ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่478 ขอบคุณความช่วยเหลือของคุณ



บทที่478 ขอบคุณความช่วยเหลือของคุณ

“พี่ใหญ่ ทางนั้นมีอยู่ พวกเราเข้าไปหลบด้านในนั้นก่อนดีกว่า พวกเราจะไม่ทิ้งพี่ไว้โดยไม่สนใจแบบนี้หรอก”

ลูกน้องสองสามคนนั้นเอ่ยพูดขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน

พูดเสร็จแล้วนั้น ก็แบกทหารที่บาดเจ็บนายนั้นเข้าไปยังด้าน

ในถ้ำ

“หืม? ที่นี่ทำไมเหมือนกับมีคนพักอยู่?” หลังจากที่พวกเขาเข้ามาแล้วนั้น ก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “ใช่ แต่ไม่ต้องสนใจหรอก อยู่ที่นี่ทำแผลให้พี่ใหญ่ก่อน

หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น

“สถานการณ์แบบนี้ จะดีกว่าถ้าจะให้เลี้ยงเลือดเอาไว้ก่อน ถ้า ทําแผล จะตายเร็วขึ้นนะ

เวลานี้เอง ที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากตรงปากถ้ำ

ทำให้ทุกคนในนั้นตกใจ

ต่างก็พากันยกปืนขึ้นมา แล้วจ่อไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ส่วนเฉินเกอกลับเงยขึ้นมามองปากกระบอกปืนสีดำเหล่านั้น

ในมือยังคงถือกระต่ายป่าที่ย่างสุกแล้วเมื่อครู่นี้
แล้วจึงนั่งลงข้างๆ

ส่วนคนหนึ่งที่คนกลุ่มนี้เรียกว่าพี่ใหญ่นั้น เวลานี้กลับมองมา ทางชายหนุ่มด้วยสายตาที่เยือกเย็น

ในใจรู้สึกว่าคนๆนี้ไม่ธรรมดา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ ความระแวดระวังนั้นก็ยังคงสูงกว่าคนปกติทั่วไปอยู่ดี

ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะมาเจอชายหนุ่มคนหนึ่งมาอยู่แถวๆ บริเวณนี้ เขาไม่รู้สึกเช่นนั้น

อีกทั้งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ลูกน้อง ใช้ปืนจ่อไปทางเขา เขากลับไม่เลิกเปลือกตาขึ้นเลยเสียด้วยซ้ำ

นี่คือคุณสมบัติของวัยรุ่นที่พบเห็นกันทั่วไปควรจะมีที่ไหนกัน?

ยิ่งไปกว่านั้น กับการที่มาเผากระต่ายป่าในป่าลึกได้แบบนี้ ก็

ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแล้ว

“วางลงก่อน ”

ผู้นำคนนั้นโบกมือลง แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้ม :

“หนุ่มน้อย นี่คงจะเป็นที่ของนายสินะ ขอโทษด้วย ที่พวกเรา บุกรุกเข้ามา!”

“ที่พักของพวกคุณอยู่ในถ้ำอย่างนั้นหรือ? ผมแค่มาอาศัย หลบฝนเท่านั้น พวกคุณอยากจะอยู่นานแค่ไหนก็อยู่ไปเถอะ

เฉินเกอยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
“หม พี่ใหญ่ ถามเขาทำไมกัน ดูท่าทางแล้ว เขาเองก็คงเป็น พวกคนที่ชอบท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านมาเท่านั้นเอง แล้วก็ยังดู เด็กอยู่ด้วย ทางที่ดีอย่าปากมากนะ มิเช่นนั้นแล้วอย่ามาโทษ อาวุธในมือฉันก็แล้วกัน!

คนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างโมโห

หลังจากนั้นก็รีบพันแผลให้กับพี่ใหญ่ตัวเอง เขาหยิบเอามีดสั้นออกมา เพื่อตัดผ้าพันแผล เมื่อเฉินเกอเห็นมีดสั้นเล่มนั้นแล้ว ก็รู้ได้ทันที ว่าคนกลุ่มนี้ คงจะเป็นพวกเดียวกันกับเหลิงหรูชวงนั่นใช่หรือ เปล่า?

มีดสั้นที่คล้ายกันของพวกเธอสามารถทำให้แน่ใจได้

ใช่แล้ว เหลิงหรูชวงเคยบอกเอาไว้ว่า พวกเพื่อนของเธอถูก หลี่หูทำร้าย จนตอนนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ยังไม่รู้ เธอจึง ต้องการที่จะแก้แค้นหลี่หู

ตอนนี้เห็นบุคคลกลุ่มนี้ดูอยู่ในสภาพที่ตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ แล้ว ก็คงจะเป็นพวกเขาสินะ

และเป็นอย่างที่คิดไว้ ขณะนั้นเองหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นด้วยความ โมโห :

“บ้าจริง หลี่หูคนนี้ ครั้งนี้ถ้าพวกเรามีชีวิตรอดออกไปได้ จะไม่ ปล่อยพวกนั้นไปแน่ๆ คิดจะยืมมือคนอื่นมากำจัดพวกเรา มันไม่ง่ายขนาดนี้หรอก เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่!”

“ตอนนี้ ไม่รู้ว่าน้องหกเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ฉันกลัวว่าเธอจะ ติดกับแผนชั่วของหลี่หูเข้าเหลือเกิน!

พี่ใหญ่ไอขึ้นมา

ในใจเฉินเกอนั้นคิด ไม่ใช่ว่าติดกับแผนชั่วของฝ่ายนั้นหรอก หรือ เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว

“ถ้าอย่างนั้นพี่ใหญ่ พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อ? แผนของหลี่ หู เล่นทำเอาพวกเราเหมือนกับหมาข้างถนน พวกเราไม่มีที่ไป แล้ว!”

มีคนเอ่ยถามขึ้น

“ตอนนี้ คงต้องค่อยๆดูกันไปทีละก้าวแล้วล่ะ อย่างมาก ก็คง เร่รอนไปทั่ว! ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกนายสามารถหนีไปได้ อย่าให้ต้องมาสูญเสียชีวิตไปเพื่อฉัน มันไร้ค่าเกินไปถ้าจะต้อง มาตายกันแบบนี้!”

หลังจากนั้นคนที่เป็นพี่ใหญ่ก็เกลี้ยกล่อมให้ลูกน้องที่เหลือรีบ หนีไป แต่พวกเขาก็ไม่ยอมไป

และในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าก็ดังไล่เข้ามา

คนจํานวนกว่าสิบคน

“รีบไป!

“สู้กับพวกนั้นให้ถึงที่สุด!”
ทุกคนกัดฟันเตรียมสู้กันอย่างสุดกำลัง

“วางลง!”

“วางลงให้หมด ”

คนกลุ่มนั้นรีบตามมาถึง แล้วยกปืนขึ้นเล็งมาทางคนที่อยู่ ด้านในถ้ำ

“อืม ยังวิ่งได้จริงๆสินะ ทำให้พวกฉันต้องตามมาทางภูเขาตั้ง นานขนาดนี้! เฉินว่านชาน นายนี่สามารถจริงๆ!”

ขณะนี้เอง อีกร่างหนึ่งที่อยู่ในชุดลายพรางเช่นเดียวกันนั้นเดิน เข้ามา พลางยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“เฮยเป้า ถ้านายจะฆ่าก็ฆ่า อย่ามาไร้สาระอยู่!”

เฉินวานซานตะโกนออกมา

มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี หยิ่งมากจริงๆ!

เฮยเป้ายิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“พี่เป้า ตรงนี้ยังมีอยู่อีกหนึ่งคน!”

ลูกน้องเขาเอ่ยขึ้น

“หืม? บ้าเอ้ย เป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวผ่านมาเท่านั้นสินะ นี่ เจ้าเด็กบ้า ถ้าดูสถานการณ์ออกก็รีบไสหัวไปซะ มิฉะนั้นแล้ว ฉัน จะให้แกตายอยู่ที่นี่!”

เฮยเป้ายกปืนในมือขึ้นมา แล้วเล็งไปที่ศีรษะของเฉินเกอ
ทุกคนกัดฟันเตรียมสู้กันอย่างสุดกำลัง

“วางลง!”

“วางลงให้หมด ”

คนกลุ่มนั้นรีบตามมาถึง แล้วยกปืนขึ้นเล็งมาทางคนที่อยู่ ด้านในถ้ำ

“อืม ยังวิ่งได้จริงๆสินะ ทำให้พวกฉันต้องตามมาทางภูเขาตั้ง นานขนาดนี้! เฉินว่านชาน นายนี่สามารถจริงๆ!”

ขณะนี้เอง อีกร่างหนึ่งที่อยู่ในชุดลายพรางเช่นเดียวกันนั้นเดิน เข้ามา พลางยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“เฮยเป้า ถ้านายจะฆ่าก็ฆ่า อย่ามาไร้สาระอยู่!”

เฉินวานซานตะโกนออกมา

มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี หยิ่งมากจริงๆ!

เฮยเป้ายิ้มออกมาอย่างเย็นชา

“พี่เป้า ตรงนี้ยังมีอยู่อีกหนึ่งคน!”

ลูกน้องเขาเอ่ยขึ้น

“หืม? บ้าเอ้ย เป็นคนที่ชอบการท่องเที่ยวผ่านมาเท่านั้นสินะ นี่ เจ้าเด็กบ้า ถ้าดูสถานการณ์ออกก็รีบไสหัวไปซะ มิฉะนั้นแล้ว ฉัน จะให้แกตายอยู่ที่นี่!”

เฮยเป้ายกปืนในมือขึ้นมา แล้วเล็งไปที่ศีรษะของเฉินเกอ
ส่วนตรงแก้มของเฮยเป้านั้น ก็ถูกเกี่ยวเฉียดไปเป็นรอยเลือด

จางๆด้วยเช่นกัน

พระเจ้า!

นี่มันคือแรงและความเร็วอะไรกัน?

ถ้าหากนี่ โดนเข้าตรงลำคอหรือหน้าอกของเขา นั่นก็เท่ากับ ว่าสามารถสิ้นชีวิตลงได้ในทันที

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง

และคนที่พูดว่าเฉินเกอเป็นพวกที่รักการเดินทางคนนั้น เวลานี้ กลับกลืนน้ำลายได้อย่างยากลำบาก “เก่งมาก!”

“วันนี้ฉันยังต้องพักที่นี่อีกหนึ่งคืน ถ้าพวกคุณไม่ออกไปฆ่ากัน

เสีย ถ้าอย่างนั้นก็หยุดวางมือกันก่อนแล้วกัน!

เฉินเกอกล่าว

แล้วเขาก็ฉีกเนื้อกระต่ายเข้าปาก

แววตาของเฮยเป้าครุ่นคิดเล็กน้อย และในแววตานั้นเต็มไป

ด้วยความหวาดกลัว

“พวกเราถอย!”

เฮยเป้าเอ่ยขึ้น

“พี่เป้า!”

“ถอย!”
เฮยเป้า โบกมือ แล้วพาคนเหล่านั้นถอยกลับไป “พี่เป้า พวกเรามีตั้งเป็นสิบกว่าคน ทำไมจะต้องถอย?” หลังจากที่เดินออกมาแล้ว ลูกน้องเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เหอะๆ สิบกว่าคน? ฉันได้รับข่าวที่แน่นอนมาแล้วว่าไม่กี่วัน ก่อน ว่าหลี่หูพาคนเป็นสิบคนออกเริ่มปฏิบัติการ ในช่วงเวลา เพียงแค่คืนเดียว กลับถูกฆ่าตายทั้งหมด ศพถูกทิ้งในป่ารกร้าง ไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว!”

เฮยเป้ากล่าว

“อะไรนะ? ถูกฆ่าทั้งหมดเลย?”

“อืม อีกทั้งการตายก็เหมือนกันหมด เป็นการถูกยิงตาย ภายในครั้งเดียว และก่อนที่พวกเขาจะตายนั้นล้วนแต่อยู่ใน ท่าทางกำลังเหนี่ยวไกปืนกันอยู่ทั้งหมด ส่วนอาวุธที่ใช้ฆ่าพวก เขานั้น ก็คือ….กิ่งไม้ เรื่องนี้ แพร่กระจายกันอย่างครึกโครม ใน เขตพื้นที่สามเหลี่ยมเมื่อเร็วๆนี้เอง!

เฮยเป้าเหงื่อตก

แล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไรนั้น ลูกน้องพวกนั้นล้วนพากัน เข้าใจแล้วเช่นกัน

หลี่หูเองก็นับว่าเป็นคนใหญ่คนโต ไม่คิดว่าจะถูกคนฆ่า สังหารเช่นนี้
เฮยเป้า โบกมือ แล้วพาคนเหล่านั้นถอยกลับไป “พี่เป้า พวกเรามีตั้งเป็นสิบกว่าคน ทำไมจะต้องถอย?” หลังจากที่เดินออกมาแล้ว ลูกน้องเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เหอะๆ สิบกว่าคน? ฉันได้รับข่าวที่แน่นอนมาแล้วว่าไม่กี่วัน ก่อน ว่าหลี่หูพาคนเป็นสิบคนออกเริ่มปฏิบัติการ ในช่วงเวลา เพียงแค่คืนเดียว กลับถูกฆ่าตายทั้งหมด ศพถูกทิ้งในป่ารกร้าง ไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว!”

เฮยเป้ากล่าว

“อะไรนะ? ถูกฆ่าทั้งหมดเลย?”

“อืม อีกทั้งการตายก็เหมือนกันหมด เป็นการถูกยิงตาย ภายในครั้งเดียว และก่อนที่พวกเขาจะตายนั้นล้วนแต่อยู่ใน ท่าทางกำลังเหนี่ยวไกปืนกันอยู่ทั้งหมด ส่วนอาวุธที่ใช้ฆ่าพวก เขานั้น ก็คือ….กิ่งไม้ เรื่องนี้ แพร่กระจายกันอย่างครึกโครม ใน เขตพื้นที่สามเหลี่ยมเมื่อเร็วๆนี้เอง!

เฮยเป้าเหงื่อตก

แล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไรนั้น ลูกน้องพวกนั้นล้วนพากัน เข้าใจแล้วเช่นกัน

หลี่หูเองก็นับว่าเป็นคนใหญ่คนโต ไม่คิดว่าจะถูกคนฆ่า สังหารเช่นนี้
เงินเกอเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง

เมื่อครูที่แอบช่วยพวกเขานั้น ก็เป็นเพราะเห็นพวกเขาที่รักใคร่ มีน้ำใจต่อกันมากเช่นนั้น

ถ้าหากเป็นเพียงสองฝ่ายที่ฆ่าสังหารกันแบบนั้น เฉินเกอเองก็

ขี้เกียจจะสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเช่นกัน

ขณะนั้นเองเขาจึงเอ่ยขึ้น : “คุณนอนตะแคง ผมเอากระสุนออก ให้คุณก่อนแล้วค่อยว่ากัน……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ