ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 63 เกิดเรื่องแล้ว



บทที่ 63 เกิดเรื่องแล้ว

คนที่ลุกขึ้นมา คือสวีเสีย

เวลานี้ในใจเธอซับซ้อนมาก

เธอรู้แค่ว่าเฉินเกอเป็นพี่น้องที่ดีของหยางฮุย

แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจริงๆแล้วจะลึกลับ ซับซ้อนมากขนาดนี้ หรือพูดอีกแบบหนึ่งคือหลอกลวง พวกเธอมานานขนาดนี้

ดังนั้น เธอจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องพูดเรื่องหนึ่งที่ตัว เองรู้ออกมา

และเรื่องนี้ หยางฮุยก็เป็นคนบอกเธอเอง

“มีผู้หญิงคนหนึ่งซื้อเสื้อผ้าให้เฉินเกอ และใช้เงิน ไปหลายแสน ชุดที่ฉันสวมในวันนี้ ก็เป็นผู้หญิงคนนั้น มอบให้เฉินเกอ แล้วเฉินเกอก็มอบให้หยางฮุย!”

“สวีเสียคุณพูดอะไรน่ะ!”

หยางฮุยรีบร้อนเล็กน้อย

พูดตามตรง เมื่อก่อนมีครั้งหนึ่งที่หยางฮุยเคยอำ สวีเสียเรื่องดังกล่าว

บอกว่าพี่น้องของฉันเฉินเกอที่จริงแล้วมีผู้หญิง เปย์ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ โดยไม่กะพริบตาเลยด้วยซ้ำ เหอะๆ หรือว่าเฉินเกอจะถูกเลี้ยงดู ฉันก็อยากถูกเลี้ยงดู เหมือนกัน
นายกล้าเหรอ ถ้าหากว่ามีผู้หญิงปฏิบัติต่อนายดี ขนาดนั้น ฉันจะตอนนายซะ!

ตอนนั้นสวีเสียดด่าด้วยความโกรธ

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องล้อเล่น ไม่มีใครจริงจัง

แต่ตอนนี้ล่ะ เมื่อรวบรวมเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา รวมกับตอนนี้ที่หลินเจียวได้เห็นบางอย่างด้วยตาตัวเอง สวีเสียจึงเชื่อจริงๆแล้วว่า

เฉินเกอถูกเลี้ยงดู!

หยางฮุยที่ยังกลัวว่าเฉินเกอจะกลายเป็นเป้า สาธารณะ จึงรีบห้ามสวีเสีย ไม่ให้พูดจาไร้สาระ!

“ห์ ๆ ยีฟาน ฉันไม่ได้โกหกคุณสินะ ใช้เงินเหมือน โคลนตั้งหลายแสน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเฉินเกอยังเคย รูดซื้อกระเป๋าใบละ 360,000 มาก่อน ยังไม่รู้ว่าผู้หญิง คนไหนให้เขาอีก!”

“แล้วนี่เฉินเกอใช้เงินพวกนี้ไปทำอะไรล่ะ? นั่นก็ คือคิดจะตกคุณจ้าวยีฟานเขาอยากให้คุณเทพธิดาย ฟานตามจีบเขา! สุดท้ายก็ให้คุณมอบตัวเองออกไปให้ เขาด้วยความเต็มใจ!”

หลินเจียวพูดเสียงเย็น

หากว่าไม่ใช่เพราะวันนั้นได้เห็นเจิ้งยวี่ปฏิบัติดีต่อ เขาขนาดนั้นด้วยตาตัวเอง แล้วยังปกป้องดูแลกันขนาด นั้น แล้วพูดว่าเฉินเกอถูกเลี้ยงดู หลินเจียวก็คงไม่เชื่อ เช่นกัน
แต่ตอนนี้ เธอเชื่อแล้ว!

เฉินเกอเจ้าเล่ห์เกินไปแล้วจริงๆ

“อะไรนะ!”

จ้าวยีฟานถูกคำพูดเหล่านี้ทำให้ตกใจจนหน้าซีด สาวๆคนอื่นก็ตกตะลึงครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน

“เฮ้ย ปรากฏว่าเฉินกลับหลังยังติดต่อกับสาวๆ มากมายขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ รู้แค่ว่าเขาเป็น คนใสซื่อมากและเรียบร้อยมาก!”

“ใช่ แต่พอคิดดูพวกเราก็โง่จริงๆ ถ้าเฉินเกอเป็น เศรษฐีรุ่นสองจริงๆ เขาจะยังเป็นแบบตอนนี้ได้เหรอ? เขาอยากจะได้ผู้หญิงแบบไหนแล้วไม่ได้บ้าง?”

“อืมๆ ถ้าหากว่าเป็นแมงดา ทุกอย่างก็พูดได้ว่า สมเหตุสมผลแล้ว นี่คือสไตล์ของเฉินเกอที่ถูกคนอื่น เลี้ยงดู ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาไร้เดียงสาและน่าสงสาร จริงๆแล้วข้างใจเน่าเฟะมาก ฤย ไอ้ขยะ!”

สายตาของสาวๆกลุ่มหนึ่งเปลี่ยนไปทันที

เฉินเกอหัวเราะขมขื่นอยู่ในใจครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาแปลกใจมาก

แปลกใจในสองจุด

หนึ่งคือเขาก็คิดไม่ถึงว่าทำไมตัวเองถึงทำให้ หลินเจียวและพวกจ้าวยีฟานกังวลขนาดนี้ และหลินเจียวยังตรวจสอบตัวเองไปทั่ว

ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะตัวเองเป็นคนหนึ่งที่ถูก พวกเธอดูถูก แต่กลับเป็นคนที่ร่ำรวยในชั่วข้ามคืน จึง ทำให้พวกเธอยากจะยอมรับ

อย่างที่สองคือ เฉินเกอรู้สึกแปลกใจมากจริงๆกับ ความสามารถในการใช้เหตุผลของหลินเจียว

เรื่องราวบางอย่างที่เรียบง่ายมากๆ ล้วนถูกหลิน เจียวโยงเอามารวมกันได้

เฉินเกอจึงคิดที่จะอธิบายสักหน่อย

เจิ้งยวี่เป็นเพียงพนักงานคนหนึ่งของวิลล่า และ หลินยียี ก็เป็นลูกสาวของลูกน้องตัวเองเช่นกัน ส่วนคน ที่ซื้อกระเป๋าให้ตัวเองด้วยบัตรวีไอพี นั่นก็เป็นพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง

แต่ว่า เมื่อคำอธิบายเหล่านี้ออกมา

หลินเจียวจะต้องไม่เชื่ออย่างแน่นอน แถมยังดูถูก แม้กระทั่งพี่สาวของตัวเองก็ถูกดูถูก ถ้าหากว่ามีใครกล้ามาพูดจาดูถูกพี่สาวของตัว เอง เฉินเกอแน่นอนว่าทนไม่ไหวแล้ว

แต่นี่เป็นปาร์ตี้วันเกิดของแฟนสาวของพี่น้องที่ดี ของตัวเองอย่างหยางฮุย ตัวเองจะพูดอะไรทำอะไรก็ไม่ ดี

ดังนั้นตอนนี้เฉินเกอจึงสับสนมาก
คิดๆแล้ว ก็ช่างมันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ ใบขับขี่ของ ตัวเองก็จะมาแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ทุกอย่างก็คงจะหมด ปัญหาแล้ว!

เพราะเฉินเกอตัดสินใจแล้วว่า จะหงายไพ่!

“ทุกคนคิดยังไงกับผมเฉินเกอ ทุกคนจะคิด อย่างนั้นเลย ไม่ว่ายังไงผมเฉินเกอก็ไม่มีผิดอะไร!”

เฉินเกอเพียงแค่ตอบกลับประโยคหนึ่งเบาๆ แต่ประโยคนี้ ในสายตาของทุกคนคือการยอมรับ “ตึง!”

จ้าวยีฟานเตะเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลังด้วย ความโกรธ

ใช่สิวันนี้เธอจ้าวยีฟานต้องกลายเป็นตัวตลกที่ น่าขบขันที่สุดในฉากนี้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย!

เธอเกิดความรู้สึกดีๆต่อเฉินเกอจริงๆ เพราะเฉิน เกอเป็นคนดีจริงๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมั่นมาก อีกทั้งภูมิ หลังยังไม่ธรรมดา

การเป็นแฟนกัน ดูเหมือนว่าจะเป็นขั้นตอนที่ สามารถลองได้

ด้วยเหตุนี้ เธอจ้าวยีฟานจึงเริ่มก่อนโดยไม่ลังเล คิดจะดึงดูดความสนใจของเฉินเกอมาที่ตัวเองอีก ครั้ง

แต่กลายเป็นว่า…..แต่เป็น..โอ๊ย ไม่อยากจะพูดเลยด้วยซ้ำ!

“สวีเสียฉันจะไปห้องน้ำ!”

เธอไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว จึงหาข้ออ้างออกไป

ทันที

และหลินเจียวก็ตามไปด้วยความเป็นห่วงสุดท้าย แล้วที่จ้าวยีฟานเป็นเช่นตอนนี้ เธอก็มีส่วนที่จะต้องรับ

ผิดชอบ

ในห้อง คนทั้งหมดพากันเงียบกริบ

จมอยู่ในความเงียบกว่าสิบนาที

ในที่สุดก็เป็นหยางฮุยที่ทำลายความเงียบ: “ไม่ว่า ทุกคนจะคิดยังไง ยังไงในใจฉันก็เชื่อว่า เฉินเกอไม่ใช่ คนแบบนั้น!”

สิ่งที่เขาเคยพูดกับสวีเสียพวกนั้น ล้วนเป็นเรื่อง ล้อเล่นระหว่างคู่รักจริงๆ

คิดไม่ถึงว่าในสถานการณ์คับขันสวีเสียจะพูด ออกมาจริงๆ

“อืม พวกเราก็เชื่อเช่นกัน!” พวกหลี่ปินก็พยักหน้า ให้เฉินเกอเช่นกัน

“มาๆๆ ทุกคนหมดแก้ว!”

หยางฮุยพูดเสนอ

ปรากฏว่า นอกจากเพื่อนร่วมห้องของเฉินเกอ แล้ว ก็ไม่มีใครยกแล้วเลยสักคน
เฉินเกอก็อับอายมากเช่นกัน จ้าวยืฟานโกรธจน หนีไปแล้ว ตอนนี้ก็มาขั้นตอนนี้อีก

ปาร์ตี้วันเกิดดีๆ กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

จะว่าไปแล้ว ล้วนเป็นเพราะเกิดจากตัวเอง ถ้ายัง อยู่ต่อไปอีก เกรงว่าจะทำให้หยางฮุยกับสวีเสียอับอาย

ถ้ารู้ตั้งแต่แรก ตัวเองไม่มาซะก็ดี!

เฉินเกอกำลังจะบอกว่าเขาจะไปเช่นกัน

แล้วเวลานี้ จู่ๆประตูห้องก็เปิดออก เป็นหลินเจียว ที่ดูร้อนรน ทั้งยังปกปิดใบหน้าของตัวเองด้วย

“ตงจื่อ ฉันถูกตี เมื่อกี้พวกมันฉุดกระชากยีฟาน จะ ให้ยีฟานไปดื่มกับพวกมัน!”

“อะไรนะ?”

สวีตงผงะ แฟนสาวของตัวเองถูกดี นี่เป็นความ อัปยศอดสูอย่างที่สุด

รีบกวาดตามองไปทางสวีชาว

สวีชาวพูดอย่างเย็นชาว่า: “ถิ่นนี้ อยากเห็นนักว่า ใครมันกล้ามากขนาดนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!”

ตอนนี้ ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนจึงลุกออกมา ต่างก็ เอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าแล้วเดินออกไปข้างนอก

พวกหยางฮุย เฉินเกอเมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องก็รีบ

ออกไปแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหลินเจียว เฉินเกอก็รู้ถึงความเป็นมาเป็นไปของเรื่องนี้แล้ว

ปรากฏว่า ตอนที่จ้าวยีฟานไปห้องน้ำ หลินเจียว ก็ตามมาด้วย ขณะที่กำลังล้างมือ

บังเอิญเจอชายหนุ่มสองสามคนเดินเข้ามา แวบ แรกที่เห็นว่าหลินเจียวกับจ้าวยีฟานล้วนเป็นหญิงงาม

โดยเฉพาะหลินเจียว ที่แต่งตัวค่อนข้างเซ็กซี่ ผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าที่ดื่มมากเกินไป อยากได้วีแชท ทั้งมือเท้ายังอยู่ไม่สุข

จ้าวยีฟานที่โกรธจัด จึงตบปากผู้ชายคนนั้นที่หนึ่ง

อีกทั้งหลินเจียวยิ่งถึงกับถูกคนเขากระชากหัว! หลังจากนั้นชายคนนั้น ก็ยื้อยุดฉุดกระชากหลิน เจียวอาจจะเป็นเพราะความชุลมุนจึงถูกตี

แล้วเรียกคนไม่กี่คนมารุมล้อมจ้าวยีฟาน บังคับ ให้จ้าวยีฟานไปดื่มกับพวกมัน

หลินเจียวระหว่างที่ตะโกนเรียกคนจากนั้นก็วิ่ง กลับมาแล้ว

รอจนพวกเฉินเกอวิ่งมาถึง สองฝ่ายก็เผชิญหน้า กันแล้ว

คนที่ลากจ้าวยีฟานมาดื่มมีด้วยกันสี่คน และค่อน ข้างเด็ก ทุกคนน่าจะเป็นเพื่อนนักเรียนวัยเดียวกัน

สวีชาวที่อยู่ตรงนั้นกำลังคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา อาจจะโทรเรียกคน
หลินเจียวที่อยู่ตรงนั้นชี้ไปที่นักเรียนสี่คนและก่น ด่าตลอดเวลา

แม้ว่าจ้าวยีฟานจะไม่ถูกทำร้าย แต่เหตุการณ์ใน วันนี้ทำให้เธออารมณ์ตกต่ำถึงขีดสุด

“กล้าตีน้องสะใภ้ฉัน ใครก็อย่าคิดจะหนี!”

สวีชาวหลังจากวางสาย ก็ตะโกนด่าอย่างหยิ่ง

ผยอง

เขาคั้นเคยกับแถวนี้มากเกินไป ทั้งยังรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับเจ้าของวิลล่านี้

แต่สี่คนนี้การแต่งกายไม่ธรรมดา ตอนนี้ทั้งหมดก็ ยังไม่ตายใจ อยากจะดูซิว่าสวี่ชาวคนนี้จะทำอะไรได้บ้าง

“เอี้ยด!”

ไม่นานนัก ก็มีรถตู้หลายคันจดต่อๆกันที่ทางเข้า

ประตู

แล้วชายร่างใหญ่หัวเกรียนก็ลงมาจากบนรถ ทันใดนั้นในวิลล่าแน่นขนัดไปด้วยผู้คน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ