ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่515 บางทีก็อยากขอร้อง



บทที่515 บางทีก็อยากขอร้อง

ทีแรกก็นัดกับจางหมันเอาไว้ดีแล้วว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนี้ เฉินเกออยากจะเข้าใจเรื่องราวให้มากขึ้นจากคนที่ชื่อ เพิ่งดังคนนี้ ก็เลยโทรศัพท์หาจางหมิ่น

“ว่ายังไง? เธอมาไหม?

จูลี่ถามขึ้นด้วยท่าทีกังวล

จางหมินบอกว่า “คงเพราะว่าจะกลัวพวกแกจริงๆ เขาไม่มา แล้ว!”

โดยไม่รู้ตัว คำพูดที่ออกมาจากปากของจางหมินผิดหวังเล็ก

น้อย

“ไม่มาถึงจะดี พี่หวังบอกแล้ว พวกเราไปกินข้าวที่โรงแรม หลงเจียง ไปดูโรงแรมที่ดีที่สุดในหลงเจียงของพวกเรากัน หน่อย!”

จูลี่ลี่ตะโกนแล้วก็กระโดดโลดเต้น

จางหมิ่นพยักหน้าอย่างโมโห จากนั้นทุกคนก็ไปโรงแรมหลงเจียงกัน

“ขอโทษด้วยครับ วันนี้โรงแรมหลงเจียง โดนคนจองเอาไว้ หมดแล้ว คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายสามารถที่จะเลือกไปที่อื่นได้ ครับ ต้องขอโทษจริงๆครับ!”
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะมาถึงประตู ก็โดนพนักงานบริการห้ามเอาไว้

ทำให้จูลี่ลี่ที่กำลังอารมณ์ที่ต้องผิดหวังขึ้นมา

โทรศัพท์ของเธอก็เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว รอแค่ถ่ายรูป แต่ ว่าอยู่ๆก็เข้าไปไม่ได้

“โรงแรมใหญ่ขนาดนี้ โดนจองเอาไว้หมดแล้ว ต้องมีคนมาก แค่ไหนกันนะ แม้แต่ที่เดียวก็ไม่มีเหรอ?”

จูลี่ถามขึ้น

พนักงานบริการสายหน้า

“เห้อ จริงเลยเชียว!”

จูลี่ลี่โมโหจนต้องกระทืบเท้า

“ช่างเถอะ พวกเราไปกินที่อื่นกันก็ได้ ก็เหมือนกันนั่นแหละ! จางหมินโน้มน้าว

จากนั้นทั้งหมดก็จากไป

แต่ว่าจูลี่ลี่ยังคงไม่ปล่อยวาง หันกลับมามองอยู่บ่อยครั้ง

ในตอนนั้น รถหรูหลายคันก็ตามๆกันมา มาถึงหน้าประตู

โรงแรม

ผู้สูงศักดิ์จํานวนมากของหลงเจียงลงมาจากรถ พวกเขาจัดสูท ให้เรียบร้อย ยืนอยู่หน้าประตู ราวกับว่ากำลัง รอใครอยู่
“พวกแกดูเร็ว คนนั้นไม่ใช่นายของตระกูลเหรอ คุณชาย จงเหนียน

จูลี่ ถามอย่างประหลาดใจ

จางหมิ่นพยักหน้าแล้วว่าต่อ เป็นประธาน ที่แท้โรงแรม หลงเจียงก็โดนประธานจองเอาไว้หมดแล้วนี่เอง นี่ก็ไม่น่า

แปลกใจ!”

“แต่งานแลกเปลี่ยนปีที่ผ่านๆมา ประธานไม่เคยฟุ่มเฟือย แบบนี้เลยนะ อย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้อีกข้อ นั่นก็คือมีแขก คนสําคัญมาเยือน!”

จางหมินพูด

“แขกคนสําคัญ?”

พวกจูลี่ลี่รีบรวมตัวกันขึ้นไปดูอย่างสงสัย

ในตอนนี้ ประตูตรงกลางก็ถูกเปิดออก

มีคนแก่คนหนึ่งลงมาจากรถก่อน จากนั้น เขาก็เชิญคนหนุ่ม คนหนึ่งออกมาด้วยท่าทางนอบน้อม

ประธานขยับตัวไปด้านหน้า แล้วจับมือกันอย่างเคารพ

พอเห็นคนหนุ่มคนนี้จลลี่ก็ตกตะลึงไปเลย “หา…นั่น….นั่นไม่ ใช่เฉินเกอหรอกเหรอ?

จางหมินเองก็ตกใจจนเอามือมาปิดปากไว้ “ใช่ เป็นเฉินเก อจริงๆด้วย เขาบอกว่าเขามีธุระมาไม่ได้แล้ว ที่แท้ เอาก็จะมาโรงแรมหลงเจียง!”

“แต่ว่าหมินหมินแกดู ประธานมีท่าทางเคารพเขามากเลยนะ ทำไมถึงปฏิบัติกับยาจกคนนึงแบบนี้นะ?”

จูลี่ยิ่งพูดยิ่งตกใจ ก็รู้สึกได้ว่าแก้มของตัวเองนั้นเจ็บ ตัวเองรังเกียจชายหนุ่มคนนี้มาตลอด แต่เขากลับมีคอนเน คชั่นแบบนี้

ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเปล่า แต่ก็มีแวบหนึ่ง

ถึงแม่ว่าเฉินเกอจะยังคงสวมเสื้อผ้าที่ตัวเองคิดว่าเชยมาก แต่ว่าพออยู่กับพวกคนรวยกลุ่มนี้แล้ว อยู่ๆเขาก็หล่อมาก!

จูลี่ลี่กัดปากของตัวเอง ในใจก็เสียดาย

เงินเกอก็ยังไม่รู้ตัวว่ายังมีคนมองตัวเอง มองจนตะลึงไปแล้ว

ในตอนนี้ เฉินเกอกำลังเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับประมุข ตระกูลลู่ ลู่จงหยวนแล้วก็เพิ่งดัง

เงินเกือก็คิดไม่ถึง ตอนแรกนึกว่าก็แค่มากินข้าวเฉยๆหนึ่ง มื้อ แต่อยู่ๆกลับเชิญลู่จงหยวนมาด้วยเสียอย่างนั้น

“พี่เพิ่ง พี่แน่ใจนะว่า คนๆนี้มีพลังสูงส่ง? ทำไมผมมองแล้ว ทำไมถึงรู้สึกว่าเป็นแค่วัยรุ่นธรรมดาทั่วไป!”

ลู่จงหยวนเดินอยู่ด้านหลัง พูดกับเมิ่งคั่งด้วยเสียงเบาๆ
“จงหยวน ข้าเคยหลอกเองด้วยหรือ ห้ามดูถูกคุณชายเงินเต็ด ขาด พลังของเขา เอ็งกับข้าคิดไม่ถึงเข้าใจไหม?”

เพิ่งค้งบอก

“ถ้าเกิดว่าเหมือนกับที่บอกจริงๆล่ะก็ อย่างนั้นก็ดีมากเหมือน กัน ไม่แน่ว่าวิกฤติของตระกูลในครั้งนี้ ก็อาจจะผ่านพ้นไปได้ อย่างราบเรียบก็ได้ ถ้าเกิดว่าครั้งนี้ตระกูลลู่รอดได้ จะยกพี่เอาไว้ บูชา!”

“เหอะๆ ยกขาเอาไว้บูชา เอ็งมีประสบการณ์เรื่องนี้ ยังไงก็ไป ขอร้องคุณชายเงินดีกว่า ถ้าเกิดว่าคุณชายเงินสามารถที่จะยืน อยู่ฝั่งเดียวกันกับเราได้ อย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว!”

พูดไป ทั้งหมดก็เดินเข้าไป

ในวงเหล้า จะเป็นอะไรไปได้นอกเสียจากการทักทายกัน เพิ่งดังยกแก้วขึ้นมา ส่งสัญญาณให้จงหยวนพูด ส่วนจงหยวน ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกว่าเฉินเกอแค่เด็ก หนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง

ให้เขาลดศักดิ์ศรีของตัวเองไปขอร้องให้เด็กหนุ่มแบบนี้ช่วย ช่าง เบากใจจริงๆ

และก็เป็นในตอนนี้เอง ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆลอง หยวน อยู่ๆก็วางแก้วเหล้าลง
“ประธาน จางโม่ไม่เข้าใจ งานเลี้ยงอาหารเที่ยง ในวันนี้ ตกลงว่าจัดขึ้นเพื่ออะไร คนที่ต้อนรับนั้นเป็นใครกัน?

เพราะเงินเกอนั่งอยู่ตรงที่แรก

คนๆนี้ไม่พอใจมานานแล้ว

แถมคำพูดของลู่จงหยวนก็ช่างเอาใจ ยิ่งทำให้เขาทนไม่ได้

“เหอๆ อาจารย์โม่วงานเลี้ยงอาหารเที่ยง ในวันนี้ แน่นอนว่า ก็ต้องเป็นคุณเฉินที่ข้าเชิญมา!”

เพิ่งดังหัวเราะเบาๆ

“คุณเฉิน? เหอะๆ ขออภัยสำหรับความโง่เขลาของจางไม่ว ข้ามีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินคุณเฉิน คุณหลี่! พวกเราเป็นคนที่เข้ามาช่วยตระกูลก่อน และอาจารย์ เพิ่งก็ยังเป็นหนึ่งในผู้เก่งกล้า บวกกับข้า จางเถีย ไม่ทราบว่าจะ เชิญไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนมาทำอะไร?

จางเถียเย้ยถาม

“จางเถีย ระงับอารมณ์หน่อย!”

ส่วนเพิ่งดังกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย แล้วรีบห้ามปราม

ลู่จงหยวนกลับนั่งอยู่ตรงกลาง แต่กลับไม่พูดอะไรออกมาสัก คำ เห็นได้ชัดเจนว่า เขาค่อนข้างที่จะเห็นด้วยกับคำพูดของจาง

เถีย

เฉินเกอเองก็ฟังออก
ยังไงล่ะ โลกใบนี้ไม่มีอะไรให้มาฟรีๆ

เงินเกอเหลือบมองเมิ่งดังแวบหนึ่ง

เพิ่งดังก้มหน้าด้วยความต้องการขอโทษ “คุณผู้ชาย คุณฟัง ผมพูด เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ ผมกับน้องจงหยวนหลายปีก่อน พวกเราได้ทำสัญญาไว้ ผมเคยสัญญาว่า ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไร ผมจะยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้ตระกูลมีภัยพิบัติ ผมก็เลยโดน เชิญมา แต่ว่าศัตรูนั้นแข็งแกร่ง ระดับเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้!”

“ดังนั้น ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายพอจะช่วยได้ไหม?”

เพิ่งดังบอกออกมาตรงๆ

“ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการ สัญญาพวกนี้!”

เฉินเกอมีท่าทีเย็นชา เอ่ยบอก

จงหยวนขมวดหัวคิ้ว แล้ววางแก้วเหล้าลง

ส่วนจางเถียที่อยู่ข้างๆนั้น “ไอ้หนุ่มหน้าละอ่อน ไม่อยากจะ ยุ่งเกี่ยว? ฉันว่าแกคงไม่กล้าล่ะสิ แกมีดีอะไร เอาออกมาแสดง เลย พวกเราทั้งสองคนลองมาประลองกันสักครั้ง จะได้ให้ ประธานฝีมือของแกด้วย!”

“ประลอง ช่างมันเถอะครับ ผมไม่สนใจ!”

เฉินเกอกล่าว

ลู่จงหยวนกลับยกขาขึ้นมานั่งไขว่ห้าง
ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นจอมยุทธอะไรจริงๆ

“เหอะๆ อาจารย์เมิ่งคั่ง ผมคิดว่าอาหารมื้อนี้กินต่อไปก็ไม่มี ความหมายอะไรแล้ว ผมต้องไปแล้ว ขอบคุณที่คุณช่วยเลี้ยง ต้อนรับ!”

เงินเกือกวาดตามอง แล้วก็ยิ้มให้กับเพิ่งดังอีกครั้ง

“คุณผู้ชาย อย่าเพิ่งรีบร้อน พอเพิ่งจะยืนขึ้น เพิ่งดังก็รีบดึงตัวเฉินเกอไว้

“คุณเฉิน โทษผม ที่ไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่แรก เพื่อที่จะแสดงความขอโทษ เรื่องที่คุณผู้ชายเคยพูดว่าต้องการ จะตามหาหลิงหู มีสิ่งๆหนึ่ง ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น ผมสั่งให้คน เตรียมไว้ให้แล้ว!”

เพิ่งดังตบมือ ทันใดนั้นก็มีลูกน้องถือแผนที่เข้ามา

“คุณผู้ชาย นี่คือเส้นทางของป่าดึกดำบรรพ์เทือกเขาอันหลัง ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ยังคงมีคนที่สามารถมีคนไปกลับอยู่ ในป่าได้ แต่ว่าตระกูลเพิ่งของผม เคยฝึกฝนอยู่ในป่ามาก่อน และก็ได้วาดภาพไว้หนึ่งภาพ ถึงแม้ว่าจะให้ความช่วยเหลือคุณ ผู้ชายไม่ได้มาก แต่ผมคิดว่า บางทีอาจจะมีประโยชน์ คุณ ผู้ชายเชิญรับไป!”

“พี่เมิ่ง แผนที่อันนี้ตระกูลของพี่ทำขึ้นเพื่อที่จะหา…..

จงหยวนเบิกตากว้าง คำพูดที่เหลือ ก็โดนเมิ่งดังยกมือขึ้น มาตัดบทเสียก่อน
“คุณผู้ชาย เชิญรับไว้

เพิ่งดังพูดขึ้นอีกครั้ง

เงินเกอรับเอามา ตอนที่เลาะป่า มีรูปแผนที่นี้คอยช่วย แน่นอนว่าจะต้องช่วยลดปัญหาได้เป็นครึ่ง

และในตอนนี้เอง

“เอามาให้ข้า!”

จางเถียกลับยื่นมือออกมาแย่งไป

“ไอ้หนุ่มแซ่เฉิน ดูแล้วแกอยากได้แผนที่นี่มากใช่ไหมล่ะ ว่า ยังไง ตอนนี้แผนที่อยู่ในมือของข้า แกอยากได้ ก็มาแย่งไป !

จางเถียหัวเราะเยาะเย้ย

แล้วหันกลับมามองเฉินเกอ

กลับแค่ส่ายหน้า แล้วก็นั่งลง

“แกหมายความว่ายังไง?

จางเถียถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน

เงินเกอไม่ได้ตอบ แต่กลับใช้ตะเกียบหยิบผักในจานขึ้นมา

หนึ่งใบ

ในตอนนั้น ข้อมือก็ขยับ
ใบของผักลอยออกไป

ไปชนเข้ากับประตู

ตู้ม!

เสียงดังขึ้นสนั่น ประตูห้องรับรองที่เป็นไม้แท้ อยู่ๆก็แยกออก

จากกัน……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ