ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 403 คนขายเฉินมาแล้ว



บทที่ 403 คนขายเฉินมาแล้ว

อะไรนะ? ประมุขน้อยตระกูลเฉินหรือคุณชายเงิน?

ผู้คนต่างมองหน้ากัน

“ไม่เคยได้ยินว่าตระกูลเฉินมีประมุขน้อยนี่นา!

“เห่อๆ พวกแกอย่าลืมนะ ประมุขน้อยของตระกูลเฉินนั้นถูก ตระกูลเฉินเลี้ยงอย่างคนธรรมดา คนทั่วไปไม่มีทางที่จะมีข้อมูล ของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้เมื่อก่อนตระกูลฟางเคยได้ ระดมคนตั้งมากมายในการตรวจสอบ แต่ก็ตรวจไม่พบข้อมูล ใดๆ!”

“คิดไม่ถึงว่าคุณชายเฉินของตระกูลเฉินได้กลับสู่ตระกูลแล้ว วันนี้ก็ได้มาถึงตระกูลฟางแล้วด้วย อย่างนี้ช่างเก่งกาจไปแล้ว ไม่ แพ้เฉินจิ้นตง ในอดีตเลยแม้แต่น้อย!!

ครอบครัวข้าทาสบริวาร ต่างสนทนากันขึ้นมา

ฟางเจี่ยนกันนั้นลมหายใจยิ่งอยู่ยิ่งสั้น ในใจมีความรู้สึกตื่น เต้นอย่างบอกไม่ถูก

“สวัสดีคุณชายหยาง คุณชายเฉินคนนี้เป็นทำอะไรอยู่ที่เมือง หนานหยางเหรอ?”

วันนี้ตระกูลเฉินได้มาถึงแล้ว ครอบครัวข้าทาสบริวารเหล่านี้ ต่างไม่มีบทบาทขึ้นมาทันที
รวมทั้งตระกูลหลงด้วย

หยางเส้วมาร่วมงานนี้ในฐานะคุณนายรองแห่งตระกูลหลง เวลานี้ก็ได้ถูกท่าทางที่ตกใจของฟางถึงทำให้ตกใจไปด้วย รีบ ร้อนถามขึ้น

คนที่ทุกคนเรียกว่าคุณชายเฉินนั้น ทำให้หยางเสว่อดไม่ได้ที่

จะคิดถึงใครบางคน

“ตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานหยาง ตระกูลที่ลึกลับที่มีอำนาจ บารมีมาก ได้ยินมาว่าครอบครัวข้าทาสบริวารที่ด้อยสุดของเขา มีอำนาจบราเกือบจะเทียบเท่าตระกูลฟางแล้ว!”

ซือถูหยางกล่าวด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว

“ห้า? ในโลกนี้ยังมีตรกูลแบบนี้ด้วยเหรอ?”

ถึงแม้หยางเส้วที่เพิ่งจะมา แม้ว่าจะได้รับความรู้เพิ่มมาไม่น้อย แต่ได้ยินที่ซือถูหยางเล่าให้ฟัง ก็ยังคงสะดุ้งเหมือนกัน

“มีสี หลายปีมานี้ตระกูลฟางได้ใช้ทรัพย์สินเก่าที่มีมาต่อสู้กับ ตระกูลเฉิน โดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถที่จะสู้ได้เลย~! ดังนั้นจึงได้ เลือกรูปแบบอย่างนี้ โดยการซ่อนตัวเองเอาไว้ หลบหลีกตระกูล เฉิน เพื่อที่รอโอกาสเอาคืน เห่อๆ ก็เป็นเพราะเหตุนี้ ภายใน ตระกูลฟางตอนนี้แตกแยกกันอย่างหนัก วันนี้ตระกูลเฉินได้มา หาถึงที่บ้าน ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา!”

ซื้อถูหยางหายใจลึกๆแล้วพูด

“งั้นๆ…ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินมากเท่าไหร่ล่ะ?”
หยางเสวก็ตกใจจนอึ้ง รีบถามขึ้นทันที

“ไม่รู้นะ แต่ได้ยินภายนอกร่ำลือกัน ทรัพย์ครึ่งหนึ่งของโลก ตอนนี้ได้ถูกรวบรวมไว้ที่ตระกูลเฉิน!”

หลังจากที่ซือถูหยางพูดจบ

ดวงตาของหยางเสว่ได้ถูกเพิ่งกว้างขึ้นมาทันที

ครึ่งหนึ่งของโลก มากมายมหาศาลแค่ไหน และคุณชายเฉินแห่งเมืองหนานหยางคนนี้ จะมีความเป็นอยู่ ยังไงละเนี่ย?

ทุกคนเริ่มพูดคุยกันด้วยความตกใจ

“ฟาน ยีฟาน รีบมาฟังหน่อย ดูเหมือนจะมีคุณชายที่เก่งกาจ ได้มาที่นี่!”

หญิงสาวหลายคนได้ไปลากจ้าวยีฟานมา

ห้า? เก่งขนาดไหนเชียว? จ้าวยีฟานกล่าวอย่างแปลกใจ

“โอ้มายก็อต เธอไม่เห็นเหรอคนที่รู้ศักยภาพของเขานั้นหน้า ได้ซีดไปหมดแล้ว พวกเขาพูดว่า คุณชายเฉินที่มาคนนี้ มี ทรัพย์สินเกือบครึ่งหนึ่งของโลกเลยนะ ตระกูลเฉินแห่งหนาน หยาง ช่างเก่งกาจเหลือเกิน!!

หญิงสาวเหล่านั้นพูดอย่างตื่นเต้น

อย่างไรเสีย การที่ได้เห็นหนุ่มหล่อรวยทรัพย์ หญิงสาวก็ตื่น เต้นกันอยู่แล้ว
เพียงแต่คิดไม่ถึง จะได้เจอคุณชายที่รวยมหาศาลแบบนี้

จ้าว ฟานได้ยินแบบนี้แล้ว ก็ได้เอามือมาปิดปากโดยตรง แต่ไม่นานนัก ภายในใจเธอตื่นเต้นมาก

“เธอบอกว่า ตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานหยาง งั้นคุณชายใหญ่ คนนั้นก็คือคุณชายเฉินเหรอ?”

จ้าวฟานก็หวั่นไหวขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น ใจก็รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก สาเหตุนั้น ก็คือเงิน

เกอ

เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยได้เห็นเรื่องราวบางส่วนของเงินเก อมาแล้ว

พี่สาวของเขา มีทรัพยากรทางการเงินมากมาย จากนั้นเคยได้ยินมาว่า พี่สาวของเฉินเกอนั้นบ้านอยู่ที่เมือง หนานหยาง

เมืองหนานหยาง ตระกูลเฉิน?

คงไม่ใช่?

จ้าวยีฟานหายใจติดขัดขึ้นมาทันที

หากเป็นเรื่องจริง เธออยากจะตายเสียจริง! อยากจะไปตาย ตอนนี้เลย!

เธอปฏิเสธเฉินเกอ หากเฉินเกอเป็นเพียงทายาทเศรษฐีธรรมดาคนหนึ่ง

งั้นจ้าว ฟานยังคงพอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

เพียงแต่หากเป็นมหาเศรษฐีระดับนี้ งั้นควรจะทำยังไง

“พวกเขามาแล้ว!”

เวลานี้ มีคนได้ตะโกนขึ้น

ทำให้สถานที่ที่กำลังวุ่นวายแห่งนี้เงียบสงบลงทันที ต่างทอดสายตามองไป ทุกคน

ได้เห็นชายฉกาจที่สวมสูทสีดำร่วมๆร้อยคน ได้เดินเข้ามา อย่างเป็นระเบียบวินัย

และผู้ที่เดินอยู่ด้านหน้าสุด มองดูแล้วเป็นชายชราที่อายุราวๆ

หกสิบกว่า สําหรับข้างกายชายชรานั้น ก็ได้มีชายหนุ่มที่แต่งกาย

ทางการ ชายหนุ่มคนนี้ อายุประมาณยี่สิบสองปี

รูปร่างอวบอ้วน ดวงตาเรียวเล็ก

“เขาก็คือคุณชายเฉินแห่งเมืองหนานหยาง?”

“ใช่ ต้องใช่เขาแน่ๆ!

ผู้คนต่างกลืนน้ำลาย ไม่กล้าพูดจาเสียงดัง

ไม่นานนัก คนกลุ่มนี้ได้เดินมาถึงด้านหน้าของฟางถัง

ราศีช่างจับเหลือเกิน

อะฟู* เป็นนายเหรอ?
ฟางถังมองไปที่ชายชรา พูดอย่างยิ้มเล็กน้อย

“พี่ฟางพวกเราไม่ได้เจอกันห้าหกสิบปีได้แล้วมั้ง ไม่ได้เจอกัน ตั้งนาน ยังคงสบายดีนะ!”

ชายชราก็ยิ้มเล็กน้อย

“ใช่ พริบตาเดียวก็ห้าหกสิบปีแล้ว เจ้าเด็กขี้มูกโป่งที่เมื่อก่อน อยู่ข้างกายเฉินเตียนซางคนนั้น วันนี้ก็ได้กลายมาเป็นแบบนี้เสีย แล้ว หากไม่ใช่สายตาของนายที่หลายปีมานี้ก็ยังคงไม่เคย เปลี่ยน ฉันก็คงจะจำนายไม่ได้เสียแล้ว มันนานมากแล้วจริงๆ!”

ดูเหมือนจะคิดถึงเรื่องราวในอดีต ฟางถงรู้สึกสังเวชใจ

ณ ตอนนั้นฟางถึงกับเฉินเตี้ยนซางเป็นเพื่อนรักกัน ชายชรา ที่ชื่ออะฟู นั้น เป็นเด็กรับใช้ของเฉินเตี้ยนชาง เห่อๆ เวลาช่าง ผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน วันนี้ไม่เหมือนกับวันนั้นเสียแล้ว

“ใช่ครับพี่ฟาง นานมากแล้ว!” อะฟู ยิ้มอย่างใจเย็น

ความแค้นระหว่างตระกูลเฉินและตระกูลฟางนั้นได้ฝังรากลึก แล้ว เพียงแต่การแข่งขันกันทางสังคม ต่างแข่งขันกันอย่างลับๆ ต่อหน้านั้น ทุกคนก็ยังเกรงใจซึ่งกันและกัน

และคุณชายเฉินที่ยืนด้านข้างอะฟู นั้น ท่าทางยียวนมองสอด ส่องไปทั่ว

“อืม?”
เวลานี้ คุณชายเงินคนนี้ได้เห็นคนคนหนึ่ง

“คือเธอ?”

“ที่แท้คือเธอนี่เอง?”

คุณชายเฉินกับคนคนนั้นได้ถามขึ้นพร้อมกัน คนที่เขาเห็นนั้น ก็ต้องเป็นหยางเสว่

แปลกมากที่หยางเสว่ปรากฏตัวอยู่ตรงนี้

และหยางเสวนั้นยิ่งประหลาดใจมากกว่า นายคนนี้หยางเสว่ เคยรู้จัก

น้องชายบุญธรรมของเฉินเกอไม่ใช่เหรอ หาวหยงหาวมหา เศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองซูโจวไม่ใช่เหรอ?

ทําไมถึงเป็นเขา?

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จู่ๆหยางเสวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่

ถูก

“นายคือคุณชายหวงไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเป็นคุณชายเฉินข องตระกูลหยางล่ะ?”

สีหน้าของหยางเสวดขึ้นมาเล็กน้อย

และฟางเจี่ยนนั้นก็ตกใจเล็กน้อย

เธอนึกว่า นายคนนี้ก็คือคู่หมั้นที่หมั้นกันตั้งแต่อยู่ในท้อง

ประมุขน้อยของตระกูลเฉิน?
และเพราะความปากมากของหยางเสว่

ทําให้หวงหยงหาวกระอักกระอ่วนเลยทีเดียว

หวงหยงหาวกล่าว: ใครว่าฉันคือคุณชายเฉินละ ฉันแค่ตาม มาเที่ยวเล่นสนุกๆเอง?”

“ที่แท้ไม่ใช่เขา งั้นคุณชายเฉินล่ะ?”

ทุกคนต่างพากันสงสัย

เห่อๆ พี่ฟาง ทําเรื่องตลกต่อหน้าที่แล้ว วันนี้ที่พวกเรามา วันที่ จริงก็มีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกนั้น ก็คือเป็นตัวแทนของตระกูลเฉิน ตามคุณชายเฉินมามอบของขวัญวันเกิดให้ท่าน หลายปีมานี้ ประมุขของพวกเราก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย ได้หวังตลอดมาว่าจะมี โอกาสได้คุยกับตระกูลฟางต่อหน้าสักครั้ง แต่ว่าหลายปีมานี้ ไม่ ได้ข่าวคราวของตระกูลฟางเลย

อะฟู ยิ้มอย่างเรียบเฉย “พี่ฟางท่านจงวางใจเถอะ มีตระกูลเฉิ นอยู่ ผมคิดว่าไม่มีใครกล้ามาก่อกวนในงานแซยิดนี้แล้ว!”

ชื่อหงและพวกต่างกลืนน้ำลายกัน ได้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“สำหรับเรื่องที่สองนั้น ก็คือตระกูลเฉินของเราจะมารับคุณหนู เฉียงเวยและคุณนายหญิงเมิ่งทั้งสองคน ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ของ ประมุขตระกูลเฉิน คุณหนูเฉียงเวยก็เป็นคนของตระกูลเฉิน ผม คิดว่าพี่ฟางน่าจะเข้าใจเหตุผลนี้ดี!”

ฟางปู้ถงหายใจเข้าลึกๆ
ในเมื่อเรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว

และการมาของตระกูลเฉินครั้งนี้ คิดว่าคงได้เตรียมการมา

ก่อน

ฟางป้องที่ต้องควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด ก็เลยไม่ได้พูดอะไร อย่างไรเสียความลับตระกูลฟางก็ถูกเปิดเผย มีโอกาสที่จะ เผชิญอันตรายครั้งใหญ่ได้ทุกเมื่อ เพียงแต่ว่าตระกูลฟางยังมีไฟ ใบสุดท้ายที่สำคัญสำหรับเฉินจิ้นลงมากอยู่ในมือ คิดว่าเฉินจิ้น ตงคงจะไม่ทําอะไรที่มันเกินไป

หากทั้งสองฝ่ายสามารถมาเจรจากันได้ จะเป็นทางเลือกที่ดี ที่สุดในตอนนี้

“อันนี้ต้องเข้าใจอยู่แล้ว!”

ฟางลงพยักหน้า

“ว่าแต่อะฟู ตระกูลฟางของเราเมื่อก่อนนั้นยังไงก็เสมอภาค กับตระกูลเฉิน วันนี้นายบอกว่าประมุขน้อยตระกูลเฉินได้มา อวยพรวันเกิดฉัน สรุปเขาก็ไม่ได้มา แต่จะให้ฉันนั้นเอาลูกสาว และหลานให้กับตระกูลเฉิน อย่างนี้มันไม่ค่อยถูกต้องมั้ง?

ฟาง’ถงจ้องมองแล้วพูด

“เห่อๆ ใครบอกว่าประมุกน้อยของเราไม่อยู่ล่ะ อีกอย่าง เพื่อ งานวันเกิดของพี่ฟาง ประมุขน้อยของเราได้มาถึงตระกูลฟาง ก่อนแล้ว!”
อะฟู กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อะไรนะ? นายว่าคุณชายเฉินได้มาถึงแล้วเหรอ?”

ฟางปู้ถึงสะดุ้งตกใจ

“คุณชายเฉินมานานแล้ว? อยู่ไหนล่ะ?” ทุกคนสนทนากันอย่างประหลาดใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ