ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 248 นัดบอด



บทที่ 248 นัดบอด

“อะไรคือเงินหนึ่งแสนในบัญชี?”

เฉินเกอมึนงงไปทันที

ก็รีบเปิดประตู ก็เห็นซูถึงที่ร้อนรนจนทนไม่ไหวแล้ว

เธอไม่ต้องยุ่ง เงินนี้ฉันจะใช้

ลี่เสี้ยวพูดอย่างยากลำบาก

“อะไรคือนายจะใช้ มือนายถืออะไรไว้ล่ะ? โอ้ เช็คจำนวนเงิน เยอะขนาดนี้ นายทำอะไรน่ะ?”

ซูถึงโมโหทันที

“นี่เป็นเงินที่จะให้เงินเกอ เงินเจ็ดแสนซื้อรถราคาสองล้าน มัน

จะเป็นไปได้ไง !”

ลี่เสี้ยวกล่าว

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ กินกำไรของเฉินเกอแล้วจะทำไม? เสี้ยว นายจะไม่เอากำไรใครก็ได้ แต่ต้องเอากำไรของเขา เอามาให้ ฉันเดี๋ยวนี้!”

ซูถิงได้แย่งเช็คไปจากมือจนได้

“ฮี รถคันนี้ขายได้ราคาหนึ่งล้านแปดแสนหยวน นอกจากให้ เฉินเกอไปแล้วเจ็ดแสนหยวน เรายังต้องให้คนที่แนะนำอีกหนึ่งแสนหยวน!”

ซูถิงได้หยิบเช็คขึ้นมาดู เวลานี้ได้เห็นตัวเลขที่ชัดเจน

“หนึ่งล้านหนึ่งแสนหยวน นายหมายความว่ายังไง? ฉัน เข้าใจแล้ว เงินหนึ่งแสนหยวนนี้นายเอามันมาให้เฉินเกอนี่เอง งั้นงานนี้เราก็ขาดทุนไปหนึ่งแสนหยวนละสิ? นายบ้าไปแล้ว หรอ!”

พูดจบ รีบหยิบขวดเหล้าขึ้นมาได้ป่าไปที่เสี้ยวโดยตรง เพียงแต่ยังปาไม่โดน แต่ดันไปโดนเท้าของเฉินเกอเข้า

ลี่เสี้ยวก็ร้อนใจขึ้นมา ทั้งสองคนจะตบตีกันแล้ว

ไม่ผิด รถคันนี้ไม่ได้ขายได้ในราคาหนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่น หยวน แต่ใช้เงินซื้อสายสัมพันธ์ ขายออกไปในราคาที่ไม่เอา กำไร เพราะว่าเมื่อคืนที่เสี้ยวเห็นสีหน้าของเฉินเกอเหมือนไม่ ค่อยจะดี เป็นเพราะว่าเดือดร้อนเรื่องเงินจนทำให้ลำบากใจหรือ เปล่า

ดังนั้นจึงพยายามหาทางช่วยเฉินเกอ

ถึงแม้ลี่เสี้ยวจะเข้าเนื้อ

ก็ต้องช่วยเฉินเกอ

และการปาขวดเหล้าของซูถึงนั้น ดูก็รู้ว่ามีเจตนาที่จะทําให้ เฉินเกอดู

“เธอเอาเช็คมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันบอกแล้ว ว่าจะให้เฉินเกอหนึ่งล้านแปดแสนหยวน เอามาให้ฉัน

“ทำไมต้องให้ล่ะ ฉันไม่ให้ ที่เราติดเงินเกอ น อีกอย่าง เสี้ยว ตอนที่เรียนมัธยมต้นนั้น หากไม่ใช่นายไปแทงคนอื่นเพราะ เฉินเกอจนต้องถูกไล่ออก ฉันยังต้องมาลำบากกับพี่แบบนี้มั้ย ตอนนั้นผลการเรียนของนายเป็นที่หนึ่งในระดับชั้น!”

ซูถิงร้องไห้พูด

“เห้ย พูดอะไรของเธอ!”

ลี่เสี้ยวค่าด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ

แต่ถูกเฉินเกอมาขวางไว้ที่ตรงกลาง

ใช่ เรื่องนี้ถูกพูดออกมา หัวใจของเฉินเธอก็ปวดร้าว

ตัวเองเติบโตมาพร้มอกับเสี้ยว ฐานะทางบ้านเสี้ยวก็จน ทั้งสองที่มีพื้นฐานครอบครัวที่คล้ายกันก็ง่ายที่จะเข้าใจกันจน เป็นเพื่อนรักกัน

ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน เรียนด้วยกัน

และลี่เสี้ยวนั้น เป็นประเภทที่ผลการเรียนดีเยี่ยม แต่ก็นักเลง เหมือนกัน

ตอนที่เรียนนั้นมีเรื่องชกต่อยจนเป็นเรื่องที่ปกติ

ชกต่อยเพราะเรื่องของเฉินเกอไปไม่น้อย ทำไมความทรงจำ ด้านมืดของเฉินเกอถึงเป็นช่วงที่อยู่มัธยมปลายกลับไม่ใช่มัธยม ต้นละ?
เพราะว่าตอนเรียนม.ต้นนั้นถูกรังแกน้อยกว่า สาเหตุเพราะมี เสียวคอยปกป้อง

และตอนเรียนมัธยมต้นนั้นเป็นเกอมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง

ช่วงเวลานั้นก็ไม่ถือว่าเป็นแฟนกัน แต่ทั้งสองมักจะเขียน จดหมายถึงกันอะไรอย่างนี้

เรื่องราวหลักๆ หลังจากนั้นผู้หญิงคนนี้ถูกนักเรียนหัวโจกคน หนึ่งชอบพอ รู้ว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฉินเกอ เลิกเรียนก็พา คนไปซ้อมเฉินเกอ

ลี่เสี้ยวที่ไปพร้อมกับเฉินเกอ วันนั้นเฉินเกอโดนซ้อม ก็เลย ช่วยเฉินเกอต่อสู้กับคนพวกนั้น

ขณะที่ใจร้อน ลี่เสี้ยวได้ใช้มีดแทงหัวโจกคนนั้น

โชคดีที่ไม่มีคนเสียชีวิต

แต่เพราะสาเหตุนี้ทำให้เสี้ยวถูกไล่ออกจากโรงเรียน หลังจากนั้นเฉินเกอก็โดนซ้อมไปหลายครั้ง

และหญิงสาวคนนั้น จากนั้นก็คบกับหัวโจกคนนั้น

เฉินเกอตอนที่เรียนมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยนั้นก็กลัวผู้ หญิง เห็นผู้หญิงก็จะเขินอาย อันที่จริงเรื่องแบบนี้ก็มีผลมาจาก เรื่องราวในอดีต

เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น เฉินเกอก็ได้จดจำบุญคุณของเสี้ยวอยู่ใน

ใจ
และเสี้ยวหลังจากถูกไล่ออก ก็เริ่มเร่ร่อนอยู่ข้างนอก บ้าน ไม่กลับ บวกกับเงินเกอออกไปเรียนหนังสือนอกเมืองแล้ว ลี่ เสี้ยวเปลี่ยนเบอร์โทรหลายครั้ง บางครั้งที่เฉินเกออยากที่จะ ติดต่อเขาแต่ก็ติดต่อไม่ได้

สามารถพูดแบบนี้ได้ อนาคตที่ดีของเสี้ยวที่ถูกทำลาย ส่วน หนึ่งมันเกี่ยวข้องกับตัวเอง โดยตรง!

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ซูถึงมองตัวเองอย่างขัดหูขัดตา

ซูถิงเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง ครอบครัวของเธอเปิดซูเปอร์ มาร์เก็ตที่ใหญ่ในเมืองนี้ ฐานะดี แต่ว่าไม่เคยรังเกียจเสี้ยว คบ ลี่เสี้ยวตั้งแต่มัธยมปีที่หนึ่งจนถึงตอนนี้

ความประทับใจของเฉินเกอที่มีต่อซูถิงนั้นถือว่าดีมาก เพราะฉะนั้นไม่ว่า ถึงจะต่อว่าตัวเองยังไง จะทำไม่ดีต่อตัวเอง ยังไง ใจเฉินเกอไม่รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย

ที่สำคัญเสี้ยวก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากทีเดียว เฉินเกอ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

หลังจากมีห้ามปรามทั้งสองแล้ว

ซูถึงก็ยังไปยกอาหารเช้ามาให้ กินไปคุยไป ได้คุยกับเสี้ยวถึงเรื่องราวในอดีตหลายๆอย่าง

เฉินเกอนั้น ก็ได้เล่าเรื่องราวความจริงที่เกี่ยวกับรถเบนซ์จิ๊บ ให้ลี่เสี้ยวฟัง
แต่เรื่องสถานะตอนนี้ของตัวเองนั้น เฉินเกอยังลังเลเล็กน้อย

เพียงแต่กลัวว่าหากบอกความจริงกับเสี้ยวแล้วนั้น มันอาจ จะกะทันหันเกินไป ทำให้สายสัมพันธ์ที่แท้จริงของเพื่อนรักได้ หายไป

มันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไง เฉินเกือกลับมาครั้งนี้ ต้อง ช่วยเสียวอย่างเต็มกำลัง เรื่องนี้ไม่มีปัญหา

“เอาอย่างนี้นะเฉินเกอ เงินนี้ให้ฉันรับมันไว้ ยังไงฉันก็ไม่ สบายใจ เมียคนนี้ของฉันยังไงก็เป็นของตาย ตอนนี้นายอะไรก็ ยังไม่ลงตัว แฟนที่นายคุยด้วยที่อยู่เมืองจินหลิง ต่อไปจะ แต่งงานกับนายนั้นหรือไม่มันก็อีกเรื่องหนึ่ง เงิน นายเอายอด ใหญ่ ฉันเอายอดน้อย!”

เดี๋ยวก็ยังอยากจะเงินนี้ให้เฉินเกอ

แต่เฉินเกอนั้น พูดยังไงก็ไม่เอาเด็ดขาด ยังขู่อีกว่าหากเสี้ยว ยืนกรานจะให้เขาจะไปทันที

ลี่เสี้ยวถึงได้หยุดตื้อ

“ฮี อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย มีเงินก้อนนี้แล้ว พี่ก็จ พี่ก็จะสามารถ ขยายกิจการใหญ่ขึ้น ก็ถือเสียว่าเฉินเกอตอบแทนพี่ละกัน!”

ตอนนี้สีหน้าของซูถึงปรากฏด้วยความดีใจเล็กน้อย

แต่กระนั้นใบหน้าของเสี้ยวก็ยังไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอก็ เลยกล่อมลี่เสี้ยวต่อ: “ใช่แล้วพี่เสี้ยว มีเพื่อนร่วมงานของฉันเมื่อ ก่อนคนหนึ่ง สองสามวันก่อนเธอยังโทรมาหาฉันอยู่เลย เขาบอกว่าเพื่อนรักของเขาคนหนึ่งรีบร้อนที่อยากแต่งงาน อายุรุ่นราว คราวเดียวกับพวกเราเลย จะให้ฉันแนะนำให้เขา พี่ไปคุยกับ เฉินเกอดู ให้พวกเขานัดบอดกันสักครั้ง หากทั้งสองถูกใจ ต้องตากัน เฉินเกอก็จะได้มีครอบครัว แบบนี้ก็ถือว่าพี่ได้ช่วยเฉิน เกอครั้งใหญ่!”

ลี่เสี้ยวตบขาตัวเองแล้วยิ้ม: “ก็ดีนะเนี่ย เฉินเกอ นายก็ไปดูตัว สักครั้งน้อ คนนี้เขารีบร้อนที่จะแต่งงาน ของเพียงถูกใจทั้งสอง ฝ่าย ปีนี้นายก็แต่งงานได้แล้ว ไม่เหมือนผู้หญิงที่นายคุยด้วยใน เมือง พวกนั้นหัวสูงมาก สายตาทางบ้านยิ่งสูงกว่า มันน่าจะเป็น ไปได้!”

ลี่เสี้ยวพูดอย่างเป็นห่วง

เฉินเกอปฏิเสธด้วยการส่ายหัว แล้วก็บอกว่าไม่ต้องแล้ว

“อะไรคือไม่ต้อง นายไปดูตัวก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่ให้นายไป แต่งงานสักหน่อย นายรู้สึกว่าใช่ก็ค่อยคุยต่อ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่คุย แบบนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะเสียหาย ก็เหมือนกับคบเพื่อนไง!

ลี่เสี้ยวคิดแทนเขาอย่างจริงจัง

ก็เพราะสาเหตุนี้ ทำให้เฉินเกอไม่อาจที่จะปฏิเสธเพื่อนรักได้

ก็ไม่สามารถที่จะบอกกับเสี้ยว ว่านายไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ ฉันเป็นมหาเศรษฐีแล้ว?

งั้นเฉินเกอไปตายดีกว่า!

ก็พยักหน้าอย่างยิ้มๆ: “ได้!”
ก็เจอกันก่อนก็ได้ เหมือนกับที่สี่เสี้ยวบอก ก็แค่เป็นการไปรู้จัก เพื่อนใหม่

“ฮ่าๆ งั้นก็ดี ฉันไปจัดการตอนนี้เลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นคน อำเภอผิงอันนี่แหละ งั้นเที่ยงนี้เรานัดทานข้าวกัน!

ซูถึงก็ค่อนข้างที่จะดีใจ

กินอาหารเช้าเสร็จซูถิงก็ให้เฉินเกอกลับไปเปลี่ยนชุดที่ดูดี เฉินเกอก็ได้กลับไป

เพิ่งจะออกไปไม่นาน หลี่เฉินกั๋วก็ได้โทรศัพท์เข้ามา……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ