ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 796 ค่ายกล



บทที่ 796 ค่ายกล

หลินจิ่ว อก

จู่ๆหัวใจก็เต้นระรัวทันที

ติดตามมองดูต่อไป ก็เห็นมังกรเขียวจู่โจมตามไป

ทันใดนั้นที่ที่เฉินเกอยืนอยู่บนอากาศได้มีแสงโค้งสีทองลอย ขึ้นมา ก็ได้ครอบเฉินเกอไว้ด้านใน

มังกรเขียวสัมผัสแสงโค้งสีทองนี้ ดูเหมือนว่าจะถูกกระทบ กระเทือนอย่างแรง ร่างของมังกรเกือบจะสั่นสะเทือน

“โอ้สวรรค์ คุณผู้ชาย ใช้วิชาอะไรกันแน่?

เสี้ยวซางเชิงจ้องเขม็ง พูดออกมาอย่างแปลกใจ

และเฉินเตี่ยนซาง ก็แปลกใจเหมือนกัน

พลังของค่ายกลสองมังกร เขาเข้าใจมากกว่าใครๆ

ทว่าแสงสีทองรูปร่างโค้งที่ครอบร่างกายของเฉินเกอไว้? นี่มัน เรื่องอะไรกัน?

นี่มันไม่น่าจะใช่เครื่องราง เพราะว่าค่ายกลสองมังกร ไม่มี

เครื่องรางชนิดไหนที่จะต้านทานได้

และก็ไม่ใช่พลังภายในธรรมดา พลังภายในของคนต่อให้ แข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานพลังของค่ายกลได้

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?

เงินเตียนซางมองมังกรเขียวของตัวเอง โดนกระแทกจนเกือบ

กระจาย

ในใจร้อนรุ่ม

จากนั้น เขาก็เห็นร่างกายของเฉินเกอ ได้ค่อยๆลอยขึ้นมาก ลางอากาศ

ทันใดนั้นเงินเตี้ยนชางก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ขณะนั้นอดไม่ ได้ที่จะตะโกนด้วยความประหลาดใจ

“ที่แท้ เฉินเกอได้ฝึกฝนเคล็ดวิชามากมายมาตั้งนานแล้ว มิน่า ล่ะ วรยุทธ์ของเขาถึงได้แปลกประหลาดมากนัก?”

ในขณะที่เฉินเตี้ยนชางตกใจ ดวงตาเย็นเฉียบ สองมือก

ออกแรงอย่างกะทันหัน

ก็ได้นำมังกรเขียวอีกตัวออกมาทั้งหมด

มังกรสองตัวลุยพร้อมกัน และบนร่างของมังกรเขียว เสมือนมี สายฟ้าอยู่

มันได้กระแทกเข้ากับเกราะคุ้มกายที่ครอบเงินเกอเอาไว้อย่าง

รุนแรง

“เฉินเตี้ยนชาง แก ใช้เงินเปลืองแบบนี้ สุดท้ายแล้ว ยังไม่ได้ ต่อสู้กับฉันโดยตรง เงินของแกก็จะหมดจนทำให้แกตาย………แกอยากบอกฉันนะ ทั้งๆ ที่แกรู้ว่าไม่อาจจะสู้ฉันได้ เลยนัดฉันมาที่นี่ เพื่อจะฆ่าฉันด้วยวิธีการเหล่านี้?”

ทุกครั้งที่มังกรเขียวจู่โจมเกราะคุ้มกายของเฉินเกอ เกราะคุ้ม

กายนี้ก็จะขยายในหนึ่งเท่า และเฉินเกอ ยังคงเอามือไขว้ไว้ด้านหลัง มองเฉินเตี้ยนชางอ ย่างสายหัวเบาๆ

บนแขนของเฉินเดียนชาง เอ็นสีเขียวนูนขึ้น ใบหน้าของเขา อืดมาก

“เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้ยังไง!

เฉินเตียนซางขณะที่ใช้พลังทั้งหมดของร่างกาย เพื่อจะ กระแทกเกราะคุ้มกายของเฉินเกอให้แตก แต่กลับพบว่า สิ่งที่ทำ ไปทั้งหมดนั้นไม่เกิดประโยชน์เลย

พลังวิชาของเฉินเกอเก่งกาจเพียงนี้เชียว? เมื่อวานต่อสู้กัน เขายังเป็นแค่หลุนหวางชั้นสาม? วันนี้ ดูยังไงก็รู้สึกว่า พลังวิชา ของเขาอยู่เหนือชั้นสาม และเหนือกว่าตัวเองมากด้วย

ช่างน่ากลัวมาก เทพจิตเก้าภพ ช่างน่ากลัวจริงๆ

“โวง!”

เฉินเตี้ยนชางยิ่งไม่อยากเชื่อ ก็ยิ่งทุ่มพลังทั้งหมด คิดไม่ถึง สุดท้าย เสียงบู๊มก็ดังขึ้น

มังกรตัวใหญ่ทั้งสองของค่ายกลสองมังกร สุดท้ายขณะที่พุ่งโจมตีเกราะคุ้มกายอย่างรุนแรงนั้น ๆเกิดเสียงระเบิดขึ้น สุดท้าย ก็เห็นมังกรเขียวสองตัว เสมือนก้อนหินกระจกแตกละเอียด พริบตาเดียวแตกละเอียด

แตกกระจายเหมือนเซรามิก

และเฉินชาง ในปากกระอักด้วยเลือด ได้ตกลงมาจาก กลางอากาศ

หา?

เฉิน

เกอ

เพราะเขาพบว่า ต่อให้เขาพลังทั้งหมด ก็สามารถเกราะป้องกันของเฉินเกอได้

เป็นไปไม่ได้เป็นไปไม่

สายตาของเฉินเตี้ยนชาง เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ และด้านล่างเวที คนกำลังชมอยู่ ต่างว่าคือแน่

เพราะเมื่อบนสยบมังกร จู่ก็แสงแสบตาแสงที่ส่อง

เพียงแต่ตอนลืมตาขึ้นนั้น กลับพบว่า ราชาหนานยาใน ตำนาน เฉินเตี้ยนชาง ได้อะไรเนี่ย?
ผู้ฝึกตนตระกูลเฉินก็อยู่ด้านล่างหอสยบมังกรเช่นกัน ในนั้น มี คนที่ท่าทางเหมือนคุณชายคนหนึ่ง เดิมทีเขามองทุกสิ่งที่อยู่ตรง หน้าด้วยสายตาเย้ยหยัน คาดไม่ถึง ผลสรุปจะเป็นแบบนี้

หรือว่าแม้กระทั่งคุณ ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรเฉินเกอ?

และเสี้ยวซางเชิงกับหลินจิ๋วทั้งสองคน ไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่ ยิ่งใหญ่แบบนี้มาก่อน ได้ถูกภาพที่ยอดเยี่ยมนี้ ทำให้ตกอยู่ใน ภวังค์

“เฉินเกอ วิชาแปลกประหลาดเหล่านี้ของแก นอกเสียจากว่า ได้มาจากของร่างหลินเซียว? มิน่าล่ะ ฉันพลิกหาทั้งสุสานโบราณ ก็ไม่เห็นซากวิชาการต่อสู้เหล่านั้น

เฉินเตียนชางแปลกใจ

เวลาเดียวกัน เขาที่ใบหน้าซีดเซียว ค่อยๆลุกยืนขึ้นมาใหม่ สายตาคู่นั้นจ้องมองถามเงินเกอ

“แกไม่พูดถึงเรื่องนี้ฉันเกือบจะลืมไปแล้วจริงๆ ตอนนั้นฉันเคย เอ่ยเรื่องสุสานโบราณกับแกมาก่อน เพียงแต่มีจุดหนึ่งที่ฉันยังไม่ ได้บอกแก นั่นก็คือศิลปะการต่อสู้ของพี่หลินเซียว ไม่ได้อยู่ใน หลุมฝังศพของเขาเลย แต่มันอยู่บนหยกชิ้นหนึ่ง โชคดีมาก ที่ ฉันไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแก!”

เฉินเกอกล่าว

เงินเตี้ยนชางพยักหน้าเข้าใจอย่างฉับพลัน “ดี มีความหมาย ช่างมีความหมายเสียจริง!
เงินเตี้ยนชางไม่โกรธกลับหัวเราะ แต่ไม่นาน เฉินเตี้ยนชางได้ เปลี่ยนคำพูดทันที จากนั้นจึงพูดขึ้น เพียงแต่น่าเสียดายน่า เสียดาย….”

เฉินเตี้ยนชางจ้องมองเฉินเกอแล้วส่ายหัวเบาๆ

“น่าเสียดายอะไร?”

เฉินเกอถาม

เฉินเตี้ยนชางกล่าว “น่าเสียดายที่แกมีพรสวรรค์ที่คนอื่นไม่มี แม้ว่าจะฝึกฝนกี่ชั่วอายุคนก็ตาม น่าเสียดายที่แกเป็นอัจฉริยะที่ ยอดเยี่ยม แต่ว่า แกเป็นศัตรูกับฉันเฉินเตี้ยนซาง ดังนั้น วันนี้แก ยากที่จะเอาชีวิตรอดได้ !!

“ถึงขั้นที่ว่าตอนนี้ฉันนึกขึ้นมา ยังรู้สึกปวดใจไม่น้อย หากใน ร่างกายแกไม่ได้ซ่อนเทพจิตเก้าภพเอาไว้ แต่เป็นหลานชาย จริงๆของฉัน มันจะดีแค่ไหน เราหลานร่วมแรง สามารถครอง อาณาจักรทั้งสาม!”

เฉินเตี้ยนชางหัวเราะขมขื่นแล้วส่ายหัว

“ทว่า ทั้งหมดนี้มันก็สายไปแล้ว เฉินเกอ วันนี้ฉันจะจัดการแก ให้ได้ ไม่อย่างนั้นความว่องไวที่น่ากลัวของแก วันข้างหน้า โลก นี้คงไม่ผู้ใดสามารถที่จะกำราบแกได้!”

พูดจบ ก็เห็นตรงตำแหน่งหน้าอกของเฉินเตี้ยนชาง ทันใดนั้น ก็บุปผาผีสีดำโผล่ออกมาจากข้างใน บุปผาผีดอกของมันเท่ากับ ฝ่ามือผู้ใหญ่ แต่ว่าด้านบน กลับดูเหมือนว่าจะมีพลังงานพิเศษ
บุปผาผีค่อยๆลอยขึ้นมา ทันใดนั้นก็เปล่งแสงออกมาได้ ครอบเนินเตี้ยนชางเอาไว้

โคร่ง!

เสียงนี้ดังขึ้น ด้านล่างหอสยบมังกร

คนส่วนใหญ่ ต่างรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนเล็กน้อยของพื้นดิน

หือ? เกิดอะไรขึ้น?

“แผ่นดินไหวเหรอ?”

ผู้คนต่างประหลาดใจ

“แล้วนี่มันคือค่ายกลอะไรอีก

?”

มองดูการเปลี่ยนแปลงโดยรอบ เฉินเกออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“ยืมบุญบรามีของประเทศ ใช้ค่ายกลโบราณ ค่ายกลที่ โบราณหลงเหลือไว้ ค่ายกลเม่ยหลง!”

สิ้นเสียงพูด เฉินเตี่ยนซางนำพลังวิชาของตัวเอง ฝากไว้บน บุปผาผีทั้งหมด แล้วใช้เงินที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดกระตุ้น ให้ บุปผาผีเบ่งบาน

บุปผาผีนี้ เป็นดอกไม้ชั้นยอดที่เฉินเตี้ยนชางใช้เวลามานาน นับสิบปีถึงได้ฝึกมาสำเร็จ

เป็นเครื่องรางที่ไม่ธรรมดาชิ้นหนึ่ง

ยืมใช้พลังของมัน สามารถเพิ่มจิตสำนึกวิญญาณให้แข็งแกร่งขึ้น ใช้เปิดค่ายกล

หากพูดอย่างจริงจัง มันเลยขอบเขตของเครื่องรางนานแล้ว

เพราะว่า ขั้นตอนที่จะเอาเครื่องรางนี้ใส่เข้าไปในร่างกายคน เป็นอะไรที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใจได้ นั่นก็คือ การฝังบุปผา ผีชั้นยอดนี้เข้าไปในหัวใจ

อาศัยเครื่องรางบุปผาผีมาขับเคลื่อน

และเครื่องรางบุปผาผีชั้นยอดนี้ อาจจะเป็นรากเหง้าของเฉิน เตียนชาง

วันนี้เฉินเตี้ยนชางเพื่อที่จะต่อกรกับเฉินเกอ ได้เอาชีวิตที่มีค่า มาเสี่ยงจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ