ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่294 ถ้าเป็นนายก็อยากจะเข้าไปกินข้าว



บทที่294 ถ้าเป็นนายก็อยากจะเข้าไปกินข้าว

เฉินเกอเรียกทั้งอากง วอาม่าหนูแล้วก็เสี่ยวหลง ทั้งสี่คนนั่งรถ เดินทางไปยังหมู่บ้านเดี่ยวเฉวียน

ขับรถก็ประมาณยี่สิบกว่านาทีได้

ก็ถึงสถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อน

ก็แค่ทำให้เป็นเธอคิดไม่ถึงก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อน ใน ตอนนี้ กลับมีแต่คนเต็มไปหมดแล้ว มีรถหรูมากมายหลายคัน แถมยังมีคนจำนวนไม่น้อยอยู่

ที่หน้าประตูก็มีพวกคนหาบเร่ มาขายของอะไรพวกนั้น ราวกับว่าเป็นวันปีใหม่อย่างนั้นแหละ

มีชีวิตขนาดนี้!

ในใจของเฉินเกอตะลึง

แล้วกวาดสายตามองอีกครั้ง ตั้งแต่ที่ทางเข้าของหมู่บ้าน จนถึงโรงแรมของจุดชมวิว มีพรมแดงปูเอาไว้

พนักงานด้านข้างทั้งสองก็กำลังยุ่งกันอยู่

ถ้าไม่มีรถของหลี่เจิ้นกั๋วอยู่นี่ เฉินเกอก็คิดว่านี่ไม่ใช่งาน ฉลองวันเกิดของตัวเอง

“พระเจ้า คนเยอะขนาดนี้ เฉินเกอ นายจองภัตตาคารไว้ที่ไหนล่ะ? ข้างในจะต้องโดนจองหมดแล้วแน่ๆ!

เสี่ยวหลังยังคงถามขึ้นอย่างสงสัย

นี่น่ะสิเสี่ยวเกอ หาร้านอาหารในหมู่บ้านเราสักร้านก็ได้แล้ว ถ้าเกิดไม่ได้จริงๆก็ให้อาม่าหนูกลับไปทำให้พวกเธอก็ได้ ที่นี่ไม่ ได้แค่คนเยอะ แถมกินหนึ่งมื้อแพงมากนะ!” อากงหนูก็พูดขึ้นเหมือนกัน

“ไม่ต้องกังวลครับ พวกเราเข้าไปกินด้านในก็พอแล้ว!” เฉินเกอหัวเราะแห้งๆ

จนถึงตอนนี้ เฉินเกอก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังอีกแล้ว ยังไง งานเลี้ยงในวันนี้ก็เตรียมเอาไว้เพื่อตัวเอง

ตอนที่กำลังจะอธิบายให้เสี่ยวหลิงและอากงหมูอาม่าหนู

“คุณปู่ย่า มากันได้ยังไงครับเนี่ย?”

ทันใดนั้น หวูเฟิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนหนุ่มอีกสองสามคน เห็นทั้งสองท่าน หวูเฟิงก็เลยพูดขึ้น

“เฟิงจื่อ ปู่กับย่านายมาเที่ยวที่นี่ทำไมนายถึงไม่รีบบอกล่วง หน้า จะได้ขอร้องคนในจุดชมวิวให้จัดให้เข้าไปเที่ยว ยังไงพวก เราก็แค่มารอหัวหน้าตรงหน้าตรงนี้อยู่แล้ว!”

“เหอๆ นี่ก็ไม่ใช่เพราะพิจารณาว่าพวกเบื้องบนแค่มาเที่ยว เล่นแบบส่วนตัวเหรอ แถมยังไม่ใช่เรื่องทางการอีก จะให้คนใน จุดชมวิวจัดการให้เราได้ยังไงกันล่ะ!”
หวูเฟิงพูด “พ่อแม่ของฉันก็แค่เดินเที่ยวอยู่ใกล้ๆ!”

“พวกเรามาเลี้ยงฉลองวันเกิดให้เงินเกอรี่ จริงสิ พ่อแม่ของ

เธอล่ะ?”

อากงหวพูดขึ้น

“พด? มาฉลองวันเกิดให้เฉินเกอ แล้วพวกคุณมาที่นี่ได้ยังไง กันครับ ที่นี่โดนคนเหมาไว้หมดแล้ว!

หวูเฟิงเหลือบมองเฉินเกอแว๊บหนึ่ง

นิสัยของคุณปู่คุณย่าหวูเฟิงรู้ดี เป็นคนที่ซื่อๆ ตรงๆแบบคนใน

หมู่บ้าน

แต่เฉินเกอรี่มันอีกอย่างหนึ่ง เห็นๆอยู่ว่าที่นี่โดนจองไว้หมด แล้ว เฉินเกือกลับลากคนแก่สองคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมา ฉลองวันเกิด

ทำให้หวูเฟิงรู้สึกว่าตัวเองดูน่าขายหน้าต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน

“พ่อ แม่ มากันได้ยังไงครับ?

และในตอนนี้ พี่ใหญ่ พี่รอ พี่สาว รวมไปถึงหนูเจี้ยหวูเซียนก็ เดินมาทางนี้

พี่ใหญ่พูดขึ้นด้วยความสงสัยอย่างมาก

เรื่องของวันนี้ในเป็นอย่างนี้ ก็รู้ว่ามาตั้งนานแล้วว่าที่จุดชมวิว จะมีงานใหญ่ ได้ยินมาว่าจะจัดวันเกิดให้กับคนใหญ่คนโตคน หนึ่ง แถมยังเชิญพวกดาราอะไรมาด้วย ดังนั้นทุกคนก็เลยมาเที่ยว

ยังไงก็ไม่ใช่แค่เที่ยว ไม่แน่ว่าอาจจะได้โอกาสนี้ทําความรู้จัก เพื่อนคนใหญ่คนโต ได้ขยายคอนเนคชั่นของตัวเอง

ดังนั้น ก็พากันมาทั้งครอบครัว

“เหอะ จะมายังไงล่ะ ก็โดนเฉินเกอพามาไงครับ! ในตอนนี้ หวูเฟิงก็เล่าเรื่องเพื่อให้ทุกคนฟังอย่างโมโห

“เหอะๆ ไม่ดูกำลังของตัวเองเลยจริงๆ ไม่ดูเลยว่าที่นี่คือ ที่ไหน วันนี้คือวันอะไร ดูสิว่านายยังทน แถมยังเข้าไปฉลองวัน เกิดข้างในจุดชมวิวอีก!

ในตอนนี้สะใภ้สองก็กอดอกแล้วหัวเราะอย่างเย้ยหยัน

ถ้าเกิดวันนี้เฉินเกอเข้าไปได้ อย่างนั้นก็หมายความว่าก็เจ๋ง กว่าลูกสาวของตัวเองแล้ว นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง ฮ่าๆๆ

“ก็ใช่น่ะสิเฉินเกอ ตอนแรกก็นึกว่าเธอจะหาร้านอาหารใน หมู่บ้านสักร้าน คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาถึงหมู่บ้านเสี่ยวเฉวียน ไม่ รีบบอกล่ะ ถ้าอย่างนี้พวกเราก็พาผู้ใหญ่ทั้งสองคนมาเองแล้ว ก็ได้ ไม่ต้องให้เธอพามา

สะใภ้สามก็พูดขึ้นบ้าง

“พอแล้ว พอแล้ว พวกเอ็งเลิกพูดกันได้แล้ว วันนี้วันเกิดของ เสี่ยวเกอ บอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเรา ฉันเห็นแล้วว่าพวกเอ็งก็ ไม่มีได้ยุ่งอะไร อีกเดี๋ยวเสี่ยวเกอหาร้านได้เรียบร้อย พวกเราก็ไปฉลองวันเกิดให้เสี่ยวเกอกันเถอะ !”

อากงหวพูดขึ้น

“หา? พ่อ พวกเราคงไม่มีเวลาหรอกค่ะ เมื่อกี้พวกลูกชายของ เพื่อนเกลอพ่อมาหาแล้วด้วย แถมยังนัดกันไปกินข้าวด้วยกันอีก ไม่อย่างนั้นก็ไปกับพวกเราเถอะค่ะ!”

ตอนนี้สะใภ้ใหญ่ก็พูดขึ้น

แล้วก็หันไปมองทางหวูเฟิงแล้วพูดขึ้น “เสี่ยวเฟิง เจ้าเจี้ย พวกเธอก็รีบไปทำงาน อย่ามาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย อีกแป๊บ หนึ่งพวกหัวหน้าของพวกเธอมาแล้ว เข้มแข็งหน่อย มีชีวิตชีวา หน่อย!”

หวูเฟิงกับเพื่อนร่วมงานอีกสองสามคนพยักหน้ารับอย่าง จริงจัง จริงๆแล้วเรื่องๆนี้พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

จากนั้นแค่เหลือบมองเฉินเกอแวบหนึ่งแล้วก็จากไป ส่วนหนูเชี่ยน กลับแอบยืนสังเกตเฉินเกออยู่ทางด้านหลัง เมื่อกี้อาสะใภ้ทั้งสามคนแล้วก็แม่ เยาะเย้ยแล้วก็ดูถูกเฉินเกอ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เฉินเกอจะต้องก้มหน้าลงอย่างรู้สึกอาย แต่ว่า ตั้งแต่ที่รู้ว่าเฉินเกอมีคอนเนคชั่นอยู่กับจุดชมวิว หว เชี่ยนก็พบว่า ทั้งเหตุการณ์เฉินเกอทำเพียงแค่ยิ้มให้ทุกสิ่ง

ราวกับว่าไม่สนใจทุกๆคำดูถูก

ทำไมเขาถึงได้มั่นจขนาดนี้?
ความมั่นใจนี้มาจากไหนกัน?

อย่าบอกนะว่า เงินเกอเปลี่ยนไปเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆแล้ว

เป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก ทำให้หนูเชี่ยนเป็นกังวลอยู่ ตลอด ตอนนี้เธอกลัวที่จะได้ยินข่าวดีทุกอย่างของเฉินเกอไป แล้ว ดังนั้นเรื่องวันนั้น เธอไม่ได้บอกกับพ่อแม่เลยด้วยซ้ำ

จนถึงตอนนี้เฉินเกอมาแล้ว แถมยังพูดว่าจะเข้าไปกินข้าว หว เซี่ยนเป็นกังวลจริงๆ!

“เจ้าหนู? โอ้โห เป็นเอ็งจริงๆด้วย!”

ในเวลานี้ น้ำเสียงแหบแห้งเหมือนคนแก่ก็ดังขึ้น

เงินเกอเงยหน้าไปดู ก็พอกับคนแก่คนหนึ่ง เดินนำครอบครัว ที่มีคนสี่คนมาทางนี้

“เจ้าหวัง คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอแกที่นี่!”

อากงหวก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น

ครอบครัวทั้งสี่คนที่อยู่ด้านหลังเจ้าหวังก็เข้ามาทักทาย ตอนที่เฉินเกอเห็นคนสองคนที่อยู่ด้านหลังคู่สามีภรรยาวัย กลางคน ก็ชะงักไป

นี่ไม่ใช่หวางหมินกับหวางเสี่ยว

“สองวันก่อนหน้านี้ให้เด็กๆไปดูตัวกันก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง ถามเสี่ยวหมิน เสี่ยวหมินก็ไม่ตอบ ฉันอยากจะลองมาถามอยู่ เฉินเกอเป็นยังไงบ้างล่ะ? ไม่ชอบลูกสาวของฉันอย่างนั้นเหรอ!”

เจ้าหวังยิ้ม

“พ่อ พ่ออย่าไปพูดถึงเฉินเธอคนนั้นเลย เขาอาจจะคิดว่าตัว เองจนไม่เหมาะสมกับลูกสาวของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยยอม ถอดใจ พ่อก็อย่าไปทำให้คนอื่นลำบากใจเลย!”

ในตอนนี้แม่ของหวางหมุนก็ออกมาพูด

คิดไม่ถึงว่าคุณปู่พอเจอหน้ากันก็ถามถึงเรื่องดูตัวของลูกสาว เรื่องนี้ยังต้องพูดกันอีกเหรอ?

เธอจะต้องไม่เห็นด้วยเป็นหมื่นอย่าง แล้วยังคิดว่าหลานสาว ของตัวเองขายไม่ออก?” “เหอๆ เจ้าหวัง นี่ก็คือเงินเกอ ฉันเองก็ยังข้องใจเหมือนกันว่า

ตกลงวันนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!

อากงหรูชี้มาทางเฉินเกอแล้วพูดขึ้น

“อะไร? เป็นเขา?”

แม่ของหวางหมิน ในตอนนี้ก็อายจนไม่กล้าพูดแล้ว

ก็แค่แอบเหล่มองเฉินเกออยู่สองครั้ง

ส่วนหวางเสี่ยวกลับทั้งตกใจทั้งดีใจแล้วเดินมาอยู่ด้านหน้า

เฉินเกอ

“เฉินเกอ พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ!”
เฉินเกอยิ้มบางๆ

หวางหมิ่นเห็นภาพตรงหน้า ก็รู้สึกอึดอัด ดูเหมือนว่าเฉินเกอ

จะทําดีกับน้องสาวมากกว่าตัวเองเสียอีก

“พ่อแม่ รีบดูเร็วค่ะ นั่นไม่ใช่เฉินเกอเหรอคะ!”

ในเวลาอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้แล้วก็ กำลังมายังเฉินเกอแล้วพูดขึ้น

“หึ เป็นเขาแล้วยังไง สงสัยคงจะอยากมาเปิดโลกละมั้ง!”

หลังจากที่คนวัยกลางคนพูด ก็พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ