ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 247 เงินหนึ่งแสนในบัญชี



บทที่ 247 เงินหนึ่งแสนในบัญชี

ต้องรู้ว่า รถคันนี้เป็นสมบัติชิ้นใหญ่ที่เฉินเกอมี ตอนนี้กลับจะมอบมันให้เพื่อน

เฉินเกอ นายโอ้อวดอะไรหรอ!

เดิมทีเจียงหวานหรานที่มีความรู้สึกดีๆต่อเฉินเกอได้เปลี่ยน ไปทันที ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะโมโหจนขึ้นสมอง

ทำเหมือนกับว่ารถคันนี้ไม่ใช่ของคนอื่น แต่เป็นของตัวเอง

อย่างนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ในบางช่วงบางอารมณ์ เจียงหรานหรา

นมองว่าเฉินเกอเป็นแฟนของเขา

เพียงแต่ตอนนี้…..เฮ้ย ไม่อยากจะพูดแล้ว!

“เฉินเกอ แบบนี้จะได้ยังไง นี่มันเป็นรถใหม่ของนาย จะมาให้ ฉันได้ยังไง เอาอย่างนี้ละกัน ตอนนี้ในมือฉันมีแค่เจ็ดแสนหยวน นายซื้อรถคันนี้มาในราคาสองล้าน ฉันซื้อในราคาหนึ่งล้านแปด แสนหยวน เพียงแต่ต้องรอให้ขายได้ก่อน เงินที่เหลือฉันถึงจะให้ นายได้!”

“งั้นก็เจ็ดแสนละกัน!”

เฉินเกอยิ้มเจื่อนๆ เขารู้ว่า หากตัวเองยกให้เลี้ยวอย่างนี้ เขา จะไม่มีวันรับอย่างแน่นอน
แต่เรื่องมีหลายปีก่อน ไม่ใช่แค่รถเบนซ์จี้ยของเฉินเกอก็จะ ชดเชยได้

“เสี้ยวนายไม่ต้องสนใจแล้ว เรื่องบางเรื่องเอาไว้วันหลังค่อย อธิบายให้นาย ก็ขายที่เจ็ดแสน เรามันทำสัญญากันเลย!”

เฉินเกอตบไหล่ของเสี้ยว

และลี่เสี้ยวนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาคิดไว้ว่า รอให้ขายได้ แล้ว ค่อยเอาเงินที่เหลือให้เฉินเกอ

จะทำสัญญาหรือไม่ทำก็ไม่สำคัญ

ก็นั่นแหละ ขณะที่เจียงหรานหรานตกตะลึง สายตาของหลิน ตงกลับเต็มไปด้วยความสุข เฉินเกอเซ็นสัญญาเรียบร้อย

ก็ได้ขายรถออกไป

ตามสัญญา เฉินเกอจะช่วยบริจาคให้เจียงเวียงห้าแสน

ก็ยังเหลืออีกสองแสนหยวน

“หลินตงหรานหราน พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นเซลล์ขาย บ้าน โครงการของเธอวันนี้เพิ่งเปิดจองเอง ตอนนี้เธอยังไม่เลิก งานเลย เฉินเกอจะซื้อบ้าน เดี๋ยวฉันจะโทรหาเธอ ไปซื้อที่ โครงการพี่สาวฉันเถอะ เพียงแต่เงินสองแสนนั้น ก็คงจะพอแค่ เงินดาวน์น่ะ!”

พวกที่มากับหลินตงและเจียงหรานหราน ยังมีเพื่อนผู้หญิงสอง คนของเจียงหวานหวาน หญิงสาวสองคนนี้
หนึ่งในนั้นได้กล่าวขึ้นอย่างยิ้มแย้ม

“โอเค!”

เจียงหวานหวานพยักหน้าเล็กน้อย

หากเป็นแบบนี้ เฉินเกอก็จะหมดตัวกลายเป็นไอ้โคตรจน เหมือนเดิม นอกจากมีบ้านหนึ่งหลัง อะไรก็ไม่มีอีกแล้ว มันก็ เท่ากับว่าความน่าสนใจก็จะหายไปทั้งหมด ก็เป็นแบบนี้แหละ

และเฉินเกอนั้น ตกลงที่ขายรถออกไป แล้วก็เอาเงินบริจาคให้ กับเจียงเว่ยตง ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่ช่วยคุณพ่อชดใช้หนี้เท่านั้น เอง

หากเป็นตัวเขาเอง เขาไม่ได้บ้าจนต้องไปสนใจคนอย่างเจียง

เว่ยตง

เพียงแต่ได้ยินเพื่อนรักของเจียงหรานหรานพูดถึงทำเลที่พี่สาว

ขายบ้านอยู่นั้น

ทําเลไม่เลวทีเดียว

เฉินเกอนั้น พอดีมีแพลนอยากจะซื้อบ้านที่อำเภอผิงอัน เพื่อ ให้เป็นที่พักของผู้บริหารระดับสูง

แพลนเดิมที่วางไว้คือจะซื้อทั้งตึกเพื่อเป็นหอพักพนักงาน แต่ ตอนนี้ ตัวเองไปดูบ้านก่อนแล้วจองไว้หนึ่งหลัง ก็ไม่น่าจะมี ปัญหาอะไร

จากนั้นก็ได้บอกลาลี่เสี้ยว ก็ตามพวกเขาออกไป
ซื้อบ้านก็เป็นที่เรื่องง่าย

เลือกบ้านเสร็จ ชำระเงินดาวน์เรียบร้อย เซนต์สัญญาแล้วก็รอ ธนาคารอนุมัติสินเชื่อ

“ไอ้หยาน้องรัก ยังมีหลินตงผู้หล่อเหลา ต้องขอบคุณพวกเธอ จริงๆ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเธออยากเพิ่งไป พี่จะเลี้ยงข้าว พวกเธอทั้งสี่คน ฮ่าๆ วันนี้พี่สาวเลี้ยงพวกเธอเอง!”

พี่สาวของหญิงสาวคนนั้นตอนนี้พูดอย่างอารมณ์ดีกับหลินตง เจียงหวานหวานพวกเธอสี่คน

สำหรับเฉินเกอนั้น ก็ถือสัญญาซื้อขายบ้านยืนอยู่ด้านข้าง พูด ตามหลักการแล้วเขาคือลูกค้า และเป็นตัวเขาที่จ่ายเงิน ถึงแม้จะ เลี้ยงข้าวก็ต้องเรียกเขาด้วยมั้ย?

แต่เซลล์คนนี้กับไม่เห็นเขาเองอยู่ในสายตา

เห่อๆ ก็ต้องมองไม่เห็น แค่ดูเฉินเกอนั้น ก็เหมือนกับคนที่ ไม่มีวิสัยทัศน์ เซลล์จึงไม่อยากจะไปประจบสอพลอเขา ขายบ้าน ให้แล้ว ใครอยากจะรู้จักนายอีก?

“อย่างนี้ไม่ดีนะ วันนี้ยังไงก็แล้วแต่จะไม่ให้พี่เลี้ยงข้าวเด็ดขาด ทุกคนคิดดูสิ วันนี้หมายความว่าไง ในเมื่อเป็นเกอซื้อบ้าน มื้อดึก ของพวกเรา ก็ต้องให้เฉินเกอเลี้ยงสิ!”

หลินตงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ใช่ไง เฉินเกอพวกเรามากับนาย
ตั้งแต่หนึ่งทุ่มกว่าถึงตอนนี้ก็จะห้าทุ่มแล้ว ก็ได้ช่วยนายชื่อ บ้านเรียบร้อยแล้ว จะบอกนายให้นะ หากไม่ใช่คนสนิทกัน นาย ไม่มีทางได้ราคานี้ ฝันยังไม่ได้เลยนาย!!

ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างดูแคลน

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว มื้อดึกคืนนี้กินอะไรฉันจ่ายเงินก็พองบ ประมาณหนึ่งหมื่นหยวน!”

เวลานี้หลินตงหัวเราะพูด

อ่า? ทำไมเฉินเกอเลี้ยงแล้วนายจะช่วยเขาออกเงินละพี่ตง?”

ทุกคนคงจะยังไม่รู้ ฉันติดหนี้เฉินเกอหนึ่งหมื่นหยวน อย่างนี้ก็ เท่ากับว่าฉันช่วยเขาออก ก็ถือว่าเราเข้ากัน

หลินตงคิดในใจ เงินหนึ่งแสนหยวนนี้อย่าคิดจะได้เอาคืนไป

จากกูเลย! เซลล์ก็อารมณ์ดี

เต็มใจที่จะเอาไปกินเลี้ยง ก็ไม่คืนให้นายหรอก

“งั้นก็ดี พวกเราไปกันเถอะ พี่เลิกงานเดี๋ยวนี้แหละ!

เวลานี้ โทรศัพท์ของเจียงหรานหรานก็ดังขึ้น

เป็นเจียงเวียดงที่โทรมา

“เรื่องมันยังไงกัน? ให้เขาบริจาคอย่างน้อยแปดแสนหยวน ไม่ใช่หรอ พ่อยังต้องให้งานเขาทำมั้ย? ทำไมแค่ห้าแสนล่ะ?”
“พ่อคะ รถของเขาขายได้แค่เจ็ดแสนหยวนเอง ขายให้เพื่อน เขาคนหนึ่ง!”

“ไอ้คนโง่ ห้าแสนหยวนนี้ ก็แค่ให้รางวัลเขาแค่รางวัลเดียว สําหรับเรื่องงานนั้น เอาไว้วันหลังค่อยว่ากันใหม่ !

เจียงเวียงพูดอย่างเย็นชา ก็เลยวางสายไปทันที

“เฉินเกอ พ่อฉันบอกว่า……………

เจียงหวานหรานตอนนี้มองดูเฉินเกออย่างไม่รู้สึกไม่ค่อยดี บอกเขาว่าเรื่องงานต้องรอไปก่อน

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย: “ฉันรู้แล้ว เรื่องงานไม่ต้องช่วยฉันหาแล้ว สําหรับมื้อดึกนี้ พวกเธอไปกินเถอะ ฉันก็ไม่ไปแล้ว!

พูดจบ ล้วงเอกสารกู้เงินของหลินตงโยนออกไป เฉินเกอก็จาก

ไปโดยตรง

เฉินเกอเดินออกมา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หลังจากที่ถูกพวกเขาเยาะเย้ยแล้ว เฉิน เกอไม่ได้รู้สึกโกรธเหมือนเมื่อก่อน

อย่างไรเสียพวกเขา ก็ไม่ใช่คนโลกเดียวกันกับตัวเอง

สำหรับตระกูลเจียง ตัวเองได้ออกทุนช่วยเหลือ ทำให้ตระกูล เจียงพ้นจากวิกฤติ จากนั้นก็บริจาคเงิน สามารถพูดได้ว่า หนี้ที่ คุณพ่อติดค้างอยู่น่าจะชดใช้หมดแล้ว

หนี้พ่อลูก ใช้ อย่างนี้ก็ถือว่าเจ้ากันทั้งสองฝ่าย
สําหรับตระกูลเจียงต่อไปนี้ไม่ว่ายังไง ตัวเองก็จะไม่ไปสนใจ แล้ว

ยังจะให้ไปกินข้าวกับพวกเจียงหวานหวานอย่างนั้นหรอ

คืนนั้น เฉินเกอก็กลับโรงแรมนอน จนกระทั่งเจ็ดโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น

โทรศัพท์ตัวเองก็ได้ดังขึ้นมา

มองดูแล้วเป็นเสี้ยวที่โทรมา

“เฉินเกอ ตื่นหรือยัง? หากไม่มีธุระที่ไหนมาที่ร้านหน่อย ฉัน ให้อาซ้อนายทำอาหารเช้าแล้ว ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย รถขาย ไปแล้ว นายมาก่อนละกัน!

ลี่เสี้ยวพูดผ่านโทรศัพท์

เมื่อคืน ลี่เสี้ยวรู้ว่าเฉินเกอรีบร้อนที่จะใช้เงินนั้น ก็อาศัยสาย สัมพันธ์ของตัวเองที่พึ่งพาได้ต่างติดต่อให้หมด พยายามจะหา คนมาซื้อรถของเฉินเกอ

เฉินเกอนั้น ก็คิดถึงเสี้ยวอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าวันนี้เดี๋ยวจะ ไม่โทรหาตัวเอง เฉินเกอก็จะไปหาเสี้ยวอยู่แล้ว

ถึงขั้นว่าก่อนหน้าที่จะกลับอำเภอผิงอัน เฉินเกอก็คิดถึงเขา

แล้ว

ขณะนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว ก็ออกไปยังเต็นท์รถของเสี้ยว

โดยตรง
“เฉินเกอ ช่าง โชคดีเสียจริง เมื่อวานมีเพื่อนคนหนึ่งช่วยติดต่อ ผู้ซื้อไว้แล้ว ฮ่าๆ ฉันช่วยนายขายได้หนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่น หยวน อย่างนี้ตามที่เราตกลงกันไว้ ฉันจะต้องให้นายอีกหนึ่งล้าน หนึ่งแสนหยวน ฉันได้กำไลห้าหมื่นหยวน อาศัยนายแล้ว!”

หลังจากที่มาถึงเต็นท์รถนั้น เสี้ยวดึงตัวเฉินเกอเข้าไปในห้อง แถมยังล็อกกลอนประตูอีกด้วย พูดกับเฉินเกออย่างลับๆล่อๆ

พูดจบก็เอาเช็คให้กับเฉินเกอ

เฉินเกอไม่รับอย่างแน่นอน

อีกอย่าง เสี้ยวได้กำไรหรือไม่ยังไม่รู้เลย

ขณะที่ทั้งสองกำลังผลักกันไปมานั้น

“ลี่เสี้ยว นายเปิดประตูเดี๋ยวนี้ แม่งเอ๊ย นายบอกฉันมา เงิน หนึ่งแสนในบัญชีของฉันหายไปไหนแล้ว?

ซูถึงวิ่งออกมาจากห้องครัว ทุบประตูไปตะโกนด่าเลี้ยวไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ