ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 603 พบเห็น



บทที่ 603 พบเห็น

ส่วนซูหรานทรานมองจากละครที่อยู่ตรงหน้า

เอามือเรียวบางปิดปากด้วยความตกตะลึง

ราวกับกลัวจะพลาดนาทีสำคัญนี้ไป เธอจึงรีบล้วงมือถือออก มาถ่ายรูปเก็บไว้

เป็นใครก็นึกไม่ถึงว่าชายคนนี้จะบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ เมื่อมาถึงก็ กระโจนเข้ากอดอย่างบ้าบินทันที โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย! จะบ้าแล้ว!

“ฉัน………ฉันไม่ใช่…….

หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ ซู ก็เริ่มดิ้นรนเล็กน้อย พลางพูด ด้วยเสียงเรียบ

และเป็นเพราะเสียงนี้ที่ทำให้เงินเกอได้สติขึ้นมา

นี่ไม่ใช่เสียงของมู่หาน

เงินเกอปล่อยมือที่กอดรัดเอาไว้

สีหน้าของซู มีความผิดปกติเหมือนกับกำลังรู้สึกผิด จาก นั้นก็ค่อยๆหันหน้าไปมอง

บัดนี้ เฉินเกอได้เห็นหน้าของเธอเต็มตาแล้ว

ลักษณะรูปร่างแผ่นหลังและแววตาของเธอช่างละม้าย คล้ายคลึงกันกับมู่หานเป็นอย่างมาก
ถึงแม้เธอก็เป็นหญิงที่มีรูปโฉมงดงามมาก แต่….ไม่ใช่ซูม หาน ตนดูผิดไปแล้ว

เงินเกอหยุดชะงัก รู้สึกหดหู่ในใจสุดขีด

เขาคิดว่าเมื่อได้พบแสงสว่างแห่งความหวังสักที แต่เมื่อเขา ได้พยายามตะเกียกตะกายวิ่งตามแสงแห่งความหวังนั้นมา กลับ พบว่าภายใต้แสงแห่งความหวังกลับมีหุบเหวที่ลึกล้ำอีกหนึ่ง หลุดรอคอยอยู่

จะเป็นมหานได้อย่างไรกัน เธอถูกคนของไท่หยางเหมิงจับตัว

ไปแล้วนี่นา

“ไอ้เด็กเวร กล้าล่วงเกินคุณหนูใหญ่ของพวกเราหรอก มัน ให้ตายเลย! ”

หลังจากที่เหล่าบอดี้การ์ดตอบสนองทัน ต่างก็รู้สึกโกรธ

เกรี้ยวยิ่งนัก

คุณหนูใหญ่สวยงามดุลนางในวรรณคดี เป็นที่หมายปองของ คนทั่วไป แต่ผลปรากฏว่าถูกคนสามัญชนคนหนึ่งมากอดรั้งเสีย ดื้อๆ

ไม่ว่าจะด้วยความหึงหวงหรือด้วยหน้าที่

เหล่าบอดี้การ์ดมีความคิดจนกระทั่งจะฉีกหัวใจของเฉินเกอ ให้แตกสลายไปเลยทีเดียว

บัดนี้ พวกเขาได้ถือไม้เพื่อที่จะตีเฉินเกอให้สาแก่ใจ
ส่วนเฉินเกอจากที่มีความหวังมหาศาล บัดนี้กลับต้องไร้ซึ่ง ความหวังอย่างไม่อาจยอมรับได้ สมองของเขาจึงว่างเปล่า ถึง แม้จะถูกไม้ทุบตีเพียงใด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด

“โอ้สวรรค์ ละครที่มีจุดจบอันน่าสยดใจได้ซ้ำรอยอีกครั้ง ยาจกของทานตกหลุมรักลูกสาวเศรษฐี สุดท้ายก็ไม่สมใจ ปรารถนา อีกทั้งยังถูกพ่อบ้านตีจนตาย!

ซูหรานหรานอุทานอย่างไร้ความเห็นใจ

“หยุดนะ! ที่นี่คฤหาสน์ตระกูลซู ทำไมถึงทำอะไรพร่ำเพรื่อ ล่ะ!”

บัดนี้ มีภรรยาสาวสวยคนหนึ่งตะโกนหยุดเหตุการณ์ณ์ตรง หน้าด้วยความโมโห

เหล่าบอดี้การ์ดรีบหยุดตีอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็มองภรรยา

สาวสวยคนนี้พลางพูดอย่างสุภาพว่า “คุณนายครับ! “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมาตีกันอยู่หน้าประตูล่ะ? ” ภรรยาสาวสวยคนนี้กล่าวอย่างเย็นชา

“ไอ้คนนี้บุกรุกเข้ามายังคฤหาสน์แห่งนี้ครับ ยังคิดจะลวง…… นัวเนียคุณหนูใหญ่ด้วยครับ ดังนั้นพวกเราถึง…..

เหล่าบอดี้การ์ดตริตรองดูดีแล้วจึงพูดขึ้นมา “มานัวเนียกับซูฉี เขาเนี่ยนะ? ”

ภรรยาสาวสวยคนนี้เห็นเฉินเกอแต่งตัวเฉกเช่นคนสามัญชนธรรมดา แต่ในสายตาของเธอ มันไม่ต่างกับขอทานอะไรเลย

บัดนี้ จึงพูดอย่างเย็นชาว่า “กระต่ายหมายจันทร์งั้นเหรอ ไม่ คิดจะส่องกระจกชะโงกดูเงาบ้างเหรอ ไสหัวไปไกลๆเลย! ไม่ เช่นนั้นจะให้นายหายสาบสูญไปจากโลกนี้

เฉินเกอก็คิดไม่ถึงว่าตนจะทำให้เรื่องราวอีกทึก ใหญ่โตถึง ปานนี้

โดยเฉพาะเมื่อกี้ที่ไปกอดคุณหนูใหญ่ตระกูลซูไว้

เฉินเกอรู้สึกโทษตัวเองอยู่ในใจ

“ผม……จําคนผิดครับ ขอโทษด้วยครับ!”

เฉินเกอกล่าว

และหลังจากที่สงบสติตัวเองแล้ว ในที่สุดเฉินเกอก็เพิ่งคิดได้ ถึงสิ่งที่ตนได้ทำเสียมารยาทไป

นอกจากผู้หญิงคนนี้จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกันกับมหาน จนทำให้ตนไม่มีสติสัมปชัญญะแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญต่อของ มาก

บัดนี้ร่างกายตนมียันต์หยกประทับตัวไว้

ยันต์หยกนี้ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติซุกซ่อนพลังจุดจื้อหยางของ

ตนไว้ได้

ยังสามารถทำให้ตนหาคนที่มีร่างกายเป็นพลังจุดจื้อหยินได้อีกด้วย
เสี้ยวจู่เคยบอกว่า จุดจื้อหยางกับจุดจอหยินเป็นสิ่งที่ดึงดูดซึ่ง กันและกัน ขอเพียงแค่ได้พบเจอก็จะเกิดปฏิกิริยาขึ้นมา

ใช่แล้ว น่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้

โดยเฉพาะเมื่อเฉินเกอหวนระลึกถึงตอนที่ตน โอบกอดร่างของ ซูไว้ ตอนนั้นจึงมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น

เฉินเกอแน่ใจแล้วว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มีพลังจุดจื้อหยืนอยู่ ในร่างกายของเธอ

ตนได้พบเจอแล้ว

ขอเพียงตนสามารถได้เลือดยามมีชีวิตจากเธอมาหนึ่งหยด ตนก็จะสามารถกลับเมืองจีนหลังได้อย่างปลอดภัยแล้ว

บัดนี้เฉินเกอได้สงบสติลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ซูฉ ฉูซูหรานหราน ต่อไปพวกลูกอย่าได้เถลไถลไปที่ไหนอีก ล่ะ พวกหนูดูสิ ออกไปแล้วทำให้มีคนแบบไหนตามมาถึงที่ล่ะ ตอนนี้แม่จะไปหาพ่อของลูก พ่อยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมเกี่ยวกับ ด้านธุรกิจอยู่ พวกลูกๆรอพักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ พรุ่งนี้ คุณชายเฉิน จะจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ได้ยินมาว่าเขาได้เชิญแขกวีไอพีที่ ลึกลับคนหนึ่งมาร่วมงานด้วย ทั้งบ้านคุณชายเงินคือเป็นที่รู้จัก กันดีในละแวกเมืองหลิวเฉิง ทุกคนต่างให้ความสำคัญเป็นอย่าง มาก ยิ่งปรารถนาจะให้หนูไป เตรียมตัวไปให้ดีด้วยล่ะ!

คุณนายซูตบไหล่ของซูฉ ฉเบาๆ

กำลังจะเดินจากไป แต่พบว่าเฉินเกอยังไม่ได้ใสหัวไปไหนเลย
“อะเปียว พวกนายจัดการกันเองเลย! ฉันไม่หวังจะยังคงเห็น หน้าคนนี้ที่หน้าประตูบ้านอีก

พูดจบ คุณนายซูก็เหล่ตามองเฉินเกอแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดิน จากอะเกี่ยวกับพวกผู้นำบอดี้การ์ดต่างเขยิบคอเตรียมจะสั่งสอน

เงินเกอ

พอกําลังจะเข้าไป

“หยุดนะ!

ซูฉ ฉีดวาด ปล่อยให้เขาไปเถอะ! ”

“คุณหนูใหญ่ แต่ว่าคุณนาย….”พวกอะเชียวเหมือนกับว่าถ้า ไม่ได้ตีเฉินเกอต่อสักยกหนึ่ง ก็จะรู้สึกขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง แต่ไม่มีทางเลือก ได้แต่รับฟังคำสั่งเท่านั้น

“ไอ้เด็กเวร ให้นายไปแล้วยังจะไม่ไปอีกเหรอ!

อะเปียวตวาดอย่างเย็นชา

ส่วนเฉินเกอเงยหน้าขึ้นมองซู แวบหนึ่ง “ผมขอโทษจริงๆ สำหรับเรื่องวันนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณจะช่วยผมสักเรื่องหนึ่งจะได้ ไหมครับ? เมื่อผมแค่จําคนผิด ถึงได้เสียมารยาทกับคุณ! ”

เฉินเกอกล่าว

ส่วนซูจู เมื่อได้ยินประโยคนี้ จึงรู้สึกเสียใจอย่างแปลกประหลาด
ไม่ได้เกี่ยวกับว่ารักหรือไม่รัก

ประเด็นคือซูจู จูคิดว่าเขาตกหลุมรักตน จึงได้วิ่งตามมา ตลอดทางอย่างไม่กลัวถูกทําร้ายร่างกาย

แต่สุดท้าย คุณกลับบอกว่าทุกคนผิด สำหรับผู้หญิงแล้ว คงจะต้องมีใจคับแคบไม่มากก็น้อยอยู่บ้าง

แหละ รวมถึงระดับเทพธิดาอย่างซู ด้วย

“ถือสักว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายไปหาคนที่นายชอบ เถอะ! ”

พูดจบ ซู ก็หันหลังเดินเข้าคฤหาสน์ไป และซูหรานหรานทำหน้าบูดบึงใส่เฉินเกอแล้วเดินตามเข้าไป

เฉินเกอรู้ว่า หากตนยังจะขอร้องอ้อนวอนอยู่ต่อ อย่างมากก็จะ ได้เลือดยามเสียชีวิตมาหนึ่งหยดแล้วล่ะ

เหอะ ไม่มีทางเลือกแล้ว คงต้องกลับไปก่อนแล้วค่อยหา ทางออกก็แล้วกัน

สายหัวไปมา จากนั้นเฉินเกอก็เดินจากไปเหมือนกัน

“พี่เปียว พี่ดูสิ ไอ้เด็กเวรนี่ล่วงเกินคุณหนูใหญ่แล้วก็จากไป ง่ายๆเลย พวกผมค่อยปกป้องอยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่มาหลายปี สุดท้ายก็ให้ไอ้เด็กเวรคนนี้มาฉวยโอกาสไปได้ ผมไม่พอใจรู้สึก

หายใจติดขัด !!

บอดี้การ์ดหลายคนมองดูแผ่นหลังของเฉินเกอที่เดินจากไปกระซิบเสียงแผ่วเบา เห็นได้ชัดว่าที่ได้ดีเมื่อกี้ยังไม่สาแก่ใจ

“อืม ผมก็รู้สึกหายใจติดขัดเหมือนกัน พี่น้องตามเขาไปแล้ว กระทืบซ้ำอีกรอบ! ให้เขารู้สึกบ้างว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเรา ไม่ใช่เขาอยากกอด กอดได้ตามใจชอบ! ”

อะเปียวกล่าว จากนั้นมีหลายคนถือไม้ไว้ในมือแล้วตามไป

เฉินเกอเดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ด้าน ข้างมีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด

เงินเกออยากจะนั่งลงเพื่อดื่มกับความเงียบสงบสักพักหนึ่ง

จะได้ให้จิตของตนสงบขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

พวกอะเปียวกำลังแอบตามมาอยู่ห่างๆ

กลับพบว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งแย่งไปก่อนหนึ่งก้าวแล้ว พวกเขา กำลังเดินไปยังเฉินเกอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน

อาวุธในมือของพวกเขาแรงกว่า พวกเขาถือมีดฟันไว้ เห็นได้ ชัดว่าจะแทงฟันเฉินเกอ

“พี่เปียว คนของโกวเฉียง? จะฟันเขา ทำอย่างไรดี?

บอดี้การ์ดหลายคนถาม

“ยังจะทำยังไงได้ ค่อยดูสถานการณ์แล้วค่อยว่ากัน ถึงเขาจะ สมควรถูกตี แต่เมื่อกี้เคยช่วยเหลือสองพ่อลูกนั้นอย่างมีน้ำใจ แสดงว่าเขาเป็นคนมีจิตใจดี ถ้าถึงเวลาจำเป็นก็ต้องช่วยชีวิตเขา เอาไว้ หลังจากที่ช่วยเขาแล้วพวกเราค่อยกระทืบเขาต่อ ว่าไง?

เห็นด้วยครับ!

ทุกคนต่างพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน………


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ