ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่107 งานเลี้ยงคนหมู่บ้านเดียวกัน



เฉินเกอเห็นผู้หญิงคนนี้ก็รู้ขึ้นมาได้ในชั่ว พริบตา

เธอไม่ใช่พนักงานคนที่พบเจอในห้องครัว เจียหยวนวันก่อน และถูกเจิ้งยวตำหนิติเตียนคน นั้นเหรอ? ตอนนั้นเฉินเกอมีความประทับใจต่อ เธอลึกมาก แต่เห็นเพียงด้านข้างของเธอ และรู้ว่า เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามมาก

และตอนนี้เห็นหน้าตรงแล้ว รู้สึกราวกับว่า เคยรู้จักมาก่อน จากนั้นก็ค่อยๆนึกขึ้นมาได้

“คุณรู้จักฉัน? ”

หญิงสาวพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา พร้อมกับดึง เด็กน้อยทั้งสามคนไปที่ด้านหลังของเธอ

แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอมีความกลัว เฉินเกอเล็กน้อย และยิ่งไปกว่านั้นคือกลัวว่าเฉิน เกอจะเป็นพวกค้ามนุษย์

“แน่นอน ครั้งก่อนที่อยู่ห้องครัวเจียหยวน พวกเราเคยเจอกัน คุณลืมแล้วเหรอ?

เฉินเกอหัวเราะพร้อมพูด

หญิงสาวครุ่นคิดสักครู่ แล้วก็พูดขึ้นอย่าง ตื่นเต้น “ที่แท้ก็คุณผู้ชายเอง ขอขอบคุณคุณที่ ช่วยฉันคราวก่อน!”
เรื่องราวครั้งนั้น เธอถูกตำหนิติเตียนจนไม่ กล้าที่จะเงยหน้าขึ้น เพียงแต่ว่ารอตอนที่ตนเองนั้นจะออกจาก

ร้านไป แล้วแอบมองไปที่แผ่นหลังของเฉินเกอ

ครั้งหนึ่ง

ตอนนี้ได้ยินเสียงของเฉินเกอ เธอก็รู้ขึ้นมัน

โดยทันที

ครั้งก่อนเขาได้ช่วยเธอไว้

และที่สำคัญคนคนนี้ มีเงินมาก!

“ไม่เป็นไร แบบนี้คุณก็สามารถวางใจฉัน แล้วใช่ไหม เด็กสามคนนี้ คุณดูแลพวกเขาอยู่ ตลอดเหรอ?”

เฉินเกอถามอย่างสงสัย

“อืมๆ”

ซูเฉียงเวยพยักหน้า และพาเด็กทั้งสามคน มาถึงข้างทาง

ระหว่างที่เดินไป ก็เล่าให้เฉินเกอฟังไปด้วย

ที่แท้ เด็กทั้งสามคนนี้ต่างก็เป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กที่ถูกคนค้ามนุษย์ลักพาตัวไป จากนั้นก็ แอบหนีออกมา

ต้นกำเนิดที่ไม่รู้จักแบบนี้ สถานที่เลี้ยงเด็ก กําพร้าก็ไม่ยอมรับไว้

จากนั้น ก็ค่อยๆเริ่มจรจัดตามถนน
ใช้ชีวิตอย่างขอทาน

ต่อมา ซูเฉียงเวบมาพบเจอพวกเขา ก็รับ พวกเขาไว้

และปกติ ตนเองก็เป็นอาจารย์อยู่ที่ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ใช้เวลาว่าง ไปทำงาน พาร์ทไทม์อีกหนึ่งงาน แบบนี้ก็สามารถรับประกัน ชีวิตขั้นต่ำได้แล้ว

และยังสามารถเก็บเงินค่าเล่าเรียนส่วน หนึ่งได้ ให้เด็กทั้งสามคนได้รับการศึกษา

ค่อยยังชั่ว ซูเฉียงเวยเธอเป็นคุณครูชั้น อนุบาล มิฉะนั้นเด็กสามคนนี้ ก็ไม่สามารถที่จะรู้ เรื่องขนาดนี้

คิดๆแล้วก็สงสารจริงๆ

ดูแล้วนี่คงเป็นพี่น้องสามคน

ในใจของเฉินเกอรู้สึกเจ็บปวด

*แล้วครอบครัวของคุณล่ะ?

เฉินเกอถามอีกครั้ง

“ฉันเติบโตมาจากสถานีเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัว!”

ในขณะที่ซูเฉียงเวยพูดอยู่ ก็ลดศีรษะลง และจับไปที่เสื้อผ้าของตัวเอง

เธอมีรูปลักษณ์หน้าตาที่สวยงามมากจริงๆ แต่เพราะความกดดันของเวลาและความยากจนไปกปิดออร่าของเธอไปหมด

แต่ที่สําคัญที่สุดคือ เธออยู่ต่อหน้าของเฉิน

เภอ ราวกับว่ามีความระมัดระวังอย่างมาก

เฉินเกอรู้ว่า เธอกลัวตนเองจะรังเกียจเธอ

เหอะเหอะ ซูเฉียงเวยก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เฉินเกอเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นต่อ หน้าคนอื่นล่ะ?

ซูเฉียงเวยอายุไล่เลี่ยกับตนเอง

บอกตามตรง เมื่อก่อนเฉินเกอเคยคิดว่า ตนเองนั้นเป็นคนที่ย่ำแย่ที่สุดแล้ว แต่ไม่คาดคิด มาก่อนว่า ไม่รู้ว่าซูเฉียงเวยนั้นย่ำแย่มากว่า ตนเองเท่าไหร่

แม้แต่พ่อกับแม่เธอก็ไม่มี ผู้หญิงตัวคนเดียว ยังสามารถมีความกรุณาปรานีได้ถึงขั้นรับเลี้ยง เด็กกําพร้าสามคน

ผู้หญิงแบบนี้ เห็นได้แล้วบนโลกใบนี้!

ลำพังแค่นี้ ในหัวใจของเฉินเกอก็รู้สึก ซาบซึ้งและชื่นชมมากแล้ว

“พวกคุณพักอยู่ที่ไหนเหรอ? “

เฉินเกอถามขึ้น

“พวกเราพักอยู่ทางโน้น! ”

เด็กน้อยสามคนชี้ไปที่ที่อยู่อาศัยธรรมดาที่ ห่างออกไปไม่ไกลจากโรงเรียนแห่งนี้
“สามารถพาฉันไปดูหน่อยได้หรือเปล่า!

เฉินเหอหัวเราะ า าและถาม

หลังจากที่ซูเฉียงเวยลังเลไปสักพัก ก็พยัก หน้า

ที่พักอาศัยแห่งนี้ เหมือนกับว่าเป็นเมืองที่ เก่าแก่มากแบบนั้นเล็กน้อย

หลังกจากที่เข้าไปด้านใน ซูเฉียงเวยเช็ด เก้าอี้ให้เฉินเกอ แล้วให้เฉินเกอนั่งลง

หลังจากนั้นก็ไล่ให้สามพี่น้องไปล้างหน้า อาบนํ้า น้องชายน้องสาวสามคนนี้รู้เรื่องมาก และ ทุกวันก็จะออกไปเก็บขยะขาย ทำให้ตนเองนั้น มอมแมมไปหมด

“ซูเฉียงเวย ฉันชื่อเฉินเกอ! เรามาเป็นเพื่อน กันเถอะ?”เฉินเกอกล่าว

“เป็นเพื่อนกัน? “ซูเฉียงเวยมีความตกตะลึง เล็กน้อย

ในสายตาของเธอ เฉินเกอสามารถที่จะ ทำให้ผู้จัดการใหญ่คนนั้นเชื่อฟังเขาได้ เขาต้อง เก่งมากแน่นอน

คนที่เก่งมากขนาด จะยินยอมเป็นเพื่อนกับ เธอได้อย่างไร?

แต่ถ้าจะให้พูดว่าเพราะเหตุใด เฉินเกอเองก็ พูดไม่ถูก
วันนี้เป็นเพียงแค่การพบกันโดยบังเอิญ เท่านั้น

เฉินเกอเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ และ

กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็มีอารมณ์พิเศษ

อยู่อย่างหนึ่ง

เขาสามารถที่จะช่วยพวกเขาโดยตรงได้ จัดการเรื่องที่อยู่อาศัยให้พวกเขา และจัดการ เรื่องเข้าโรงเรียนให้พวกเขา จริงๆแล้ว พวกนี้เป็น เพียงแค่เรื่องของคำพูดก็ได้แล้ว

แต่ว่า หลังจากที่เฉินเกอได้เห็นซูเฉียงเวย หัวใจของเขาก็เต้นรัวๆ ราวกับว่ามีความรู้สึก อย่างหนึ่งในความมืด กำลังจูงเฉินเกออยู่ ให้เฉิน เกอเรียนรู้เธอให้เยอะหน่อย และยังให้เขาเป็น เพื่อนกับเธออีกด้วย

ความรู้สึกแบบนี้ประหลาดมาก

คิดๆแล้วความจริงครั้งที่แล้วที่เฉินเกอเห็น ซูเฉียงเวยครั้งแรกก็รู้แล้ว

เพียงแค่หน้าด้านข้างก็ทำให้เหตุการณ์ใน อดีตของเฉินเกอยังคงเด่นชัด ราวกับว่าเพิ่งเกิด ขึ้น

เพราะอะไรถึงมีความรู้สึกกับผู้หญิงที่พบ โดยบังเอิญแบบนี้?

เฉินเกอเองก็มีรอยยิ้มที่ขมขื่นและตอบไม่ ออกมาว่าเพราะอะไร
อย่างไรก็ตาม แค่เห็นหน้าก็รู้สึกว่าเธอมี ความใกล้ชิดมาก

จากนั้น เฉินเกอก็เริ่มคุยกับซูเฉียงเวย และ ยิ่งคุยมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งคุ้นเคยกันมากขึ้น

และเวลาทั้งบ่ายก็เกือบใช้จนจะหมดแล้ว

โดยที่ยังไม่ทันรู้ตัว “เฉียงเวย เสี่ยวหยิง ฉันจะไปแล้ว แล้วฉัน

จะมาพบพวกคุณอีกครั้งในสองสามวันนี้!” เฉินเกอโบกมือให้พวกเขาและจากไป

จากการใช้เวลาร่วมกันครึ่งวันนี้ เฉินเกอรู้ สึกว่าจิตวิญญาณของตัวเองนั้น ได้พบกับความ เงียบสงบที่แท้จริงเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นความเงียบ สงบแบบที่ห่างหายไปนานแสนนาน!

และในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือของ เฉินเกอดังขึ้น

แวบแรกที่เห็น เฉินหลินเป็นคนที่โทรเข้ามา

ตอนที่จากไปเมื่อกี้ เฉินเกอได้ขอเบอร์ ติดต่อของเฉินหลินไว้ แม้ว่าเฉินหลินจะไม่เต็มใจ

แต่ก็ยังคงเก็บของ งกันและกันไว้ “ฉันว่าคุณเฉินเกอ ให้คุณมาร่วมงานคน

หมู่บ้านเดียวกันครั้งแรก คุณก็มาสายเลยเหรอ? นัดรวมตัวกันไว้ตอนห้าโมงเย็นไม่ใช่เหรอ คุณอยู่ ไหน?
เฉินหลินตาหนิติเตียนโดยตรง

“อือๆ เพราะว่าฉันมีธุระนิดหน่อย เลยไม่ทัน

ตอนนี้กำลังไป ประมาณสิบกว่านาที! ”

ยังไม่ได้พูดอะไร ทางนั้นก็วางสาย โทรศัพท์

เฉินเกอหัวเราะขมขื่น

ถ้ารู้ว่าเป็นเช่นนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะ

ตกลงเพื่อนร่วมชั้นคนเก่าคนนี้แล้ว ยากลําบากใจมากจริง ๆ!

ไม่ตอบ

แต่พูดส่วนพูด ในเมื่อตอบตกลงคนอื่นแล้ว ไม่ไปก็ไปดี เฉินเกอเดินกลับไปที่โรงรถ และขับ รถ เดินทางไปที่โรงแรมที่เฉินหลินจองไว้ โดยตรง

หลังจากจอดรถเสร็จ ก็มาถึงในห้องโถง

“เฉินเกอ คุณเพิ่งมาเหรอ ให้ทุกคนรอคุณ อยู่คนเดียว คุณชอบเหรอ? !

เฉินเกอเข้ามา เฉินหลินก็จมูกไม่ใช่จมูก หน้าไม่ใช่หน้า

“ให้ตายเถอะ เฉินเกอจริงๆด้วย ไม่เจอกัน หลายปี ไม่ใส่เสื้อผ้าที่มีรอยปะแล้ว เริ่มหันมาใส่ เสื้อผ้าที่เป็นทางการแล้วเหรอ? ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เฮ้ยฉินเกอ ได้ข่าวว่าคุณเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัยจินหลิงเหรอ นี้เป็นมหา ลับที่มีชื่อเสียง เป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้ จะเริ่ม ฝึกงานแล้ว ตำแหน่งงานดำเนินการแล้วหรือ ไม่?

“นั่งลงก่อน และพูดคุยกับเราเกี่ยวกับเฉิน เกอในหลายปีที่ผ่านมานี้คุณมีประสบการณ์อะไร บ้าง? ”

โต๊ะอาหารในห้องโถงใหญ่มาก เพียงพอที่ จะบรรจุจํานวนคนยี่สิบกว่าคน

คนหมู่บ้านเดียวกันของงานสมาคมคน หมู่บ้านเดียวกัน ที่มาแล้วก็ราวยี่สิบกว่าคน รวม ทั้งเพื่อนร่วมชั้นของเฉินเกอสี่ห้าคนในสมัยมัธยม ตอนปลาย สามารถอธิบายได้ว่านั่งเต็มกันไป หมด

ในขณะที่เฉินเกอนั่งยิ้มอยู่กับพวกเขา ก็ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งหัวโต๊ะ

หลี่ซื่อหาน!

คนนี้เป็นคนที่ความสัมพันธ์ดีที่สุดกับเฉินเก อสมัยมัธยมตอนปลาย และยังเป็นดาวเด่นของ ห้องด้วย และหลี่ซือหานเป็นคนที่เรียนรู้ด้วยกัน กับเฉินเกอ

บอกตามตรงตอนนั้นทั้งสองคน ต่างก็มี ความรักใคร่ต่อกันเล็กน้อย

แต่ว่าหลี่ซือหาน ไม่ได้ตัดสินใจที่จะมีความรักกับครอบครัวแบบอย่างเฉินเกอ

ส่วนในด้านของเฉินเกอ ก็ไม่ได้ตัดสินใจที่

จะมีความรักกับครอบครัวอย่างหลี่ซื่อหานเช่นกัน

ครอบครัวของเขาทั้งสองคนนั้นแตกต่าง กันเกินไป

ดังนั้น เป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์แบบที่ดี กว่าฐานะเพื่อนเล็กน้อยเท่านั้นเอง!

“ซือหาน ไม่ได้เจอกันสองถึงสามปีแล้ว สบายดีหรือเปล่า?

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย หลี่ซื่อหาน เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก และยังได้เรียนรู้การ แต่งหน้าอีกด้วย ทั้งนิสัยใจคอและรูปร่างหน้าตา ของเขาทั้งคน แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า มาก

ระดับเทพธิดาแน่นอน

“ฉันค่อนข้างดี คุณรีบหาที่นั่งนั่งลงเถอะ! หลี่ซือหานยิ้มเล็กน้อย และพูดอย่างไม่

แยแส

ไม่ได้ติดต่อกันสามปี มิตรภาพและความ รู้สึกในตอนนั้น หมดไปตั้งนานแล้ว

ทำให้เฉินเกอรู้สึกเหมือนกับว่าเจอคนแปลก หน้าที่ไม่รู้จักคนหนึ่ง

“อืมๆ! “200124103_952647198828752_4242301694838792529_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ