ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 49 ซูมู่หานเกิดเรื่องแล้ว



บทที่ 49 ซูมู่หานเกิดเรื่องแล้ว

หลังจากที่เฉินเกอวางสาย ก็ไม่ได้กลับหอพัก แล้วตรงไปที่สนามปฏิบัติสองทันที

แน่นอนจ้า ในมือเฉินเกอยังถือเสื้อผ้าใหม่ที่จะ

มอบมู่หานให้ด้วย

แพจเกจจิ้งสวยประณีตมาก

เฉินเกอคิดไว้ว่าจะหาข้ออ้างที่เหมาะสมแล้วมอบ

ให้กับซูมู่หาน

หากพูดตรงๆว่าชอบคนอื่นแล้วให้ของขวัญคน อื่น ถ้าเป็นหยางเสว่เจิ้งเชียนเชียนก็จะง่ายหน่อย

แต่นี่คือซูมู่หาน เฉินเกอคิดๆแล้วเลยไม่ทำแบบ

นั้น

ดีไม่ดีอาจจะทำเสียเรื่อง

อีกอย่าง เฉินเกอก็อยากจะเห็นเพื่อนที่ซูมู่หานจะ แนะนำให้ตัวเองรู้จักว่าจะเป็นยังไง?

เพียงแต่ตอนที่เฉินเกอมาถึงที่สนาม

ได้เห็นภาพตรงหน้า ทำให้เฉินเกอตกตะลึง ซูมู่หานอยู่ที่นี่จริงๆ ในขณะนั้นเขานั่งอยู่หน้าเวที ยาวด้านนอกสนาม โดยหันหลังให้เฉินเกอ

ทำให้เฉินเกออึ้งไปชั่วขณะ ข้างกายซูมู่หาน มีชายหนุ่มนั่งอยู่ด้วยหนึ่งคน

สองแขนของซูมู่หาน จับอยู่ที่แขนของชายหนุ่ม

ยังใกล้ชิด

ทั้งสองพิงอยู่ด้วยกัน พูดคุยหัวเราะ

“บูม!”

เฉินเกอรู้สึกว่าสมองของตัวเองถูกสายฟ้าฟาด อย่างดัง

รู้สึกเกร็งมาก รู้สึกว่ามันกะทันหันเกินไป

ใจทั้งดวงเกือบจะสั่นไหว!

“ซูมู่หานเธอมีแฟนแล้ว?”

เฉินเกอใจเย็นวาบ

ไม่ง่ายเลยที่เขาจะรวบรวมความกล้า เพื่อที่จะจีบ ผู้หญิงที่ตัวเองชอบ และเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี

ระหว่างทางที่มา เฉินเกอยังจินตนาการภาพที่ตัว เองกำลังมอบของขวัญให้เธอ ซูมู่หานจะเซอร์ไพรส์

ไหม หรือเธอจะสังเกตเห็น

ความรู้สึกของเขาแล้วจะปฏิเสธตัวเขา?

หากตัวเองถูกปฏิเสธจริงๆ ควรทำอย่างไร? แต่เฉินเกอรู้สึกว่าร้อยละแปดสิบซูมู่หานจะรับ ของขวัญไว้

แต่สิ่งที่เฉินเกอคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน ก็คือได้ เห็นภาพแบบนี้
“ไฮ! เฉินเกอ พวกเราอยู่นี่!”

ขณะที่หัวสมองของเฉินเกอกำลังว่างเปล่า ซูมู่ หานได้โบกมือทักทายเฉินเกอ

“เฉินเกอ นายมาถึงแล้วทำไมไม่เรียกพวกเรา อึ้ง อยู่ตรงนั้นทำไมกัน?”

หลังจากที่เฉินเกอเดินไป ซูมู่หานยังคงจับมือ ชายหนุ่มคนนั้นไว้ แล้วยิ้มให้เฉินเกอ

“ไม่.ไม่มีไร!” หน้าของเฉินอึดอัดมาก มองผู้ชายที่อยู่ข้างกายซูมู่หาน อายุรุ่นราวคราว เดียวกัน การแต่งกายหล่อสดใสมีพลัง

และผิวขาวมากด้วย

ยืนด้วยกันกับชายหนุ่มคนนี้ เฉินเกอยังรู้สึกดูถูก ตัวเองเล็กน้อย เนื่องจากการแต่งกายของตัวเองเฉิ่ม มาก

คิดไปคิดมา ผู้หญิงสวยอย่างซูมู่หาน ทำไมถึงจะ

ไม่มีผู้ชายมาจีบ

“ฉันมาแนะนำให้นายรู้จักหน่อย คนนี้คือน้อง ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ฉัน ซูฉี คนนี้ก็คือเฉินเกอคนที่ฉันบอก นายไง!”

ซูมู่หานดึงมือของซูฉีลงมาจากเวที

เฉินเกออึ้งอีกแล้ว

แม่งเอ๊ย ที่แท้คือน้องชายของซูมู่หานเหรอ?
ความรู้สึกเฉินเกอตอนนี้ ราวกับว่าได้เกิดใหม่อีก

ครั้ง

“อ้อๆ นายก็คือเฉินเกอคนที่พี่สาวเราพูดถึง ได้ยินว่านายดวงดีมาก ถูกหวยด้วย!”

เพียงแต่ว่า ยังไงก็ปิดความรู้สึกดูแคลนในสายตา ของเขาไม่ได้

นายคิดดู

มาหาพี่สาวเพื่อมาปรึกษาหารือ สุดท้ายพี่สาว บอกว่าจะแนะนำเพื่อนที่นิสัยดีให้รู้จัก

ฟังจากที่พี่สาวพูดคนคนนี้เป็นคนดีมาก

อีกทั้งยังถูกหวยด้วย

ในใจคิดว่ายังไงก็น่าจะมีเงินหน่อย รู้จักไว้ก็ไม่ เสียหาย

แต่กลับไม่คิดว่า แค่เห็นการแต่งตัวของเฉินเกอก็ เพียงพอแล้ว

แม่งเอ๊ย คนพรรค์นี้มาจากบ้านนอกปะเนี่ย?

ไม่เหมือนคนมีเงินเลยสักนิด

ซูฉีผิดหวังอย่างแรง

“ฉันชื่อเฉินเกอ!”

เฉินเกอพยักหน้า แล้วยื่นมือไปเพื่อที่จะจับมือกับ

ซูฉี

“พอแล้วพี่ เพื่อนพี่ผมก็เห็นแล้ว ผมขอตัวกลับมหาวิทยาลัยก่อน เดือนหน้าเป็นวันเกิดคุณย่า เรื่องของ ขวัญก็ตามที่คุยกันเมื่อกี้นะ ผมไปละ!”

ซูฉีไม่สนใจเฉินเกอเลย หลังจากนั้นสองมือล้วง เข้ากระเป๋ากางเกง บอกลาซูมู่หานอย่างเซ็งๆแล้วก็จาก ไป

เขามาวันนี้เพื่อคุยกับพี่สาวเรื่องของขวัญวันเกิด ของคุณย่าในเดือนหน้าเป็นหลัก

“ซูฉี ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย!”

มองน้องชายที่มีความสัมพันธ์ดีที่สุดกับตัวเธอ ตั้งแต่เด็ก ที่ไร้มารยาทกับเฉินเกอ ซูมู่หานทำได้เพียง โกรธเล็กน้อย

“เฉินเกอ ขอโทษด้วยนะ สำหรับพฤติกรรมของ น้องชายฉัน เดี๋ยวกลับไปจัดการเขาแน่นอน!”

ซูมู่หานพูดอย่างจริงใจ

เฉินเกอดึงมือกลับอย่างเคืองๆ: “ไม่เป็นไร!”

พูดตามจริง ถึงแม้จะถูกซูฉีมองข้าม แต่ในใจเฉิน เกอแค่รู้สึกโกรธเล็กน้อย ถึงกับมองข้ามมันและให้อภัย

ได้

ทำไมเหรอ

เพราะเมื่อกี้เฉินเกอนึกว่าซูฉีเป็นแฟนของซูม่ หาน ก็รู้สึกอ้างว้างเดียวดาย ทันทีที่รู้ว่าไม่ใช่

อารมณ์ที่แปรปรวนขนาดนี้ ทำให้เฉินเกอเกือบ ปรับอารมณ์ไม่ทัน
“ใช่แล้วเฉินเกอ!”

ดวงตาที่สวยงามซูมู่หานค่อยมองมา มีคำถามที่

น่าสนุกถามเฉินเกอ: “เมื่อกี้ ฉันเห็นสีหน้านายดูแย่มาก เลย เป็นไรเหรอ?” ถึงแม้เมื่อกี้ที่ซูมู่หานจะแนะนำซูฉือย่างเปิดเผย

แต่สายตาเธอ กลับสังเกตอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่าง

รวดเร็วของเฉินเกอ

“ไม่มีไร ก็เมื่อกี้ฉันนึกว่าแฟนของเธอมาที่นี่!” พูด แล้วยิ้มเจื่อนๆ

“ปัดโธ่ อะไรนะ นายคิดว่าเขาเป็นแฟนของฉันเห รอ! ฮ่าๆ!”

ซูมู่หานหัวเราะขึ้นมา

“จะเป็นไปได้ไง แท้จริงแล้ว ฉันยังไม่เคยมีความ รักเลย อาจจะเป็นเพราะมาตรฐานของฉันค่อนข้างที่สู งมั้ง!”

ซูมู่หานนั่งลงที่บนเวที

คำพูดเหล่านี้ทำให้เฉินเกอเกิดความสนใจ

“มาตรฐานของเธอเป็นมีอะไรบ้าง?”

เฉินเกอได้ที่ถาม

“คนที่จะมาเป็นแฟนฉันเหรอ ข้อแรก ต้องมีสง่า ราศี เขาจะมีเงินก็ได้ ไม่ค่อยมีเงินก็ได้ แต่สง่าราศีคือ ต้องมี ข้อสอง หน้าตาต้องไม่แย่มาก ข้อที่สาม จิตใจ ต้องเป็นคนดี ต้องซื่อสัตย์ต่อคนรัก ข้อสี่.
“แล้วข้อสี่ละ?”

เฉินเกอรู้สึกหัวหนักใจมาทันที

แค่สามข้อนี้ ตัวเองมีแค่หนึ่งข้อครึ่ง

หน้าตาไม่ได้แย่มาก อีกข้อก็คือ เฉินเกอรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนจิตใจดี

หากพูดถึงสง่าราศี

พูดตามจริง เฉินเกอรู้สึกตัวเองเป็นคนนอกคอ

กมากๆ

ทั้งๆที่ตัวเองเป็นทายาทมหาเศรษฐีรุ่นที่สอง แต่

กลับไม่มีสง่าราศีของเศรษฐีเสียเลย

จุดนี้ มันเจ็บมาก!

ดูท่าต่อจากนี้ตัวเองจะสมถะแบบนี้ต่อไปไม่ได้

แล้ว

เฉินเกอคิดอยู่ในใจเงียบๆ

ในเวลาเดียวกัน ของขวัญที่เฉินเกอตั้งใจจะให้ เธอนั้น คิดแล้วเลยยังไม่ให้

มาตรฐานเหล่านั้นของซูมู่หานฟังดูแล้วชิลๆ แท้จริงก็คือความต้องการภายในใจของเธอนั่นเอง

ตัวเองยังทำไม่ได้ทั้งหมด หากจีบตอนนี้ ดูท่าจะ

ยาก

ค่อยๆเริ่มจากการเป็นเพื่อนไปก่อน จะรีบร้อนไป ทำไม?
ดังนั้นต่อจากนั้นเวลาที่มาฝึกขับรถหลายวันมานี้ เฉินเกอไม่ได้มีความรู้สึกว่าตอนที่อยู่กับซูมู่หานแล้ว อยากให้เธอมาเป็นแฟนเขา

คบกันในฐานะเพื่อนจริงๆ

ทั้งสองเข้ากันได้ดี ซูมู่หานเริ่มคุยทุกเรื่องกับเฉิน

เกอ

ทำให้เฉินเกอสงสัย วันนั้นที่ซูมู่หานพูดเรื่อง มาตรฐาน เจาะจงพูดให้ตัวเขาฟังหรือเปล่า เพื่อให้เขา ไม่ต้องมาจีบเธอ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันก็ดีออก!

อันนี้ถือเป็นการปฏิเสธตัวเขาใช่ไหม?

จนกระทั่งวันนี้ ทั้งสองร่วมสอบปฏิบัติข้อสอง ได้ เกิดเรื่องขึ้น…

เดิมที่ทั้งสองได้นัดกันไว้ว่าหากสอบเสร็จจะกลับ มหาลัยด้วยกัน

แต่ว่า หลังจากที่เฉินเกอสอบเสร็จรอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นซูมู่หาน

เฉินเกอโทรศัพท์ไป ซูมู่หานกลับปิดเครื่อง!

มีโอกาสสอบคนละสองครั้ง ถึงแม้ซูมู่หานต้อง สอบครั้งที่สอง นานขนาดนี้ก็น่าจะออกมาได้แล้ว

เวลานี้ พอดีเห็นผู้ชายที่อยู่กลุ่มเดียวกับซูมู่หาน เดินออกมาท่าทางที่สลดใจ

รีบเข้าไปถามทันที
“หา! นายหมายถึงสาวสวยคนนั้นเหรอ เธอไม่ได้ เข้าสอบ เหมือนกับว่าก่อนสอบ เธอรับสายแล้วรีบร้อน ออกไป!

ผู้หญิงสวยอย่างซูมู่หาน ไม่ว่าไปถึงไหนก็ดึงดูด ให้คนจำได้

ถูกผู้ชายคนนี้มอง เฉินเกอก็ไม่รู้สึกว่ามันแปลก อะไร

เพียงแต่ว่า กำลังคิด ซูมู่หานเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน แน่? ไม่บอกไม่กล่าวก็รีบร้อนจากไป ยังปิดเครื่องอีก?

คงไม่เกิดเรื่องใช่มั้ย?

เฉินเกอที่คิดไปคิดมา ตัดสินใจโทรถามเจียง

เวยเวย

“เห่อๆ เฉินเกอ ทำไมนายถึงเป็นห่วงมู่หาน? นาย คิดว่าแค่นายถูกหวยก็จะสามารถจีบมู่หานงั้นเหรอ? จะ บอกนายให้นะ คิดก็ไม่ต้องคิด เป็นหมาวัดริอ่านจะเด็ด ดอกฟ้า!”

เห็นได้ชัด เจียงเวยเวยยังคงแค้นใจเรื่องราวที่ เกิดขึ้นในห้องครัวเจียหยวนที่เขาไม่ไหวหน้าเธอ

โทรศัพท์สายเดียว เต็มไปด้วยคำพูดที่พ่นใส่เฉิน

เกอ

เธอรู้ใช่ไหมว่าเขาไปไหน เธอบอกฉัน วันหลัง ฉันจะตอบแทนเธอ ฉันจะส่งเสื้อเธอหนึ่งตัว!”

พูดอย่างเฉยชา เสื้อที่หลินยียีให้เขา ยังไม่กล้ามอบให้ซูมู่หาน ตอนนี้ เอาให้เจียงเวยเวยก่อน

สาเหตุเพราะซูมูหานไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เฉิน เกอเป็นห่วงว่าเธอจะเกิดเรื่อง..

ไม่ได้เป็นเพราะต้องการจีบเธอ ขอให้เป็นเพื่อน ของเฉินเกอ เขาก็จะเป็นห่วงแบบนี้เหมือนกัน

“นายพูดจริงเหรอ? นายมีปัญญาซื้อเสื้อแบรนด์ ใหญ่เหรอ เสื้อผ้านร้านนี้มันตัวละหลายหมื่นนะ เจียง เวยเวยพูดอย่างเซอร์ไพรส์

“อ็มๆ เดี๋ยวเอาไปให้เธอ!”

“ดีเลย เห็นแก่นายที่รู้จักตอบแทนบุญคุณฉัน ฉัน ก็จะบอกนาย เห้ย.. ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อกี้ บ้านของมู่หานเกิด เรื่องแล้ว ธุรกิจของ

ตระกูลล้มเหลว เหมือนจะล้มละลาย ทางบ้าน ต้องการให้เธอกลับไป!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ