ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 44 เฉินเกอรวยจัง



บทที่ 44 เฉินเกอรวยจัง

“เราสองคนเป็นเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกัน แต่ว่า สถานะของเขาฉันไม่สะดวกจะพูด เขาให้ฉันเก็บเป็น ความลับ! เห่อๆ!”

ตู้เหล่ยบีกันบุหรี่จนดับ

ยิ้มอย่างจางๆ

ในตอนนี้สายตาของทุกคนที่มองเขาได้เปลี่ยน

ไป

โดยเฉพาะเจียงเวยเวย ที่มองอย่างชื่นชม

เจิ้งเชียนเชียนก็มองตาเป็นประกาย หากเป็นจริง ตัวเองคงมีโอกาสได้นั่งรถคันนี้ที่คนนับไม่ถ้วนต่างคลั่ง คล้ายใช่ไหม?

หนุ่มๆต่างอิจฉาตู้เหล่ยจะตายอยู่แล้ว

“ตู้เหล่ยนี่เรื่องจริงหรือเรื่องหลอก คงไม่ใช่มุก เก่าที่นายเคยใช้จีบดารานะ นายโม้อยู่ใช่มั้ย?”

หวังหยางไม่กล้าเชื่อ เพราะเขารู้จักตู้เหล่ยคนนี้ ฐานะทางบ้านเหรอ ก็ธรรมดา เป็นเศรษฐีเล็กๆ

เป็นไปได้ไงที่จะรู้จักระดับมหาเศรษฐี? และตู้เหล่ยก็เป็นคนขี้โม้จนเคยตัว

“เป็นไปได้ไง อีกอย่างฉันจะสามารถเอารถราคายี่สิบล้านมาโม้ได้ไงกัน พวกนาย”นี่ก็จริงๆ!”

ตู้เหล่ยหัวเราะเจื่อนๆ

“ตู้เหล่ยฉันเชื่อนาย!”

เจียงเวยเวยยิ้มให้กับตู้เหล่ย

เธอเหลือบมองรถหรูในรูปเป็นระยะๆ เธอจะ ละลายหมดแล้ว หากเธอมีโอกาสนั่งสักครั้ง ให้ทำอะไร ก็ยอม

และโอกาสนี้ ก็ต้องอาศัยตู้เหล่ย ถึงจะได้รู้จัก มหาเศรษฐีระดับเทพ!

เฉินเกอที่อยู่อีกฝั่งยิ้มเจื่อนๆ

กุญแจรถยังอยู่ในกระเป๋าของตัวเองเลย

สรุปตัวเขากลายเป็นเพื่อนรักของคนอื่นไปเสีย

แล้ว

สิ่งที่ทำให้เฉินเกอรู้สึกไม่สบายใจที่สุดก็คือ หญิงสาวที่น่ารักทั้งสอง ถูกไอ้คนขี้โม้คนนี้หยอก ล้อไปเสียแล้ว

หรือว่าหากตัวเองขับรถแล้ว ก็จะหยอกล้อสาว

ได้?

ก็สามารถหยอกล้อเจียงเวยเวยได้

เฉินเกอคิดในใจ หรือตัวเองไม่ควรทำตัวสมถะอีก เสียเปรียบจังเลย!

“พรับ!”
ตอนนี้ เฉินเกอรู้สึกหน้าตัวเองโดนอะไรปาใส่สัก อย่าง

เงยหน้าขึ้นมอง เป็นเจียงเวยเวยที่ใช้ก้อนทิชชู

ปาใส่ตัวเขา “อั้ม นายฟังอะไรอยู่อะ ทำไม นายก็อยากนั่งล้ม

โบร์กีนี ขอร้องเถอะ ไปแปลงเพศซะ..”

เจียงเวยเวยหัวเราะอย่างเย็นชา

“ที่แปลงเพศเขาคงไม่ต้อนรับคนโคตรจนแบบนี้

หรอก!”

หลี่เนี่ยนหัวเราะเสียงดัง

กระพริบตามองพวกเขาจู่โจมตัวเอง

ดีที่บริกรเริ่มเอาอาหารขึ้นโต๊ะแล้ว

บะหมี่หั่นเส้นกับผัดเส้นมันฝรั่งของเฉินเกอก็มา

แล้ว

“ว้าว อาหารหลากหลาย ดูแล้วก็คือระดับไฮเอน

ด์!”

“แน่นอน อาหารดีต้องคู่กับเหล้าที่ดี วันนี้จะให้ทุก คนได้ลิ้มรสไวน์แดงขวดนี้ ราคาสองพันกว่าหยวน!”

หวังหยางพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย

ทำให้ทุกคนชื่นชมทันที

เฉินเกอที่อยู่อีกมุม ถูกพวกเขาละเลย

เฉินเกอกำลังซดน้ำซุปบะหมี่ กินเส้นมันฝรั่ง เขาค่อนข้างที่จะหิว

เวลานี้ ประตูห้องวีไอพีได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง

เห็นบริกรยืนเรียงกันอยู่

กำลังจะเดินเข้ามาพร้อมกับเมนูพิเศษระดับไฮ เอนด์

แต่เมนูพิเศษนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นชุดเล็ก เพราะ เกรงว่าโต๊ะขนาดเล็กของเฉินเกอจะไม่พอวาง

อา..หารของพวกเราครบแล้ว ไม่ใช่เมนูพิเศษ ที่เราสั่ง

หวังหยางมองแล้ว อึ้งไปชั่วขณะ

“สวัสดีค่ะคุณผู้ชายท่านนี้ อาหารนี้ไม่ใช่ของพวก คุณ แต่เป็นของคุณเฉินค่ะ!”

เฉินเกอมองไปบริกรที่กำลังอธิบาย โอ้มายก๊อด ตัวเองก็ไม่ได้สั่งเหมือนกัน

“รอก่อน ฉันขอพูดก่อน ฉันจะรับผิดชอบแค่โต๊ะนี้ อาหารพวกนี้เฉินเกอเป็นคนสั่ง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”

หวังหยางพูดอย่างตกใจ

หากให้เขาเป็นคนจ่าย วันนี้เงินคงจะแค่พอดีจ่าย

มันคือเมนูพิเศษ แต่เขาสั่งแค่สองอย่าง

“เห่อๆ คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด เป็นเพราะคุณเฉิน สั่งอาหาร ทางเราเลยแถมอาหารให้ พรับๆ! พรับๆ!”

พูดจบ พนักงานสาวก็ปรบมือ
อาหารถูกเสิร์ฟขึ้นทีละอย่างๆ มีหญิงสาวบางคน ยังไม่เคยเห็นเมนูพิเศษที่ถูกเสิร์ฟจนครบพวกนี้

ทั้งหมดสิบสองเมนู

โต๊ะของเฉินเกอเต็มไปด้วยอาหาร

อาหารพวกนี้ อย่างต่ำๆก็สองสามหมื่น

“นี่ๆๆ…เขาแค่สั่งผัดเส้นมันฝรั่ง ทางร้านก็ แถมเมนูพิเศษให้เยอะขนาดนี้?”

เจียงเวยเวยที่ตกตะลึงได้ยืนขึ้นมา

เธอเกือบจะเป็นลม

เธออยากที่จะลิ้มลองเมนูพิเศษของห้องครัวเจีย หยวนให้หมดทีเดียว แต่มันเป็นไปไม่ได้ เฉลี่ยสั่งครั้งละ

สองเมนู

ยังต้องมากินยี่สิบครั้ง

อีกอย่าง ใครจะมีเงินมาเลี้ยงเธอถึงยี่สิบครั้งละ?

เมนูพิเศษแพงมากนะ!

แต่ตอนนี้ละ เฉินเกอสั่งแค่บะหมี่กับผัดมันฝรั่ง

ทางร้านแถมให้สิบสองอย่าง

อีกอย่างเป็นเมนูใช้วัดิบพรีเมี่ยมทั้งนั้น?

ไม่เพียงแต่เจียงเวยเวย พวกเจิ้งเชียนเชียนต่างก็ อึ้งตามๆกัน มองเฉินเกออย่างไม่คาดคิด

เฉินเกอคิดไม่ถึง ผู้จัดการล็อบบี้คนนี้จะทำเรื่อง

แบบนี้?
เมนูพิเศษโต๊ะนี้ เขาก็กินไม่หมด

มองไปที่ซูมู่หาน: ทันที “นักศึกษาซูมู่หาน มากิน ด้วยกันมั้ย?”

ซูมู่หานไม่ได้รู้สึกอายอะไรอยู่แล้ว

อีกอย่าง ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวของเฉินเกอเต็มไป ด้วยความลึกลับ

ไม่งั้นทางร้านจะให้เกียรติเขาทำไม?

ทันใดนั้น ยิ้มแล้วก็เดินไป

นั่งตรงข้ามกับเฉินเกอ

ไม่ต้องพูดถึงสีหน้าของหวังหยาง

“ยิ้ม ฉันรู้แล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะสั่งผัดเส้นมัน ฝรั่งแล้วแถมเมนูพิเศษ? เป็นกิจกรรมที่ทางร้านจัดขึ้น?”

เจิ้งเชียนเชียนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง เธออยากไปกินด้วย แต่ไม่กล้าพอ

“ใช่ๆๆ อาจจะเป็นเพราะร้านจัดกิจกรรม!” หวังหยางพูดอย่างไม่พอใจ

บริกรเข้ามาพอดีหวังหยางเลยถามอย่างตรงๆ: “เออ ใช่แบบนี้หรือเปล่าสั่งผัดมันฝรั่งหนึ่งจาน ก็จะแถม เมนูพิเศษ?”

ถามจนบริกรงงๆ

แล้วพูดอย่างดูแคลน: คุณไม่สบายปะ? ผัดมันฝรั่งหนึ่งจานแถมเมนูพิเศษ? ประสาท!”

พูดจบ บริกรชักสีหน้าแล้วจากไป

ห้องครัวเจียหยวนเป็นกิจการถนนการค้าจินหลิง คนธรรมดาไม่กล้าหาเรื่องบริกรอยู่แล้ว

หวังหยางเหมือนโดนตบหน้า

ราวกับถูกตบจนมึน ปัญหาแบบนี้ทำไมเขาถึงถาม ออกมาได้

“เฉินเกอนายกินคนเดียวไหวเหรอ?”

เจียงเวยเวยถามอย่างโกรธเคือง

นี่ เฉินเกอ ของอร่อยเยอะอย่างนี้จะไม่แบ่งๆกัน

บ้างเหรอ

“อ้อ พวกเธอ ใครที่เต็มใจ ใครก็มากินได้!”

“นาย!”

เจียงเวยเวยกำลังจะอกแตกตายอาหารมื้อนี้กิน

ไปก็ไร้รสชาติ เธออยากที่จะลิ้มลองจริงๆ

“ฉันรู้แล้ว!”

หน้าที่บวมแดงของหวังหยาง เหมือนตื่นขึ้นมา อย่างกะทันหัน

“เห่อๆ เฉินเกอ ครั้งที่แล้วนายมาใช้จ่ายที่น่าจะ สูงมากใช่ไหม ได้ยินว่าราวๆแสนกว่า ดังนั้นครั้งนี้นายมา ผู้จัดการล็อบบี้ถึงแถม

อาหารให้เยอะอย่างนี้ใช่หรือเปล่า?”
หวังหยางไม่กล้าคิดความเป็นไปได้อย่างอื่น

มีทางนี้ทางเดียวที่จะให้เขารู้สึกดีขึ้นได้

“น่าจะนะ…” เฉินเกอยิ้มๆ

แกล้งกินคำใหญ่ๆ

“งั้นนายกินเถอะ เดี๋ยวคอยดูว่านายจะกินต่อได้ ไหม!” หวังหยางสีหน้าเปลี่ยนกะทันหัน

ครั้งนี้เฉินเกอ ถือว่าได้ตบหน้าคืนทุกคนในห้องนี้

แล้ว

โดยเฉพาะหวังหยาง เมนูที่เขาไม่กล้าสั่ง สุดท้ายทางร้านกลับส่งมาให้เฉินเกอทั้งสิบสองเมนู

ทั้งๆที่เฉินเกอก็รู้ว่าตัวเขาเองชอบซูมู่หาน สุดท้ายก็ยังเรียกซูมู่หานมากินข้าวต่อหน้าทุกคน

หน้าโดนตบจนจะบวมแล้ว

“หวังหยางหมายความว่าไง?”

เจียงเวยเวยถามอย่างสงสัย

“จะอะไรอีกละ? เวยเวย คนนี้ไม่ใช่ถูกหวยสอง แสนหรือไง ครั้งก่อนถูกพวกลู่หยางหลอกมาเลี้ยงข้าว หมดไปแสนห้า

อีกครั้งก็เช่ารถเฟอร์รารี่ใช้ไปอีกห้าหมื่น ตอนนี้ ตัวเขาน่าจะไม่มีเงินเหลือแม้แต่แดงเดียว!”

“คนในโรงแรมนี้ คงนึกว่าเขามีเงิน มีกำลังใช้ จ่ายก็เลยให้เกียรติเขา ถ้าหากเราไปบอกผู้จัดการล็อบบี้นายคนนี้มันก็แค่คนที่โคตรจนนี่เอง เธอว่ามันจะเป็นยัง ไง?”

หวังหยางยิ้มอย่างเยือกเย็น จ้องไปที่เฉินเกอ

“เห่อๆ นายบื้อคนนี้ ที่โรงแรมให้เกียรติเขาขนาด นี้ ก็แค่ต้องการให้เขามาเป็นลูกค้าประจำ หากทาง โรงแรมรู้ว่าไม่ใช่ คงจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่!”

หลี่เนี่ยนพูดอย่างเย็นชา

“นายมันแน่วะ ถูกหวยสองแสน ครั้งเดียวก็ใช้ หมดเลย สุดยอด!”

ตู้เหล่ยก็หัวเราะ

กลุ่มสาวสวยที่อยู่ข้างๆ มองไปที่เฉินเกอส่ายหัว ไปมาเล็กน้อย

“ไม่ได้การละ หากเราพูดช้าไป ห้องครัวเจีย หยวนอาจจะคิดว่าเราเป็นพวกเดียวกันกับเขา แล้วหา เรื่องพวกเรา ยังไงพวกเราก็อยู่ในห้อง

วีไอพีเดียวกัน!”

คำพูดของหลี่เนี่ยนกลั่นออกมาจากสมอง

“พูดได้ดี ฉันว่าพวกเราลงไปพูดตอนนี้ดีกว่า! เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิด!”

“ดี!”

หวังหยางมองเฉินเกออย่างแรง แล้วลงไปชั้น

ล่าง
ซูมู่หานตื่นเต้นมาก “ที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงมั้ย นายมาใช้จ่ายที่นี่แสนห้าจริงๆเหรอ ดังนั้นผู้จัดการเลย แถมอาหารให้นายมากมายอย่างนี้เหรอ?”

เฉินเกอได้แต่ยิ้มๆ “ไม่เป็นไร เธออิ่มหรือยัง ถ้า อิ่มแล้วเราไปเช็กบิลกัน ไม่ต้องเป็นห่วงผม!”

ซูมู่หานพยักหน้า

แล้วเดินตามเฉินเกอลงไปชั้นล่าง

ชั้นล่าง หวังหยางและเจียงเวยเวยปากของพวก เขาได้เริ่มปฏิบัติการแล้ว

“ผู้จัดการคุณรีบดูเลย นายคนนี้มันโคตรจน คุณ อย่าไปคิดว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีนะ ตอนนี้เขายากจนมา จนไม่มีเงินซื้อกางเกงด้วย

ซ้ำ!”

หวังหยางชี้ไปที่เฉินเกอ

“ก็คนนี้ไง คุณแถมอาหารเยอะแยะอย่างนี้มันเสีย เปล่านะ ถ้าหากไม่ใช่พวกเราพาเขามา เขาคงไม่มีเงิน มาแน่!” หลี่เนี่ยนพูดเสริมทัพ

“ดีที่สุดให้คนคนนี้ทำงานใช้หนี้ที่นี่ ค่าอาหาร ประมาณสองหมื่นกว่า เขาได้กินไปแล้ว น่าเสียดาย จริงๆ! คุณรู้มั้ย เขาถูกหวยสอง

แสน ครั้งเดียวก็ใช้ไปแสนห้า แล้วไปทำเรื่องอื่น อีกนิดหน่อย ตอนนี้เขาไม่มีเงินแล้ว!”

เจิ้งเชียนเชียนก็พูดอย่างเย็นชา
แต่ผู้จัดการล็อบบี้ ได้แต่ยืนสงบนิ่ง เขาไม่กล้าที่ พูดต่อจากใครทั้งนั้น

ภาพอย่างนี้ ทำให้คนที่อยู่ชั้นหนึ่งหลายคนมา ล้อมรอบล็อบบี้

มีเรื่องอะไร

“ดูเหมือนจะเป็นคนนอกคอกคนนั้น แกล้งทำเป็น รวย สุดท้ายแล้วโดนจับได้!”

“แม่ง มีเรื่องพิลึกแบบนี้ด้วยเหรอวะ!”

แต่เฉินเกอกลับไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น

เขาเดินลงมาอย่างเฉยชา

มาถึงด้านหน้าของพี่จิน

ยิ้มเจื่อนๆแล้วพูด: “พี่จิน บัญชีผมยังเหลือเงิน เท่าไหร่?”

อะไรคือบัญชี ก็คือครั้งที่แล้วเฉินเกอเลี้ยงเพื่อน แล้วมีเงินคืนเข้าบัญชีของเฉินเกอ

เพราะเงินเหล่านี้คิดเป็นรายปี ที่เหลือก็ต้องคืน

ให้เฉินเกอ

“เรียนคุณ…เฉิน ยังมีอีกสองแสน!”

“ซื้อ!” คำพูดนี้ออกมา ทุกคนในที่นี้ต่างหายใจ เข้าลึกๆ

“ดีๆๆ งั้นก็ทำให้ตัวเลขเต็มจำนวน เพิ่มเงินเข้าใน บัญชีอีกสามแสนละกัน!”
ขณะที่พูด เฉินเกอก็ได้หยิบบัตรเครดิตการ์ดออก มารูด ที่เครื่องได้แสดงตัวเลขขึ้นมา สามแสนเข้าบัญชี

แล้ว

“อะไรนะ?”

“เย้เข้!”

หวังหยางเพิ่งตากว้าง รู้สึกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ราวกับไม่ใช่ความจริง

และเจียงเวยเวยที่อกสั่นระทึก

คนอื่นๆ ต่างอ้าปากค้าง

เป็นไปได้ไง พวกเขานึกว่าเฉินเกอใช้เงินสอง แสนนั้นหมดแล้ว ไม่มีเงินเหลือแล้ว

แต่ตอนนี้ละ คนเขาอยู่ห้องครัวเจียหยวนในบัญชี มีสองแสน และขณะนี้ เพิ่งเพิ่มเงินเข้าไปอีกสามแสน!

“เฉินเกอในายๆๆถูกหวยเท่าไหร่กันแน่? เจียง เวยเวยถามออกมาด้วยความตกใจ เธอมีความรู้สึกว่า น่าจะถูกหลายล้าน.


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ