวแท้ๆ อาศัยอยู่ที่อเมริกามายี่สิบกว่าปี ตั้งแต่ เกิดจนถึงปัจจุบัน แม้แต่ข้อมูลที่ตรวจคนเข้าเมือง ยังมีอยู่ เธอไม่เคยมาจีนเลยแม้แต่น้อย โอเค? ราย ละเอียดทั้งหมดได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แก

ยังสงสัยว่าเธอเป็นเมียแกเหรอ? แกคิดถึงเมียแกจน เป็นบ้าไปแล้วมั้ง?”

เขาไม่ได้บ้า แม้ว่าเอกสารที่วางไว้อยู่ตรงหน้าที่มี กระดาษสีขาวตัวหนังสือสีดำเขียนแยกไว้ แต่ในใจ เขาก็มีความคิดที่สลัดทิ้งไปไม่ได้อยู่ตลอด ทุกครั้ง

ที่เขาจะปฏิเสธความพัวพันระหว่างแอนน่าและวลั่ว มักจะรู้สึกกระวนกระวายใจ กระวนกระวาย อย่างเป็นที่สุด

“ผมมีสติมาก ข้อมูลสามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้ แต่บางความรู้สึก ไม่มีทางปลอมแปลงขึ้นมาได้

กลับไปนึกย้อนตอนที่อยู่กับแอนน่าทีละเล็กทีละ น้อย แม้ว่าร่างกายของเธอเกิดการเปลี่ยนแปลง มากเกินไป แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้เธอ มักจะมีความ

รู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกเสมอๆ ตอนที่กินข้าว ด้วยกันกับเธอ บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นสนิทสนม สบายๆ ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แม้แต่ตอนที่ทะเลาะกับ เธอ เขาก็ไม่มีแม้แต่จะรู้สึกเบื่อหน่าย เขาสามารถที่ จะนอนหนุนในอ้อมอกของเธอ แล้วเกิดปฏิกิริยาทาง ร่างกายอย่างดุเดือด ยังมี…

ปางตายเล็กน้อยก็คือ จูบของเธอ ไม่มีทางหลอก เขาได้

กู้เยนเชินแอบด่าในใจไปประโยคหนึ่ง “ฉันบอก ว่า…ฉันบอกว่าหลงเซียว ท่านเขียว แกมีสติหน่อยสิ ฉันหวังอยากให้แกได้พบกับผู้หญิงที่ตัวเองรักจริงๆ สักที แต่ไม่ได้หมายความว่าคนตายจะฟื้นคืนชีพมา

ได้นี่ ผ่านไปสองปีกว่าแล้ว แกลองคิดดูเอง นี่ก็สองปีครึ่งแล้วสินะ?”

หลงเขียวเขยิบเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืน ฝ่ามือกำ เศษกระจกแก้วที่ตกลงบนพื้นไว้อยู่ มองดูเมืองเมือง

นี้ที่ได้ตายไปในใจของเขามาสองปีกว่าแล้ว หลับตา ลง เสียงต่ำลงไปแปดเท่า “คนตายไม่มีทางคืนพื้น ชีพได้อย่างแน่ๆ แต่ว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ เหรอ? หาศพไม่พบ นอกจากสิ่งที่เธอพกติดตัวไป ก็ไม่มีสิ่ง ใดที่เป็นหลักฐานว่าเธอได้ตายไปแล้ว”

กู้เยนเป็นแหงนหน้ามองฟ้า ลูบหน้าผากของตนเอง เบาๆ ไม่ใช่ว่าหลงเขียวไข้ขึ้นหรอก งั้นก็ต้องเป็นตัว เขาที่ไข้ขึ้นแล้ว “แกรีบเอาทะเลไกลโพ้นพันลี้พลิก มาเดี๋ยวนี้ ที่กว้างๆ พื้นนั้นก็คงโดนแกทำเละเทะไป แล้วสินะ? ถ้าหากว่าเธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆ จะหาไม่ เจอเหรอ? จะว่าไปอีก ขนาดนั้นยังหาไม่เจอ ตัวเธอ ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?”

ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วแน่ๆ

หลงเซียวกลับยืนหยัดมากขึ้นกับการคาดการณ์ ของตนเอง ไม่สนใจการโยงประเด็นที่น่าสงสัยขอ กู้เยนเซินอีกต่อไป แทบจะพูดอย่างหัวรั้นและจำใจ ต้องฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขว่า “ฉันสามารถพิสูจน์ได้
“เฮ้ยเฮ้ย แกจะพิสูจน์ยังไง? ไม่ใช่ว่าแกคิดอยาก จะแหกสมองของเธอออกหรอกนะ? แกอย่าหนีไป เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย พูด พูด”

กู้เยนเชินยังคงร้องเสียงโหยหวน หลงเซียววาง สายไปอย่างรีบร้อน กำกุญแจรถบนโต๊ะแล้วพุ่งออก ไปข้างนอก

“ท่านประธาน ได้เวลาประชุมแล้ว”

เลขาฯ กอดแฟ้มเอกสารอยู่แล้วเดินเข้ามาเตือนให้ หลงเชียวประชุมพอดี หลงไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ยกเลิก”

เลขาฯ มองดูหลงเซียวที่พุ่งไปยังหน้าประตูลิฟต์ ราวกับพายุหมุน ผมก็ม้วนขึ้นให้เขาราวกับถูกลม พัดมาแล้วแปะไว้บนใบหน้า มองจนอึ้งไปเลย ท่าน ประธานนี้เป็นอะไรไปเนี่ย?

สีหน้าเมื่อกี้ ราวกับว่า…ราวกับว่าจะกลืนกินคนลง

ไปได้เลย

เขารอไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ตอนนี้ ขณะนี้ ทันที
เขาต้องแน่ใจว่า แอนน่าเป็นใครกันแน่ เธอเป็นใคร

กันแน่

ในสมองมีภาพที่จูบกับเธอลอยเข้ามา ทุกๆ ราย ละเอียดถูกขยายอย่างบ้าคลั่ง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ ไม่ได้สำคัญ ฝังลึกลงไปในกระดูก นอกจากเธอแล้ว ยังจะเป็นใครไปได้?

ลั่วลั่ว รอผม รอผมก่อน

Rolls-Royce คันสีดำดั่งหนัง Sci-fi พุ่งออกจาก ลานจอดรถไปแล้วสามแยก ขับแซงรถไปไม่รู้กี่พัน คัน เหมือนกับบ้าไปแล้วพุ่งไปยังไฟแดง

เส้นเลือดบนหน้าผากของหลงเชียวค่อยๆ ขมวดขึ้น เส้นเลือดแทบจะแตกทะลุออกมาจากผิวหนัง เลือด กำลังไหลขึ้นลง เผาไหม้ ความทรงจำยิ่งเป็นรูปเป็น ร่าง เผาไหม้ยิ่งบ้าคลั่ง ยิ่งไปคิดถึงเรื่องต่างๆ นานา

ของเธอ ความสงสัยในใจก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ

บันทึกบนกระดาษสีขาวตัวหนังสือสีดำ รูปภาพ วิดีโอที่เป็นหลักฐานประกอบ การขุดค้นที่ไม่ได้หยุด พักตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา… พวกนี้ก็สู้ตอนที่เขาไปพบหน้าเธอแล้วเกิดความรู้สึกไม่ได้หรอก

ถอยมาหมื่นก้าว ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ลั่วลั่ว ผู้หญิงที่ ทำให้เขาแทบจะสูญสิ้นสติปัญญาใจร้อนแบบนี้ เขา ก็จะไม่รามือง่ายๆ แล้ว

แอนน่า!

ลั่ว ว

ชื่อสองชื่อ การรับรู้เป็นสองเท่า ท่านเซียวจะระเบิด

แล้ว

โทรไปหาถึงจิ้นเหยียนเสร็จแล้ว แอนน่ากาง กระดาษออก หยิบพู่กันมาคัดลอกโคลงกลอนที่หลง

เขียวฝึกเขียนอักษร ฝึกเขียนอักษรเรื่องนี้เปลือง แรงกายแรงใจ เธอเขียนไปสักพัก แขนที่ได้รับบาด เจ็บก็รู้สึกจะรับไว้ไม่ไหวแล้ว

ตลอดทั้งปายเอาแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง รับแขก พอเบื่อแล้วก็ไปเดินเล่นในสวนหย่อมด้าน นอก หรือไม่ก็นั่งอยู่หน้าเปียโนแล้วใช้มือเดียวเล่นเพลงที่เกือบจะโดนหลงเชียว ไอสารเลว บีบคอจน กาย

เล่นไปเล่นมา นิ้วของก็แอนน่าหยุดเล่นลง ในสมอง มีภาพที่หลงเขียวเสียสติลอยเข้ามา วันนั้น ตอนที่ เขาได้ยินเพลงนี้ กลายเป็นสิงโตตัวหนึ่งไปเลยอย่าง สิ้นเชิง ไม่มีสติปัญญาเลยแม้แต่น้อย ไม่มีความคิดที่

ปกติ

เพลงเพลงนี้ เกี่ยวข้องกับภรรยาของเขา ที่ตาย ไปแล้ว เป็นช่องโหว่ในชีวิตเขาจุดหนึ่ง ต้องมีความ

หมายเป็นพิเศษแน่ๆ

แต่ว่า เธอจะเป็นอีกครั้งได้อย่างไรล่ะ?

ในความทรงจําที่เหลืออยู่ของเธอนั้น ทำไมถึงมี

เพลงเพลงนี้ล่ะ?

หรือว่ามันจะเป็นความบังเอิญ? เธอบังเอิญชอบ เพลงเดียวกันกับภรรยาของเขาพอดี?

ฉู่ลั่วหานเป็นแพทย์ศัลยกรรมหัวใจ ในความทรง จําของเธอก็มีความรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมภายใน

แม้ว่าจะลืมไปพอสมควรแล้ว แต่เธอก็จําศัพท์เฉพาะทางศัลยกรรมภายในมากมายได้แม่น หรือ

แอนน่าหลับตาลง มือทั้งสองกดลงบนแป้นเปียโน ในหัวสมองสับสนไปจนเป็นโจ๊กไปหมดแล้ว

คิดจนหัวแทบจะระเบิด ปิดฝาครอบเปียโนแล้วเดิน ไปที่ห้องรับแขก

หลงเชียวจอดรถลง กางเกงสแล็คสีตา สักพักก็ โดนลมพัดเข้ามาในห้องโถงคฤหาสน์ “ปิ้ง” ผลัก ประตูไม้หนาๆ หนักๆ ออก

แอนน่าเงยหัวมาอย่างตะลึง ลูกตามองทะลุเข้าไป ในสายตาที่วิตกกังวลของหลงเซียวพอดิบพอดี ก้า หนังสือในมือแน่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ริมฝีปากสั่น ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกลายมาเป็นเสือดาวที่ดุดันอีก

แล้วล่ะ?

“หลงเชียว…

เธอเพิ่งจะตะโกนเรียกชื่อเขา หลงเซียวย่างก้าว ใหญ่มาอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว ขายาวๆ ย่อเล็ก น้อย แล้วโน้มตัวลงเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธอ” วลัว ใช่เธอหรือเปล่า?”

เส้นค่ๆ แถบหนึ่งบนใบหน้าของแอนน่า “หลงเชียว นายจะพอได้หรือยัง? ไม่ต้องมาทำบ้าแล้ว ได้มั้ย?”

เน้นไปไม่รู้กี่รอบแล้ว เธอคือแอนน่า! แอนน่า!

หลงเขียวกลับยืนกรานจับหัวไหล่เธอไว้มั่น นิ้วทีละ นิ้วค่อยๆ ไล่ฝังไปตามกระดูกหัวไหล่ของเธอ พริบ ตานั้นก็สะกดสายตาของเธอไว้ได้ แล้วพลิกมือมาดึง ฝ่ามือของเธอประทับไว้ที่หัวใจของตัวเอง ความถี่

แบบนี้ ยังจําได้มั้ย?

ใต้ฝ่ามือนั้น อัตราการเต้นหัวใจของเขา…

หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง ถ้าไม่ใช่ว่าเจอคนรักแล้ว หัวใจเต้น ก็คือต้องเป็นโรคหัวใจร้ายแรง หรือไม่ก็

ตกใจสุดขีด

เห็นได้ชัดว่า สองอันหลังนั้นต่างไม่ใช่

แอนน่าดิ้นรนกระวนกระวาย หลงเชียว โรค พฤติกรรมดื้อต่อต้านทางจิตของนายกำเริบหนักเกินไปแล้ว คิดถึงเมียก็ไปหาคุณโมล แล้วมาเป็นบ้า อะไรต่อหน้าฉัน?”

“คิดไม่ออกเหรอ? ได้ ผมสามารถพิสูจน์ได้”

มือใหญ่ๆ ผลักท้ายทอยของเธอไว้แน่น แทบจะใช้ แรงขึนให้ริมฝีปากของเธอประทับลงริมฝีปากของ ตนเอง ค่อยๆ บดขยี้ตามอำเภอใจ ฉกฉวยจนราวกับ มลายหายไปจนหมดสิ้นเสมือนพายุหอบเอาเศษปุย เมฆ คาดว่าต้องการทิ้งรอยประทับที่เป็นของตัวเอง บนริมฝีปากของเธอเป็นแน่

รอยฟันบนหน้าอกหายไปแล้ว สิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ความทรงจําทั้งหมดได้หายไปแล้ว แต่เขาเชื่อว่า อย่างน้อยก็มีสิ่งที่เหมือนกัน สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอ คือใคร

ฟัน กัดริมฝีปากของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการหายใจ หรือลมหายใจ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจที่ ไม่สม่ำเสมอหรืออาการใจร้อน ความรู้สึกที่เธอมีให้ เขานั้นเหมือนกันไม่มีผิด

ปากที่กักขังเธออย่างรุนแรง ไม่สนใจการต้านทาน ของเธอ การรุกรานที่ทารุณ เพิ่มทวีคูณไป ตามแรง มือที่มีแรงเหี้ยมโหดเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ปากที่กัดกร่อน กลายเป็นมีการชี้นำเป็นขั้นเป็นตอน ค่อยๆ วาดเค้าโครง พรรณนา

ผู้หญิงที่ตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ไปแล้วในอ้อมกอด ในที่สุดก็อ่อนยวบลงไปอย่างหมดแรง

แอนน่าล้มลงไปในอ้อมกอดของเขา ได้รับไฟที่

ร้อนกรุ่นของเขาเข้าไป ค่อยๆ ถูกความอ่อนโยนของ เขาแทรกซึมเข้าไป ความหอมกรุ่นที่อบอวลออกมา จากปาก คล้ายเหมือนฝันไป

รสชาติที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เหมือนกับว่าถูก

ยาพิษเข้าไปแล้ว

มือที่ดิ้นรนร่วงหล่นลงไป หลับตาที่โกรธลงไป เธอ ถูกเขาต้องมนตร์สะกดจนสูญเสียความมีเหตุผล ทั้งหมดไป ได้แต่ฟังความตอบสนองของร่างกาย ค่อยๆ ลดลงไป

นานเข้า ปากบวมๆ แดงๆ ถูกเขาปล่อยออก ลม หายใจหอบแฮกๆ เกินไป ใบหน้าน้อยๆ ชุดหมองไป

ทั้งหน้า
หลงเขียว มแล้ว

รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานานนับพันวัน ก็กลับมา ปรากฏบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง ไม่ต้องพิสูจน์ระบุ ตัวตนอีกแล้ว เขาสามารถเชื่อมั่นได้ว่า ผู้หญิงที่น่า สงสัยมากๆ ข้างหน้าคนนี้ ก็คือคนที่เขาต้องรอ

แอนน่าถูกเขาจูบจนตะลึงไปหนึ่งนาทีเต็ม เห็นเขา ยิ้มอยู่ เห็นเขายิ้มอยู่จนน้ำตาแทบจะไหลออกมา

แม่ง ผู้ชายแบบนี้ สมองทึบไปแล้วหรือไง?

ในที่สุด เธอก็ได้สติกลับมา

“เซี๊ยะ”

สะบัดมือตบไปหนึ่งครั้ง แอนนารวบรวมแรง ทั้งหมดแล้วสะบัดมือฟาดเข้าไปที่หน้าของหลงเชียว

“หลงเซียว แก ไอสารเลว แกทําอะไรน่ะ

ท่านเขียวที่โดนตบเข้าไปที่บ้องหูไม่โกรธแต่

หัวเราะ หัวเราะอย่างสําราญใจ “ใช่ ฉันมันสารเลว ฉันควรโดนตบ”
ใช่ เขาควรโดนตบ กล้าเสียเวลามากมายขนาด นี้ ถึงจะจำเธอได้ เขาสมควรโดนตบจริงๆ แค่ฝ่ามือ เดียวไม่พอด้วยซ้ำ

ท่านเขียวรวบมือของเธอขึ้นมา แล้วมาจ่อไว้ที่หน้า อีกข้างของตัวเอง “ตบแรงๆ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้อง ออมมือ ตบจนหายโกรธถึงจะพอ”

แอนน่า: “…แก…โรคจิต”

เขายกมือของเธอขึ้นมา มาวางไว้ข้างริมฝีปากแล้ว จูบลงไป “ผมมันโรคจิต ผมตาบอดไป คุณไม่ออก ผมมันใจไม้ไส้ระกำ ไม่รู้สึกเลยว่าเป็นคุณ ผมสมอง มึนไปหมดแล้ว ที่แท้ก็ไม่กล้าเชื่อมาตลอดว่าเป็น คุณ

แอนน่าถูกเขาพูดพิจารณาตัวเองอย่างลึกซึ้งแบบ นี้จนตะลึงไปสักพัก “หลงเซียว นาย…ไม่เป็นอะไร จริงๆ ใช่มั้ย?”

“ลั่วลั่ว คิดมาโดยตลอดว่า หากได้พบหน้าคุณอีก ครั้ง จะดีมากแค่ไหน คิดไม่ถึงเลยว่า จะมีวันนี้ขึ้นมา จริงๆ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบหน้าคุณอีกครั้ง
แม่ง หรือว่าเธอจําคนผิดไปแล้ว

แอนนายกมืออีกข้างขึ้นมา แล้วฟาดเข้าไปที่หน้า ของเขาหนึ่งที “ฉันไม่ใช่ลั่วลั่ว ฉันคือเฉียวแอนน่า

แอนน่า! ”

“ปล่อยนะ”

เป็นไปไม่ได้ เขาจะไม่ปล่อยอีกต่อไปแล้ว

ตบเมื่อตะกี้ ฉันตบเพราะนายบังคับจูบฉัน ตบครั้ง นี้ ฉันตบเพราะแกตาบอดไปจริงๆแล้ว มองให้ชัดๆ ฉันคือแอนน่า ถ้าเอาฉันเป็นภรรยาของนายที่ตาย ไปแล้ว ฉันก็จะไม่เกรงใจ

เธอโต้แย้งไปไม่รู้กี่ประโยค แต่ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

อดทนรอถึงเธอหายโกรธ ริมฝีปากท่านเขียว

ขมุบขมิบเล็กน้อย

ท่านเขียวโดนตบไปสองที โดนตบจนในใจกลับรู้สึกสะใจไปแล้ว แต่สติปัญญาก็กลับมาแล้ว ไม่ผิด ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นถั่วลั่ว แต่ว่าเธอที่สูญเสียความ ทรงจำไปทั้งหมดแล้วในตอนนี้ อีกทั้งนิสัยองอาจ กล้าหาญ องอาจจนเหมือนกับม้าตัวหนึ่ง จะให้เธอ ฟื้นคืนสถานะเดิมของตัวเองมาให้ได้ภายในครั้ง

เตียวคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เอาชนะใจเธอได้ มีแค่สองวิธีเท่านั้น

หนึ่ง ช่วยเธอฟื้นฟูความทรงจำ แต่ระดับความยาก

สูงมาก

สอง เอาชนะใจเธอใหม่อีกครั้ง ให้เธอตกหลุมรัก เขาในฐานะ แอนน่า แต่ระดับความยาก เหมือนว่าจะ ยิ่งยากไปอีก

เขาทั้งรํารวย อดทน และมีความมั่นใจ ท่านเขียวจะ ไปกลัวระดับความยากสูงๆ ไปทำไม?

หลงเซียวขมวดคิ้ว ยิ้มเล็กน้อย “ได้ แอนน่ามอง ผู้ชายตรงหน้าของคุณให้ชัดๆ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เตรียมตัวเป็นผู้หญิงของเขาให้ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ