ประธานหยิ่งยโสของฉัน

ตอนที่ 60 เธอคนเดียว ได้หัวใจไปมากเท่าไร



ตอนที่ 60 เธอคนเดียว ได้หัวใจไปมากเท่าไร

ตอนที่ 60 เธอคนเดียว ได้หัวใจไปมากเท่าไร

ผู้ป่วยมีอายุประมาณสามสิบห้าเท่านั้น เพราะติดเชื้อเอดส์ มาหลายปี ตอนนี้ผอมคิดกระดูก ดวงตาสีดำลึกโบอยู่ใน เบ้าตา ลมหายใจแห่งชีวิตยังคงอยู่ที่นั่น แต่ทั้งร่างเหมือน กับศพ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอติดต่อกับผู้ป่วยโรคเอดส์ใกล้ๆ

ลั่วหานสวมถุงมือ เปิดเปลือกตาของผู้ป่วย จากนั้นก็ฟัง การเต้นของหัวใจผู้ป่วย แพทย์ที่ร่วมเดินทางเห็นจู่ลั่วหาน สัมผัสเธอ ตกใจกลัวจนถอยหลัง

“อึ้งทำไม? นำกล่องยามา ผู้ป่วยหายใจอ่อนแรง หัวใจ เต้นช้ามาก มีแนวโน้มที่จะโคม่าที่เกิดจากอาการปวด หัวอย่างรุนแรง ฉีดยาให้ผู้ป่วยก่อน ซิโดวูดีนสามร้อย มิลลิลิตร”

แพทย์ตัวน้อยสั่นเทิ้ม “ฉัน….ฉันไม่กล้า”

แม้แต่แพทย์หลายคนก็ยังอยู่ห่างๆ เดิมเป็นทีมแพทย์ แปดคน มีแค่ฉู่ลั่วหานคนเดียวเท่านั้นที่รักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยชีวิตคน

จู่ลั่วหานหงุดหงิดแล้ว นัยน์ตาเรียวยาวมองไปที่เจ็ด คน “ฟังนะ ในเมื่อมาที่นี่แล้ว ก็ตั้งใจทำงานให้ฉัน! ไวรัส แพร่กระจายได้สามวิธีเท่านั้น ตราบใดที่มีมาตรการความ ปลอดภัยมันจะไม่เป็นอะไร ถ้าวันนี้ไม่ตรวจสอบผู้ป่วยทุก คนหนึ่งรอบ พรุ่งนี้เราก็ต้องทำต่อ พวกเธอเลือกเองแล้ว กัน”

ได้ยินว่าพรุ่งนี้อาจจะต้องดำเนินการต่อ แพทย์ชายก็ได้ สติทันที “ครับ…ครับ ผมจะเตรียมสลิงทันที”

่ลั่วหานพบเส้นเลือดบนหลังมือผอมของผู้ป่วย เจาะเข็ม แล้วฉีดของเหลวเข้าไปในร่างกายผู้ป่วยช้าๆ

เด็กชายตัวน้อยเบิกตากว้างมองคู่ลั่วหานอย่างตกใจ “คุณ น้า ….แม่ผมจะตายไหมครับ? คุณน้าบ้านข้างๆ ตายไปเมื่อ วาน แม่ผม….จะไม่ตายใช่ไหมครับ?”

ใบหน้าและร่างกายของเด็กชายตัวน้อยมีโคลนเปื้อน นิดหน่อย มือคู่นั้นเหมือนไม่ได้ล้างทำความสะอาดหลาย วัน เสื้อผ้าเปื้อนเหงื่อโดนลมพัดจนแห้ง เมื่อสวมใส่ต่อไป กลิ่นเหงื่อทำให้หายใจไม่ออก แต่ดวงตาไร้เดียงสาของเขานั้นสะอาดจนไม่กล้ามีอคติใดๆ

ลั่วหานโน้มตัวลงไป มองตาเขา “ไม่ตายจ๊ะ เดี๋ยวแม่หนู ก็จะฟื้นแล้ว พ่อหนูล่ะ?”

เด็กชายตัวน้อยก้มศีรษะลง ร่างกายเขาแทบไม่มีเนื้อเลย มีแค่ศีรษะที่แขวนอยู่บนคอเรียว “พ่อผม…..ตายไปเมื่อปีที่ แล้ว แม่ผมบอกว่า เธอก็จะตายเหมือนกัน ผมก็จะ.

เสียงเขาเบาเหมือนเสียงยุง ได้ยินแล้วจู่ลั่วหานรู้สึกเศร้า ใจ น้ำตาสั่นไหวในดวงตา

“หนูน้อย ไม่ต้องกลัวนะ จริงๆ แล้ว….”

เด็กชายตัวน้อยเงยศีรษะขึ้น ใบหน้ามอมแมมร้องไห้ “คุณน้า ผมรู้ครับ โรคนี้มันรักษาไม่หาย น้าไม่ต้องโกหก ผม”

ลั่วหานถูกขัดไว้และไม่สามารถหลอกลวงได้อีกต่อไป บทสนทนาเปลี่ยนไป “น้าไม่ได้โกหกหนูนะ เห็นหนูน้าก็รู้ แล้วว่าหนูเป็นเด็กฉลาด น้าอยากบอกว่า เราทุกคนก็ต้อง ตายกันทั้งนั้น ไม่ช้าก็เร็ว น้าก็จะตายเหมือนกัน แต่หลังจากตายไป หนูและพ่อหนูก็จะได้เจอกันอีกที่ หนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากลัว”

เด็กชายตัวน้อยขยี้จมูก “จริงเหรอครับ?”

“จริงสิ! น้าไม่ได้โกหกหนูนะ!”

เด็กน้อยพูดขึ้นอย่างขี้อาย “งั้น….เรามาเกี่ยวก้อยกัน”

ฉู่ลั่วหานอึ้งไป นิ้วขาวสะอาดเกี่ยวก้อยกับมือดำเล็กของ เขา ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดขึ้น “เกี่ยวก้อย!”

แพทย์หลายคนด้านหลังมองหน้ากันแล้วกระซิบเสียงทุ้ม “หมอจู่บ้าหรือเปล่า? เด็กคนนี้ก็ ….ป่วยนะ”

“แต่พวกเธอไม่คิดเหรอว่าท่าทางอ่อนโยนของหมอฉู่เมื่อ ครู่นี้งดงามมากเลย?”

“ใช่เวลามามองผู้หญิงสวยไหม? อยากตายเหรอ!”

แพทย์ชายคนหนึ่งเริ่มส่งกล่องยาให้ฉู่ลั่วหาน “ไม่คิดเลย จริงๆ หมอเชี่ยวชาญแผนกอายุรกรรมในตำนานเป็นแบบนี้จริงๆ

นี่ล้วหานหัวเราะเบาๆ “ฉันควรเป็นยังไง?”

แพทย์ชายยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ มันต่างจากสิ่งที่ ได้ยิน

กำชับเด็กชายตัวน้อยว่าให้เฝ้าคุณแม่ที่นี่ แพทย์หลายคน ไปที่บูธคลินิกชั่วคราว ก่อนที่พวกเขามาถึงก็เห็นต่อแถว ยาวด้านนอก หมู่บ้านนี้มีผู้ป่วยสี่สิบห้าสิบคนจริงๆ ด้วย!

ผู้ป่วยที่อายุมากสุดแค่สี่สิบกว่าเอง ผู้ป่วยที่อายุน้อยสุด ยังถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขน

แพทย์แปดคนปฏิบัติหน้าที่ของตน เริ่มปรึกษาหารือ

่ลั่วหานรับผิดชอบในการตรวจสอบอย่างครอบคลุมว่า ไม่มีใครเป็นโรคหัวใจ โชคดีที่ถึงแม้คนเหล่านี้จะอ่อนแอ แต่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจรุนแรง ไม่อย่างนั้นก็หมดหวังจริงๆ

“หมอจู่ ผู้ป่วยหญิงคนนี้ขาหักเมื่อหนึ่งปีก่อน ไม่ได้รักษากระดูกมาตลอด ตอนนี้อาการแย่มาก เพื่อรักษา กระดูกจำเป็นต้องผ่าตัด”

ผ่าตัด หันหน้าไปทางกลุ่มนี้ เป็นการทดสอบยอดเยี่ยม สำหรับแพทย์ ความประมาทเล็กน้อยๆ อาจจะทำให้…

แพทย์ชายแผนกกระดูกสองคนเงียบไป คู่ลั่วหานก็เงียบ ไปเช่นกัน ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ? แก้ไขภายนอกไม่ได้เห รอ?”

แพทย์ชายส่ายศีรษะ “ไม่ได้ กระดูกเคลื่อนอย่างรุนแรง การบังคับแก้ไขจะทำให้กระดูกหัก”

ผู้ป่วยเป็นหญิงสาววัยยี่สิบกว่า ได้ยินบทสนทนาของ แพทย์ก็หัวเราะกับตัวเอง “ฉันรู้ว่าพวกคุณกลัวอะไร ผ่าตัด ทำให้เลือดไหล กลัวว่าจะติดเชื้อฉัน! จะมาทำไมถ้ากลัวติด เชื้อไป! ออกไปซะ!”

ผู้ป่วยหญิงเดินขากะเผลกข้างเดียว ตะโกนเสียงดังใส่ แพทย์

แพทย์หญิงทนฟังต่อไปไม่ไหว ยืนขึ้นเถียง “ตัวเองป่วย เพราะใช้ชีวิตไม่รอบคอบ เราใจดีมาตรวจโรคให้ยังมาด่ากันอีก! สมควรแล้ว!”

“ยัยบ้านี่พูดอะไร! ไหนพูดอีกที! ยังไงฉันก็มีชีวิตอยู่ไม่ นาน ฮ่าๆ ก่อนตายฉันอยากจะลากเธอมาตายด้วย”

ขณะที่พูดเธอก็ดึงแขนของแพทย์หญิง แพทย์หญิง ตกใจกลัววิ่งไปซ่อนด้านหลังแพทย์ชายอย่างสั่นเทิม ร้องไห้เสียงดังด้วยความตกใจ

ลั่วหานพยายามปลอบผู้ป่วยอย่างเต็มที่ “เธออย่าเพิ่ง รีบร้อน เราต้องหาวิธีรักษาขาของเธอได้อย่างแน่นอน เอาแบบนี้ เราคุยเรื่องมาตรการรักษาก่อนค่อยตัดสินใจ ดี ไหม?”

ผู้ป่วยหญิงทำเสียงเหอะอย่างเย็นชา “เสแสร้ง! พวกคุณ เสแสร้งทั้งหมด! มาที่นี่ไม่ใช่เพราะอยากให้ข่าวรายงาน พวกคุณ ชื่นชมพวกคุณเหรอ! อย่ามาเสแสร้ง!”

ฉู่ลั่วหานอารมณ์เดือดแล้ว “สาวน้อย เราไม่มีเวลาว่างมา เล่นกับเธอนะ ด้านหลังยังมีผู้ป่วยจำนวนมากต่อคิวอยู่ รบ กวนยอมๆ ก่อนได้ไหม”

“คนใจดำอำมหิต! ฉันต้องการชีวิตพวกคุณ! ฉันต้องการชีวิตพวกคุณ!!”

อารมณ์ของผู้ป่วยหญิงยังไม่สงบลง ทันใดนั้นเสียงผู้ชาย แหบห้าวก็ดังมาจากด้านหลังทีม ชายวัยสี่สิบตันในมือ กำลังถือมีดทำครัว ตะโกนคำรามพลางวิ่งมาทางนี้อย่าง สุดชีวิต!

จู่ลั่วหานเบิกตากว้าง “คุณจะทำอะไร!” เสียงกังวลในใจ หลุดออกมาเป็นเสียงกรีดร้อง แหลมจนเจ็บคอ

ผู้ชายคนนั้นแกว่งมีดจะฆ่าคน!

“ฉันอยากฆ่าพวกแกไอ้ชาติหมา! ไอ้ชาติหมา! ไอ้พวก หลอกเอาเงินทำลายชีวิต! ฉันจะฆ่าพวกแก!”

ไอ้เชี่ย! อาสาสมัครครั้งนี้ดีจริงๆ!

เลขาธิการหมู่บ้านรีบวิ่งเข้ามา ตะคอกอย่างรุนแรง “หวัง ต้าจี้ เอามีดวางลง! วางลง! แพทย์เหล่านี้มาจากเมืองใหญ่ เพื่อดูอาการป่วยของพวกคุณโดยเฉพาะเลยนะ นี่คุณจะทำ อะไร! วางมันลง!”

ใบหน้าคล้ำของผู้ชายคนนั้นดวงตาแดงก่ำ เขาจ้องมองแพทย์ที่ตกตะลึงสองสามคนมองเสื้อคลุมขาวและ ใบหน้าของพวกเขาทีละคน “พวกแกนี่แหละ! ก็เพราะพวก แกนี่แหละ! ฉันขายเลือดให้โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง….เพื่อ รักษาลูกของฉัน ฉันขายเลือดไปครั้งหนึ่งและได้รับโรคนี้ ลูกเมียฉันก็ตายหมดแล้ว! ตายหมดแล้ว!”

ลั่วหานตกตะลึง ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง

“คุณคะ การขายเลือดมันมีความเสี่ยงอย่างแน่นอน แต่ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นความผิดของแพทย์ ไวรัสดัง กล่าวมันแฝงตัวอยู่ในร่างกายมนุษย์นานถึงยี่สิบปี อาจจะ เป็นเพราะ…”

“ยัยบ้าน! แกจะไปรู้อะไร! แกจะไปรู้อะไร! ก็เพราะพวกแก นี่แหละ! ฉันต้องฆ่าพวกแก! แก้แค้นให้ลูกเมียฉัน!”

“คุณใจเย็น….อ๊ะ!”

มีดทำครัวปาดลงมา! แขนซ้ายของฉู่ลั่วหานหลบไม่ทัน ใบมีดเฉือนโดนเนื้อโดยตรง!

แค่รู้สึกเจ็บจี๊ดที่แขน เลือดสีแดงสดไหลลงแขนและย้อมเสื้อคลุมขาวอย่างรวดเร็ว ขยายออกไปตามฝ่ามือแล้ว หยดลงพื้น ไม่เห็นบาดแผล แต่รอยมีดบนเสื้อผ้าเรียบเห็น ได้ชัดว่าแขนนี้ได้รับบาดเจ็บมากแค่ไหน

“หมอณู! หมอณู!”

แพทย์ที่หดตัวอยู่ด้านหลังวิ่งขึ้นมาจับแขนเธอไว้ “หมอู่ อดทนไว้นะ จะรีบหยุดเลือดให้!”

ฉ่ลั่วหานเจ็บจนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันแน่น “ซี๊ด–”

มีดในมือหวังต้าจี้ที่ฟันคนหล่นลงบนพื้น ใบหน้าซีดด้วย

ความตกใจ ฉัน….ฉัน….”

“หวังต้าจี้ ถ้าแขนของหมอฉ่เป็นอะไรขึ้นมา นายต้องแลก ด้วยชีวิต!”

เลขาธิการหมู่บ้านตกใจกลัวอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นแพทย์ มีชื่อจากปักกิ่ง! หมู่บ้านพวกเขาชดใช้ไม่ไหวหรอกถ้าโดน ร้องเรียนขึ้นมา

แพทย์หญิงเช็ดน้ำตาไปด้วยพลางทำความสะอาดเลือดที่ แขนจู่ลั่วหาน “ฮือๆ หมอจู่
่ล้หวานขมวดคิ้ว “ฉันยังไม่ตายนะ? ร้องไห้ทำไม?”

ฝูงชนเงียบสนิท ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ ผู้ชายที่เอา มีดฟันคนเมื่อครู่นี้คุกเข่าลงกับพื้น ปากเริ่มพูดพิมพาและ ตะกุกตะกักไม่จบประโยค “ฉัน….ฉัน….ฉันไม่รู้..”

แขนของคู่ลั่วหานเจ็บจนไร้เรี่ยวแรง “นายทำไม? อยาก ฟันอีกเหรอ?”

“ไม่ใช่! ไม่ใช่!”

ในเมื่อไม่ใช่ก็ลุกขึ้นมา”

ผู้ชายคนนั้นอึ้ง “ฉัน….

แพทย์ข้างๆ ด่า “ให้ลุกขึ้นยังไม่รีบอีก! เร็วเข้า! ออกไป!”

ถุงมือแพทย์ชายเต็มไปด้วยเลือดของฉู่ลั่วหาน เส้นเลือด บนหน้าผากแต่ละเส้นปูดขึ้นมา “หมอฉู่ ฟันโดนเส้นเลือด แดง เลือด…..หยุดไม่ได้ ทำยังไง?”ฉู่ ลั่วหาน :

ไอ้เชี่ย! เธอเกือบลืมไปเลย หนุ่มสาวเหล่านี้เป็นคนเพิ่งมา ใหม่ของโรงพยาบาล ประสบการณ์น้อย ปฏิบัติไม่เก่ง เมื่อ เจอกับสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะถามผู้สอนว่าต้องทำอย่างไร

เข้า

“เธอต้องใจเย็นๆ ให้ฉัน หยุดเลือดก่อน บอกฉันเส้นเลือด แดงอะไร? เส้นเลือดใหญ่?”

ไม่ใช่….”

“กลัวบ้าอะไร! หยุดเลือดก่อน ทายาชาเฉพาะที่ แล้วก็เย็บ

แผล!”

“หมู่ ฉันไม่กล้า”

ไอ้เชี่ย! ฉู่ลั่วหานอยากฆ่าคนแล้ว! เจ้าที่มพวกนี้ เธอ อยากบีบคอพวกเขาให้ตายทีละคน! แบบนี้กล้ามารักษา พวกเขาได้อย่างไร! ตายอย่างไรก็ไม่รู้
“จู่ลั่วหาน ! ”

เมื่อแพทย์ฝึกงานกำลังตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก ทันใด นั้นก็มีเสียงชัดเจนดังผ่านฝูงชนมา ตามด้วยร่างตระหง่าน ของถังจิ้นเหยียนที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ฉู่ลั่วหานริมฝีปากซีดและแห้งนั่งบนเก้าอี้ ร่างกาย มากกว่าครึ่งเปื้อนเลือด ทั้งร่างเหมือนเปียกโชกไปด้วย

เลือด

“เกิดอะไรขึ้น?!”

ถังจิ้นเหยียนเข่าข้างหนึ่งคุกเข่าบนพื้น สายตาร้อนแรง มองใบหน้าฉู่ ลั่วหาน หัวใจเหมือนถูกมีดเฉือน!

“รองคณบดี…เมื่อครู่นี้หมอฉู่แขนซ้ายโดนฟันเส้นเลือด แดง.”

“ออกไป!”

ถังจิ้นเหยียนที่สง่างามมาตลอดดุแพทย์ชายที่เงอะงะให้ ออกไป กดแผลของเธออย่างแรง “แควก!” ฉีกเสื้อคลุม ขาวออก แขนขาวเต็มไปด้วยเลือด!
ไม่ต้องกลัวนะ เส้นเลือดแดงมันแตกข้างๆ เธออดทน

หน่อยนะ อดทนหน่อย”

“อึ้งทำไม?! ยาชา!”

“ครับ…..ครับ….

ถังจิ้นเหยียนร้อนรนใจจนเหงื่อผุดเต็มศีรษะ การตอบสน องที่มๆ ของแพทย์หลายคนยิ่งเติมเชื้อเพลิงให้เขาโกรธ มากขึ้น “เข็มหยุดเลือด!”

“เข็มเย็บ! เร็วเข้า!”

แขนโดนฉีดยาชาแล้ว ความเจ็บค่อยๆ กลายเป็นความ ชา ่ลั่วหานถูกวางนอนราบบนเปล เธอเงยศีรษะขั้นมอง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของถังจิ้นเหยียน “รองคณบดี ครั้งนี้ฉันจะตายไม่ได้นะ”

“อย่าพูดอะไร เก็บแรงเอาไว้ ไม่นานก็จะดีขึ้น”

“บาดแผลนิดเดียว ไม่ยากสำหรับรองคณบดีอยู่แล้ว

ทำไมประหม่าขนาดนั้น?”
เพราะเป็นเธอไง เข้าใจไหม?

ถังขึ้นเหยียนคุกเข่าลงบนพื้น เย็บแผลทีละเขึม ถ้าไม่ใช่ เพื่อประสบการณ์ทางเทคนิคอันแข็งแกร่งของเขา เขาเสีย สดีไปนานแล้ว

“ฉันน่ะ ฮ่าๆ

ริมฝีปากชีดเชียวของเธอยิ้มเหมือนดอกคามิเลียสีขาว ภูเขาห่างไกลโคดเดี่ยวว่างเปล่า เมฆสูงท้องฟ้ากว้างใหญ่ ีลั่วหานมองท้องฟ้า

ชีวิตคนเราน่ะ มันมีความเซอร์ไพรส์มากแค่ไหน?

ถังจิ้นเหยียนเย็บแผลให้เธอแล้วพันผ้าก๊อช “จู่ลั่วหาน เธอรู้ไหมว่าเธอได้หัวใจใครไปกี่คน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ