ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 909 มาเป็นโขยง



บทที่ 909 มาเป็นโขยง

“ออกคําสั่งลงไป ทั้งหมด ให้เตรียมตัวให้พร้อม ให้นักล่าในชุดสี ม่วงเป็นคนไปตามหาสามคนนั้น หากหาเจอแล้วให้จัดการทิ้ง ทันทีเลย! ”

หลังจากนิ่งไปสักพักชายในชุดดำก็ได้ออกคำสั่ง

“ครับ หัวหน้า! ”

นักล่าที่อยู่ในนี้ต่างได้ยกมือขึ้นรับคำสั่ง

ตอนนี้เวลานี้ เฉินเกอและพวกยังไม่รู้สถานการณ์นี้ และก็ไม่รู้ ว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนพวกเขาในไม่ช้า

จนกระทั่งพลบค่ำ เฉินเกอและพวกจึงได้หยุดพัก เลือกสถานที่

ตั้งแคมป์ชั่วคราวใต้ต้นไม้ใหญ่

ตั้งกองไฟขึ้นมา นำหมูป่าที่เหลือเมื่อวานมาย่างบนกองไฟ

เลยเล่นั่งอยู่ข้างกายหยูชิน คุยเป็นเพื่อนหยูชิน และเงินจีนั้นนั่งข้างกายเฉินเกอ ทั้งสองคนได้สนทนากันขึ้นมา

“เงินจี ฉันมีความคิดหนึ่ง! ”

เวลานี้เฉินเกอก็ได้มองเงินแล้วกล่าว

เงินจีมองเฉินเกออย่างสงสัย ดูเหมือนว่าจะเดาออกว่าเฉินเกอจะพูดอะไร
“นายอยากจะพูดว่าให้ฉันรับหยูชินไว้ใช่มั้ย แล้วมาฝึกฝนเธอ ให้กลายเป็นผู้ฝึกตน? ”

ไม่รอให้เงินเกอพูดความคิดของตัวเองออกมา เงินก็ได้แย่ง

ถามขึ้นมาก่อน

เฉินเกออึ้งไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าเป็นที่จะเดาความคิดของตัว เองออก

“ไม่ผิด ฉันมีความคิดแบบนี้ ในเมื่อตอนนี้เธอได้ถูกฉันลบ ความทรงจำไปแล้ว อย่างนี้แล้วเธอยิ่งสามารถเรียนรู้การเป็นผู้ ฝึกตนได้อย่างสบายๆ! ”

เฉินเกอมองเงินแล้วกล่าวอย่างจริงจัง

“อืม นายพูดถูก อันที่จริงฉันก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน ปล่อยให้นายมีลูกศิษย์ไม่ได้อีกแล้ว ฉันก็อยากจะมีลูกศิษย์ผู้ หญิงสักคนเหมือนกัน!!

เงินก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของเฉินเกอ

“ได้ งั้นก็ตกลงตามนี้ ด้านของหยูซินฉันจะเป็นคนไปคุยเอง! ”

ในเมื่อทั้งสองมีความเห็นตรงกัน ก็ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่นิด เดียว จากนั้นก็เพียงแต่ไปพูดคุยกับหยูซิน จะยินยอมหรือไม่ก็ เป็นเรื่องของหยูซินแล้ว แต่เฉินเกอเชื่อว่าหยูซินต้องยินยอม อย่างแน่นอน

หลังจากที่ทั้งสองคุยกันแล้ว เฉินเกอก็ได้เรียกหยูซินมานั่งข้าง กายตัวเองแล้วคุยกันลำพัง
หยูชินก็เชื่อฟังอย่างว่าง่ายนั่งลงข้างกายของเฉินเกอ

“พี่เฉิน พี่เรียกฉันมามีธุระเหรอ? ”

หยูชินอมยิ้มมองไปที่เฉินเกอแล้วถาม

“ใช่จ้า หยูซิน ฉันมีเรื่องอยากจะบอกกับเธอ และก็ต้องการ ความเห็นของเธอด้วย! ”

เฉินเกอก็ยิ้มให้กับหยูซินแล้วกล่าว

“อืมๆ พี่เฉินพี่พูดมาเถอะ ขอเพียงเป็นเรื่องที่ฉันทำได้ฉันก็จะ ทำมันอย่างเต็มที่! ”

หยูชินก็พูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีความเห็นใดๆ ไว้วาง ใจเฉินเกออย่างมาก

“หยูชิน เธออยากรู้ว่าฉันกับคุณเงินทำงานอะไรมั้ย? ”

จากนั้น เฉินเกอมองหยูซินแล้วถาม

หยูซินฟังแล้ว ทันใดนั้นก็แสดงสีหน้าที่สงสัยออกมา

สำหรับจุดนี้ อันที่จริงหยูชินไม่เคยคิดเลย

หากเฉินเกอไม่ถามตัวเองแบบนี้ เธอไม่มีทางที่จะไปถามเรื่อง

นี้โดยเด็ดขาด

ในเมื่อเงินเกอได้ถามขึ้นมาแล้ว ก็ทำให้เธอสงสัยขึ้นมา เลย ทำให้เธออยากรู้ว่าเป็นเกอกับเงินจีนั้นทำงานอะไรกันแน่

คนเรา ต่างก็เป็นสัตว์ที่อยากรู้อยากเห็น
“พี่เฉิน แล้วพวกพี่ทำงานอะไรกันคะ? ”

หยูในถามเฉินเกออย่างยิ้มแย้ม

“พวกเราเป็นผู้ฝึกตน! ”

เฉินเกอได้เปิดเผยฐานะของตัวเองโดยตรง “ผู้ฝึกตน? มันคืองานอะไรเหรอ? ”

หยูชินได้ฟังก็ถามอย่างประหลาดใจ เธอไม่เคยได้ยินงาน แบบนี้มาก่อนเลย

“ในโลกใบนี้ไม่เพียงมีแต่มนุษย์เท่านั้น ยังมีวิญญาณอยู่ด้วย และหน้าที่ของผู้ฝึกตนก็คือช่วยคืนความยุติธรรมให้กับโลกใบ

จากนั้น เฉินเกอก็ได้เล่าเรื่องราวฐานะของตัวเองทั้งหมดให้ กับหยูชินฟัง

หยูชินฟังแล้ว ก็รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก

เธอคิดไม่ถึงว่าในโลกใบนี้ยังมีคนที่น่าอัศจรรย์แบบนี้อยู่ด้วย ยิ่งคิดไม่ถึงว่าคนกับมนุษย์ยังมีปฏิสัมพันธ์กันได้ด้วย

“แล้ว…..แล้วเลยเล่เขา…..

เวลานี้หยูซินก็คิดถึงเลยเล่ รีบมองไปที่เลยเล่แล้วก็มองกลับ มาที่เฉินเกอแล้วถาม

“เห่อๆ เลยเล่เพิ่งเข้าร่วมทีมของพวกเรา เป็นลูกศิษย์ของฉัน เอง ดังนั้นที่ฉันพูดเรื่องเหล่านี้กับเธอ ก็เพราะอยากให้เธอได้กลายเป็นผู้ฝึกตนเหมือนกัน เป็นลูกศิษย์ของคุณเงิน

เงินเกอไม่ได้อ้อมค้อม ได้บอกความคิดเห็นของตัวเองออกมา โดยตรง

“ถ้าหากเธอไม่อยากก็ไม่เป็นไร พวกเราเคารพการตัดสินใจ ของเธอ!”

เฉินเกอก็ไม่บังคับหยูชิน การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ตัวหยูชิน

“พี่เฉิน ชีวิตของฉันพวกพี่เป็นคนช่วยไว้ ฉันเต็มใจที่จะ ติดตามพวกพี่ และฉันก็ยินดีที่จะเป็นลูกศิษย์ของคุณหนูใหญ่เงิน ไปเป็นผู้ฝึกตนที่ดีมีคุณธรรมคนหนึ่ง! ”

หลังจากที่นิ่งไปสักพัก หยูชินก็มองเฉินเกอพูดอย่างแน่วแน่ เลือกที่จะตกลงทันที

“ดี หยูซินฉันมีคำพูดหนึ่งจะพูดกับเธอ หากทำงานนี้แล้ว ก็ไม่ สามารถที่กลับกลอกได้อีก เธอต้องทำมันตลอดไป อีกอย่างยัง ต้องพบเจอวิญญาณหลายรูปแบบ เธอต้องเอาชนะการกลัว วิญญาณ! ”

เฉินเกอก็ได้เตือนหยูซินอีกครั้ง

“วางใจเถอะพี่เฉิน ฉันต้องตั้งใจทำอย่างแน่นอน อีกอย่างยัง มีพี่กับคุณหนูใหญ่เป็นอยู่ด้วย ฉันเชื่อว่าจะสามารถทำมันได้ดี อย่างแน่นอน! ”

“งั้นก็ดี เอาล่ะ ไปไหว้คุณเงินเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการ เถอะ! ”
เงินเกอมองยิ้มไปที่หยูชินแล้วส่งสัญญาณให้เธอ

พูดจบ ทั้งสองคนจึงได้ลุกขึ้นมา

หยูซินเดินไปด้านหน้าของเงิน

“คุณหนูใหญ่เงิน ไม่ใช่สิ ต้องเรียกอาจารย์ ตั้งแต่ตอนนี้ เป็นต้นไปท่านก็คืออาจารย์ของฉันแล้ว ฉันยินดีที่จะเรียนรู้การ เป็นผู้ฝึกตนกับท่าน!

เงินจีมองหยูซินแสดงความตั้งใจของเธอ

ได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นเงินก็ยิ้มอย่างพอใจ ใบหน้าบนรอย ยิ้มแบบว่าเอาอะไรมาปิดก็ไม่มิด

เพราะว่าในที่สุดเงินจีก็มีลูกศิษย์ผู้หญิงเป็นของตัวเองแล้ว

เห็นภาพนี้แล้ว เลยเล่ที่อยู่ด้านข้างก็ดีใจอย่างมาก เขาก็ดีใจ แทนหยูชินด้วย เพราะว่าต่อไปนี้หยูชินก็เป็นหนึ่งในสมาชิกใน ทีมของพวกเขาแล้ว และก็จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตน

“เฮ้ย ดี ดี! ”

เงินจีตอบอย่างมีความสุขมาก

“ฉับๆๆ! ”

ในเวลานี้ ก็เห็นเงาแวบออกมาอย่างรวดเร็วจากรอบๆ ป่า

ชั่วพริบตาเดียว เฉินเกอและพวกก็ระวังตัวกันขึ้นมาทันที ทั้งสี่ ยืนเอาหลังชนกัน
“เป็นพวกนักล่า! ”

เงิน รีบมองไปพูดเตือนเงินเนื้อสามคนทันที

เงินเกอก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงว่านักล่าจะตามได้ รวดเร็วเพียงนี้

“เงินจี เธอปกป้องเลยเล่กับหมูซีนให้ดี ฉันไปสู้กับพวกมันเอง

หาโอกาสหนีกันไปก่อน! ”

เฉินเกอมองไปสั่งกับเงินจี

“ได้ งั้นนายระวังตัวหน่อยละกัน!!

เงินไม่คัดค้านอยู่แล้ว ได้ตอบตกลงทันที

พูดจบ เฉินเกอก็ได้ซักกระบี่ซิงหยวนของตัวเองออกมา “พี่ใหญ่ มันก็คืออาวุธอันนั้น!

เวลานี้หนึ่งในนักล่าชุดสีม่วงมองเห็นกระบี่ซิงหยวนในมือเฉิน เกอแล้วกล่าว

เพราะสมาชิกของทีมที่เจ็ดล้วนตายด้วยกระบี่ซิงหยวนที่อยู่ใน มือของเฉินเกอ อีกอย่างรอยมีดนั้นก็คือรอยของกระบี่ซิงหยวน มองแวบเดียวก็มองออก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ