ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 512เถียเซวียน



บทที่ 512เถียเซวียน

บทที่512 เกียเวียน

เฉินเกอยิ้มแล้วทักทายกับจางหมิน

“ฉันแนะนำให้พวกแกรู้จักกันหน่อยดีกว่า นี่คือเงินเกอ พวก เราเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวาน เป็นคนนิสัยดี แถมช่วยชีวิตฉันไว้ ด้วย!”

จางหมินยิ้ม

“เหอะๆ ก็คือเขางั้นเหรอ แต่ว่าทำไมเขาถึงแต่งตัวแบบนี้มา ร่วมงานแลกเปลี่ยนล่ะ?”

หนึ่งในผู้หญิงตรงนั้นกอดอก แล้วพูดขึ้นอย่างดูถูก

งานแลกเปลี่ยน ถูกเรียกด้วยอีกชื่อหนึ่งว่า งานรวมตัวของ ชนชั้นสูงอีกงานหนึ่ง

มาเข้าร่วมงานแบบนี้ ไม่มีคนไหนที่เป็นคนไม่มีหน้าไม่มีตา

พวกเขาแต่งตัวด้วยชุดสูทสไตล์ตะวันตก มีแค่เฉินเพื่อคน เดียวที่แต่งตัวราวกับว่าจะมาเที่ยวอย่างไรอย่างนั้น

อย่างนี้ดูลดราคาไปมาก

ความจริงในใจของใครหลายๆคนก็คิดแบบนี้

“ไม่เป็นไรหรอก ทุกคนมาเที่ยวด้วยกันเถอะ!”
จางหมุนกลับมองไม่ออกว่ามีอีกสองสามคนที่รู้สึกรังเกียจเฉิน

ก็ตามนี้ คนพวกนี้ก็เข้าไป

คฤหาสน์หลังใหญ่มากจริงๆ

แถมฟังจากที่จางหมินแนะนำ งานแลกเปลี่ยนครั้งนี้ แบ่งเป็น ข้างนอกกับข้างใน

ข้างนอกก็เป็นพวกของเก่าแก่ทั่วไป แล้วก็พวกของรักของหวง อะไรพวกนั้น

ถ้าเกิดอยากได้ของดีจริงๆ ก็จำเป็นจะต้องเข้าไปด้านใน

“เจียหมิง นาฬิกาเรือนนี้ของคุณเพิ่งซื้อมาเหรอ ฉันเพิ่งจะ สังเกต!”

คนไม่กี่คนเดินเล่นอยู่

ผู้หญิงที่ชื่อจูลี่ลี่คนนั้น พูดกับหนึ่งในผู้ชายตรงนั้น

“ใช่ครับ เพิ่งจะซื้อมา

“เท่าไหร่คะ?”

จูลี่ลี่ถามขึ้นอีกครั้ง

“ไม่แพง สองหมื่นกว่าครับ ประเด็นคือชอบรุ่นนี้เข้าแล้ว แล้วก็ เข้ากันกับสูทของผม!

หวางเจียหมิงบอก
“จิ๊ๆๆ รวยจริงๆเลยน้า!

จางหมิ่นพูดขึ้นด้วยความอิจฉาเล็กน้อย เธอไม่ได้คิดอะไรก็ แค่คิดว่าทุกคนมาเที่ยวด้วยกัน ก็มีความสุขดี

“แล้วชุดสูทนั่นล่ะ? ชุดสูทราคาเท่าไหร่?

“ชุดสูทห้าหมื่นมั้ง ช่วงก่อนหน้านั้นไปเที่ยวที่อิตาลี ซื้อมาจาก

หวางเจียหมิงบอกอีกรอบ

“ดีจริง!” จูลี่ลี่พูด

แล้วก็ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นอีกสองคนแล้วก็ผู้หญิงอีกสองสาม

คนเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่กับชีวิตของพวกเขา วิธีการตีคนแต่ไม่ได้ขยับมือแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าจลลี่ค่อนข้าง

จะถนัด

เธอตั้งใจพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าต้องการให้เงินเกอทนไม่ได้

ตอนแรกก็ยังคิดว่า ช่วยชีวิตหมินหมินก็จะต้องเป็นเจ้าชาย ม้าขาวอะไรแบบนั้น เป็นคุณชายลูกคนรวยพวกนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าก็แค่ไอ้คนยาจก

รูปลักษณ์เหรอ ก็นับว่าพอได้แหละ แต่ว่าทั้งตัวแต่งตัวแบบ นั้นมาออกงาน ก็นับว่าไปหน่อย

แล้วก็มาลดราคาของพวกเธอลง จูลี่ลี่อยากจะบีบให้เขาออกไป
ให้รู้ความต่างของตัวเอง

“ไอ้ของผุพังพันธุ์นี้ ยังกล้ามาตั้งโชว์ข้างๆฉัน ขายหน้าคน ไป ไปๆ!”

และในตอนนี้เอง คนแก่คนหนึ่งก็เตรียมพร้อมที่จะวางของ ขาย น่าของรักของตัวเองออกมาแสดง

เห็นได้ชัดว่าเขาได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบสมบัติแล้ว มี สิทธิ์ที่จะได้เข้ามา

ที่แสดงสิ่งของตรงจุดนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นวงศ์ตระกูล มีที่ไหน ที่จะเป็นแผงตั้งขายง่ายๆแบบนี้

คนแก่คนนั้นถอนหายใจ ทำได้แค่เก็บของของตัวเองม้วน เข้าไป เหมือนกับเถียเชวียนอันนั้น แล้วเดินเข้าไปทางด้านใน เตรียมที่จะหาแผงขาย

แต่เฉินเกอเหลือบไปเห็นเถียเซวียนอันนั้น เปลือกก็กระตุกขึ้น

เบาๆ

“หืม?”

เถียเซวียนอันนี้ ด้านนอกก็เป็นเหล็กที่ดูเป็นเม็ดๆ แต่ว่ากลับ ทำให้เฉินเกอรู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ

ความรู้สึกแบบนี้ ตั้งแต่ที่ตัวเองได้เป็นผู้ใช้กำลังภายใน เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ

“มีปัญหา!”
เฉินเกอพูดขึ้นในใจ

“ไปกันเถอะเฉินเกอ เป็นอะไร?”

จางหมินเดินมาเรียก

“อ๋อๆ ไม่อย่างนั้นพวกคุณก็ไปกันก่อนเลย ผมอยากลองเดินดู ของเองน่ะ!”

เฉินเกอยิ้ม

แต่สายตากลับมองไปทางที่คนแก่คนนั้นจากไป

“อย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวตอนใกล้เคียง ฉันจะโทรหาคุณนะ พวก เราไปหาที่กินข้าวด้วยกัน!!

จางหมันก็พอจะมองออก เพื่อนๆของตัวเองพยายามจะบีบ

เฉินเกอออกไป

ตอนนั้นก็เลยพูดขึ้น

หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว เฉินเกือก็ตามคนแก่คนนั้นไป

“เหอะ หมุนหมิน แกว่าแกจะรู้จักคนแบบนี้ไปทำไมกัน ขายหน้าคนชะมัด”

“นั่นสิ ทั้งหมดนั่นก็คือยาจก พอแล้วจริงๆ มีเขาอยู่ อารมณ์ เที่ยวก็ไม่มีแล้ว!”

“ตอนเที่ยงไปกินข้าวไม่พาเขาไปไม่ได้เหรอ แกดูว่าพวกเรา แต่งตัวยังไง แล้วเขาแต่งตัวยังไง อีกอย่างนึง เขาเป็นถึงผู้มี พระคุณของแกนะ แกยอมให้เขารู้สึกต่ำต้อยต่อหน้าพวกฉันเหรอ?”

กลุ่มหญิงสาวก็เริ่มพูดกันขึ้นมา

“เอาน่าๆ ฉันยังต้องเตือนพวกแกนะ เฉินเกอเขาเองก็นิสัยดี ถึงจะรู้จักกันแค่ไม่นาน แต่ว่าพวกแกเชื่อฉัน เขาเป็นคนที่ไม่เลว เลย ตอนเที่ยง ฉันจะชวนเขาไปกินข้าว พวกแกก็ทําดีกับเขา หน่อยได้ไหม?”

จางหมุนในใจก็ลำบากใจเล็กน้อย

“ก็ได้!”

ทุกคนรับปากอย่างฝืนใจ

ส่วนเฉินเกอก็ตรงไปหาคนแก่คนนั้น

คนแก่ก็อารมณ์ก็ยังคงไม่ตกลง ส่ายหน้าไปตลอด สุดท้ายก็ หาที่ๆห่างไกลออกไปมากๆ แล้วค่อยจัดการแผงตั้งของตัวเอง ให้เรียบร้อย

เพราะว่าตรงนี้ ก็คงไม่มีใครไล่คนแบบนอกแบบตัวเองแล้ว “คุณลุง มีแค่ของชิ้นนี้หรือครับ?”

ส่วนเฉินเกอที่ตามมา มาถึงแผงขาย ก็ย่อตัวลงแล้วยิ้มให้

เขา

“ไม่ใช่แค่ชิ้นนี้หรอกนะ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้อยากมาหรอก เป็นคนที่จัดงานขอให้ฉันมา บอกว่าไอ้เหล็กๆของฉันวันนี้ สามารถขายได้ราคางาม แต่ว่าพอมาแล้ว ก็โดนคนอื่นไล่ เห้อไอ้หนุ่ม นายมีบุหรี่ไหม? ให้ฉันสักมวนสูบเสร็จฉันก็จะไปแล้ว! ตอนเที่ยวฉันยังต้องทำอาหารให้หลานสาวฉันอีก!

คนแก่ถอนหายใจ

“มีครับ!

เฉินเกอส่งบุหรี่ให้หนึ่งมวน “คุณบอกว่าทางฝ่ายจัดงานขอ ให้คุณมา อย่างนั้นพวกเขาเคยเห็นเมียเงี่ยนอันนี้ของคุณเหรอ ครับ?”

เฉินเกอเหลือบมอง เถียเซวี่ยนอันนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ที่ดีที่สุด คือมีบรรยากาศแปลกตาบนนั้น ดูท่าทางเหมือนของเก่าแก่แก่

“พวกเขาเห็นจากบนโทรทัศน์ ไม่ใช่ว่ามีรายการหนึ่งที่ขาย ของเก่าแก่ โดยเฉพาะเหรอ ของฉันวันนี้ เป็นมรดกตกทอด ฉัน ก็เลยได้ออกทีวี ปรากฏว่ามีผู้รู้พูดว่าของเก่าแก่ชิ้นนี้ของฉัน มันดี แต่ไม่มีคุณค่าทางศิลปะหรือโบราณคดี!”

“หลังจากนั้น พวกคนจัดงานก็หาฉันเจอ บอกว่าของชิ้นนี้ สามารถที่จะขายให้กับชาวต่างชาติได้ ไม่แน่ว่าอาจจะขายได้ ในราคาที่ค่อนข้างสูง ให้ฉันมาลองดู!

“แถมทางคนจัดงานบอกว่า พอมาแล้วให้ฉันไปหาพวกเขา ก่อน เอาของให้พวกเขาก่อน แต่ว่าฉันเองก็ไม่เข้าใจ พอได้ยิน ว่าขายเป็นเงินได้ ฉันก็เลยมาตั้งแต่เช้าแล้ว เดินหาไปหามาอยู่ ข้างนอกตั้งนาน ก็หาคนเขาไม่เจอ ก็เลยเข้ามาเองแล้ว!”

“ไอ้หนุ่ม พวกนักธุรกิจพวกนี้น่ะมันเชื่อใจไม่ได้ พวกเขาขายได้แสนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจจะให้นายแค่ห้าหมื่นก็ได้ เข้ามาขาย เองเหมาะกว่า!”

ระหว่างที่พูด คนแก่ก็สูบบุหรี่มวนแรกหมดแล้ว

เฉินเกอก็รีบส่งบุหรี่มวนใหม่ให้ทันที

หยิบเถียเวียนขึ้นมา เฉินเกอพยายามคิดอย่างละเอียด ใน ใจก็เริ่มคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา

“คุณลุง เถียเซวี่ยนอันนี้ของลุงราคาเท่าไหร่ ผมซื้อครับ คุณ

ลุงเสนอราคามาได้เลย ตามใจคุณลุงเลย!”

เฉินเกอยิ้ม

“โอ๊ย ไอ้หนุ่ม ไอ้ของแบบนี้มันไม่มีราคาทางศิลปะหรือ โบราณคดี ก็แค่เขามาหลอกพวกต่างชาติ ก็แค่เหล็กเป็น สนิม!” บางทีอาจจะเพราะสูบบุหรี่ก็เลยเกรงใจ คุณลุงก็เลยรีบ ห้าม

“ไม่เป็นไรครับ ของชิ้นนี้มีประโยชน์กับผมมาก คุณลุง สบายใจได้!”

“จริงนะ?”

“แน่นอนว่าจริงครับ!”

“อย่างนั้นฉันก็จะเสนอราคาที่จะขายให้ชาวต่างชาติเลยนะ!”

“เสนอมาเลยครับ……

“ห้าแสน!”
คนแก่พูดขึ้นด้วยหน้าแดงแจ๋ เพราะว่าเขาได้ยินมาว่า เป็น ของเก่าแก่แก่ ไม่ว่าจะเสนอราคาเท่าไหร่พวกชาวต่างชาติก็ ยอมซื้อทั้งนั้น

เงินเกอหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องแค่ห้าแสนหรอกครับ ผมให้ คุณลุงเลยห้าล้าน ได้เงินไปแล้ว คุณลุงก็จะได้ใช้ชีวิตที่สบายๆ ถ้าเกิดว่ายังเก็บของชิ้นนี้เอาไว้ คุณลุงก็ไม่ได้ใช้……

เฉินเกอไม่ได้พูดให้จบ เพราะว่าอีกครึ่งหลังประโยคก็คือ ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้คุณลุงเจอกับเรื่องหายนะก็ได้……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ