ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 374 ปีศาจในใจ ต้องเผชิญด้วยตัวเอง



ตอนที่ 374 ปีศาจในใจ ต้องเผชิญด้วยตัวเอง

ตอนที่ 374 ปีศาจในใจ ต้องเผชิญด้วยตัวเอง

สุดท้ายล้วหานก็ต้องยอมแพ้หลงเซียว ฟังเขาแต่โดยดี ให้เขาส่งเธอไปถึงหน้าโรงพยาบาล

ลงจากรถ หลงเซียวก็ยังกำชับ “ตอนเย็นเลิกงานรอผม ตรงนี้ ผมมารับ ผมไม่มา ห้ามไป

ล้วหานถือกระเป๋า “นั่งรถกลับก็พอ อีกอย่างฝีมือของฉัน ดีกว่าคนขับแท็กซี่ตั้งเยอะ คุณเชื่อฉันซิ

หลงเซียวปฏิเสธข้อเสนอของลั่วหานทันที “ไม่ได้ สภาพ อากาศแย่ขนาดนี้ ผมไม่เชื่อใครทั้งนั้น

นอกจากตัวเอง

ลั่วหานรู้แล้วว่าอะไรคือหยิ่งผยอง แต่สำหรับความหยิ่ง ผยองของหลงเชียวแล้วเธอชอบ

“ได้ ฉันรอคุณตรงนี้ คุณไม่มาฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น
คําตอบนี้ถึงทําให้หลงเชียวพอใจ แต่เท่าที่หลงเซียวรู้จัก ลั่วหาน คำสัญญาแบบนี้สิบครั้งมีแปดครั้งไม่เคยรักษา

“โคร่ง”

ทันใดนั้นมีเสียงฟ้าผ่าดังโคร่งลงมา มีสายฟ้าแลบกับ เสียงฟ้าผ่า และพายุฝนกระหน่ำลงมาบนพื้น

เหมือนมีค้อนผ่าลงมากลางแผ่นดิน ฟ้าที่มืดไปทั้งผืน เหมือนหน้าคนที่เคร่งเครียด ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวัง

อากาศแบบนี้ยากที่จะคาดเดาเหมือนฝังคนลงนรกทั้งเป็น บรรยากาศรอบด้านทำให้รู้สึกน่ากลัว

คนที่เดินบนถนนเดินอย่างเร่งรีบ จับร่มแน่น แต่ก็ยังโดน ฝนที่กระหน่ำลงมา

ลั่วหานมองดูฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างกังวลใจ ร่างที่ลง จากรถแล้ว เปิดประตูรถเข้าไปอีก

หลงเซียวรู้สึกแปลกใจ เอียงตัวดูลั่วหานที่นั่งข้าง เห็น เธอใบหน้าซีดเซียว หน้าขาวนวลนั้นไม่มีสีสันเหมือนเคย แต่กลับเป็นใบหน้าซีดไร้สีเลือดด้วยอาการกลัว

“เป็นอะไร ลัวว

คำพูดหลงเซียวเพิ่งพูดจบ ลั่วหานก็ยื่นมือไปกอดผู้ชายที่ นั่งที่คนขับ กอดเขาไว้แน่น ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อย

แขนเรียวเล็กกอดเขาไว้แน่น ซบหน้าไว้ที่อกเขา สูดกลิ่น หอมในตัวเขา หายใจหอบ ผ่านไปสักพักถึงพูดขึ้น “หลง เชียว ฉันกลัว”

หลงเซียวรู้สึกตัวเกร็งทันที ดึงแขนออกแล้วกอดเธอแน่น มือโอบอยู่หลังเธอ แล้วค่อยๆถามเธอ “คิดถึงเรื่องครั้งนั้น ใช่ไหม?”

ลั่วหานพยักหน้า ลั่วหานที่ปกติไม่กลัวอะไร ตั้งแต่ เหตุการณ์ตกเหวจากพายุที่แอฟริกาครั้งนั้น ในใจก็กลัวฝน ตก โดยเฉพาะฟ้าผ่าฟ้าแลบ ได้ยินเสียงฟ้าร้อง ลั่วหานก็ รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในคลื่นลมแรงท้องฟ้ามืดมิดมอง ไม่เห็นฝั่ง ด้วยสัญชาตญาณ สมองก็จะสั่งการเกิดความ กลัวตาย
กลัวจะเกิดเรื่องวันนั้นขึ้นอีก กลัวคลื่นลมจะดูดเธอเข้าไป อีก กลัวในความสิ้นหวัง ไม่ว่าตัวเองจะเรียกชื่อใคร ก็ไม่มี เสียงตอบ

หลายปีมานี้ เธอไม่ได้เจอกับพายุฝนใหญ่ขนาดนี้อีก คิด ว่าตัวเองลืมไปแล้ว แต่ไม่เลย

ถูกฟ้าแลบกระตุ้นแล้ว ความกลัวที่คุ้นเคยก็กลับมาอีก

หลงเซียวรู้สึกเห็นใจจนขมวดคิ้ว กอดลั่วหานไว้แน่น ลูบ หลังปลอบเธอ น้ำเสียงอันอ่อนโยนพูดปลอบเธอพร้อมปิด กั้นเสียงฟ้าร้องข้างนอก “ไม่เป็นไร ไม่กลัวนะ ถั่วลั่ว ผมอยู่ นี่ ไม่ต้องกลัวนะ กอดผมไว้ กอดผมให้แน่น

ร่างสูงของลั่วหานหดอยู่ในอ้อมกอดของหลงเซียว เหมือนเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ดึงแขนเสื้อเขาไว้ เหมือนต้องการพลังความช่วยเหลือจากร่างเขา

ร่างกายสั่นเครือ ไม่เห็นความมั่นใจเหมือนเก่า เหมือน สัตว์เลี้ยงในอ้อมกอดเขา ตัวสั่นต้องการให้เจ้าของ ปลอบโยน
หลงเซียวทั้งสงสารและโกรธจนจะกลืนกินสติของเขา แล้ว เขารู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดตัวเองที่ไม่ได้ปรากฏตัว ตรงหน้าเธอ เกลียดตัวเองที่ไม่ได้ช่วยให้เธอหลีกเลี่ยง เรื่องเลวร้ายได้

“ถั่วลั่ว วันนี้ไม่ไปทำงานแล้ว ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณ” น้ำ เสียงอ่อนโยน ข้างนอกยังคงลมฝนกระหน่ำ ในรถนั้นเขา ปกป้องเธอไว้อย่างดี

ลั่วหานไม่ได้ตอบตกลงทันที แต่ยังคงหลบอยู่ในอ้อม กอดเขา เวลาผ่านไปถึงรู้สึกดีขึ้น ดึงเสื้อสูทเขาไว้ ดึงขน แขนเสื้อเขายับไปหมด

“ฉันก็แค่กลัวขึ้นมากะทันหัน ให้ฉันกอดอีกสักพัก เดี๋ยวก็ ดีขึ้น”

อะไรสักพักก็ดีขึ้น อยู่ต่อหน้าเขาเธอยังจะฝืนตัวเอง

หลงเซียวดึงเธอมาก่อนแน่น “วันนี้ผมไม่ไปบริษัทแล้ว เรากลับบ้านกัน”

ลั่วหานถูกคำพูดเขากระตุ้น ผลักตัวออกจากอ้อมกอดเขา ทันที “ไม่ได้ ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณรีบไปบริษัท เลิกงานแล้วค่อยมารับฉัน”

หลงเซียวมองหน้าเธอ ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย “เรื่อง ในบริษัทเลื่อนได้ ไม่เป็นไร

ลั่วหานสูดหายใจเข้าลึกๆ ข้างนอกยังคงฟ้าผ่าฟ้าแลบ ฝนยังคงกระหนําลงมา เธอปรับการหายใจ “ฉันไม่ใช่เด็ก ความกลัวในใจพวกนี้ฉันต้องเอาชนะมันเอง หลงเซียว คุณ ไม่ได้ปรากฏตัวทุกครั้งตอนที่สภาพอากาศแบบนี้”

“ขอแค่คุณต้องการ ผมก็จะปรากฏตัว ไม่ว่าอากาศแบบ ไหน เพราะฉะนั้น คุณหลบอยู่ที่ผมอย่างสบายใจได้ ไม่ ต้องคิดอะไรทั้งนั้น

ที่ปัดฝนปัดฝนที่กระหน่ำลงอย่างรวดเร็ว ถั่วหานหลับตา สูดอากาศอยู่สักพัก “หลงเซียว ฉันยิ่งอยู่ยิ่งต้องพึงคุณ นี่ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย

ใช่แล้ว ตัวเองยังรู้สึกได้เลย เธอยิ่งอยู่ยิ่งพึ่งพาเขา ขาด เขาไปไม่ได้แล้ว

หลงเซียวใช้อุณหภูมิร่างตัวเองให้ความอบอุ่นกับเธอใช้มือใหญ่ของตัวเองอุ่นมือเย็นของเธอ “คุณไม่พึ่งผม แล้วจะไปพึ่งใคร? หือ?”

ความหมายของเธอคือ เธอเคยทําทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้เหมือนแค่คนพึ่งพาของใคร

“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ คณไปทำงานเถอะ”

สุดท้ายลั่วหานก็ดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดหลงเซียว เธอต้องเผชิญกับเรื่องราวพวกนี้ด้วยตัวเอง

ลงลั่วหานเข้าไปถึงห้องโถงโรงพยาบาล หลงเซียวถือร่ม สองส่วนสามครอบคลุมที่ตัวเธอ เสื้อสูทตัวเองเปียกไปเกิน ครึ่ง เมื่อเขาหันหลังจากไป ลัวหานมองร่างเขากลางฝน เสื้อสูทดำที่โดนฝนสาด ถอนหายใจแรง

ได้สามีอย่างนี้ เธอจะขออะไรอีก? —— ไป์เวยสีหน้า เคร่งเครียดดูเอกสารบนหน้าจอ สายตาจ้องตัวหนังสือทุก ตัวบนนั้น

ที่แท้คนที่หยวนชูเฟินติดต่อคือคนนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็น เพื่อนเธอ และความสัมพันธ์ค่อนข้างดี เพราะอุบัติเหตุครั้งหนึ่ง หยวนซูเฟินกับเขาจึงแตกแยกกัน คนคนนี้ก็ หายตัวไป

จากนั้นไม่นาน หยวนชูเฟินก็เข้าสู่ตระกูลหลง กลายเป็น ภรรยาของหลงถึง

หยวนชูเฟินไปพบเพื่อนเก่าของตัวเอง และยังให้เงินเขา ครั้งแล้วครั้งเล่า? เป็นเพราะความช่วยเหลือทางการเงิน หรือ……..

ไป๋เวยวางมือนั่งคิด ถ้าเป็นเรื่องช่วยเหลือการเงิน หยวน เฟินคงไม่ต้องเลือกสถานที่เจอกันลึกลับขนาดนั้น?

อีกอย่าง ทุกครั้งที่หยวนชูเฟินพบกับเขา ไม่ได้ดีใจ เหมือนพบเพื่อนเก่า ดูเหมือนเขาไม่ได้อยากเจอคนนี้เลย คนที่ไม่อยากเจอ แต่จำเป็นต้องเจอ…… หรือว่าเพราะรู้ความลับของหยวนชูเฟิน? ไป๋เวยเบิกตากว้าง จากฐานะของหลงถิง แต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ไม่แปลก แต่หยวนชูเฟินฐานะธรรมดา ทำไมถึงได้รู้จักกับคนใหญ่โตอย่างหลงถึงได้?

“หรือว่ามีคนคอยช่วยหยวนชูเฟิน?”

ไป๋เวยพูดพึมพำเอง คนนี้ถ้าสืบต่อไป จะสืบเรื่องราวของ คนรุ่นก่อนออกมาไหม?

สืบ? หรือไม่ บ?

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะไป๋เวยกำลังครุ่นคิด

โทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมเสียงฟ้าผ่า ฟ้ามืดสนิททำให้คน รู้สึกอึดอัด หมายเลขบนมือถือทำให้ไป๋เวยรู้สึกตื่นเต้น

จากนั้น ก็รับขึ้นมา “มีอะไร?”

เสียงคนทางนั้นรีบร้อนและตื่นเต้น “คนที่ติดต่อกับหยวนชู เฟิน โดนฆ่าแล้ว”

“อะไรนะ”
ไปเวยลุกขึ้นจากเก้าอี้ เป็นเพราะอาการตกใจ ไปเวยหน้า ซีดไปทันที ในมือก๋าปากกาแน่น ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ “ใครเป็นคนฆ่า? เมื่อไหร่?”

“ตอนที่ฝนตกหนักที่สุด บนถนน เขาถือกระเป๋าเดินทาง ดู เหมือนคนจะเดินทางไกล แต่ก็ตายไปอย่างนี้ คนร้ายใช้วิธี ซุ่มยิง ไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอนนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบ ตอนที่ ผมจากไปพวกเจิ้งซิ่วหยากำลังเคลื่อนย้ายศพ

ไปเวยขมวดคิ้วแน่น ให้ตายซิ ในตัวคนนี้ต้องมีความลับ แน่นอน และต้องเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้ก็คงต้องรอแค่ทาง ตำรวจคลี่คลายคดี

คนทางโน้นหัวเราะ “ตำรวจคลี่คลายคดี? คุณจะหวังอะไร กับตำรวจสมัยนี้? สู้ลงมือเองดีกว่า”

“เจิ้งซิ่วหยาคนนี้ ฉันว่าพึ่งได้ ไม่ว่ายังไง ตอนนี้คนตาย แล้ว เราก็ได้แค่รอข่าว

“อืม ผมจะคอยดูหยวนชูเฟินไว้ เรื่องนี้คนที่ได้รับผล ประโยชน์ที่สุดคือเธอ เธอมีแรงจูงใจในการฆ่าคน
“ได้ เรื่องนี้บอกใครไม่ได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะให้ล้วล้วรู้ไม่

ได้”

“วางใจได้”

วางสายแล้ว ไป๋เวยมองไปนอกหน้าต่าง ความมืดบดบัง ทั่วทุกมุม เสมือนวันสิ้นโลก

เวลาเดียวกัน ออฟฟิศประธานบริษัทMBK

ทีวีบนผนังห้องกำลังประกาศข่าว “ข่าวด่วน วันนี้เวลา ประมาณเก้าโมงเช้า ชายอายุราว40ปี ถูกยิงตายท่ามกลาง ฝน คนร้ายใช้วิธีฆ่าโดยปืนไรเฟิล ทำให้ผู้ตายตายทันทีใน ที่เกิดเหตุ”

“ผู้ตายถือกระเป๋าเดินทาง และมีตัวเครื่องบินไปโตเกียว หนึ่งใบ แต่ทางตำรวจพิสูจน์แล้วว่า บัตรประจำตัวผู้ตาย เป็นชื่อปลอม.………..

“ศพของผู้ตายยังไม่มีคนมารับ ตำรวจกำลังสืบสวนสาเหตุ การตายและตัวตนที่แท้จริงของผู้ตาย ถ้าผู้ใดทราบกรุณา ติดต่อเบอร์…….
จี้กงหมิงส่ายหัว “ฆ่าคนในอากาศแบบนี้ ช่างเลือกเวลา เหลือเกิน ลอบยิง ดูแล้วน่าจะเป็นนักฆ่ามืออาชีพ”

หลงเชียวไม่ได้แสดงความคิดเห็น หยิบรีโมทเตรียมจะดู ข่าวการเงิน รูปใบหน้าผู้ตายก็ปรากฏบนจอภาพ

ภาพคมชัด ภาพบนบัตรผู้ตายถูกขยายออก เห็นได้อย่าง ชัดเจน

สายตาหลงเซียวจ้องอยู่บนรูปภาพนั่น มองดูใบหน้า หน้า ผากจนถึงตา จากจมูกถึงคาง ทำไมถึงได้คุ้นหน้าขนาดนี้

มีแสงเปล่งประกายในสมอง สายตาคมเข้มของหลงเชียว มองอยู่ที่รูปภาพนั้น

ยื่นมือไปหยิบมือถือ หลงเซียวหารูปคู่อย่างรวดเร็ว จาก นั้นก็มองที่ใบหน้าของคนคนหนึ่ง ชายคนนี้กับคนในรูป ทําไมถึงเหมือนกันขนาดนี้?

ไม่ ไม่ใช่แค่เหมือน ถึงแม้ผู้ตายจะอายุเยอะกว่า แต่คิ้วตา เปลี่ยนไม่ได้ เขาคือคนเดียวกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ