ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่173 สูทสองตัวของเงินเกือ



บทที่173 สูทสองตัวของเงินเกือ

ตอน เงินเกยกับหยาง มาถึง หม่าเชียวหยุนพี่ของหม่าเสี่ยวหนานก็มารออยู่ก่อนแล้ว

รวมถึงที่ปรึกษาเพิ่งไฉ่ หรูหานเฟยเอ๋อและตู้เยว่ นอกจากนี้ที่ นั่งอยู่ข้างๆ หม่าเซียวหยุนเป็นชายวัยรุ่นอายุยี่สิบปลายๆ สวมชุด สูทรองเท้าหนัง

คาแรคเตอร์ภายนอกของหม่าเชียวหยุนค่อนข้างเป็นผู้หญิง

และพอจะมีหน้ามีตาในสังคมอยู่ระดับหนึ่ง

เฉินเกอและหยางฮุยเคยพบกับเธอไม่น้อยครั้ง แต่จะพูดยังไง ดีล่ะ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างถือตัวและผยองทีเดียว ที่หางาน พาร์ทไทม์ให้พวกเฉินเกอท่า ล้วนเป็นเพราะรักษาหน้าหมาเสียว หนานทั้งเพ ส่วนเงินเกือกับหยางฮุย จริงๆแล้วเธอไม่คิดแม้แต่ จะแลหางตาเสียด้วยซ้ำ

“นั่งสิพวกเธอ!”

หม่าเชียวหยุนเอ่ยเสียงเรียบ

เฉินเกอจึงนั่งลง

“เรื่องเมื่อคืนนี้เล่นเอาทุกคนเหงื่อตกกันไม่น้อยเลยทีเดียว อีก เดี๋ยวฉันคงต้องชนแก้วกับทุกคนหน่อยล่ะ แล้วนอกจากนี้ฉันอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักสักหน่อย เขาชื่อเพิ่งขึ้น เป็นเพื่อนฉัน สมัยมอปลาย หรือเป็นหัวหน้าทีมสืบสวนของจินหลง! และก็เป็น คนที่ฉันโทรไปหานั่นเอง”

“อ๊ะ! สวัสดีค่ะพี่เพิ่งปืน ขอบคุณนะคะที่ช่วยพวกเราไว้ แค่ได้ยินถึงตำแหน่ง ตู้เยว่ก็อดระริกระรี้ไม่ได้

“อย่าเกรงใจเลยครับ นี่เป็นหน้าที่ของผม แล้วก็อยากจะบอก ข่าววงในสักหน่อย อาชญากรรมเมื่อคืนนี้อยู่ในการสอบสวน ของพวกเราแล้ว แถมยังได้สืบสาวไปถึงคดีใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังค นพวกนั้นด้วย พูดแล้วผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอบคุณพวก คุณ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวายร้ายตัวใหญ่อย่างจูเจียงจะ โผล่ออกมาอีกเมื่อไหร่!

เพิ่งปินกล่าวยิ้มๆ

“เสี่ยวหนาน ดูเพื่อนเรารู้จักพูดขนาดไหน รีบชนแก้วกับผู้มี พระคุณของเราสิ!”

หมาเชียวหยุนเห็นน้องสาวตัวเองไม่เป็นงาน จึงรีบส่ง

สัญญาณ

“อ้อๆ นอกจากหัวหน้าเพิ่งแล้ว วันนี้หนูยังต้องขอบคุณเฉินเก อด้วย ถ้าไม่มีเขาก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

หม่าเสี่ยวหนานว่า

ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นเพราะว่าได้เงินเกอเป็นคนป่าวประกาศ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็คงไม่มีตอนต่อไป
“เสี่ยวหนาน ทําอะไรของเธอ! พี่ให้ขอบคุณหัวหน้าเมิง เธอไป ขอบคุณเฉินเกอทำไม?” หม่าเขียวหยุนซักอารมณ์ไม่ดี

“ใช่ ไอโง่นี่มันได้ทำอะไรหรือไง? มันยังมีหน้าพูดเลยไม่ใช่ หรอว่าเตรียมตัวจะแจ้งตำรวจ สงสัยตอนนั้นคงตกใจจนสมอง ซื้อไปแล้วมั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เซียวหยุนรู้เรื่องทันการณ์แล้วรีบ บอกหัวหน้าเมิงพาพวกตำรวจมา ไม่งั้นพวกเราก็จบเห่ไปแล้ว!”

ตู้เยวว่า

ในขณะที่เพิ่งปืนทำเพียงส่ายหน้ายิ้มขึ้น

“พูดถูก ถ้าจะขอบคุณ เราควรขอบคุณพี่หยุนกับหัวหน้าเพิ่ง หนูขอชนแก้วชาเป็นการขอบคุณแทนนะคะ เป็นเพราะหนูไม่ได้ ดูแลพวกเสียวหนานให้ดี หมดแก้วเป็นการขอโทษค่ะ!”

เพิ่งไฉ่หรูพูดยิ้มๆ

ทุกคนต่างแสดงออกชัดว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรเฉินเกอ

แต่ว่าหมาเสียวหนาน

ความจริงแล้วเธอก็รู้สึกสงสัยอยู่

เธอรู้สึกว่าตลอดทั้งเหตุการณ์เพิ่งปืนอะไรนี่ไม่ได้โผล่หน้ามา เลยสักครั้ง แถมไปหลางที่เจอเมื่อวานนี้ไม่ว่าจะพูดถึงออร่าหรือ ความสามารถก็ล้วนเก่งกว่าเพิ่งขึ้นด้วยซ้ำไป

ดังนั้นหม่าเสี่ยวหนานจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง รวมทั้งภาพที่ทุกคนต่างหัวเราะเยาะเฉินเกอ ทำให้หมาเสียวนานยิ่งทนต่อไปไม่ได้

“เสี่ยวหนาน พี่รู้ว่าเธอกับเงินเทอสนิทกัน เอาอย่างงี้กลับไป พี่จะลองถามคนรู้จักให้ช่วยหาที่ฝึกงาน สวัสดิการดีๆ ให้เงินเก อแล้วกัน!”

หมาเขียวหยุนไม่อยากให้น้องสาวต้องขายขี้หน้า จึงพูดขึ้นต่อ “จริงๆนะคะพี่? สวัสดิการแล้วต้องให้เงินเดือนด้วยได้ไหม

คะ?”

หม่าเสี่ยวหนานพูด

“อันนี้ก็ยากหน่อยนะ ความต้องการของตลาดตอนนี้ ยกเว้น แต่ว่าจะเป็นคนที่มีความสามารถหน่อยบริษัทถึงจะให้เงิน แต่ เงินเทอน่ะ อะแฮ่ม คงหายากอยู่หรอก แต่พี่จะพยายามแล้ว กัน! ”

เห็นชัดเจนว่าเธอกำลังพูดว่าเฉินเกอไม่มีความสามารถ

“จริงค่ะ จะให้พี่หยุนหาบริษัทที่ต้องใช้ความสามารถ บริษัท พวกนั้นการแข่งขันสูงจะตาย ขึ้นฝากเงินเกอเข้าไปก็ดีแต่ไปเป็น ภาวะชาวบ้าน!”

ตู้เยว่ได้โอกาสเข้ามาเสริม

“ใช่ค่ะ นิสัยอย่างเฉินเกอเนี่ย ให้เข้าไปทำเอกสารแบบถูๆ ไถๆก็พอได้ แต่ด้านอื่นไม่เวิร์กจริงๆแหละ นี่พูดกันตามความจริง ก่อนหน้านี้หนูกับที่ปรึกษาก็ยังเคยพูดกันอยู่เลย!”
หานเฟยเอ๋อส่ายหน้าหัวเราะแห้ง

เฉินเกองฟังก์ไฟลุกหัวจนอยากจะระเบิด แม่งเอ้ย เป็นทุกครั้ง ถ้าไม่พูดถึงเขาคงไม่รู้จะคุยอะไรกัน แล้วมั้ง?

ถึงเมื่อก่อนเขาจะอๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาโง่สักหน่อย ทำไมต้องทำตัวซื่อๆ? คนไม่มีเงินไม่มีอำนาจ มันก็ไม่มีทาง เลือกนอกจากต้องซื่อสัตย์

เงินกอนั่งเงียบไม่ซื้อไม่ถือ แต่เวลานี้โทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้นพอดี เขาเหลือบมองจึงเห็นว่าเป็นพี่สาวโทรมา เงินเกอรีบเดินออกไปรับโทรศัพท์

“มีอะไร ?”

“ยังไหมน้องชาย? ฉันมีอะไรจะคุยกับนายหน่อย ผู้ดูแลบ้าน กับลูกน้องฉันจะมาถึงจินหลงก่อนกำหนด นายช่วยหาคนไปรับ พวกเขาหน่อย ฉันใช้หลี่เฉินกั๋วกับจ้าวอชิงไปทำงานอื่นแล้ว นายส่ง ใครก็ได้ไปรับที่สนามบินแล้วก็หาที่พักให้พวกเขาหน่อย ละกัน!!

“อ่อ ได้ครับ!” เฉินเกอพยักหน้า

พูดตามจริง นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเกอได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนใน ครอบครัว
“ๆ มะรืนพี่ก็ถึงที่นั่นแล้ว เราสองพี่น้องจะได้เจอกันสักที!

เฉินเสี่ยวพูดและเสียงหัวเราะ และแน่นอนว่าเงินเกอเองก็คิดถึงพี่สาวเช่นกัน พูดกันต่ออีกนิดหน่อย เงินเกือก็วางสายไป หลี่เฉินกั๋วกับจ้าวจื่อซึ่งก็ยุ่ง เฉินเกอจึงไม่กล้าไปรบกวน

งั้นให้ใครไปล่ะ?

เหอๆ คิดๆดูแล้ว ถึงยังไงที่นี่ก็มีพวกหานเฟยเอ๋ออยู่ เขาก็ พลอยไม่อยากกินข้าวที่นี่แล้ว

งั้นเขาไปรับเองเลยแล้วกัน

ยังไงก็เป็นถึงผู้ดูแลบ้านของพี่

ดังนั้นเฉินเกอจึงเข้าไปลาหมาเสียวหนาน เพราะติดธุระนิด หน่อยจึงขอตัวกลับก่อน

“อีตาเฉินเกอ ยุ่งกับเขาเป็นด้วยหรอ!”

หมาเชียวหยุนไม่พอใจนิดๆ

คนอย่างหม่าเชียวหยุนเชิญเขามากินข้าวก็นับว่าเห็นแก่หน้า เขามากแล้ว เหอะๆ ยังอาจบอกว่ามีธุระขอตัวกลับก่อน

“ไอ้หมอนั่นน่ะ ทนอยู่ต่อไม่ได้มากกว่า จริงสิคะพี่เพิ่งปืน ตกลงว่าพี่ชายผมขาวสุดหล่อคนนั้นตำแหน่งอะไรหรอคะ?

ตู้เยวถือโอกาสนี้พูดขึ้น
“เหอๆ พูดจริงๆนะ ตลอดเวลาที่เราคุยกันมีแต่ประเด็น แปลกๆ พวกเธอพูดถึงอะไรรถไม่บัค หนุ่มผมขาวรูปหล่อเย็นขา พวกตำรวจแบบเราจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?”

เพิ่งปืนเริ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูก

ความจริงเมื่อเขาได้ยินความไม่ถูกต้องบางอย่าง เมื่อคืนนี้ พวกตำรวจออกปฏิบัติหน้าที่จริงๆไม่ผิด

ได้ยินว่าผู้กํากับที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่เข้ามาตรวจสอบด้วย เช่นกัน

พวกตำรวจเคลื่อนไหวกันเป็นว่าเล่น

ณ เวลานั้น เมิ่งปืนได้รับโทรศัพท์จากหม่าเชียวหยุนพอดี เธอ บอกว่าน้องสาวถูกลักพาตัวผู้เสียหายทั้งหมดเป็นผู้หญิงสี่คน อะไรทำนองนี้

เพิ่งบินได้ยินก็คิดว่า นี่มันไม่ต่างอะไรกับคดีใหญ่ที่พวกตำรวจ กำลังชุลมุนอยู่เลยนี่?

เพราะแบบนั้นเขาจึงได้พากำลังเสริมออกไป

แต่พอเขากับทีมตำรวจไปถึง พวกผู้ร้ายก็ติดอยู่ในแหอย่าง หมดสภาพพร้อมให้เขาจับ ไหนจะตัวประกันที่ถูกช่วยไว้แล้วอีก

ส่วนเรื่องที่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นี่ไม่ใช่ประเด็นที่เขาจะรู้ได้ เพราะงั้นอาหารมื้อนี้เขาจึงมากินแบบงงๆ

ไม่งั้นก่อนหน้านี้ทำไมเขาถึงได้ยิ้มขึ้นแบบเก้ๆกังๆล่ะ
ถึงตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่าที่แท้มีคนสองกลุ่มที่มาช่วย เขา แต่ไปเก็บแหเฉยๆ

“อ้ะ? ไม่ใช่คนของพวกตำรวจหรอคะ? ฉันว่าก็น่าจะใช่แหละ ถึงขนาดขับไมบัติโยขนาดนั้นได้!” เยาเซ็งไปทันที

“หัวหน้าเพิ่ง งั้นแสดงว่าไม่ใช่พวกตำรวจที่มาช่วยเราหรอก หรอคะ?” เมิงไฉ่หรูเองก็ประหลาดใจ เรื่องแค่นี้ทำไมต้องทำจน วุ่นวายแบบนี้ด้วย!

“ถ้าพูดกันตามหลักจริงๆแล้ว ไม่ใช่ เพราะตอนที่พวกเราไป ถึงที่นั่น พวกเธอก็ได้รับการช่วยเหลือแล้ว!” เพิ่งปืนอธิบายให้ฟัง ยิ้มๆ

เขาไม่ได้อธิบายอย่างละเอียด แต่ได้เล่าภาพรวมทั้งหมดให้ พวกเธอฟัง

เรื่องแบบนี้ เขาไม่จำเป็นต้องอาศัยแรงคนอื่นเพื่อเอาหน้า

“อ๊ะ? คุยกันมาครึ่งค่อนวัน สรุปว่ามีคนมาช่วยเราโดย เฉพาะหรอคะ? ใครกัน?” สาวๆทั้งสี่ต่างพากันตกใจอีกครั้ง และ ตอนนี้โทรศัพท์ของหานเฟยเอ๋อก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล ใครคะ?”

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์จากเค้าท์ เตอร์แบรนด์เร็กซ์สูทที่คุณผู้หญิงได้ซื้อไปเมื่อวาน อย่างนี้ค่ะ เมื่อ วานนี้ที่คุณผู้หญิงมาซื้อสูทไปให้แฟน จากนั้นตอนกลางคืนแฟน ของคุณก็มาที่ร้านเพื่อซื้อสูทแบบเดียวกันสีเดียวกันกับที่คุณซื้อไปอีกตัว แต่พอ ตอนนั้นทางร้านเหลือแค่ไซส์เอส เรา ก็เลย ขายตัวนั้นให้เขาไปก่อน วันนี้ไซส์แอลที่แฟนคุณต้องการมาถึง ร้านแล้วค่ะ จะเข้ามาเปลี่ยนไหมคะ ตอนนั้นแฟนของคุณดู ท่าทางรีบร้อนมาก ก็เลยไม่ได้ทิ้งเบอร์ติดต่อเอาไว้

“แฟนฉัน? คุณกำลังหมายถึงอิตาเงินเกอนั่นมั้งคะ? หมอนั่น ไม่ใช่แฟนฉันค่ะ? อีกอย่างอีตานั่นจะซื้อสูทไปทำไมสองตัว?

หานเฟยเอ๋องงไปหมดแล้ว

เพิ่งไฉ่หรูที่ได้ยินเสียงพนักงานคอลเซ็นเตอร์อย่างชัดเจนก็อึ้ง ตามไปติดๆ

“กำลังจะบอกว่า สูทของเฉินเกอเมื่อคืน ไม่ใช่ตัวที่เฟยเอ๋อซื้อ ให้ แต่หมอนั่นตั้งใจหลอกพวกเรา! แต่ทำไมเขาต้องหลอกเรา ด้วย? งั้นตัวที่อยู่บนรถเมื่อคืน…หรือว่าเป็น….

จู่ๆเพิ่งไฉ่หรูก็ร้องตกใจออกมา…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ