ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 34 แผนของไป๋เสี่ยวเฟย



บทที่ 34 แผนของไป๋เสี่ยวเฟย

“คือคุณชายเฉิน ตายแล้ว ! ”

บรรดาเหล่าคุณชาย คุณหนูที่นั่งอยู่กับโต๊ะต่าง มองออกว่านั่นคือคุณชายเฉิน

ทันใดเลยตื่นเต้นจนแทบไม่รู้จะทำอย่างไรดี

“ห้า คุณชายเฉินอะไร พี่เฟย นี่มันขอทาน หรือ ว่าเป็น…ของพี่หรอ”

“เปี๊ยะ”

ชายชุดขาวก็คือไป่เสี่ยวเฟย เมื่อได้ยินว่าเขา เรียกคุณชายเฉินว่าขอทาน เลยตบไปที่ปากของเขา หนึ่งที่

“แม่ง เรียกใครว่าขอทาน แกไม่อยากอยู่ถึงวัน พรุ่งนี้แล้วหรอ”

ไอ้หนุ่มคนนั้นกุมที่หน้าตัวเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็น ดูน่าสงสารขึ้นทันใด

“คุณชายเฉินมาแล้ว พี่เฟย พวกเราเข้าไป ทักทายด้วยกันไหม”

บรรดาคุณชายทั้งหลายพูดขึ้นอย่างร้อนรน เฉินเกอ เป็นหนึ่งในเจ้าของถนนธุรกิจสายนี้ ตระกูลมีอำนาจมากและยากจะจินตนาการได้ หากใครได้รู้จัก ก็จะถือว่าโชคดีมาก เพราะทั้งชีวิตคงจะไม่มีทางลำบากแน่

อีกอย่างเฉินเกอเป็นผู้มีอำนาจเหนือบริษัทของ พ่อของไป๋เสี่ยวเฟยด้วย

สุดยอดมาก

“รอสักครู่ เหมือนจะมีอะไรผิดพลาดไป”

ไปเสี่ยวเฟยยังคงมีสติ จากนั้นเขาเลยมองไปยัง ฝั่งนั้นอย่างละเอียด

เห็นเฉินเกอยืนอยู่นิ่ง ๆ คนเดียว และยังโดนผู้ หญิงที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ หัวเราะเยาะ ดูถูก

ทันใดก็เข้าใจ

เพราะว่าเมื่อวานที่ส่งคุณชายเฉินกลับโรงเรียน ไปเสี่ยวเฟยก็เข้าใจแล้วสภาพของคุณชายเฉินแล้ว

สถานะของคุณชายเฉินในตอนนี้ยังไม่มีใครรู้

เพราะเมื่อหลังจากที่ รู้ คุณชายเฉินคงไม่สามารถ ที่จะทำตัวสบาย ๆ ได้ อีกอย่างในมหาวิทยาลัยจะเข้า หรือออกต้องมีบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยให้แน่

อีกอย่าง คุณชายเฉินคงไม่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย แบบนี้ที่จินหลิงหรอก

ถ้าหากตัวเองพาคนไปทำความรู้จักกับเขา แล้ว สถานะของถูกเปิดเผยออกมา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่มันคงเป็นผลักเขาเข้าสู่ เขตไม่สงบ
และคงจะเป็นความวุ่นวายที่จะนำมาให้แก่คุณ ชายเฉินก็ได้

เมื่อถึงเวลานั้น คงเป็นตัวฉันเองที่จะลำบาก

พ่อของไปเสี่ยวเฟยเป็นคนประจบเอาใจคนเป็น และไปเสี่ยวเฟยเองไม่ได้น้อยหน้าพ่อของเขาเลย

“พี่เฟยเป็นไรไปหรอ แม่ง ตอนนี้คุณชายเฉินพ บกับการดูถูก และนี่เป็นโอกาสที่ดีของเราเลยนะ คุณ ชายเฉินเป็นคนอ่อนน้อมถอมตัว เมื่อพบการเหยียด หยามแบบนี้ แต่ว่าพวกเราไม่ควรจะปล่อยให้ผ่านไป แบบนี้ใช่ไหม”

ลูกเศรษฐีคนหนึ่งรีบพูดขึ้น

“แน่นอนว่าไม่ได้ แต่พวกเธอต้องจำไว้ว่า อย่าให้ ใครรู้จักสถานะที่แท้จริงของคุณชายเฉินเด็ดขาด จาก นั้น พวกเธอคอยฟังคำสั่งฉันก็พอ”

ไปเสี่ยวเฟยในใจก็มีแผนคอยรับมืออยู่แล้ว จึงได้ บอกเหตุผลกับทุกคนไป

พวกเขาเองก็เพิ่งจะเข้าใจ หากเมื่อครู่ไม่ยั้งที่จะ เข้าไปทำความรู้จักกับคุณชายเฉินแล้วล่ะก็ คงจะเสี่ยง

น่าดู

และเฉินเกอเขาเองก็อยากจะกลับแล้ว เหมือนโดนคนอื่นมองแบบนั้น คงจะหัวร้อนไม่

เบา

เมื่อกำลังจะหันหลังเดินไป
“สหายหยุดก่อน”

ไปเสี่ยวเฟยและคนอื่น ๆ พลันลุกขึ้น

และทุก ๆ คนก็หันมามองยังไป่เสี่ยวเฟย

“สหาย หากไม่รังเกียจงั้นก็มาดื่มเหล้าด้วยกัน สักแก้วไหม”

“ใช่แล้วสหาย มาดื่มเหล้าสักแก้วก่อน ตรงนี้ยัง เหลือที่นั่ง”

เหล่าบรรดาคุณหนูที่นั่งกับไป๋เสี่ยวเฟยต่างก็ยืน ขึ้น

และหนึ่งคนในนั้นที่หัวก็เริ่มมีเหงื่อไหลออกมา

“หรอ เกิดอะไรขึ้นหรอ”

“คุณชายไป๋แห่งยี่เป่าเก๋อ ทำไมถึงกล้าเชิญ ขอทานนี้”

“อีกอย่างโต๊ะนั้น ต่างก็เป็นบรรดาเหล่าตัวแทน ของธุรกิจใหญ่ ๆ และแนวหน้าที่อยู่ในถนนการค้าจิน หลิง สำคัญ ๆ ทั้งนั้นเลย”

“อีกอย่างพวกเธอดูสิ คุณชายคุณหนูของ ครอบครัวไป๋ครอบครัวหลินต่างก็อยู่ที่นั่น นี่นี่นี่”

และทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ซึ่งครอบครัวไป่และครอบครัวหลิน และครอบครัว หนิงที่เคยเป็นเจ้าของภัตตาคารหมิงหวาง โดยเริ่มต้น จากธุรกิจที่ถนนการค้าจินหลิง จากนั้นก็เริ่มมีฐานะขึ้นแล้วก็กลายเป็นกิจการใหญ่โต

มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลี่เจิ้นกั่ว

และลูกชายลูกสาว ก็ดูเหมือนจะมีสถานะสำคัญ

เป็นพิเศษ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาหรอก ในเวลานี้หยางเสว่

กับลู่หยางและจ้าวยีฟานต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน

บรรดาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่โต๊ะนั้น แต่ละคนพวกเขาก็ รู้จัก เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงมา แต่ไม่เคยได้ทำความ รู้จักกัน

จึงรู้สึกแปลกใจมาก ที่พวกเขานั้นเชื้อเชิญเฉินเก อด้วยเหตุใด

และเฉินเกอเองก็แปลกใจ ที่แท้เป็นไป๋เสี่ยวเฟ ยกับหลินยียีพวกเขามาแล้ว

เขาเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไร

แต่เมื่อได้ยินคำเชิญ

เฉินเกอเลยคิดในใจว่า หากจะโดนทุกคนมอง แบบนี้ต่อไป คงต้องโดนดูถูกและเหยียดหยามไป มากกว่านี้แน่ และน่าจะคิดว่าตัวเองนั้นมาขอข้าวกินเป็น แน่

ไม่สู้ไปนั่งกับพวก ๆ ไป่เสี่ยวเฟยดีกว่า อย่างน้อย ก็สามารถปิดปากพวกนั้นได้ จากนั้นเขาเลย พยักหน้ารับ “ดีเหมือนกัน”
เมื่อพูดจบ เฉินเกอก็ได้เดินตรงไปยังเหน้าวที่ท่า มกลางสายตาทุกคู่ที่กำลังจดจ้องอยู่ จากนั้นก็ได้นั่งลง ยังที่ว่างระหว่างไป่เสี่ยวเฟยกับหลิว ยียี

“หน้าไม่อาย”

“ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”

“เขาช่างกล้านั่งมาก เขาเป็นใครหรอ”

“และอีกอย่าง แถมได้นั่งชิดกับหญิงสวยงาม อย่างหลินยียอีก”

ซึ่งมีเหล่าบรรดาลูกคุณหนูทั้งต่างก็รู้สึกอิจฉา

จ้าวยีฟานกับลู่หยางและหยางเสว่ต่างก็มองไป ยังจวงเฉียงด้วยอาการตะลึง แล้วถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น

และรู้สึกโกรธที่เฉินเกอนั่งอยู่กับพวกเขาที่นั่น เพราะพวกเธอเองได้ที่นั่งที่อยู่ด้านล่าง และเฉินเกอนั้น ได้นั่งอยู่ส่วนหน้าของพิธี

“เขาบอกให้นายนั่งก็จะนั่งหรอ ไม่คิดจะส่อง กระจกดูตัวเองหน่อยหรอ”

จวงเฉียงเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก วันนี้เป็นวันของ

ใคร

ทันใดเขาเลยเดินเข้าไปหาไป่เสี่ยวเฟยแล้วพูด ขึ้น”คุณชายไป๋ คุณหมายความว่าอย่างไร ที่ตรงนี้ คน คนนี้นั่งได้หรอ”

“แล้วนั่งไม่ได้หรอ ถ้าหากสหายคนนี้นั่งตรงนี้ไม่ ได้งั้นพวกเราทั้งหมดนี้จะกลับ”
ไปเสี่ยวเฟยพูดเสียงเข้ม แล้วก็ยืนขึ้น

รวมทั้งข้างล่างของเวที ก็ยืนขึ้นตามไปเสี่ยวเฟย ไม่ว่าจะเป็นบอสหรือประธาน หากไป๋เสี่ยวเฟยกลับ พวก เขาเหล่านั้นก็กลับ

“นี่…

ทันใดจวงเฉียงก็มีสีหน้าที่ดูจืด ๆ ไป

วันนี้คือพิธีเปิดกิจการใหญ่ ครอบครัวไป๋และ ครอบครัวหลิน ซึ่งเขาเองคงไม่กล้าจะขัดใจอะไร

เพียงแต่แค่สงสัย ที่แต่ไหนแต่ไรมาที่ดูหยิ่งยโส อย่างไปเสี่ยวเฟย แล้วทำไมจึงมีความเกรงใจกับเฉิน

เกอ

“นั่งได้ ในเมื่อคุณชายไป๋พูดแล้ว ก็ย่อมนั่งได้”

จวงเฉียงจ้องดูเฉินเกอตาเขมง จากนั้นเมื่อเห็นว่า ทำอะไรไม่ได้จึงกลับไปนั่งยังที่เดิม

“คุณชายจวง เกิดอะไรขึ้น คุณชายไป๋ทำไมถึง ได้เชิญไอ้เฉินเกอนั่นนั่งด้วยล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันว่านะ เจตนาก็เพื่อจะเป็น ปรปักษ์กับบ้านจวงแน่ ตอนแรกภัตตาคารหมิงหวางแห่ง นี้ เกือบจะโดนครอบครัวไป่เอาไปได้ แต่เพราะพ่อฉันใช้ ความสามารถไปเยอะมากจึงได้มา จากนั้นสงสัยไป๋เสี่ยว เฟยคงจะรู้สึกไม่พอใจ แต่ว่า วันนี้เป็นวันของบ้านเรา เปิดกิจการ ไม่เชิญก็คงไม่ได้ เพราะอย่างน้อยครอบครัว ไปก็อยู่ที่จินหลิงเหมือนกัน อย่างอีกก็เป็นบ้านที่มีอำนาจด้วย

“เป็นแบบนี้นี่เอง”

ทุกคนต่างก็เพิ่งจะเข้าใจ

จ้าวยีฟานถอนหายใจเบา ๆ และหยางเสว่ก็เริ่มดู สงบลง

หากถ้าเฉินเกอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายไป๋ แล้วล่ะก็ คงทำให้ใจของหยางเสว่ไม่เป็นสุขแน่

เพราะคนที่ลู่หยางไม่มีสิทธิ์ได้รู้จัก แล้วทำไมเฉิน เกอได้รู้จักล่ะ

อีกฝั่งอย่างเฉินเกอเองก็ไม่อยากที่จะใส่ใจว่า หยางเสว่และคนอื่น ๆ จะคิดยังไงแล้ว

เมื่อหลังจากที่ได้นั่งลง ก็เริ่มมองไปยังสาวๆ แก้มแดง ๆ ด้วยความสนใจ

โดยเฉพาะหลินยียี

“คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้”

เฉินเกอพูดขึ้นด้วยอารมณ์ขัน

“ใช่ค่ะคุณชายเฉิน นี่อาจจะเป็นเพราะวาสนาที่ โบราณเล่าลือกันมา”

สาว ๆ ทั้งหลายหน้ามุ่ยแล้วมองที่เฉินเกอ น่ารัก

มาก

ใจของหลินยียีเองรู้สึกสับสน แต่พอคิดถึงช่วง บ่ายของวันนี้ ที่พ่อได้กำชับกับตัวเองเป็นหนักหนา
ว่าต้องควรจะเลียนแบบพวกเขา จากนั้นเลยพยัก หน้าให้เฉินเกอ

“คุณชายเฉิน คุณกับไอ้จวงเฉียงนั้นคงความ สัมพันธ์ที่ไม่ดีใช่ไหม”

ขณะเดียวกัน ไป๋เสี่ยวเฟยก็หรี่ตามองไปยังจวง เฉียง แล้วจึงถามขึ้น

ถึงแม้นจะมองออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจวง เฉียงกับคุณชายเฉินนั้นไม่ดี แต่เขาก็ยังต้องรอฟังจาก ปากของเฉินเกอเอง

“ไม่ดี”

เฉินเกอพูดตามความจริง

“งั้นก็ดีแล้ว คุณชายเฉิน วันนี้พวกเรามีแผนที่จะ ทำให้จวงเฉียงนั้นขายหน้า คือการทำลายชื่อเสียงของ บ้านเขา แต่กลัวคุณอาเจิ้นกั๋ว เลยไม่กล้าทำอะไร ถ้า หากคุณสนับสนุนเรา วันนี้จะทำให้ชื่อเสียงของจวงเฉียง นั้นพังทลายให้ดู เหอะ ๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ