ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่482 เพื่อนร่วมหอที่มหาวิทยาลัย



บทที่482 เพื่อนร่วมหอที่มหาวิทยาลัย

“คุณผู้ชาย ฉันก็ยังรู้สึกว่าคุณใส่ชุดนี้แล้วไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ ถ้าไม่อย่างนั้น จอดรถข้างหน้า เดี๋ยวฉันจะลงไปซื้อชุดใหม่ให้ คุณชุดนึงดีกว่าไหมคะ?”

ขบวนรถมุ่งหน้าไปบนถนน

เอ๋อนั่งอยู่ข้างๆเฉินเกอ จึงเอ่ยถามขึ้นมาในขณะนั้น

“ไม่ต้องหรอก ฉันรู้สึกว่าชุดนี้นี่แหล่ะเหมาะแล้ว!”

เฉินเกอมอง แล้วยิ้มเจื่อนๆออกมา

เพียงแต่ เวลานี้เฉินเกอก็ได้เหลือบมองไปยังตึกอาคารที่อยู่ ตรงด้านหน้า กลับต้องเงยหน้าเพื่อหันกลับไปมองทางนั้นอย่าง รวดเร็ว

เนื่องจากว่ากำลังมีวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่เดินเข้าไปในตึกอาคารนั้น

“ทำไมหรือคะคุณผู้ชาย?”

ยู่เอ๋อเอ่ยถาม

“ฉันเห็นเหมือนเพื่อนสมัยเรียนของฉัน เหมือนมากๆ เอาล่ะ จอดรถตรงด้านหน้าหน่อย พวกเราะเข้าไปในตึกอาคารนั้นกัน!

เฉินเกอเอ่ยขึ้นมาในขณะนั้น

รถจอดลงอยู่ตรงกลางถนน
ถึงแม้จะเป็นการขวางทาง แต่ในหมู่บ้านถาโกว อำนาจทั่วๆ ไปเมื่อเห็นว่าเป็นขบวนรถเช่นนี้แล้วก็จะรู้ว่าเป็นการเดินทางของ คนใหญ่คนโต แล้วก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง ต่างก็พากันขับรถอ้อม ออกไปจากทางสองฝั่งนั้นแทน

เงินเกอพายเอ๋อเข้ามาด้านในตึกอาคาร

แปะ!

เวลานี้เองชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเลือกชุดสูทอยู่นั้น ไหล่ของ เขาก็ถูกใครคนหนึ่งที่เข้า

เขาตกใจ แล้วหันมามอง

เขารู้สึกตกตะลึงก่อน แล้วถึงได้ดีใจขึ้นมา

“เฮ้!!! เฉินเกอ?”

“หยางฮุย เป็นนายจริงๆด้วย!

เฉินเกอยิ้ม

“เฉินเกอ? นาย…..นายไม่เป็นไรเลยหรือ? มีแต่คนว่าเกิดเรื่อง ขึ้นกับนาย นายหายตัวไป แท้ที่จริงแล้วนายก็มาอยู่ที่เทียนเฉิง นี่เอง! ฉันก็ว่า สืบเรื่องนายอย่างไรก็ไม่ได้เบาะแสนายเลย!

หยางฮุยเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ แล้วตบไหล่เฉินเกอแรงๆ : “ได้มาเจอนายที่นี่ ดีจริงๆ!”

“ใช่สิหยางฮุย ทำไมนายถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้?”
หลังจากที่ทักทายกันแล้วนั้น เฉินเกออดที่จะเอ่ยถามด้วย ความสงสัยไม่ได้

ที่นี่วุ่นวายมาก นอกจากคนพื้นเมือง คนธรรมดาๆที่ไหนจะมา พัฒนาที่นี่กัน

“แค่กๆ อย่าพูดถึงเลย ตอนนี้ฉันกำลังมาทำธุรกิจขนาดใหญ่ อยู่ที่หัวเสีย ทำอะไรไม่ได้นี่เลยต้องมาทำงานนอกสถานที่ถึงที่นี่ อา! ที่นี่วุ่นวายมาก คนที่เดินอยู่บนถนน สิบคน มีอยู่เก้าคนแล้วที่ พกพาอาวุธไว้ในร่างกายนะ!”

หยางฮุยเอ่ยขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

เฉินเกอยิ้ม

“แล้วนายล่ะเฉินเกอ?? ไม่มีข่าวคราวนายมาเป็นครึ่งปี มาอยู่ ที่นี่นี่เองหรือ? ไหนให้ฉันดูหน่อยซิ แขนขานายไม่ได้ขาดหายไป ไหนใช่ไหม?”

หยางฮุยเอ่ยพูดขึ้นอย่างหยอกล้อ

จะว่าอย่างไรดี เพื่อนพี่น้องได้มาเจอกัน ความสนิทสนมแต่ละ แบบก็คงไม่พอ เหมือนกับว่าหากไม่ได้พูดแขวะกันเสียหน่อยจะ ทำให้ความสัมพันธ์ที่ผ่านมาสูญเสียไปอย่างไรอย่างนั้น

“ไม่มีหรอก ตอนนี้ฉันยังเป็นคนที่ร่างกายสมบูรณ์ดีอยู่ แล้ว อีกอย่างก็เพิ่งจะมาที่นี่ได้ไม่นานด้วย เพราะมีเรื่องนิดหน่อย ทําให้ขาดการติดต่อจากทุกคนไปเป็นครึ่งปี!

เฉินเกอกล่าว
“อา ฉันเองก็ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องที่นายถอนตัวออกจาก ตระกูลแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเฉินเกอ ถึงอย่างไรหนึ่งปีก่อนนี้ สิ่งที่นายควรได้รับ นายก็ได้รับหมดแล้ว ไม่มีก็คือไม่มี ชีวิตนี้ก็ คุ้มค่าแล้วล่ะ”

หยางฮุยตบไหล่ของเฉินเกอ

เพื่อนเก่ากลับมาพบกันอีกครั้ง มักจะมีเรื่องที่พูดคุยกันได้ไม่รู้

จบ

“หยางฮุย นี่คือช่องทางการติดต่อฉันนะ รอให้ฉันว่างจากสอง วันนี้ก่อน แล้วพวกเราไปกินข้าวกัน!!

เฉินเกอเอาเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใหม่ให้กับหยางฮุย “เฮ้ คนนี้ล่ะ? แฟนนายหรือ?”

หยางฮุยจดแล้วนั้น ก็มองมาทางเอ๋อพลางยิ้ม

เล่นเอาเอ๋อหน้าแดงระเรื่อ

“รอให้มีโอกาสก่อน เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้นายฟัง

เฉินเกอยิ้มเจื่อนๆออกมา

“ได้สิ นายยุ่งอยู่ ฉันเองก็ต้องไปเลือกซื้อเสื้อผ้าแล้ว พรุ่งนี้มี พบลูกค้าสำคัญด้วย!

แล้วทั้งสองคนก็กอดกัน เพื่อจะแยกย้ายกันไป “อืม? คุณใช่ผู้จัดการหยางหรือเปล่าคะ? บังเอิญจังเลย!”
เวลานี้เอง ที่มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา

เห็นได้ชัดว่าหยางฮุยได้เจอกับลูกค้าของเขาแล้ว

ส่วนเฉินเกอเองนั้นก็ส่งเป็นสัญญาณบอกกับหยางฮุยว่าเขา กำลังยุ่งอยู่

และขณะที่เตรียมตัวจะหันกลับออกไปนั้น

หลังจากที่เห็นผู้ชายและผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความประหลาดใจ

แท้ที่จริงแล้ว ชายหญิงสองคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น

ตอนที่เฉินเกอกำลังรู้สึกท้อใจหมดหวังอยู่เมื่อตอนครึ่งปีก่อน นั้น ที่กำลังทำงานอยู่ในไซต์ก่อสร้าง ฉันหน่วนที่เคยดูถูกเขา กับ แฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง

“โธ่นี่ เฉินเกอหรือ?”

ฉันหน่วนเดิมทีที่ยังคงกอดอกอยู่นั้น เวลานี้ที่เห็นเฉินเกอแล้ว จึงอดที่จะยิ้มเยาะเย้ยออกมาไม่ได้

“ทําไมหรือ? เฉินเกอ นายรู้จักประธานฉันกับประธานหลีด้วย หรือ? เหอๆ คุณลุงของประธานหลี่ เป็นผู้รับผิดชอบของกิจการ ใหญ่ที่นี่ ฉันกำลังจะมาเจรจาเรื่องงานกับพวกเขานี่แหล่ะ!”

หยาง ยกล่าว

เฉินเกอพยักหน้าลง : “ก็รู้จักมั้ง!

“เหอะๆ เฉินเกอ นายยังจะแกล้งอะไรอีก ยังจะมารู้จักตั้งอีกอย่างนั้นหรือ ฉันฉันหน่วน นายลืมแล้วรึไง? นายไม่ได้ทำงาน พาร์ทไทม์ที่ไซต์ก่อสร้างหรอกหรือ นึกไม่ออกหรือว่า ฉันยังเคย ให้เงินค่าแรงนายอยู่เลยนะ? ทำไม? ลืมแล้ว?”

ขณะนั้นเองฉันหน่วนก็ยิ้มเยาะเย้ยออกมา ส่วนเฉินเกอนั้น เหลือบมองเธอเพียงแวบเดียวเท่านั้น

จริงๆแล้วตั้งแต่ตอนแรกเริ่มนั้น ตามที่ตาอ้วนพรรณนาเอาไว้ นั้น ฉันหน่วนไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ไม่รู้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผู้หญิง คนนี้นิสัยเปลี่ยนไปหมดเช่นนี้

“หืม คาดว่าคงจะมั่วอยู่ในประเทศต่อไปไม่ได้แล้วสิ ถึงได้มา อยู่ที่นี่ จะบอกนายให้นะ คนแบบนาย ไปที่ไหนก็เหมือนกันแหละ มาอยู่ที่นี่ อย่างมากก็คงทำได้แค่งานสุนัขรับใช้เขาเท่านั้น!

ฉันหน่วนกล่าว

“ประธานฉินครับ นี่คือเพื่อนของผม ไม่ทราบว่าพวกคุณเข้าใจ อะไรผิดหรือเปล่า? เพื่อนผมเป็นคนดีมากเลยนะครับ!”

หยางฮุยเห็นว่าฉันหน่วนเอ่ยพูดจาประชดประชันเฉินเกออ ย่างไม่มีความเกรงใจแล้วนั้น

จึงพูดอธิบายขึ้นมา

“เพื่อนของคุณ? โอ้ว ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยนะคะผู้จัดการ หยาง ฉันเห็นว่าความร่วมมือที่คุณกำลังเจรจากับคุณลุงของสามี ฉันคงจะต้องมีการยุติลงแล้วล่ะค่ะ รายการนี้ถือว่าเป็นโมฆะแล้ว กันนะคะ คุณว่าดีไหมคะที่รัก?”
นหน่วนเขย่าแขนของแฟนหนุ่ม

“ได้อยู่แล้วสิครับ!”

“ประธานฉิน คุณ……..

ทันใดนั้นเองหยางฮุยถึงกับพูดไม่ออก

ตัวเองใช้เวลาอยู่ที่นี่มาเป็นสัปดาห์กว่าๆแล้ว บอกว่าจะ ยกเลิกการเจรจาก็จะยกเลิกกันแบบนี้เลยหรือ?

และในเวลานี้เองนั้น

พนักงานคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านนอกอาคารเดินเข้ามา

เขาตะโกนพูดขึ้นอย่างไม่มีความเกรงใจ “รถ******คันที่ จอดอยู่ด้านนอกเป็นของใคร? รีบขับออกไปให้ผมหน่อย รถ ***** *คันที่จอดอยู่ด้านนอกเป็นของใคร? รีบขับออกไปให้ผม หน่อย ถ้าหากช้ากว่านี้ ผมจะให้คนเข็นไปแล้วนะ!”

เขาตะโกนออกมาอยู่สองสามครั้ง

อยู่ที่นี่ ไม่มีคำพูดที่มีมารยาทเหมือนกับอยู่ในประเทศแบบนั้น คุยกันไม่ถูกคอก็สู้กัน เป็นสไตล์หลักของที่นี่นั่นเอง

“ของฉันเอง! รถของฉันก็จอดดีอยู่นี่ ทำไมหรือ?”

แฟนหนุ่มของฉันหน่วนเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

“อะไรทำไม? ขวางทางคนอื่นเขา รีบเลื่อนออกไปที ถ้าไม่ อย่างนั้นผมจะเลื่อนออกไปให้คุณเอง!
พนักงานพูดจาหยาบคาย

ส่วนแฟนหนุ่มของฉันหน่วนนั้น ตั้งอยู่ต่อหน้าฉันหน่วน แล้วก็ อยู่ต่อหน้าเงินเกอและหยางฮุยด้วย จึงไม่อยากจะทำให้ตัวเอง ต้องขายหน้า

ตอนนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา : “นี่น้อง คุณลุงของฉันชื่อ

หวกัง หรือมีฉายาว่าตาอ้วนหรู!”

“จะตาอ้วนหรูหรือตาผอมหวก็ช่างคุณเถอะ รีบขับออกไปให้ ผมเดี๋ยวนี้!”

พนักงานด่าว่าออกมา

ส่วนแฟนหนุ่มของฉันหน่วน เวลานี้ก็มีสีหน้าที่ทำตัวไม่ถูก “เอาสิ ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ฉันขวางทางใคร!

แฟนหนุ่มของฉันหน่วนนั้นไม่ยอมแพ้

แล้วดึงมือฉันหน่วนเดินออกไป

“ฉันจะโทรหาคุณลุงเดี๋ยวนี้แหล่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนไม่ไว้หน้า ท่านด้วยแบบนี้!”

“คุณผู้ชาย ฉันซื้อชุดให้คุณเรียบร้อยแล้วค่ะ!”

เวลานี้เองยู่เอ๋อก็ถือชุดวิ่งเข้ามา

“หยางฮุย ไม่มีอะไรหรอก วางใจเถอะ เดี๋ยวผ่านไปสองสาม วันแล้ว รอฉันติดต่อนายไปนะ!”
หลังจากที่เฉินเกอพูดคุยกับหยางฮุยเสร็จแล้วนั้น เขาก็เดิน

ออกไปกับ เอ่อ……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ