ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่826 ลอง



บทที่826 ลอง

ณ สหภาพแรงงาน

เหอเฉิงพาเฉินเกอเดินเข้ามา และมาถึงที่ห้องโถง

และคนที่มาต้อนรับเป็นชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดเหมือนเหอเฉิง และรอบข้างของชายคนนี้ก็มีชายหนุ่มเดินติดตามมาด้วย “อาจารย์เหอเฉิง ดูเหมือนว่าคุณจะรับลูกศิษย์แล้วเช่นกัน

Ĥ! ”

อีกฝ่ายแสดงรอยยิ้มและทักทายเหอเฉิงทันที

“อาจารย์เกาเล่ คุณจะไปที่ไหนเหรอ? ”

คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มีชื่อว่าเกาเล่ เป็นปรมาจารย์ชั้นที่สอง ของสหภาพแรงงาน เหมือนเหอเฉิง และทั้งสองคนก็เป็นศิษย์พี่ น้องกัน

เพียงแต่ว่าเกาเลได้รับลูกศิษย์ของเขาเร็วกว่าเหอเฉิงมาก “เหอะๆ อาจารย์เกาเล่ นี่คุณกำลังจะไปที่ไหนเหรอ?”

เหอเฉิงยิ้มจางๆ และตอบกลับเกาเล่

“อาจารย์เหอเฉิง ลูกศิษย์ของฉันสร้างเวทย์ระดับกลางได้ และฉันจะพาเขาไปหาอาจารย์จงเฉิง เพื่อมอบตำแหน่งฉายาผู้ ฝึกชั้นที่หนึ่ง ให้เขา! ”
เกาเล่บอกให้เหอเฉิงฟังด้วยท่าทีที่ได้ใจ

ภายในสหภาพแรงงานแบ่งเป็นทั้งหมดสี่ระดับได้แก่ ผู้ฝึก นักสร้าง ปรมาจารย์ และปรมาจารย์ใหญ่

ต้องได้รับการยอมรับจากอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนถึงจะมีสิทธิ์ได้ รับตำแหน่งฉายาผู้ฝึก และหลังจากได้รับฉายาผู้ฝึก ก็เท่ากับ มีสถานที่ในสหภาพแรงงาน และมีสัญลักษณ์ในสถานะ

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราเล่ถึงได้ใจและตื่นเต้นมาก ขนาดนี้

เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมานี้ เกาเล่ได้รับลูกศิษย์แต่แรกแล้ว ส่วนเหอเฉิงกลับไม่มีคนที่ทำให้เขาถูกใจ จึงล้าหลังไปมากเป็น เรื่องธรรมดา

และตอนนี้ลูกศิษย์ของเกาเลก็กำลังจะได้รับฉายาเป็นผู้ฝึก

ชั้นที่หนึ่งแล้ว ส่วนเหอเฉิงนั้นเขาเพิ่งจะได้รับลูกศิษย์

และนี่ก็ทำให้เกาเลดูถูกเหอเฉิงเล็กน้อย และรู้สึกว่าเหอเฉิง แตกต่างกับตัวเองมากเกินไป

“ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีด้วย อาจารย์เกาเล่ แต่ว่าลูกศิษย์ของฉันก็ จะได้รับฉายาผู้ฝึกชั้นที่หนึ่งในเร็วๆนี้!

เหอเฉิงย้อนตอบกลับเกาเลอย่างแผ่วเบาโดยไม่ยอมแสดงว่า ด้อยกว่า คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ และนั้นก็มาจาก ความเชื่อมั่นที่มีต่อเฉินเกอที่อยู่ด้านข้างของเขา

เพราะในสายตาของเหอเฉิง เฉินเกอมีพรสวรรค์มากกว่าลูกศิษย์ของเกาเล่มาก และสามารถเหนือกว่าลูกศิษย์ของเกาเลใต้ อย่างแน่นอน

“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอดู และเมื่อถึงเวลาเราสองคน สามารถประลองกันดูได้ ดูสิว่าลูกศิษย์ของคุณสุดยอดหรือลูก ศิษย์ของฉันสุดยอด! ”

เกาเล่เองก็ส่งหนังสือท้าการประลองให้กับเหอเฉิงล่วงหน้า

ก่อน

“แน่นอน! ”

เหอเฉิงไม่ลังเลที่จะไม่ปฏิเสธ และยอมรับหนังสือการท้า ประลอง โดยตรง

พูดจบ เกาเล่ก็พาลูกศิษย์ของเขาเดินจากไป

หลังจากที่เกาเล่จากไปแล้ว เฉินเกอก็ถามขึ้นด้วยความ สงสัย : “อาจารย์ ทำไมท่านถึงมีความมั่นใจในตัวของผมแบบ

เหอเฉิงฉีกยิ้ม แล้วอ้าปากอธิบาย : “เพราะฉันเชื่อว่าคุณ ทําได้อย่างแน่นอน คุณมีพรสวรรค์มาก และสามารถเป็น ปรมาจารย์ได้แน่นอน!

เมื่อได้ยินเหอเฉิงชื่นชมตัวเองขนาดนี้ ทำให้เฉินเกอรู้สึกเขิน อายเล็กน้อย

นี่ยังไม่ได้เริ่มเรียนรู้กันเลย เหอเฉิงก็มีความคาดหวังและ มั่นใจในตัวเองมากขนาดนี้ แบบนี้เขาต้องตั้งใจฝึกฝนจริง ๆ แล้วและจะไม่ทำให้เหอเฉิงผิดหวังเด็ดขาด มิฉะนั้นจะทำให้เหอเฉิง ขายหน้าในสหภาพแรงงานได้ อีกอย่างเฉินเธอก็ไม่อยากให้เห อเฉิงต้องขายหน้า ดังนั้นเขาต้องเหนือกว่าลูกศิษย์ของเกาเล่ให้ ได้

ต่อมา เหอเฉิงก็ช่วยเฉินเกอลงชื่อที่สหภาพแรงงาน และได้ รับตราสัญญาลักษณ์สมาชิกของสหภาพ และเหอเฉิงก็ช่วยติดไว้ ที่หน้าอกของเฉินเกอด้วยตัวของเขาเอง

เมื่อเห็นตราสัญญาลักษณ์สีทองที่ส่องแสงประกาย ภายใน ใจของเฉินเกอก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

เพราะว่ามันเป็นตราสำหรับสมาชิกของสหภาพแรงงาน และ เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เหอเฉิง อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้และ ฝึกฝนการสร้างสู้เวทย์ด้วย

“เฉินเกอ ช่วงเวลาต่อจากนี้คุณก็พักอาศัยอยู่ที่ของฉันก่อน และฉันจะสอนเกี่ยวกับฮูเวทย์และความรู้ในการเดินเส้นขั้นพื้น ฐานกับคุณก่อน! ”

“แม้ว่าคุณจะมีพรสวรรค์มาก แต่ยังมีอะไรบางอย่างที่ต้องมา เรียนรู้ในภายหลัง และพรสวรรค์ก็เป็นเพียงแค่ข้อดีเท่านั้น สิ่งที่ คุณต้องเรียนยังมีอีกเยอะ อย่าทะนงตัวเกินไป เข้าใจไหม? ”

อาจารย์เหอเฉิงมองไปที่เฉินเกอและเล่าอย่างจริงใจ พร้อมกับ ให้คําแนะนํา

“ครับ อาจารย์เหอเฉิง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะทำตามคำสอนของ คุณอย่างแน่นอน และตั้งใจฝึกฝนการสร้างเวทย์ และจะไม่ทำให้ท่านต้องอาบอายขายหน้าแน่นอน!

เงินเกือกล่าวและมองไปที่อาจารย์เหอเฉิงด้วยสีหน้าที่แน่วแน่ อาจารย์เหอเฉิงมีความมั่นใจในตัวของเขาอย่างมาก และ แน่นอนว่าเงินเกอเองก็จะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง

พูดจบ เหอเฉิงก็พาเฉินเกอกลับไปยังที่พักอาศัยของตัวเอง และเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการสอนให้เขา

เวลาผ่านไปไวมาก และช่วงเวลาไม่กี่วันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาที่เฉินเกออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของเหอเฉิง โจวโน่ เคยมาหาเงินเกอหลายครั้ง เพื่อดูว่าสถานการณ์ของเฉินเกอเป็น อย่างไรบ้าง

ในวันนี้ เฉินเกอนั่งฝึกฝนอยู่ที่สวนคนเดียว

และในช่วงเวลาสองสามวันที่ฝึกฝนมา เฉินเกอได้เรียนรู้การ สร้างฮู้เวทย์และการเดินเส้นขั้นพื้นฐานของเวทย์ทั้งหมดแล้ว

และเหอเฉิงเองก็รู้สึกประทับใจต่อการแสดงของเฉินเกอ เขา รู้สึกว่าตัวเองมองคนไม่มีจริง ๆ เฉินเกอมีพรสวรรค์ที่สูงมาก ภายในเพียงเวลาสั้นๆไม่กี่วันก็สามารถสร้างเวทย์ระดับกลาง ได้อย่างง่ายดาย และยังเป็นเวทย์ระดับกลางที่ดีที่สุดอีกด้วย ซึ่งทำให้เหอเฉิงรู้สึกประหลาดใจมาก

อย่างเมื่อก่อน ตอนที่เขาฝึกฝนการสร้างเวทย์นั้นไม่ได้มีพรสวรรค์อย่างเฉินเกอเลยด้วยซ้ำ และสามารถสร้างได้แค่ เฉพาะเวทย์ระดับกลางที่ปานกลางเท่านั้น

ตามคำพูดที่ว่า พรวรรค์คือได้รับการปลูกฝัง ส่วนอัจฉริยะคือ

ความคิดสร้างสรรค์

และเฉินเกอก็คืออัจฉริยะ ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเอง โดยการชี้แนะเขาเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังสามารถสร้างบางอย่าง ที่น่าเหลือเชื่อและประหลาดใจได้มากมาย

ในเวลานี้เอง เฉินเกอรีบหยิบปากกาหมึกแล้ววาดลงไปที่ กระดาษเวทย์ที่อยู่ตรงหน้าอย่ารวดเร็ว และสิ่งที่เขาวาดนั้นก็ คือลายมังกรทอง และลายมังกรทองนี้เฉินเกอเห็นมาจากหนังสือ ฮูเวทย์เก่าเล่มหนึ่ง และรู้สึกว่าลึกลับและมีความท้าทายมาก ดัง นั้นจึงตัดสินใจลองท้าทายและวาดดู

และหนังสือเล่มเก่านั้นเป็นหนังสือที่เหอเฉิงให้เขาเพื่อนำมา ฝึกฝน และภาพวาดสู้เวทย์ขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่เฉินเกอก็ได้เรียน รู้มันแล้ว นอกจากเวทย์ระดับสุดยอด ซึ่งลายมังกรทองนี้ก็คือ ส่วนหนึ่งในตู้เวทย์ระดับสุดยอดนั่นเอง

เฉินเกอเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเวทย์ระดับสุดยอด เป็นเวทย์ที่สร้างยากมากที่สุด เพราะว่าต้องใช้ทักษะและจังหวะ ที่พิถีพิถันและแปลกประหลาดมากที่สุด ดังนั้นในปัจจุบันจึงไม่มี ใครสามารถสร้างเวทย์ระดับสุดยอดได้

แต่ว่าเฉินเกอไม่เชื่อเรื่องนี้ เขารู้สึกว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ ไม่สามารถเหนือกว่าได้ เพียงแต่ว่ายังหาวิธีไม่เจอเท่านั้นเอง
“A! ”

การทดลองครั้งแรกจบลง เฉินเกอโยนภาพวาดช้เวทย์ลาย ลายมังกรทองที่วาดเสร็จแล้ว ในมือของตัวเองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ฮู้เวทย์กลายเป็นสีทองทันทีและหายไปในอากาศ

ครั้งที่หนึ่ง ทำไม่สำเร็จ

“ไม่สิ ต้องเป็นเพราะการเดินเส้นไม่ถูกต้องแน่เลย ฉันจะลอง ทดลองต่ออีกหน่อย!

เฉินเกอไม่ได้ยอมแพ้ และรีบวิเคราะห์ในทันที จากนั้นก็เริ่ม ลงมือวาดมันขึ้นมาอีกครั้ง

ผ่านไปไม่กี่นาที เขาก็วาดเสร็จ แล้วโยนเวทย์ขึ้นไปบน ท้องฟ้าอีกครั้ง

เหมือนเดิม ฮูเวทย์กลายเป็นสีทองและหายไปในอากาศ แต่ แสงสีทอง ในรอบนี้มีความสง่ามากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และ พัฒนาได้ดีกว่ารอบแรกมาก

เมื่อเห็นเช่นนี้ ทำให้เฉินเกอรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เขารู้สึกว่า เขาค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และถ้าเขาพยายามต่อไปเขาจะทำ มันสำเร็จแน่นอน หลังจากที่เฉินเกอไตร่ตรองเสร็จ เขาก็เริ่ม ลงมือวาดมันเป็นครั้งที่สามต่อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ