ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 900 หมู่บ้านโล่เสีย



บทที่ 900 หมู่บ้านโล่เสีย

“โอเค!

พวกเขาทั้งสองไม่มีความคิดเห็นสักนิด ตอบรับไปโดยตรง

สำหรับการผจญภัยครั้งนี้ ทั้งหมดก็ล้วนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาสามคนไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไร

และพวกเขาสามารถทำได้อย่างเดียวก็คือเตรียมพร้อมรับมือ กับศัตรู ไม่ว่าจะมารูปแบบไหนก็พร้อมสู้

แน่นอนอยู่แล้ว มีเฉินเกออยู่ เงิน และเลยเล่ทั้งสองคนก็ วางใจขึ้นมาก อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าเฉินเกอจะไม่ปล่อยให้ พวกเขาเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่

คืนวันนั้น ทั้งสามคนหลับพักผ่อนเร็วมาก

ในเมื่อพรุ่งนี้จะต้องเริ่มการผจญภัยครั้งใหม่ จะต้องสะสม กำลังและจิตใจเป็นแน่ ต้องมีสภาพท่าทีที่ดีถึงจะถูก

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนก็ขยับตัวแล้ว

เงินเกอได้ออกเดินทางตามแผนที่ที่ท่านฟ่านมอบให้ไปค้นหา ความลับของเผ่า

ก้าวแรก พวกเขาทั้งสามคนจะต้องขับรถไปยังหมู่บ้านโล่เสียก่อน

จากเมืองที่พวกเขาทั้งสามคนอยู่ไปถึงหมู่บ้านโล่เสียต้องใช้เวลาสองวัน และเวลาสองวันนี้พวกเขาก็ทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่บน ท้องถนน

แปดโมงเช้า ทั้งสามคนเริ่มออกเดินทางอย่างเป็นทางการ

มุ่งไปทางหมู่บ้านโล่เสียด้วยความรวดเร็ว

เงินจีที่นั่งอยู่เบาะที่นั่งข้างคนขับกำลังอ่าน (ทฤษฎีหญิง หยาง) หนังสือเล่มนั้นที่ยืมมาจากห้องโถงของเลยเล่

“หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ระบุไว้ว่าใครเป็นคนเขียนกันแน่!

หลังจากอ่านไปสักพัก เงินก็พบกับปัญหาอย่างหนึ่ง จึงรีบ เตือนเลยเล่กับเฉินเกอ

“ใช่ ปัญหานี้ตอนแรกฉันก็เจอแล้ว หรือเป็นเพราะตอนที่เผย แพร่ลืมระบุไว้?”

แน่นอนว่าเลยเล่ก็พบกับปัญหานี้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่เขาไม่

ได้ไปใส่ใจ

ตอนนี้ได้ยินเงิน เสนอปัญหานี้ขึ้นมา ดังนั้นจึงได้ทำการคาด เดาอย่างกล้าหาญ

“เป็นไปไม่ได้ การเผยแพร่หนังสือชนิดนี้จะต้องผ่านการถูก ตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากว่าการระบุผู้เขียนตกหล่น แบบนั้น การตรวจสอบการเผยแพร่จะต้องไม่ผ่านเป็นแน่

สําหรับการคาดเดาของเล่ยเล่ เจินจีได้ปฏิเสธไปโดยตรง “ฉันคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ทางหนึ่ง นั่นก็คือผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีความพิเศษมาก ดังนั้นจึงไม่ได้เอาชื่อของเขา มาระบุลงไป!”

เวลานี้เฉินเกอก็ได้เอ่ยปากพูดการคาดเดาของตัวเองออกมา

“อืม ฉันคิดว่าที่คุณพูดมีความเป็นไปได้มาก!

การพูดเช่นนี้ของเฉินเกอ เงินจี้แสดงความเห็นด้วย

“แต่ว่าในเมื่อฐานะของผู้เขียนคนนี้มีความพิเศษ แบบนั้นแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็น่าจะมีความพิเศษมากด้วยใช่ไหม? ทำไมหนังสือ เล่มนี้ถึงยังสามารถเผยแพร่ได้ล่ะครับ

เลยเล่รู้สึกประหลาดใจจึงพูดต่อ

“หนังสือสามารถเผยแพร่ แต่ฐานะของนักเขียนพิเศษไม่ สามารถให้คนอื่นรู้ได้ คิดว่า ในนั้นจะต้องมีความลับที่ไม่สามารถ ให้คนรู้ได้เป็นแน่”

เงินจีก็พูดด้วยความรู้สึกแปลกและประหลาดใจ

“ใช่แล้ว เจินจี ในหนังสือเล่มนี้มีหรือไม่มีบันทึกเกี่ยวกับป้าย เส่ส้าของเผ่าเสีส้?”

ในเวลานี้ เฉินเกอนึกอะไรได้กะทันหันจึงได้รีบถามเงิน

หลังจากที่เงินได้ยิน ก็เปิดหนังสืออีกครั้งทันที จากนั้นก็

ค้นหาอย่างละเอียด

หลังจากค้นหาสักพักหนึ่ง ก็ถูกเงินหาเจอตามคาด

“มีอยู่จริงด้วย ป้ายเส่า เป็นสรรพาวุธแห่งเผ่าของเผ่าเส้าสามารถใช้เพื่อปกครองควบคุมผีและวิญญาณทั้งหมดได้

เงินได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับป้ายเสาออกมาให้เงินเกอ ฟัง

หลังจากเฉินเกอฟังเสร็จก็พยักหน้า

ดูเหมือนว่าสิ่งที่ท่านฟ่านบอกกับตัวเขาเองนั้นทั้งหมดนั้นเป็น ความจริง

“ครั้งนี้เป้าหมายที่พวกเราไปคงไม่ได้เป็นเพราะป้ายเส่ร้า หรอกใช่ไหม?”

สมองของเลยเล่ก็ปราดเปรียวมาก มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที มอง แล้วถามไปยังเฉินเกอ

เมื่อได้ยินเลยเล่ถาม เงินก็เคลื่อนสายตาไปมองที่เฉินเกอ

เฉินเกอไม่ได้ปฏิเสธ

“ใช่ ไม่ผิด ครั้งนี้พวกเราไปแดนหญิงก็เพื่อค้นหาแดนของ เผ่าเล่าให้พบ สุดท้ายนั้นก็เอาป้ายเช้านี้

นี่ก็คือเป้าหมายที่พวกเขาทั้งสามออกเดินทาง เฉินเกอจะไม่ ปิดบังแน่นอน

“แต่ว่าคทาอันนี้ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายดายขนาดนี้นะ ใน หนังสือเล่มนี้มีบันทึกว่าผู้คนมากมายที่คิดอยากได้ป้ายเส่ช้าก็ ล้วนต้องมอบชีวิตเป็นของแลกเปลี่ยน

เงินจีมองเฉินเกอกล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง
“คุณพูดไม่ผิด แต่ผมเชื่อว่าพวกเราจะสามารถได้ย้ายเข้ามา อย่างแน่นอน!”

เฉินเกอพูดด้วยความมั่นใจเป็นที่สุด

คนอื่นไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าตัวเขาเองจะเอามาไม่ได้ ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีและความสามารถที่แตกต่างไปจาก ปัจจุบันนี้มาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ความสามารถของเฉินเกอเก่งกาจ ขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าจะต้องมีคุณสมบัติที่จะเอาป้ายเล่าอันนี้มา ได้แน่นอน

หลังจากผ่านการขับรถมาเป็นเวลาสองวัน ในที่สุดทั้งสามคน ก็มาถึงหมู่บ้านโล่เสีย

เฉินเกอให้เงินจีฬาโรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ไปก่อนคืนหนึ่ง เพื่อ

เตรียมตัวให้พร้อมสําหรับก้าวที่สองในเช้าวันรุ่งขึ้น

เงินจีฬาโรงแรมชั้นดีมากแห่งหนึ่ง

ทั้งสามคนก็เข้าพัก

หลังจากที่วางกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย ทั้งสามคนก็ไปร้าน อาหารชั้นล่างเตรียมตัวกินอาหารเย็น

“คุณหนูใหญ่เจิน พี่เฉิน พวกคุณไปกินอาหารกันก่อนเถอะ ผม จะไปห้องน้ำหน่อย ผมไม่เลือกกิน พวกคุณสั่งอะไรผมก็กินได้

เพียงเดินเข้าไปในร้านอาหาร เลยเล่ก็พูดพร้อมกุมท้องและขมวดคิ้ว

พูดจบ เลยเล่ก็รีบวิ่งไปทางห้องน้ำทันที

เงินเกอและเงินก็ไม่ได้สนใจเขา ทั้งสองคนไปถึงร้านอาหาร ก็นั่งลงสั่งอาหาร

หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที เลยเล่กลับมา

แต่ว่าแสดงออกถึงความร้อนรน รีบร้อนกลับมานั่งลงข้างๆ เฉินเกอและเงิน

เห็นท่าทางที่ร้อนรอขนาดนี้ของเลยเล่ เฉินเกอกถามด้วย ความงุนงงเป็นอย่างมาก

เลยเล่ เป็นอะไรหรอ? แค่เข้าห้องน้ำทำให้แกรีบร้อนขนาด นั้นเลย”

เฉินเกอมองไปทางเลยเล่แล้วถาม

“พี่เฉิน คุณหนูใหญ่เงิน เมื่อกี้….เมื่อกี้…ผมอยู่ในห้องน้ำ…

เลยเล่พูดจาไม่ออกด้วยความหอบ

“เธอดื่มน้ำก่อน ค่อยๆ พูด ไม่ต้องรีบ

เงินจีรีบส่งน้ำให้เล่ยเล่แล้วพูดเตือน

หลังจากที่เล่ยเล่ดื่มน้ำไปแล้ว สงบอารมณ์ของตัวเองลงหน่อย แล้ว ใจเย็นขึ้น

“เป็นแบบนี้ครับ เมื่อกี้ที่ผมไปห้องน้ำ ในห้องน้ำได้ยินผู้ชายสองคุยพวกเรามาเพื่อมุ่งไปเผ่าเช้าครับ

เลยพูดอย่างแผ่วเบาเฉินเกอและเงินได้ฟังคำพูดๆเมื่อมั่นใจไม่ผู้อื่น จากปลอดแล้วก็มองทางเลย

เลยแกแน่ใจนะว่าได้ฟังผิด”เงินเกอถามเลยเพื่อได้เป็นไปนั้นถึงเส่ส้า”
เลยเล่พยักหน้าตอบด้วยความแน่วแน่มองดูหน้าของเลยเล่ เฉินเกอและตอนดูท่าแล้ว คนมาค้นหาเผ่าเช้าสามคนแล้วสองคนนั่นหน้าตายังไงจําได้ไหมหลังจากครุ่นครู่หนึ่ง เฉินเกอไปครั้ง
เลยเลรีบเงยหน้าขึ้นมองหาไปทั่วๆ ทันที

หลังจากหาอยู่ครู่หนึ่ง เลยเก็หาเงาร่างของผู้ชายสองคนนั้น ที่เจอในห้องน้ำเมื่อครูได้สําเร็จ

“อยู่ตรงนั้น!”

เลยเล่แอบชี้ไปยัง โต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนักอย่าง

ระมัดระวัง

โต๊ะอาหารโต๊ะนั้นมีผู้ชายนั่งอยู่สี่คน ทุกคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้า สีดำ แค่มองดูก็รู้ว่าไม่เหมือนเป็นคนดีอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ