ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 601 ซูมู่หาน



บทที่ 601 ซูมู่หาน

“ไอ้บ้า รนหาที่ตายเหรอ คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!

หญิงสาวถูกดึงเส้นผมจนบ้าคลั่ง

สะบัดกระเป๋าทิ้งคิดจะไปตบอีกฝ่าย

แต่ผลปรากฏว่ายังไม่ทันไรใบหน้าของเธอกลับโดนตบซะงั้น เพียะ!เสียงดังสนั่น

หญิงสาวรู้สึกโลกกำลังหมุนเตี้ยวๆ จนแบ่งแยกทิศทางไม่ ออก เดินสะเปะสะปะล้มไปที่แผงลอยก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ด้านข้าง จน แผงลอยก๋วยเตี๋ยวคว่ำหงายไปเลย

ส่วนคนที่ตบก็คือเฉินเกอ

เฉินเกอเฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้าจนโมโหราวกับปอดจะระเบิด เป็นเสี่ยงๆ

เคยเห็นคนหยิ่งผยองมาก็มากเอาการ แต่ไม่เคยเห็นเย่อหยิ่ง ได้ถึงเพียงนี้

ใช้ความทุกข์ของผู้อื่นมาเป็นสิ่งบำเรอใจของตน แล้วจะไว้ผู้ หญิงงูพิษแบบนี้ทำไมกัน

“OMG หยุนหยุน? ”

และทายาทเศรษฐีก็เกิดความมึนงง ภาพนี้เกิดขึ้นเร็วมากเกินไป ทายาทเศรษฐีตอบสนองไม่ทันควัน

ผู้หญิงของตนกลับถูกคนอื่นตบตีในเมืองหลวเฉิง?

ถูกตบแล้ว?

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ใครหน้าไหนช่างบังอาจเหลือ เกิน?

หลังจากตอบสนองได้อย่างเชื่องช้าแล้ว ทายาทเศรษฐีจ้อง เขมือบไปที่เฉินเกอ

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นายมาหาที่ตายหรือ ถึงกล้าตบหน้าผู้ หญิงของผม? รู้ไหมว่าผมเป็นใคร?

ทายาทเศรษฐีตวาดด้วยความโมโห

และผู้ชมในท้องถนนทั้งหมด ต่างถอยหลังไปคนละหนึ่งก้าว

เห็นได้ชัดว่าคนในท้องถิ่นจำนวนมาก รู้จักสถานะของทายาท เศรษฐีคนนี้ดี และจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกคนที่เห็นภาพตรง หน้าแล้วได้แต่อัดอั้นไว้ในใจ ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว

ชายผู้นี้เป็นผู้พิทักษ์คุณธรรม แต่ทำผิดคนแล้ว เขาไม่น่าจะมา ยุ่งเรื่องของคุณชายโกวเลย!

ใช่แล้ว คุณชายโกวสามารถฆ่าคนที่เมืองหลิวเฉิงได้

ครั้งก่อนมีคนไม่ระวังไปขัดใจคุณชายโกวเข้า ผลสุดท้ายคือ โดนฆ่ายกบ้าน น่าอนาถมาก!

คนที่ผ่านไปมาแอบคิดในใจ
“เห็นๆกันอยู่ว่าหยกชิ้นนี้มันเป็นของแท้ อีกทั้งเขามีความ ลำบากใจจริงๆ พวกคุณก็ไม่ได้ขาดสนเงินทองสักหน่อย แต่กลับ ใช้เงินแค่ 50 หยวนบังคับให้เขาขาย มันมากเกินไปแล้วนะ? และอีกอย่างไม่ซื้อก็ไม่ซื้อสิ ทำไมต้องทำหยกของเขาฟังด้วย มัน เป็นเงินประทังชีวิตของพวกเขาเลยนะ! ไร้ความเมตตาเช่นนี้ คุณว่าผู้หญิงคนนี้สมควรโดนตบไหม?

เฉินเกอพูดอย่างเรียบเฉย

“สามีค่ะ ฟันเขาเลยค่ะ ตัดแขนตัดขาของเขาทิ้งเลยค่ะ!”

หญิงสาวบนพื้นเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง จึงรีบแตะใบหน้าของตน และร้องไห้สําออยกับคุณชายโกว

“อืม สมควร ? นายหาที่ตายเอง มามาจัดการเลย!”

ทันใดนั้นคุณชายโกว โบกมือ บอดี้การ์ดหลายคนคว้ามีดออกมาจากตัว เฉินเกอเห็นพวกเขาลงมือเกินกว่าเหตุ จึงรู้สึกเคืองใจยิ่งนัก

กำลังจะใช้มีดฟันที่หัวของเฉินเกอ

ความอาฆาตจึงได้แผ่กระจายทั่วไปชั้นบรรยากาศ

แต่ว่าพออารมณ์ถึงจุดสูงสุด เฉินเกอจึงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ตนไม่สามารถใช้พลังภายในได้ หากใช้เมื่อไหนยันต์หยก ของตนก็จะไร้ผลทันที

แต่ว่า ถึงจะไม่ใช้กำลังภายใน คนพวกนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตนเลย

ไม่นาน เพิ่งจะใช้ไม่กี่กระบวนท่า พวกเขาก็ต้องใช้มือหนาจับ ตรงที่ถูกซ้อมตีจนหัก ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกหรือตามแขน จากนั้นก็ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นแล้วร้องคำรามด้วยความเจ็บ ปวด

คุณชายโกวเบิกตากว้าง และบอดี้การ์ดที่เหลือก็ตกตะลึง ตาค้างเช่นกัน

ทุกคนไม่กล้าลุยเข้าไปอีก

ไอ้เด็กเวรคนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก!

เมื่อเห็นเฉินเกอเดินมาหาตน

คุณชายโกวรู้สึกตื่นตระหนก จึงคว้าปืนในเอวของตนออกมา เล็งที่หัวของเฉินเกอ

“ไอ้เฮีย นายชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านมากนักใช่ไหม ถ้าเดินเข้า มาอีกเพียงก้าวเดียว ผมจะยิงนายให้ตายเลย! ”

คุณชายโกวพูดด้วยดวงตาที่แดงลิ้ม

ส่วนคนที่กำลังล้อมวงดูกันอยู่นั้น ต่างกรีดร้องอย่างตกใจกลัว และกระจายหนีห่างออกไป

“และยังมีอีก ถ้าวันนี้นายยังกล้าทำอะไรอีก สองพ่อลูกนี้ ผม จะไม่ไว้ชีวิตแน่ๆ! ”
คุณชายโกว พูดเตือน

เฉินเกอสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง พลังภายในของเขา เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว

อยากจัดการทายาทเศรษฐีที่อยู่ตรงหน้า มันช่างง่ายเหมือน ปอกกล้วยเข้าปาก

ตนแค่ขยับเขยื้อนเล็กน้อย หัวของเขาก็จะขาดตกหล่น พื้น

ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลผู้หนุนหลังอะไรนั้นก็สามารถจัดการที เดียวได้เลย

แต่ตอนนี้ตนทําไม่ได้

เฉินเกอสูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกหนึ่งครั้ง

เมื่อเห็นเขาไม่ขยับตัว

มุมปากของคุณชายโกวจึงยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน

“กระทืบมันเลย! สั่งบอดี้การ์ดที่เหลืออยู่หนึ่งประโยค

บอดี้การ์ดเตรียมพร้อมจะเข้ามาฟันแทงเฉินเกอ

“หยุดนะ!

ทันใดนั้น มีบอดี้การ์ดชุดดำคู่หนึ่งเดินเข้ามา

เรียกให้พวกเขาหยุดทำร้ายเฉินเกอ
“พวกนายมีอะไร?

คุณชายโกวมองพวกเขาพลางตวาดใส่

“ตระกูลซู!

บอดี้การ์ดคู่นั้นพูดเรียบๆ

“อะไรนะ?

คุณชายโกวอดไม่ได้ที่จะต้องหยุดชะงัก

ค่อยๆวางปืนลง

“ที่แท้คนของตระกูลซูมานี่เอง! ”

โกวเจียงยิ้มอ่อนๆ

ตระกูลซูในเมืองหลิวเฉิง เป็นหนึ่งในตระกูลที่แกร่งกร้าวกว่า ตระกูลโกวซึ่งมีเพียงไม่กี่ตระกูล

ถึงแม้โกวเฉียงจะโหดร้าย แต่ก็รู้หลักครองตนในสังคม รู้กฎ ระเบียบดีว่ามีเรื่องกับใครได้บ้าง

“พวกคุณยุ่งกับคนนี้ไม่ได้ สองพ่อลูกนี้พวกคุณก็ยังไม่ได้ เพราะคุณหนูใหญ่ตระกูลซูจะปกป้องพวกเขา! ”

พวกบอดี้การ์ดกล่าว

“เชอะ คุณหนูใหญ่ตระกูลซู ฉันยังเป็น..…..…….

ส่วนหญิงสาวคนนั้นค่อยๆลุกขึ้นยืน จากนั้นกำลังจะพูดด้วย ความโมโห
แต่ถูกโกวเฉียงรั้งเธอไว้ด้วยสายตาได้ ในเมื่อคุณหนูใหญ่

ตระกูลออกหน้าแล้ว พวกเราตระกูลโกวก็จะไว้หน้าสักครั้งหนึ่ง

และอีกอย่างก็แค่หมาไม่กี่ตัวเอง ปล่อยก็ปล่อย!”

โกวเฉียงพยักหน้ายิ้ม

จากนั้นประคองหญิงสาวจากไป

เพียงแต่ตอนที่เดินเข้าใกล้เงินเกอ โกวเฉียงก็กระซิบพูดว่า “พี่ น้อง ค่อยดูแล้วกัน นายต้องร้องไห้ฟูมฟายแน่ๆ!

จากนั้นพวกเขาก็จากไป

“คุณอาท่านนี้ครับ ในบัตรนี้มีเงินสองแสนหยวน คุณหนูของ พวกเรามอบให้ท่าน ถือว่าซื้อหยกชิ้นนี้ครับ

บอดี้การ์ดเปิดกระเป๋าออกมามีเงินสดจำนวนสองแสนหยวน

“ไปรักษาตัวลูกสาวของคุณก่อนครับ คุณชายโกวจะไม่มาสร้าง

ปัญหาให้แก่พวกคุณอีกแล้วครับ!

“ขอบคุณครับ ขอบคุณคุณที่ช่วยชีวิตไว้ครับ

ชายวัยกลางคนคิดจะคำนับด้วยความซาบซึ้ง แต่ถูกห้ามไว้

ส่วนเฉินเกอก็รู้สึกซาบซึ้งใจ รู้สึกดีต่อคุณหนูใหญ่ตระกูลซ มากมาย

ผู้ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆก็คือหญิงสาวสองคนที่สวมใส่ หน้ากากอนามัยไว้

เป็นสองหญิงงามที่เดินเล่นอยู่ที่ถนนเมื่อสักครู่นี้นี่เอง
ขบวนรถของพวกเธอมาถึงข้างๆพวกเธอแล้ว

เมื่อสักครู่นี้เธอกับน้องสาวมาที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม

ผู้คนจึงแตกกระจายห่างออกไปกันหมดเลย เมื่อมาสังเกตดูก็พบว่า ที่แท้โกวเฉียงคว้าปืนเตรียมจะยิงวัย รุ่นคนหนึ่ง

หลังจากที่สอบถามคนข้างๆ จึงรู้เรื่องราวความเป็นมาอย่าง คร่าวๆ

ซูจรีบสั่งให้ลูกน้องไปห้ามไว้

จึงมีเหตุการณ์อย่างตอนนี้

เธอมีจิตใจที่ดีงาม เห็นคนลำบากก็จะช่วยเท่าที่จะช่วยได้ เฉินเกอจึงรู้สึกซาบซึ้งในการพิทักษ์คุณธรรมของหญิงสาวผู้นี้

มาก

ได้ยินบอดี้การ์ดพูดถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลซ

รีบหันหลังไปมองผ่านผู้คนมากมายก็เห็นซู

ซูน กำลังสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ จากนั้นก็สบตาเฉินเกอ แล้วพยักหน้าให้

จากนั้นก็หันหลังเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับน้องสาว

ไม่ได้สังเกตเห็นว่า บัดนี้ เมื่อเป็นเกอเห็นเธอสมองก็โล่งโปร่ง และตื่นเต้นจนตัวสั่นทั้งตัว
เพราะดวงตาและรูปร่างของหญิงสาวคนนี้ เฉินเกอเห็นอย่าง ชัดเจน จึงรู้สึกคุ้นเคยและไม่มีวันลืมเลือน

“มหาน!

ในที่สุดเฉินเกอก็พูดสองพยางค์นี้ออกมาด้วยสีหน้าไม่อยาก

น่าเชื่อ

เพราะหญิงสาวรายนี้ก็คือซูมู่หาน

ส่วนหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ยินแม้แต่น้อย

เมื่อสตาร์ทเครื่องก็ออกไปอย่างรวดเร็ว

“มู่หาน!

เฉินเกอมองรถที่ขับไปไกล จากนั้นก็รีบวิ่งตามไป……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ