ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่712 เกิดเรื่องกับตระกูลเฉิน



บทที่712 เกิดเรื่องกับตระกูลเฉิน

“ทำไมเธอถึงบอกว่าเขารู้จักเฉินเกอดีล่ะ?”

โล่จื่อเยียน เช็ดน้ำตาของตนเอง มองไปที่งูยักษ์และถามขึ้น

“เพราะเขารู้จักที่นี่เป็นอย่างดี ค่ายกลนี้ เป็นหยกแขวนที่ ท่านเทพแห่งสงครามมอบให้แก่เฉินเกอ คนทั่วไปไม่มีทางเปิด มันออกได้อยู่แล้ว แต่ว่าคนคนนั้นแทบไม่ได้ออกแรงเลยด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นหลังจากเขาฆ่าฉันแล้ว ยังตรวจสอบร่างของเทพแห่ง สงคราม ด้วยหลายวิธี และพูดชื่อของเฉินเกออยู่หลายครั้ง และ ยังมีคำว่าความลับอีก ดังนั้นฉันเลยเดาว่าเขาต้องรู้จักเฉินเกอ แน่!”

งูยักษ์พูด

“หลังจากนั้น เขาที่ไม่ได้ของตามที่ต้องการก็นำโลงศพ อมตะไป แต่เขากลับละเลย สำหรับฉันที่มีอายุอยู่มาได้หลาย หมื่นปี ฉันมีพลังจิตวิญญาณที่กล้าแกร่ง ร่างกายของฉันเน่า เปื่อยไปแต่จิตวิญญาณของฉันยังอยู่! ฉันเห็นทุกอย่าง!

เฉินเกอขมวดคิ้วและคิด

ใช่แล้ว ค่ายกลนี้ มันคือเนื้อหาบนหยกแขวน ยิ่งกว่านั้นคน ที่รู้ มีเพียงคุณปู่ โม่ซางหลง ใช่แล้ว นอกจากนี้ยังมีบุคคลลึกลับ ที่ทิ้งบันทึกไว้เพื่อพาตัวเองไปพบโลงศพอมตะ

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ปรากฏตัว
คุณปู่และพวกอยู่ในงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์เป็นตาย ยังไม่รู้ โม่ซางหลงก็ตายไปแล้ว เฉินเกอจึงยิ่งไม่ต้องคิดถึงเลย

อย่างนั้น ก็เหลือเพียงบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเท่านั้น จะเป็นเขารึเปล่า? แต่นี่ไม่สมเหตุผล

เขาชี้นําให้ตนเองตามหาโลงศพอมตะ ซึ่งมันชัดเจนว่ามัน เป็นความหวังดี

เพราะเฉินเกอจําได้ดี ในตอนที่เริ่มสืบเรื่องไม่หยางเหมิงนั้น ต้องพบกับปริศนามากมาย

ยิ่งกว่านั้นมันไปจนถึงจุดที่ตกตะลึงพรึงเพริดไปหมด

แต่ในเวลานั้นบุคคลลึกลับคนนี้ก็ได้เข้ามาช่วยตนเองและ มอบเบาะแสให้มากมาย

เฉินเกอกำลังแยกแยะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น

ในตอนแรกบุคคลปริศนาส่งแผนที่ของโลงศพอมตะมาให้ ตนเอง และให้ตัวเขาเป็นคนเปิดเอง หลังจากเปิดแล้วเขาก็ ปรึกษาของเขาและสามารถหาโลงศพอมตะได้อย่างราบรื่น และด้วยเหตุนี้ ตัวเองจึงได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด จนได้ ชำระแค้นตระกูลโม่แทนตระกูลเฉิน แถมเรื่องของ จื่อเยียน เขา เองก็ส่งสัญญาณลับให้เขาไม่น้อย ทำให้ตัวเองสามารถเดินมา ถึงจุดที่เขาอยู่ในปัจจุบัน เขากำลังหลอกใช้ตนเอง? หรือกำลัง คิดร้ายต่อตนเอง? นี่เหมือนจะคิดไม่ตก อย่างน้อยในตอนนี้ก็ยังจะคิดไม่ตกอยู่ !

เฉินเกอ ใคร่ครวญ

“เสี่ยวเกอ เธอเคยรู้จักกับท่านปรมาจารย์ลึกลับแบบนี้

เปล่า?”

โล่จื่อเยียน มองไปที่เฉินเกอแล้วถาม

เฉินเกอคิดแล้วพยักหน้า “อ๋อ อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ ลุง ฉันท่านอาจารย์ของผม”

“เขาเก่งมาก เก่งกาจขนาดไหน เกรงว่าคนที่มีการบำเพ็ญ ปฏิบัติอย่างผม ถ้าหากให้ผมไปเผชิญหน้ากับเขา ผมก็ไม่มั่นใจ พูดแล้วฟังดูขัดแย้ง เขาได้พัฒนาฝีมือนำหน้าผมไปหนึ่งก้าวใน ทุก ๆ วัน แต่ว่าผมกลับไม่เคยเห็นฝีมือเขาเลย! ก็เป็นแบบนี้ แหละ!”

เฉินเกอคิดแล้วพูดขึ้นมา

โล่จื่อเยียนและเฉินผิงอันทั้งคู่สีหน้าก็จริงจังขึ้นมาทันใด สามารถพอจะทำให้เสี่ยวเกอในตอนนี้ต้องหวาดผวาอยู่ใน ใจได้อย่างนี้ ดูแล้วเขาคงไม่ใช่จะยอดฝีมือธรรมดาแน่

“แต่ว่า ลุงฉินมีบุญคุณทั้งช่วยชีวิตและถ่ายทอดวิชาให้ผม เขาดีกับผมมาก ยิ่งกว่านั้นคือเขาจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน?”

เฉินเกอคิดแล้วไม่เข้าใจ อย่างน้อยเงินกอก็มั่นใจ บุคคล ปริศนาที่ส่งสัญญาณลับคอยช่วยเหลือเขาในตอนแรกนั้นเป็นลุง
นี้ทำให้เฉินเกอมั่นใจมากมาโดยตลอด

เพราะมีเขาอยู่ข้างกาย ในใจของเขาจึงได้รู้สึกสงบนิ่งเป็น อย่างมาก

“งั้นก็แปลก ถ้าหากว่าเขาดีกับเธอมากขนาดนี้ ทำไมเขาถึง ไม่แสดงตัวในตอนหลัง ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากฉันคิดไม่ผิดล่ะก็ การ ที่พลังพื้นฐานของเธอถูกทำลาย จะต้องเกี่ยวกับเขาโดยตรง!

โลจื่อเยียนคิดแล้วพูดขึ้น

เฉินเกอปวดใจอยู่ครู่หนึ่ง: “เป็นไปไม่ได้ ผมไม่เชื่อว่าตาแก่ นั่นจะทํากับผมแบบนี้ ต่อให้มันเกี่ยวข้องกับเขาจริง ผมก็ต้อง ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนและมีหลักฐานเพียงพอผมถึงจะเชื่อ!”

เฉินเกอส่ายหน้า

“เฉินเกอนายมาดูนี่เร็ว ดวงวิญญาณของเจ้างูยักษ์กำลังจะ ดับสูญแล้ว!”

และฟางเจียนนั้นก็เดินเข้าไปเจ้างูยักษ์แล้วพูดขึ้น เฉินรีบเข้าไปดู

ในตอนนี้โดยไม่สนใจสิ่งใด เขารีบใช้พลังกำลังภายใน สวนเทียน ใช้ เงิน เพื่อห่อหุ้มดวงวิญญาณเอาไว้ เพื่อลองรักษา มันไว้

“ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ เวลาของฉันหมดแล้ว นายไม่จําเป็นต้องใช้เงินเพื่อฉันแล้ว! คำพูดฉันไว้ ต่อไปไม่ว่าเรื่องอะไรให้ ระวังไว้บ้าง! และมีชีวิตอยู่ต่อไป!

งูยักษ์กล่าว

“ฉันไม่ปล่อยให้นายตายไปทั้งอย่างนี้หรอก” เฉินเกอเพิ่มพลังเจินเข้าไป

“ขอบคุณนะ นึกไม่ถึงว่าบนโลกนี้จะยังมีเพื่อนคนหนึ่งที่จำ ฉันได้ และดีกับฉัน…

ทันทีที่คำพูดนั้นถูกพูดออกมาก็ได้เห็นดวงจิตของงูยักษ์ตัว นั้นแตกซ่านไป เหมือนกับหิ่งห้อยที่ดับมืดลง แสงดาวระยิบระยับ ดับไปในทุกที่

เฉินเกอกําหมัดแน่น

เขาเคยให้ค่ามันจะไม่ทำให้คนรอบข้างต้องเจ็บ แม้ว่าตน เขาเองกับเจ้างูยักษ์จะได้พบเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียว แต่การ ช่วยเหลือจากมันในครั้งนั้น บวกกับการเสียสละดวงจิตของมัน ในครั้งนี้ เป็นการเตือนตัวเองว่ายอดฝีมือที่โหดร้ายได้เริ่มลงมือ แล้ว

นำไปสู่ความขวัญหนีดีฝ่อ

เฉินเกอยกให้มันเป็นเหมือนคนสนิท แต่ว่าตนเองกลับไม่มี ประโยชน์ทำได้เพียงแต่มองดูมันตายจากไป

ยิ่งกว่านั้นตนเองยังถูกคนอื่นเล่นงาน เอาไปแม้กระทั่งร่างของ พี่หลินเซียว

นาทีนี้เฉินเกออยากจะตบหน้าตัวเองสักสองสามที

ด้วยความรู้สึกผิดและละอายใจเป็นอย่างยิ่ง

“เสี่ยวเกอ ฉันไม่โทษเธอเลย บางทีมันอาจจะเป็นชะตา กรรม! เธอไม่ต้องโทษตัวเองหรอก แถมเธอต้องใจเย็น ๆ หิน โชคชะตา เตือนให้เราเห็นหลายที่ นอกจากสุสานโบราณแล้วก็มี บ้านตระกูลเฉิน พวกเราอยู่ในภารกิจเร่งด่วนยังต้องรีบไปที่บ้าน เธออีก สุสานโบราณเกิดเรื่องแล้ว ฉันเป็นห่วงจริง ๆ ว่าบ้านเธอ จะถูกโจมตี!”

เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ แววตาของเฉินเกอและเฉินผิงอันก็ พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

“หิน โชคชะตา แสดงชัดเจนว่าสุสานโบราณถูกแสง ปกคลุมไว้ มีความเงียบสงบและความลับ และบ้านตระกูลเฉินก็ เป็นแบบเดียวกัน!

ตาของเฉินผิงอันกระตุกแรง

“เสี่ยวเกอ พวกเรารีบกลับกันเถอะ!”

หลังจากจอเยียนออกปากเตือนแบบนี้แล้ว ใจของเฉินเกอ ตื่นตัวขึ้น

ใช่แล้ว ฆาตกรโหดคนนี้รู้จักตัวเขาดี อย่างนั้นคงจะรู้จักที่ บ้านของตัวเขาดีด้วยเช่นกัน
ครอบครัวที่บ้านคงจะไม่มีเรื่องอะไรหรอกนะ

นี่ทำให้เงินเกอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขึ้นมา

ตามการจัดการของพี่จื่อเยียน ป้าจะอยู่เพื่อจัดการกับซาก งูยักษ์ และดูแลฟางเจี่ ยนนั้นและกลุ่มผู้หญิง ให้พวกเธอเดินทาง กลับหนานหยาง

ตนเองคุณลุงและพี่จ๋อเขียนสามคนจะเดินทางกลับไปที่บ้าน ตระกูลเฉินก่อน

จากพละกำลังของเฉินเกอ ในตอนนี้ กลับบ้านตระกูลเฉินที่ หนานหยางก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ที่บ้านตระกูลเฉิน ในตอนนี้มีทั้งพล่าน เฉียงเวย และฉินหยา ที่กำลังพักฟื้น

ไม่รู้ว่าพวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง

ถึงแม้ว่าคุณจะคนจากสำนักจิตคุณปู่คอยปกป้อง แต่คน คนนั้น กับงูยักษ์ที่มีการบำเพ็ญปฏิบัติยังฆ่าได้ในเสี้ยววินาที ถ้า หากว่าเขาคิดไม่ดีกับเฉินเกอ

เกรงว่าตระกูลเฉินคงไม่มีใครจะหยุดเขาไว้ได้

“ข้างหน้านั้นก็ถึงเกาะแล้ว!

เฉินเกอคุณลุง และโลจื่อเขียน ทั้งสามมาถึงอย่างรวดเร็ว และเฉินเกอที่มีการบำเพ็ญปฏิบัติที่สูงขึ้น และเขาได้ขึ้นไปที่ เกาะก่อน
บ้านตระกูลเฉิน ในตอนนี้ ดูแล้วเงียบเหงาดูเหมือนไม่คึกคัก เหมือนอย่างเคย

เกาะที่กว้างใหญ่ในตอนนี้ไม่มีใครสักคน

ยิ่งกว่านั้น ยังมีความแปลกประหลาดอย่างเงียบเชียบใน ทุกหนแห่ง

หรือว่าเป็นอย่างที่หินโชคชะตา ว่าไว้ สุสานโบราณและตระ กูลเฉินจะต้องพบเจอเภทภัย?

เลือดลมของเฉินเกอมันสูบฉีดไม่ยอมหยุด

ขาทั้งสองข้างหนักอึ้งราวกับตะกั่ว

เขาค่อย ๆ ก้าวขาเข้าไปที่หน้าประตูใหญ่บ้านตระกูลเฉิน…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ