ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 688 คำพูดไร้สาระ



บทที่ 688 คำพูดไร้สาระ

สุ่ยเกินรีบวิ่งเข้าไปข้างในบ้านทันที ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็มี ปืนกระบอกหนึ่งจ่ออยู่ตรงหน้าผากของเขา

ซึ่งก็เป็นกลุ่มบอดี้การ์ดสวมชุดสูทสีดำ ที่กำลังจับสุ่ยเสียและ คุณปู่สุ่ยเกินเดินออกมา

“อย่าขยับ ทุกคนอย่าขยับ ใครกล้าขยับฉันจะฆ่าทิ้งซะ! หัวหน้ากลุ่มวัยกลางคนพูดขึ้นมาอย่างเลือดเย็น

และในขณะเดียวกันตรงห้องเก็บฟืนก็มีบอดี้การ์ดอีกหลายสิบ คนวิ่งพุ่งออกมา

แล้วปืนอันน่าเกรงขามก็จ่อไปยังทุกคน โดยเฉพาะเฉินเกอ

“คุณผู้หญิง คุณช่างรู้อย่างทะลุปรุโปร่งเสียจริง สุดท้ายเฉิน

เกอก็อยู่ที่นี่! คราวนี้ พวกเราได้ทำผลงานอันยิ่งใหญ่ซะแล้ว! ” ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยความดีใจ

ในตอนนี้เองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆเดินออกมาจากด้านใน

บ้าน

และข้างๆผู้หญิงคนนั้นก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอยู่เคียง ข้าง ทั้งสองเดินเคียงกันมาพร้อมกับรอยยิ้มเย็นชาที่ริมฝีปาก

“พี่ต้วนเฟย ยังไงคุณก็เก่งกว่า ที่เพียงแค่เห็นศพบอดี้การ์ด ของตระกูลซีเหมินของพวกเรา ก็สามารถทายได้แล้วว่าเป็นใครพวกเรามาซุ่มโจมตีไม่คิดว่าจะได้เจอกับเฉินเกอจริงๆ ฮ่าๆๆ ฉัน จะไปรายงานกับ ตระกูลเดี๋ยวนี้ แค่นี้พวกเราก็จะได้รับผล ประโยชน์มากมายแล้ว!

และชายหญิงคู่นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือนักสู้ของไปเสี่ยวเฟย ในงานประลองชื่อว่าต้วนเฟย

ที่ในงานเลี้ยงวันนั้น ถูกตีพ่ายแพ้ไปต่อหน้าสาธารณชน และผู้

หญิงคนนั้นก็คือซีเหมินหยู่แห่งตระกูลซีเหมิน

ดูท่าแล้วพวกเขาไม่เคยหยุดที่จะตามหาเงินเกอเลย เพราะ โดยปกติแล้วการเกิดเรื่องกับเหล่าบอดี้การ์ด ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ ทั้งสองจะต้องลงมือตรวจสอบเอง แต่ด้วยเหตุที่ลูกน้องได้ รายงานเรื่องศพว่าการตายนั้นแสนจะสาหัสและรุนแรงมาก ราวกับเป็นการกระทำของยอดฝีมือ ดังนั้น

ต้านเฟียที่รักษาอาการบาดเจ็บในบ้านซีเหมินจึงได้มาพร้อม กับซีเหมินหยู่

ดูจากสถานการณ์ ต้วนเฟยก็รู้แล้วว่าในเมืองไท่นอกจาก ตระกูล ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครที่จะมีพลังแบบนี้อีก ถ้าเกิดจะมีก คงจะเป็นเงินเกอแน่นอน ดังนั้นเขาที่ไม่ได้แน่ใจมากถึงได้ ทําการสอบถามจนหาบ้านของสุ่ยเกินจนเจอ แล้วถึงได้มาอยู่ใน สถานการณ์นี้ได้

และคิดไม่ถึงว่าการคาดเดาของตัวเองจะถูกต้องด้วย ที่ว่าเฉิน เกอแอบหนีมาอยู่ที่นี่! แล้วยังฆ่าเหล่าบอดี้การ์ดของตระกูลซีเห มินอีกด้วย
“ถ้าให้ผมพูดนะ ถ้าเกิดไม่ใช่สาวน้อยซีเหมินหยู่ที่ไหวตัวทัน จนรีบจัดการเรื่องซุ่มโจมตี ตอนนี้พวกเราจะมาอยู่ตรงนี้จับเฉิน เกอได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไงกัน! ”

อ้วนเฟยส่ายหน้ายิ้มแห้งๆ

แล้วก็หันไปเหลือบมองเฉินเกอคนที่ทำตัวเองเสียหน้าอย่าง เย็นชา

“คิดไม่ถึงสินะว่าคนฝีมือดีอย่างนายจะมาตกอยู่ในกำมือของ พวกเรา ยิ่งกว่านั้นฉันรู้อยู่แล้วว่านายเป็นคนที่เก่งกาจ ดังนั้นฉัน ก็เลยได้เตรียมคนจำนวนมาก ให้ใช้ปืนมาจ่อใส่นาย ฉันแนะนำ ให้นายช่วยเอาจริงหน่อยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นร่างนายจะกลาย เป็นรูจํานวนมาก!

ต้วนเฟยพูด

“น้องหยู่ สําหรับเรื่องของตระกูล อย่าเพิ่งรีบส่งข่าวเลย ตระกูลดูจะร้อนรนในการหาตัวเฉินเกอมาก แค่คิดดูก็รู้แล้วว่า เฉินเกอนั้นสำคัญต่อพวกเขามากขนาดไหน ถ้าเกิดส่งตัวให้ลูก น้องของตระกูลไปอย่างง่ายดาย พวกเราอาจจะไม่ได้อะไร ตอบแทนเลยซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือต้องไปพบกับผู้นำของ ตระกูลเท่านั้น ! แบบนี้พวกเราถึงจะสามารถทำข้อตกลงแลก เปลี่ยนกันได้ พอถึงเวลานั้นเราอาจจะได้ของลับของตระกูล เป็นของตอบแทน เชื่อได้เลยว่ามันจะทำให้พลังของพวกเรา ก้าวหน้าขึ้นเป็นเท่าตัวแน่!

“พอมองไปยังสนามประลอง ฉันต้วนเฟย ก็จะไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนเอาชนะได้อีกต่อไป!

ความปรารถนาอันแรงกล้าปรากฏขึ้นในดวงตาของต้วนเฟย

“พูดได้ถูกต้องเลยพี่ต้วนเฟย บ้านซีเหมินเราก็ยังสามารถที่ จะขอสินทรัพย์ได้อีกด้วย ไม่แน่ก็อาจจะกลายเป็นตระกูลที่ แข็งแกร่งที่สุดก็ได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว พี่ต้วนเฟย ยังดี ที่มีความเก่งกาจ ฉันชื่นชมพี่มากจริงๆ

ซีเหมินหยู่ดีใจจนหัวเราะออกมา

“ผมอยากจะถามว่าพวกคุณพูดพล่ามกันพอหรือยัง? พูดเยอะ ขนาดนี้ จนถึงตอนนี้พวกคุณก็ยังไม่ได้ส่งข่าวให้กับตระกูลเรื่อง ที่จับผมได้ พวกคุณแน่ใจจริงๆหรอว่าจะใช้ของเล่นไม่กี่ชิ้นนี้มา จัดการผม? “เฉินเกือกวาดสายตาไปยังคนเหล่านี้ที่เล็งปืนมาที่ เขา

เหล่าบอดี้การ์ดชุดดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ดูแล้วไม่ เหมือนกับผู้ใหญ่เอาซะเลย แต่กลับเหมือนเด็กที่กำลังเอาปืนฉีด น้ำมาจ่อใส่เขา จึงทำให้เงินเกออยากจะหัวเราะแล้วหัวเราะอีก

“หม เฉินเกอ ความตายกำลังจะถึงตัวอยู่แล้ว ยังจะกล้าอวดดี อีก ในวันนั้นเพราะฉันประมาทไป ถึงได้พ่ายแพ้ให้กับนาย นั่น กลายเป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตฉัน หลังจากนั้นเป็นต้นมาฉันก็ สัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าจะเร็วหรือช้าฉันก็จะฆ่านาย! และตอน นี้ นายก็มาอยู่ในมือของฉันแล้ว! “ต้วนเฟยไออกมาและเห็นได้ ชัดว่าอาการบาดเจ็บสาหัสที่เกิดจากการถูกเฉินเกอทำร้ายยังไม่ หายดี
“แล้วก็เฉินเกอ ความแค้นของพวกเรา ควรจะต้องมาสะสาง กันได้แล้ว ครั้งนี้ เจ้ใหญ่จะไม่มีทางปล่อยให้นายรอดไปได้ แน่! ”

ซีเหมินหยู่หัวเราะอย่างดีใจ

“เห้อ! “เฉินเกอส่ายหัว

“ส่ายหัวหมายความว่าอะไร? “ดวงตาของต้วนเฟยกระชับขึ้น พลันถาม

“ฉันรู้ว่าในสายตาของนาย ฉันก็เป็นแค่คนที่แพ้นายเท่านั้น นายจึงใช้วิธีการแบบนี้มาดูถูกฉัน แต่ฉันบอกนายได้เลยว่าฉันต้ วนเฟย นอกจากจะรู้วิชาการต่อสู้แล้ว ยังมีอีกอย่างนั้นก็คือ ตั้งแต่ฉันอายุหกขวบก็มีพัฒนาการ ตั้งแต่เด็กไอคิวของฉันก็เกิน กว่าเด็กปกติทั่วไป ดังนั้นจากการวิเคราะห์แล้วนายจะต้องแพ้ ให้กับฉัน ซึ่งฉันก็มีวิธีเป็นร้อยในการฆ่านายอีกด้วย! ”

“โอ๋? มีพัฒนาการตอนหกขวบ? อย่างคุณ มีไอคิวด้วย? ผม ดูไม่ออกเลยจริงๆ! “เฉินเกอหัวเราะออกมา

ต้วนเฟยโกรธหนักมาก จนอยากจะให้คนไปตบปากเฉินเกอ สักสองสามรอบสั่งสอนเขาสักหน่อย

เฉินเกอพูดต่อ

“ช่างเถอะ ปล่อยเพื่อนผมไป และก็คนในครอบครัวของพวก เขา ผมจะยังสามารถไว้ชีวิตของพวกคุณเอาไว้ ให้พูดแล้วพวก เราก็ไม่ได้มีความแค้นที่ลึกซึ้งหรือความบาดหมางใหญ่หลวงอะไร ผมเคยสาบานไว้แล้วว่าถ้าใครกล้าทำร้ายเพื่อนของผม ผม จะให้มันตาย ไม่ว่าจะช้าจะเร็ว มันก็ต้องตาย แต่ตอนนี้พวกคุณ ยังไม่ได้ทำเรื่องที่รุนแรงอะไร ผมก็จะไว้ชีวิตของพวกคุณ

“ก็อย่างที่คุณพูด คุณเป็นคนที่วิทยายุทธไม่เลว ต่อไปก็หมั่น ฝึกฝน มันก็จะค่อยพัฒนา แล้วคุณจะได้ดีในด้านนี้ ส่วนคุณเห มิน ถึงแม้คุณจะเป็นคนเอาแต่ใจ ทำให้คนรู้สึกรำคาญ แต่ใน อนาคตคุณจะต้องหาสามีดีๆสักคน ก็จะได้ใช้ชีวิตที่สงบและสุข สบาย ไม่จําเป็นที่จะต้องมาตายที่นี่ และไม่จำเป็นที่จะต้องมา ตายเพื่อตระกูลก! “เฉินเกือถอนหายใจ

“ฮ่าๆๆๆๆ! ”

“เจ้าเด็ก บ้าไปแล้วหรือไง? ”

“ใช่สิ ตอนนี้ถูกปืนของพวกเราจ่อหัวอยู่ แถมยังจ่ออยู่ถึงสิบ กว่ากระบอก แค่เขากล้าขยับคิ้วนิดเดียวก็จะถูกปืนของเราเจาะ หัวจนเป็นรูทันที แต่เขากลับบอกว่าจะปล่อยพวกเราไป? ฮ่าๆ ๆๆ! ”

บอดี้การ์ดทั้งหลายต่างพากันหัวเราะอย่างหนัก ดูแล้วเหมือน กับคนบ้า

“เฉินเกอนะ เฉินเกอ ฉันคิดว่านายจะเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่านอกจากนายจะฝีมือดีแล้ว ที่แท้ก็ยังเป็นไอ้ขี้โม้อีก ด้วย นายดูดีๆว่าตอนนี้สถานการณ์มันเป็นยังไง คนของนาย อยู่ในมือของฉัน แล้วตัวนายเองก็ถูกเล็งหัวอยู่ นายคงไม่บ้าไป แล้วใช่ไหม? ”
ตัวนเฟยหัวเราะเสียงดัง

“ใช่แล้ว เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ? ใครกล้าทำร้ายเพื่อนนาย นายก็จะฆ่ามัน? ”

พูดไปต้วนเฟยก็หยิบกริชเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้ว สะบัดไปกรีด ใบหน้าของสุ่ยเสียทีหนึ่ง

อ๊า!

สุ่ยเสียร้องออกมา ที่ใบหน้าถูกกรีดจนเป็นแผลแล้ว

“ฮ่าๆๆๆ นี่นับว่าทำร้ายหรือเปล่านะ? นายจะทำอะไรกับ ฉัน? หรือจะให้ฉันทำหนักกว่านี้หล่ะ?”

ต้วนเฟยยิ้มพลันส่ายหน้า แล้วนายจะฆ่าฉันไหม? ”

“เห้อ ผมให้โอกาสพวกคุณสองครั้งแล้วนะ แต่ทำไมพวกคุณ ถึงได้เลือกจะเดินทางนี้กันเล่า? ตอนแรกผมก็ยังไม่แน่ใจเท่า ไหร่นัก ตอนนี้ดูแล้วพวกคุณคงจะคิดจริงๆสินะว่าปืนแค่นี้จะ สามารถจัดการผมได้! โง่! ”

ทันทีที่สิ้นเสียงเฉินเกอยกมือขึ้นพลันสะบัดออกไป พลิบๆๆ!

แล้วก็ได้เห็นลูกน้องยี่สิบกว่าคนถูกล็อกไว้ด้วยพลังที่ แข็งแกร่งแล้วลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับปืนของพวกเขา จากนั้น ก็ตกลงมาราวกับฝนที่ลงสู่พื้นดิน และกลายเป็นภาพที่ดูโหดร้าย

ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดเพียงในช่วงเวลาอันสั้นเท่านั้น
“อะไรกัน? ”

ทุกคนถึงกับสั่นสะท้าน!

แล้วใบหน้าที่ยิ้มแย้มของต้วนเฟยก็แข็งทื่อไปในทันที……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ