บทที่ 33 ไม่มีที่นั่งสำหรับแก
หยางเสว่ควงแขนของลู่หยางอย่างสนิทสนม
เธอดูตกใจที่เห็นเฉินเกอกับหม่าเสี่ยวหนานและ คนอื่น ๆ
และคิดไม่ถึงว่า งานเลี้ยงที่หรูหราขนาดนี้ พวก เขาจะมาได้
เฉินเกอมองหยางเสว่ที่แต่งตัวด้วยเครื่องประดับ อันสวยหรู ที่แท้เช้านี้ลู่หยางซื้อของให้หยางเสว่นั้นเพื่อ มางานเปิดภัตตาคารหมิงหวางเอง
เมื่อเห็นหยางเสว่ดูมีความสุข
เฉินเกอเลยคิดว่า บางทีหยางเสว่กับลู่หยางอาจ จะเป็นรักแท้
เพราะเมื่อก่อนตัวเอง เป็นได้แค่เครื่องมือที่ทำให้ หยางเสว่คลายเหงา
แค่คิดก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นตลก ที่เมื่อวานตัวเองยัง เป็นห่วงหยางเสว่อยู่เลย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่ต้องการ ความห่วงใยจากเฉินเกอแล้ว
“คุณชายจวง ไม่คิดว่าคุณจะรู้จักกับเฉินเกอและ คนอื่น ๆ อีก”
ลู่หยางพูดขึ้นด้วยความเคารพและเกรงใจ กำไรโรงงานของบ้านของลู่หยางนั้น เทียบกับ
กำไรธุรกิจของบ้านของจวงเฉียงไม่ได้หรอก แม้แต่สักนิด
ที่เขามาในวันนี้ ก็เพราะแม่ของลู่หยางและแม่ ของจวงเฉียงเป็นเพื่อนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน และพัก หอพักเดียวกันด้วย เป็นเพื่อนสนิทกันและมีการติดต่อ กันโดยตลอด
ดังนั้น ครั้งนี้ที่หมิงหวางได้เปิดกิจการนั้น แม่ของ ลู่หยางเลยกำชับให้เขาพาหยางเสว่มาร่วมงานด้วย
“เฮอ ๆ พวกเขาต่างล้วนเป็นเพื่อนของยีฟาน ลู่ หยาง แล้วคนเหล่านี้ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนายหรอ”
จวงเฉียงถามขึ้นลอย ๆ
“ใช่แล้วครับคุณชายจวง พวกเขาเป็นเพื่อนห้อง ข้างๆ ครับ”
“พี่จวงเฉียง เฉินเกอนี้มันกระจอก ขนาดภัตตา คารหมิงหวางหรูหราอย่างนี้ คุณยังให้เขามา มันจะไม่ ทำให้ราคาดูตกไปหรอ แล้วระดับของหมิงหวางล่ะ คุณ
ดูเขาแต่งตัวสิ”
หยางเสว่มองเฉินเกอด้วยสายตาที่เหยียดหยาม แล้วพูดขึ้นว่า
เธอจับมือทั้งสองของลู่หยางไว้ ยิ่งเป็นการเพิ่ม ความสนิทสนมมากขึ้น
หยางเสว่ทำอย่างนี้ก็เพื่อให้เฉินเกอดู ที่เธอนั้น หลังจากแยกกับเขาแล้วมีสถานะเป็นอย่างไร แม้แต่ พิธีการเปิดภัตตาคารหมิงหวางก็ยังสามารถมาร่วมได้
ใช่ เฉินเกอนี่ดวงเขาดีจริง ๆ ถูกรางวัลมูลค่าสอง แสน แต่เมื่อเทียบกับเขา เขาแทบเทียบชั้นไม่ติด
และจวงเฉียงมีความเห็นคล้าย ๆ กับคำที่หยาง
เสว่พูดออกมา มือของทั้งสองล้วงที่กระเป๋าแล้วพูดขึ้น “ทำให้เกรดตกก็ทำไปเถอะ ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็ สามารถชื่นชมได้ จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเกรดดี ๆ เสมอ
ไป”
“ฮา ๆ ๆ คุณชายจวงยังไงก็เป็นคุณชายจวง คำ พูดคำจาไม่ธรรมดาเลยนะ”
“ก็จริง คุณชายจวงเป็นใคร แต่ว่าก็ฟังดูมีเหตุผล หากไม่มีเกรดต่ำ ๆ แล้วเกรดสูง ๆ จะมาได้จากที่ไหน กัน”
“พอเถอะ พอเถอะ กล่าวหาเฉินเกอแบบนี้มันดี หรอ ถึงแม้จะพูดถูกก็เถอะ ฮา ๆ ๆ”
ที่นี้หยางเสว่กับหลินเจียวและคนอื่น ๆ เหมือนจะ และเฉินเกอเองก็ฟังอยู่ข้าง ๆ รู้สึกโกรธมาก
รู้ใจกัน ที่เห็นด้วยกับคำพูดของจวงเฉียง
ในใจคิดว่า พวกเธอชอบเงินขนาดนี้หรอ เดี๋ยวรอ ก่อน จะเอาฟาดหัวพวกเธอให้ดู
เหอะ เหอะ แย่แล้ว
ในเวลานี้จวงเฉียงมองยังเฉินเกอแบบยิ้ม ๆ “เฉิน เกอ นายอย่าเข้าใจผิดนะ เมื่อครู่ฉันแค่พูดล้อเล่นเฉย ๆ นายคงไม่โกรธใช่ไหม ฉันรู้ ว่านายคงไม่โกรธหรอกทำไมจะเป็นคนที่คนอื่นหยอกล้อไม่ได้ใช่ไหม”
เฉินเกอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ “จวงเฉียง วันนี้นาย ตั้งใจจะหายเรื่องใช่ไหม”
เฉินเกอยังคิดว่าจ้าวยฟานเป็นคนให้ตัวเองมา เพื่อจะได้ปรับความเข้าใจกับและความสัมพันธ์กับจวง เฉียง
เขากับจวงเฉียงดีกันแล้ว แต่อย่างน้อยตัวเองก็ เคยเลี้ยงข้าวพวกเธอในสถานที่ที่ดีที่สุดมาแล้ว
นี่มันมีเหตุมีผล
แต่ตอนนี้เฉินเกอเข้าใจแล้ว ว่านี่คือการตั้งใจ ทำให้ตัวเองอับอาย
“โอ๋ๆ ๆ โกรธแล้วหรอ คุณชายจวงให้เกียรตินาย แล้วนะ ที่ให้นายมานี่มันก็เป็นคุณอันยิ่งใหญ่แล้ว แล้วจะ โมโหทำไม เหอะ ๆ ”
หยางเสว่เห็นทุกคนต่างดูถูกเฉินเกอ รู้สึกว่าสะใจ มาก และยังมองออกว่าจวงเฉียงนั้นเกลียดเฉินเกอไป แล้ว
ที่เป็นแสดงตัวตนของตัวเอง อย่างน้อยก็เป็น ความประทับใจที่อยู่ในใจของคุณชายจวง
“พอได้แล้ว จวงเฉียง นายจัดที่นั่งไว้ตรงไหน”
จ้าวยีฟานถามขึ้น
อีกอย่างเขาเองก็เป็นคนเธอพามา หยางเสว่ ดูถูกเขาแบบนี้ ก็เหมือนไม่ไว้หน้าจ้าวยีฟาน
ไม่ว่าอย่างไร จะตีหมาก็ต้องดูที่เจ้าของด้วย
“งั้นก็ตรงนี้นะ พอดีเลย ลู่หยางกับหยางเสว่และ พวกเธอก็เป็นคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน งั้นก็นั่งตรงนี้ แหละ”
จวงเฉียงพาเฉินเกอและคนอื่น ๆ มายังที่นั่ง เมื่อแบ่งที่นั่งเสร็จก็ให้พวกเธอนั่ง
ลู่หยางกับหยางเสว่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่กลับ ตาลปัตร ที่พวกเขานั่งด้วยกัน และหยางเสยก็ยอม โม้ แหละ แต่พอลู่หยางกับหยางเสว่มา ทันใด ที่นั่งที่นั่งได้ สิบห้าคนก็ดูแคบไปในพริบตา
เพราะเพื่อนที่หอพักของจ้าวยี่ฟานหกคน และ เพื่อที่หอพักของหยางฮุยอีกห้าคน แถมยังมีหม่าเสี่ยว หนาน ทั้งหมดก็สิบสองคนแล้ว และยังต้องนับหยางเสว่ กับลู่หยางเข้าไปอีก และก็ยังเหลือจวงเฉียงที่ต้องตรงนี้ อีก พอดี
ดังนั้นจึงเรียงลำดับที่ถึงข้างหลัง และก็ไม่มีที่นั่ง สำหรับเฉินเกอ
“โอ๋ คงจะอึดอัดเนอะ เฉินเกอนายไม่มีที่นั่งแล้ว
หรอ”
จวงเฉียงยิ้มแบบฝืน ๆ แสดงถึงความรู้สึกผิด
หยางฮุยในเวานั้นพูดด้วยความเร่งรีบขึ้นว่า “เฉิน เกอ ไม่อย่างงั้นก็มาที่นี่กับพวกเราก็ได้ พวกเรานั่งเบียด กันหน่อยก็ได้”
“เบียดกันมากไม่ค่อยดีมั้ง เพราะนี่มันคือพิธีเปิด กิจการที่จัดขึ้นในห้องโถงใหญ่นะ ผู้รากมากดีก็เยอะ ถ้า เบียดกันมาก ๆ มันจะดูไม่ดีเอา”
จวงเฉียงคิดเยอะจนต้องนวดเบา ๆ ที่ขมับ จาก นั้นก็ถอนหายใจออกมา “ฉันว่าเอาแบบนี้ดีกว่า ตอนแรก ฉันคิดว่า จะนั่งตรงนี้กับทุกคน จากนั้นค่อยไปร่วมพิธี เปิดบนเวที ถึงอย่างไรฉันก็ไม่กินอาหารอะไรหรอก งั้น ฉันจะไปบนเวทีตอนนี้แหละ ให้เฉินเกอมานั่งแทนที่ของ ฉันเถอะ”
“ไม่ได้ ๆ ไม่ได้เด็ดขาด”
ทันใดหลินเจียวและคนอื่น ๆ ร้องทักขึ้น”ถ้าเป็น แบบนี้ เฉินเกอก็คงนั่งตรงกลางระหว่างฉันกับยีฟานล่ะ สิ ไม่ได้เด็ดขาด และอีกอย่าง ใครจะไปก็ได้แต่ไม่ใช่พี่ ใช่จวงเฉียง ไป พวกเรายังอยากจะฟังคุณพูดอยู่นะ เพิ่ม ๆ ความรู้หน่อย”
ทุกคนต่างคนต่างพูด ทำเอาเฉินเกออยู่ไม่ถูกเลย
แม่ง
บัญชีนี้กลับไปเดี๋ยวจะมาชำระ
ในใจของเฉินเกอเกิดความคิดที่โกรธแค้น กำลัง จะเตรียมตัวกลับ เพราะไม่อยากจะเห็นสีหน้าของพวก นั้น เดี๋ยวจะทำให้อารมณ์ไม่ดีไปใหญ่
และในเวลานี้ บนเวทีก็มีเสียงพิธีกรดังขึ้น
“ขอโทษครับ ทุกท่านกรุณาเงียบ ๆสักครู่ คืนนี้
พิธีการเปิดกิจการได้เริ่มขึ้นแล้ว พิธีก็ได้กล่าว เปิด และทุกคนก็นั่งอย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศดูสงบ
และเฉินเกอยังไม่ได้นั่งลง ยืนอยู่โด่ ๆ คนเดียว เหมือนกับนกกระเรียนกลางฝูงไก่
แน่นอนว่าต้องเป็นที่ดึงดูดสายตาของทุก ๆ คน “เชี่ย พวกเธอดูหน่อยสิคนนั้นเป็นใคร ทำไมยืน
อยู่อย่างนั้นล่ะ” “พนักงานหรอ ไม่เหมือนนะ ดูจากที่แต่งตัวแล้ว
มอซอขนาดนี้ คงน่าจะเป็นคนที่แอบเข้ามากินอาหารใน งานเลี้ยงมั้ง”
“ฮา ๆ ๆ คงจะอึดอัดแน่ ที่ไม่มีที่นั่ง บ้านจวงก็ทำ ได้เนอะ พิธีเปิดกิจการงานใหญ่ขนาดนี้ ก็ยังมีคนแอบ เข้ามาได้”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มถกเถียงกันขึ้น
และในขณะเดียวกัน โต๊ะที่ห่างจากเวทีพิธีเปิดไม่
ไกล
ที่มีหนุ่ม ๆ สาว ๆ วัยรุ่นนั่งอยู่
ซึ่งที่นั่งตรงนั้น ปกติแล้วจะเป็นที่นั่งของคุณหนู คุณชายทั้งหลายที่จะสามารถนั่งได้
ห้องโถงพิธีเปิดกิจการภัตตาคารหมิงหวางนั้น ใหญ่ ถึงจะเป็นที่ที่จ้าวยีฟานและคนอื่น ๆ นั้นนั่ง และถึง แม้จะเป็นจวงเฉียงเป็นคนจัดการให้นั่ง แต่ก็นั่งได้แค่ตรงกลางหรือค่อนไปส่วนท้าย ๆ
จึงเห็นได้ว่า วัยรุ่นหนุ่มสาวกลุ่มนี้ มีครอบครัวที่มี อำนาจมากมายอยู่เบื้องหลัง
และหนุ่มในนั้นหนึ่งคนพูดกับชายอีกคนที่ใส่เสื้อ ขาวว่า “พี่เฟย พี่ยียี พวกพี่รีบดูสิ วันนี้ภัตตาคารหมิงหวา งช่างขายหน้าจริง ๆ ฮา ๆ มีแม้กระทั่งคนแอบเข้ามากิน อาหาร”
จากนั้นชายเสื้อขาวก็เงยหน้านั้นแล้วมอง ภัตตา คารหมิงหวางวันนี้หากจะขายหน้า เขาเองก็จะดีใจมาก แต่เมื่อมองไปแล้ว ชายชุดขาวมีอาการสั่นไปทั้ง
ตัว
จากนั้นเลยใช้มือคลึงที่ดวงตา แล้วมองดูใหม่ “เชี่ย นั่นคือคุณชายเฉิน”
เมื่อได้ยินชื่อของ คุณชายเฉิน สองคำนี้แล้ว
หลินยียีเองก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยอาการตาค้าง เธอเองก็รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกัน ใบหน้าของคุณชาย เฉินนั้น ประทับยังภายในใจของหลิง ยียี
“เป็นเขาจริง ๆ ด้วย” หลินยียีพีมพำอยู่คนเดียว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ