ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 31 จ้าวยีฟานเลี้ยงข้าวที่โรงเรียนสอนขับรถ



บทที่ 31 จ้าวยีฟานเลี้ยงข้าวที่โรงเรียนสอนขับรถ

ทั้งสองคนกลุ้มใจแต่สุดท้ายก็ได้เอา ออดี้ เอ6 ไปตรวจเช็คสภาพ

หวังหยางรู้สึกภูมิใจมากที่สุดก็คือรถคันนี้ แต่ เพื่อนของเฉินเกอนั้นขับเฟอร์รารี่ จึงทำให้หวังหยาง เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

ทั้งสองคนคิดคล้าย ๆ ต้องทำความรู้จักจากรอบ ด้านให้ได้โดยเร็ว ว่า เฉินเกอเป็นเพื่อนกับคนที่ไหน

หลังจากนั้น ภายในร้าน 4S

หวังหยางทั้งรอเช็คสภาพรถอยู่ที่นี่ และทั้งยังคุย กับช่างที่นี่ เพื่อต้องการเป็นที่ยอมรับนับถือจากช่าง และ ก็เพื่อเป็นการทำให้ตัวเองเกิดความภูมิใจ

ในเวลานี้ เมื่อได้ฟังคำแนะนำของช่างที่ดูแลรถ ให้หวังหยางพูด

“คุณครับ คุณเลือกออดี้รุ่นฟังก์ชันสูง ๆ ของพวก เรา ถือว่าคุณนี่ฉลาดมากเลยครับ ซึ่งไม่เหมือนกับฟัง ก์ชั่นสูง ๆ ของยี่ห้ออื่น เช่น พวกเฟอร์รารี่ ทำให้แค่คนดู มีหน้ามีตาเฉย ๆ ของเหล่ามันเป็นของเล่นของคนที่รวย จริงๆ”

“ตอนนี้ นักธุรกิจที่รวย ๆ จำนวนมาก ต่างสนใจใน ออดี้ บีเอ็มดับเบิลยู และเบนซ์กันหมดแล้ว”

“แต่ว่า หากจะเอาจริง ๆ เฟอร์รารี่อะดี พอขับแล้วดูมีหน้ามีตา”

เจียงเวยเวยที่อยู่ข้าง ๆ พูดเหน็บ ๆ ขึ้นว่า

“เฮอๆ คนสวยพูดผิดแล้ว ของบางอย่างจะดี มัน ขึ้นอยู่กับคนที่ใช้ จะไม่พูดถึงอย่างอื่น แต่จะพูดแค่รถ เฟอร์รารี่นี่แหละ รถนี้สุดยอดแล้ว อย่างน้อยก็ราคา หลายล้าน ของตกแต่งข้างในมีแต่สิ่งหรูหรา ถึงแม้จะ เทียบไม่ได้กับโรลส์-รอยซ์แฟนทอม แต่มันคือ สัญลักษณ์หรือของเล่นของคนรวย”

“หลายวันที่ผ่านมานี้ เฟอร์รารี่ในท้องตลาดมัน ทำให้คนที่รวย ๆ ดูอยากจะสัมผัส จนต้องเสนอโปร นทางการตลาด เพียงแค่คุณจ่ายเงินมัดจำจำนวนห้า หมื่น ก็จะมีพนักงานขับให้คุณนั่งชื่นชมความหรูหรา ภายในตัวรถ เงินมัดจำหนึ่งแสน คุณก็สามารถทดลอง ขับด้วยตัวเองได้”

“สรุป แบบรวย ๆ อย่างคุณหวางนี้ คงไม่โดนรถ เหล่านี้กระตุ้นทำให้เกิดความอยากหรอก แต่มักจะมีคน ที่อิจฉาจำนวนมาก ที่บ้านตนไม่ได้รวย มีแค่ธุรกิจเล็ก หรืออาจจะอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างลำบาก และเพื่อที่จะ ตอบสนองกิเลสตัวเอง จึงยอมจ่ายเงินเพื่อที่จะได้สัมผัส กับมัน

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว หวังหยางและเจียง เวยเวยก็มองหน้ากัน

ความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจ ก็เหมือนจะถูกเปิดออก “ช่างครัย คุณหมายถึง ถ้าหากจ่ายเงินห้าหมื่นหยวน ก็จะมีคนขับให้นั่ง เพื่อให้เรามีสิทธิ์ได้สัมผัสกับ ความเลิศหรูของเฟอร์รารี่ใช่ไหม”

เจียงเวยเวยถามด้วยความตกใจ

“ใช่แล้ว แต่โฆษณาแบบนี้ เป็นข่าววงในที่ได้ยิน มา ผ่านไปไม่กี่วันก็หมดแล้ว เพราะว่าใช้ไม่ได้ แถมยัง โดนตำหนิอีก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เหล่านี้ หรอก”

“อ้อ ฉันก็เข้าใจแล้ว”

เจียงเวยเวยถอนลมหายใจออกยาว ๆ

ที่จริงเฉินเกอก็แค่เพื่อสนองกิเลสตัวเอง ถึงจะ จ่ายเงินไปห้าหมื่น ก็เพื่อที่จะให้ตัวเองดูมีภูมิฐานขึ้น เจียงเวยเวยแค่คาดเดา เมื่อครูไม่ใช่ตัวเองบังเอิญเห็น เฉินเกอ แต่นั่นเป็นเฉินเกอตั้งใจจะให้ตัวเองเห็น ตาคน นี้ ทุเรศจริง

ถุ้ย

“ฮัดชิ้ว ! ”

เพิ่งจะพูดถึงเฉินเกอไม่ทันไร เมื่อเขารายงานตัว เสร็จ ก็เดินออกมาจากโรงเรียนสอนขับรถ แล้วก็จาม ด้วย

โรงเรียนสอนขับรถแห่งนี้มีการร่วมมือกันกับ โรงเรียน โรงเรียนจึงแบ่งที่ให้เช่าทำโรงเรียนสอนขับรถ

แต่เฉินเกอตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถ อีกอย่างก็ เป็นเดือนนี้ อีกไม่กี่นี่เอง
เพราะว่าต้องใช้เงินยี่สิบล้านให้หมด แต่เมื่อคิดจะซื้อรถ หากไม่มีใบขับขี่จะเป็นไปได้ อย่างไร

หากเป็นเมื่อก่อนสอบใบขับขี่ เฉินเกอแม้แต่เงิน จะสมัครสอบยังไม่มี แต่ตอนนี้มีเงินทุนแล้ว

ในใจของเฉินเกอคงจะหวังอยู่ แต่เพียงแค่…

ไม่รู้ว่าใครกำลังด่าฉัน ช่วงนี้จามอยู่บ่อย ๆ

และในตอนที่เฉินเกอกำลังจะกลับห้องไปนอน พักผ่อนนั่น

โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นมาทันที

หยางฮุยซึ่งเป็นหัวหน้าหอโทรมา

“พี่ฮุย มีไรหรอครับ”

“เฉินเกอ ตอนนี้อยู่ไหน นายรีบกลับมาเร็ว ๆ จ้าว ยีฟานเสนอว่า ให้พวกเราไปกินข้าวด้วยกัน เอาไง จะไป หรือไม่ไป เลยอยากปรึกษากับนายสักหน่อย ประเด็นคือ สวีเสียบอกว่าให้จ้าวยีฟานเรียกพวกเราไปด้วย ฉันเลย”

เมื่อเฉินเกอได้ยินดังนั้น คิดว่าตั้งแต่พี่ฮุยรู้สึก ชอบสวีเสียเป็นต้นมา ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ซึ่งไม่ เหมือนเมื่อก่อนที่เคยเด็ดเดี่ยว

จะพูดแบบนี้จะใช่จะถูก เฉินเกอเองเมื่อตอนมี ความรัก ก็อ่อนหวานอย่างกับผู้หญิง
มักจะคิดแทนหยางเสว่ ใส่ใจทุกความรู้สึกของ เธอ และหากตอนที่หยางเสว่ดีใจเขาก็ดีใจไปด้วย หยาง เสว่ไม่สบายใจเขาก็กังวลด้วย ซึ่งไม่มีเหตุผล

หรือว่าการรักใครสักคน จะเป็นอย่างนี้

“งั้น ผมไม่ไปหรอก อีกอย่างจ้าวยีฟานคงไม่

อยากเจอผม”

เฉินเกอพูด

“ไม่ได้ นี่แหละคือเหตุผลที่จะต้องมาหารือกัน เพราะว่า ครั้งนี้จ้าวยีฟานกำชับว่าต้องบอกให้นายไปกิน ข้าวมื้อนี้”

หยางฮุยพูด

“หรอ” เฉินเกอดูตกใจ

ไม่น่าเชื่อ จ้าวยีฟานหากเห็นคนที่เหมือนตัวเอง จะรู้สึกเกลียดมากไม่ใช่หรอ

แล้วทำไมยังเชิญตัวเองไปอีก

ที่จริงแล้ว ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาเฉินเกอได้ดื่มเหล้า และกินอาหารไปเยอะมาก

ไม่รู้สึกหิวแม้แต่น้อย

ที่สำคัญ วันนี้เกือบครึ่งค่อนแล้วที่อยู่กับงานเลี้ยง และก็รู้สึกเหนื่อยมาก

ไม่อยากไปจริง ๆ

วัน ๆ ไม่มีเรื่องอะไรก็จะชวนกันจัดงานเลี้ยง ตัวเองเตรียมสอบใบขับขี่แล้ว

หรือไม่ อาจจะเป็นลิขิตของสวรรค์มั้ง

ชีวิตของลูกเศรษฐี ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากงาน

เลี้ยง

และตัวเองไม่ค่อยเข้างานสังคมเท่าไร แต่งาน สังสรรค์รื่นเริงต่างรายล้อมอยู่รอบตัว

ถึงแม้จะปฏิเสธมาโดยตลอด แต่พวกหยางฮุย เห็นว่าเฉินเกอไม่ไป พวกเขาเองก็ไม่อยากจะไปเหมือน กัน

จนทำให้เฉินเกอเองรู้สึกลำบากใจ

และสุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้

จากนั้นก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพัก

ไม่นานเฉินเกอและคนอื่น ๆ ก็ลงจากหอพักมา รวมตัวกันที่ประตูโรงเรียน

“ยีฟาน ทำไมเธอเลี้ยงแบบปี๊บปับจัง พวกเราจะ ไปที่ไหนกันหรอ”

หม่าเสี่ยวหนานก็อยู่ด้วย จึงถามด้วยความแปลก

ใจ

“เฮอ ๆ ที่จริงแล้ว วันนี้ไม่ใช่ฉันเลี้ยงหรอก แต่ เป็นจวงเฉียง เพราะบ้านพวกเขาจะเปิดกิจการห้อง อาหารที่ถนนการค้าจินหลิงแล้ว วันนี้เพิ่งจะได้รับการ พิจารณาสั่งการว่าภัตตาคารหมิงหวางต่อไปนี้ ตกอยู่ใน การดูแลของบ้านจวง”
ทันใดสีหน้าของจ้าวยีฟานก็ดูผยองขึ้นมา และใน ขณะเดียวกันนั้นก็มองไปยังเฉินเกอ

ฮี !

เฉินเกอเธอเก่ง เฉินเกอเธอสุดยอด ที่สามารถ

เชิญทุกคนมาร่วมสังสรรค์ได้ในวิลล่าที่หรูหราบนเขา แบบนี้

ยอมให้จวงเฉียง แต่ก็ยังเหลือจ้าวยีฟานที่รู้สึก

ละอาย

แต่ว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไร

เฉินเกอ เธอยังคงจนหรอ

และยังจะสามารถพาพวกเราไปที่หรูหราได้อยู่

ไหม

แตกต่างกับจวงเฉียง ที่ไม่เพียงแต่บ้านจะมี โรงงาน แถมที่ถนนการค้าที่หรูหรามากของจินหลิงยังมี พื้นที่อยู่ด้วย

ซึ่งสนิทกับผู้มีอำนาจในจินหลิงอย่างหลี่เจิ้นกั่ว ต่อไปธุรกิจต้องเติบโตด้วยดีแน่

ที่จ้าวยีฟานเชิญเฉินเกอออกมา

ก็เพื่อจะดูว่าเฉินเกอ ที่รู้ว่า เขากับจวงเฉียงที่ไม่ สามารถเทียบชั้นกันติดจะมีสีหน้าอย่างไร

แต่ว่าจ้าวยฟานคงต้องผิดหวัง

เพราะว่าเฉินเกอดูไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ และก็เหมือนไม่สนใจด้วยซ้ำ

เดี๋ยวก็มีวันที่เธอพลาด คอยดูเถอะ

จ้าวฟานคิดในใจ

“นี่ยีฟาน นั่นมันเป็นร้านของจวงเฉียงที่เปิดให้ บริการ เธอเชิญพวกเรามาเยอะแยะไม่ค่อยดีมั้ง และอีก อย่างพวกเรากับเขาก็ไม่ได้สนิทกันด้วย”

ในเวลานี้ หม่าเสี่ยวหนานได้พูดขึ้นอย่างเป็น กังวล

และข้าง ๆ เป็นหลินเจียวที่กำลังเติมหน้าอยู่ และ ในเวลานี้ก็ดูมีอารมณ์เฮฮาผิดปกติ แล้วประกาศต่อทุก

คนว่า

“ฮา ๆ ไม่ดีได้อย่างไรกัน วันนี้ยีฟานเป็นคนเลี้ยง และก็มีเรื่องสำคัญจะแจ้งต่อทุกคนด้วย ทุกคนคงจำ เรื่องนั้นได้ใช่ไหมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่พวกเราอยู่ที่ตี้ หวางKTV ที่จริง ครั้งก่อนจวงเฉียงบอกกับพ่อเขาว่า เพื่อตอบแทนที่ยีฟานช่วยพวกเราแก้ไขปัญหา เรื่องนี้ เลยทำให้สาวสวยอย่างยีฟานรู้สึกประทับใจ ”

“ดังนั้นหลายวันมานี้ คุณชายจวงเลยตามจีบย ฟาน และเธอเองก็ได้ตกลงลองคบหาดูใจกับจวงเฉียง แล้ว และตอนนี้ รักครั้งแรกของยีฟานกำลังจะมาถึงแล้ว”

“ห้า”

ไม่คิดว่าเมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว คนอื่น ๆ ดูงงงั้น ตามกันไป
เฉินเกอเลยอุทานออกมาก่อนใครเลย ว่า

แม่ง โดยแย่งแล้วหรอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ