ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 537งานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์



บทที่ 537งานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์

“พระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้นมาหมด ไอ้เด็กน้อยอย่างนายก็มา ร้องไห้ฟูมฟายที่นี่แล้ว คิดอยากจะร้องไห้ให้ตาเฒ่าคนนี้ตาย อย่างนั้นหรือ? ”

ชายชราคนนี้ ถึงแม้จะแก่เฒ่าไม่คล่องแคล่ว แต่ว่า ดวงตา กลับเป็นประกายวิบวับ

แต่ว่าใยแมงมุมที่เกาะตามตัวของเขา บวกกับมีเพียงหนังหุ้ม กระดูก จึงชวนให้คนที่เห็นรู้สึกว่าเป็นคนชราที่แก่มาก ไม่ได้มี อะไรผิดปกติ

แต่ไม่ฉางคงกลับมีสัมมาคารวะเป็นอย่างมาก ถ้านับเวลาก็มียี่สิบปีแล้วที่ตนไม่ได้เจออาสามเลย เขากลืนน้ำลายลง

“อาสามครับ ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วยครับ ผมถูกเฉินเตี้ยนชาง สองหลานตามฆ่าครับ และสองคนนี้ได้ฆ่าลูกหลานของอาไป แล้วถึงสองคนครับ ตายอย่างอนาถ

ล้วนตายอย่างอนาถกันทั้งคู่ครับ!

โม่ฉางคงพูดพลางเสียงร้องไห้อีกครั้ง

“ตาเฒ่าเฉินเตี้ยนชาง อาเคยสู้กับเขามาแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขา จะกลับไปยุ่งเรื่องทางโลกอีกครั้ง ฮาฮา น่าสนใจ น่าสนใจไม่น้อย แต่ว่า ทำไมเขาถึงได้ถือสาคนรุ่นหลังอย่างนายได้ล่ะ และ ทำไมถึงฆ่าลูกชายทั้งสองคนของนายล่ะ เขาไม่จำเป็นต้องทำ อย่างนั้นหรอก”

บัดนี้ไม่ซางหลงถามเรียบๆ

“อาว่าลูกชายทั้งสองของนายไปหาเรื่องเขา ทำให้ต้องสูญ เสียชีวิตของตัวเองหรือเปล่า? ”

เขาพูดต่อ

“ลูกชายของผมทั้งสองคน ถึงจะเกเรบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตา ยอย่างอนาถครับ ลูกชายคนที่สาม โม่เจี้ยนถูกพวกเขาโยนลง เหว แล้วถูกพวกงูพิษและแมงต่างๆ กัดกินตายทั้งเป็นครับ และ บีบให้ลูกชายของผมโม่หนูต้องฆ่าตัวตายครับ! อาสามครับ ท่านอย่างเฉยเมยเลยนะครับ เฉินเตี้ยนชางมีความสามารถ ที่สุดในปฐพี ไม่มีใครเทียบเทียมได้ ฉางคงไม่ใช่คู่ต่อสู้กับเขา ครับ ถ้าอาสามยังไม่ออกหน้าไปช่วยขอร้องให้เฉินเตี้ยนชางไว้ ชีวิตผม ถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็ให้ผมตายตรงหน้าอาสามจะดีกว่า ครับ จะได้รักษาหน้าของตระกูลโม่เอาไว้

พูดแล้วพลางมุ่งหน้าไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง คิดจะเอาหัว กระแทกซนกับต้นไม้ให้ตัวเองตาย

และโม่ชางหลงจู่ๆร่างกายก็หายวูบ พอปรากฏตัวอีกทีก็ใช้มือ ข้างหนึ่งจับหัวของโม่ฉางคงเอาไว้

“ไอ้บ้า คนตระกูลโม่ของฉัน ถึงขั้นหวาดกลัวเฉินเตี้ยนซาง อะไรคือเก่งกาจที่สุดในใต้ปฐพี อะไรคือไร้คนเทียบเทียม ไม่ช่างหลงอย่างฉัน จะไปขอร้องคนอย่างเฉินเตี้ยนซาง น่าขำสิ้นดี! น่าขามาก! ”

โม่ซางหลงตาหรี่

แววตามีเพลิงแห่งความโมโหขึ้นมา

“ฉางคงวางใจได้ ขอแค่มีฉันอยู่ ไอ้หลานตระกูลเฉินจะไม่มี ทางทำร้ายนายได้! ในทางกลับกัน ฉัน ไม่ซางหลงยังจะช่วย ทวงความยุติธรรมให้แก่นาย จะไปคิดบัญชีกับเฉินเตี้ยนชาง

โม่ซางหลงพูดอย่างเยือกเย็น

“ขอบคุณครับอาสาม! ! ! !

ไม่ฉางคงกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของโม่ซางหลง จากนั้นก็ กอดไม่ชางหลงแล้วร้องไห้ใหญ่โต

ทันใดนั้น เขาไปสัมผัสที่แขนของ โม่ชางหลง

กลับตกตะลึง

“หา! อาสาม แขนของท่าน? ”

โม่ฉางคงล้มลงกับพื้นกะทันหัน

“ฮาฮา หลานว่าทำไมอาถึงไม่มีแขนซ้ายใช่ไหม? ”

ไม่นางคงพยักหน้าแรงๆ

เพราะอาสามได้สวมใส่ชุดคลุมยาวไว้ ตนจึงดูไม่ออกแต่แรก

ที่แท้แขนซ้ายของอาสามไม่มีแล้ว ทำให้ไม่ฉางคงตื่นตกใจยิ่งนัก

“ยี่สิบปีก่อน ผมยังเห็นท่านดีๆอยู่เลย ทำไมถึงได้เป็นเช่น

“ฮาฮา แขนซ้ายถูกฉันตัดทิ้งตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว! “หา? แล้วถ้าอย่างนี้

โม่ฉางคงอดที่จะรู้สึกหดหู่มิได้

“ฮาฮา เด็กคนนี้ กังวลว่าอาสามไม่มีแขนซ้ายแล้ว จะไปสู้กับ เฉินเตี้ยนชางไม่ได้ใช่ไหม? ”

“หลานจะกล้าสงสัยในความสามารถของอาสามได้อย่างไร

กันครับ!

“สายตาของนายมันฟ้อง!

โม่ซางหลงส่ายหัว บัดนี้ยกมือขึ้นเบาๆไปเกาะต้นไม้ต้นใหญ่ ที่ทนทานซึ่งอยู่ข้างๆ

ต้นไม้ต้นใหญ่นี้ ต้องใช้คนกอดสามคนถึงจะทั่ว ทันใดนั้น ไม่ซางหลงก็ใช้กำลังขึ้นมากะทันหัน ปัง! เกิดเสียงดังขึ้น ถึงแม้เปลือกจะยังคงมีสภาพเดิม แต่ด้านในต้นไม้ใหญ่กลับ

จากนั้นก็เห็นรากของต้นไม้ต้นใหญ่ยกขึ้นสู่ฟ้า แล้วเหี่ยวย่น สุดท้ายก็แตกกระจายออกมาจากด้านในลำต้นย่อยสลายไปตั้งนานแล้ว

“โอ้โห! อาสาม! ! ! ”

โม่ฉางคงกลืนน้ำลาย

ตกตะลึงกับภาพที่เห็น

“ฮาฮา ยังกังวลอยู่ไหม?

“ไม่ครับ! อาสามต่างหากที่เป็นผู้เก่งกาจที่สุดในปฐพี ไม่มี ใครเทียบได้ สามารถแก้แค้นแทนหลานทั้งสองคนของท่านได้ แล้วครับ! หลานขอต้อนรับอาสามลงเขาครับ!

ไม่ฉางคงตื่นเต้น

“ฮาฮา อันที่จริงแล้ว ถึงหลานจะไม่มาหาฉัน แต่ไม่นานฉันก็จะ ลงเขาอยู่ดี!

โม่ชางหลงยิ้มแห้งๆ

โม่ฉางคงนึกขึ้นได้ “ใช่ครับ อาสามปิดตัวฝึกฝนเมื่อยี่สิบปี ก่อน เคยพูดกับหลานว่า จะเตรียมตัวเพื่อไปร่วมงานงานนัด หมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกสามสิบปีจะมีเพียงครั้งเดียว เมื่อนับ เวลาก็ใกล้จะถึงแล้ว เมื่อสามสิบปีก่อนอาสามประสบความ สําเร็จกลายเป็นระดับปรมาจารย์แล้ว จึงสามารถไปเข้าร่วมเป็น ตัวแทนตระกูลโม่ได้แล้ว!

“อืม ตอนนั้นคุณพ่อไปร่ามงานงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ แล้วตกอยู่ในนั้น อาจึงสาบานว่า หากยังมีชีวิตอยู่จะบรรลุให้ถึงขั้นปรมาจารย์ จากนั้นก็จะบุกเข้าไปที่งานนัดหมายน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์ ! ”

แววตา โม่ซางหลงได้ปรากฏความทรงจำในอดีตขึ้นมา

“ใช่แล้วครับอาสาม พูดถึงงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่ง นั้นก็คือยี่สิบปีก่อน ท่านเคยให้ผมดู ภาพภูมิทิศน์ของเขาหวูหมิง เมื่อวาน ผมเห็นอีกแล้วหลานตระ กูลเฉินก็กำลังหาสถานที่แห่งนี้อยู่ครับ ได้ยินว่าจะไขปริศนาของ ไท่หยางเหมิง!

โม่ฉางคงกล่าว

“ฮาฮาฮา ไขปริศนาของไท่หยางเหมิง? ไม่หยางเหมิง เป็น ปริศนาที่ไม่เคยมีใครทำได้มาพันปีแล้ว มันก็เหมือนเป็นคำสาป แช่งอย่างหนึ่ง ไม่มีใครสามารถต้านทานกฎของมันได้ มันมายา ลวงตา ทำให้คนคิดไม่ออก เมื่อก่อนคุณพ่อมีความสามารถ ขนาดนั้น อยากจะไขตำนานและความลึกลับของไท่หยางเหมิง แต่ก็ไม่สามารถทําได้จนชั่วชีวิต ไอ้เฉินเตี้ยนชางไม่เจียมตัว เลย! ”

โม่ซางหลงหัวเราะ

“แต่ได้ยินเบาะแสจากปู่ทวดว่า งานนัดหมายน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์มีความเกี่ยวพันกับไท่หยางเหมิงเป็นอย่างมากนี้

โม่ฉางคงกล่าว
“อืมอืม ใช่ ตอนนั้นก่อนที่คุณพ่ออาจะไป เคยเรียกอาไปคุย กันที่ห้องลับ เพราะสามสิบปีถึงจะจัดงานนัดหมายน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์ครั้งหนึ่ง มีเพียงคนที่บรรลุถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว ถึงจะ ได้รับป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นคุณพ่อสงสัยว่าน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์สามารถทำให้คนดื่มอยู่ยืนคงกระพัน มีไท่หยางเหมิง เป็นผู้มอบให้ เพราะอยากจะไขปริศนาของไท่หยางเหมิง คุณพ่อ ถึงได้ไปร่วม แต่เมื่อกลับมาก็กลายเป็นคนบ้าๆบอๆ ไม่พูดไม่จา และไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ได้จากโลกไปแล้ว เอากลับมาแค่เพียงแผน ที่เขาหวูหมิงภาพนี้!”

โม่ชางหลงพูดอย่างเศร้าโศก

“ถ้าเป็นเช่นนี้ อาสามครับ หรือท่านไม่ต้องไปร่วมแล้วครับ ตระกูลไม่ขาดท่านไปไม่ได้! ผมแค่พูดว่าหากท่านเกิดอุบัติเหตุ ขึ้นมา ตระกูลโม่ก็ต้องบังลายแล้วครับ….…..

โม่ฉางคงพูดอย่างกังวล

“ฮาฮา เกิดแก่เจ็บตายเป็นลิขิตของสวรรค์ อาพยายามมาตั้ง หลายปีก็เพื่องานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จะให้ปล่อยวางได้ อย่างไรกัน!

“พอแล้ว นายวางใจได้ ก่อนที่อาจะไป อาจะช่วยตระกูลโม่ ของเรากวาดล้างเศษสวะให้พ้นทาง พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นสู่ ท้องฟ้า นายอ่อนล้าไปทั้งตัว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ!

โม่ซางหลงพูดอย่างยิ้มแย้ม

“ขอบคุณครับอาสาม! ”
และในขณะเดียวกัน

บ้านตระกูลเฉิน

เมื่อวาน คุณปู่เรียกคนของตระกูลเฉินเข้าห้องลับ เพื่อให้ไปดู ภาพสุริยันที่เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษตระกูลเฉิน

เฉินเกอก็เข้าใจถึงแก่นแท้แล้ว

แต่เข้าใจแค่เรื่องวิชาพลังหลงเสียง

ส่วนคนอื่นๆ ยิ่งไม่ได้รับอะไรเลย

ตอนนี้ เฉินเกอกำลังนั่งสมาธิอยู่บนพื้นในห้องนอน กำลัง ฝึกฝนวิธีการหายใจ

ส่วนฉินหลานพักผ่อนอยู่บนเตียงตั้งนานแล้ว

เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก

ไม่มีทางเลือก คุณปู่ถือพี่หลานเป็นหลานสะใภ้แล้ว

คุณพ่อคุณแม่และพี่สาวก็มีความคิดแบบนี้เช่นกัน

ดังนั้นเฉินเกอจึงได้แต่อยู่ในห้องเดียวกันกับพี่หลานแต่ไม่ได้ นอนเตียงด้วยกัน

“อืม? ”

และขณะนี้พี่หลานเหมือนกำลังฝันร้าย

มีเหงื่อออกเยอะมาก ยังส่ายหัวไม่หยุด
*ฝันร้ายเหรอ?

เฉินเกอยิ้มแล้วเตรียมจะห่มผ้านวมให้พี่หลาน

“คุณเป็นใคร? ”

ส่วนพี่หลาน บัดนี้ถามด้วยความตึงเครียดอย่างกะทันหัน

เธอยังคงหลับตาต่อ เห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวมาก เหมือน จะ………เห็นอะไรบางอย่าง……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ