ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่572 หินสุ่ย



บทที่572 หินสุ่ย

ขณะที่เฉินเกอกำลังดูเขายังอธิบายเนื้อหาบางอย่างกับ ท่านซินแสกุ่ย

“คุณชายเฉิน คุณก็สงสัยว่าเจ้าเรือลำใหญ่มหึมาที่เหมือน กับสัตว์ที่ใหญ่มหึมานี้ เป็นสิ่งอุปกรณ์อะไรที่อยู่เหนือขอบเขต ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรึเปล่า? สี่สิบปีก่อน ท่าน อาจารย์ ก็ได้ดูคร่าว ๆ เขารู้สึกว่าเจ้าเรือลำใหญ่นี้ มันดูแล้วช่าง น่าเหลือเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้

ท่านซินแสกุย กล่าวขึ้น

“อืม มันไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก ผมก็เคยเห็นมันมา

ก่อน มักจะรู้สึกว่าเรือยักษ์นี่ช่างแปลกประหลาด เหมือนเป็นลาง

บอกว่าหลายหมื่นปีก่อน บนโลกของเรามีอารยธรรมอีกรูปแบบ

หนึ่งดำรงอยู่ แถมยังมีเรื่องของมังกรยักษ์ที่รับบาดเจ็บสาหัส

ตกลงไปในทะเลอีก!”

เฉินเกอพูดขึ้น

“จากที่คุณชายกล่าวดูเหมือนจะเชื่อในสิ่งเหล่านี้กว่าเก้าสิบ เปอร์เซ็นต์ หลายปีมานี้ ผมกับท่านอาจารย์ สงสัยกันว่าทั้งเรื่อง มังกรยักษ์ เรือลำใหญ่ อีกทั้งเรื่องการตกลงจากฟ้านั้น เป็นไปได้ ว่าจะเป็นเพียงความเชื่อหรือแนวคิดจากคนในสมัยโบราณ แต่ ตอนนี้ ท่านผู้อาวุโส ก็เชื่อไปกว่าเจ็ดสิบหรือแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แล้วว่า ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอารยธรรมในช่วงเวลาหนึ่ง ตำนานโบราณกาลบางส่วนนั้นมันไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เล่าต่อกันมา

เขาพูดขึ้น

ท่านซินแสกุย มองไปที่ภาพจิตรกรรมเหล่านี้ทีละภาพ

“เป็นเพราะผมกล้ายืนยัน ในตอนแรกสิ่งที่ชายชรามอบให้ ทุกคน ในตอนที่ดำลงไปในทะเลนั้น มันน่าจะเป็น หินสุ่ย ! ดัง นั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปตามตรรกะอีกครั้ง!

ท่านซินแสกุ่ย ชี้ภาพไปที่ภาพภาพหนึ่ง

ที่ภาพนั้น เป็นภาพบรรยายขอทานเฒ่ากำลังแจกจ่าย สิ่งของบางอย่างให้ทุกคน

“หินปี้สุ่ย?”

เฉินเกอถามด้วยความสงสัย

“อืม ท่านอาจารย์ เคยบอกกับผม หินสุ่ย เป็นสิ่งของวิเศษ ที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน สรรพคุณของ มันก็เหมือนกับชื่อของมันคือสามารถกันน้ำได้ เมื่ออมไว้ในปาก มันสามารถทนต่อความกดอากาศใต้ท้องทะเลลึกได้ คนธรรมดา ทั่วไปนั้นจะทนต่อแรงกดอากาศภายใต้ท้องทะเลได้อย่างไร!

ท่านซินแสกุ่ย กล่าวขึ้น

เฉินเกอ ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง

ใช่แล้ว เมื่อศึกษาแผนที่ของ วังราชาสมุทร ที่นำมาจากตระ กูลหมิง เมื่อวานนี้เฉินเกอได้ค้นพบว่าที่ตั้งของวังราชาสมุทร อยู่ก้นทะเลลึก

ในขณะเดียวกันก็คิด ถึงแม้ว่าตนเองจะอยู่ในขั้นปรมาจารย์ แล้ว ร่างกายจะได้รับการทดสอบมาแล้วมากมาย แรงกดอากาศ ใต้ทะเลลึกก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ตัวเองได้

แต่ว่าอย่างน้อยมันก็ทำให้ร่างกายของเขาไม่ค่อย กระปรี้กระเปร่า

เหตุผลที่ตระกูลเฉินยังไม่มา ในตอนนี้ก็คือเงินเกอขอให้ พวกเขาเพิ่มขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์เพื่อไปทะเลเพื่อหลีกเลี่ยง ความดัน

เพื่อเพิ่มความสามารถให้คนในตระกูลเฉิน

วังราชาสมุทร ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ อาศัยเพียงกำลังของเขามัน

ไม่เพียงพอ

หากในตอนนี้มีหินสุ่ย นี้ เรื่องคงจะง่ายขึ้นมาก

“อาจารย์ จะหาหินสุ่ย ได้จากที่ไหนครับ?”

เฉินเกออดไม่ได้ที่จะถาม

“หินปี้สุ่ย เป็นขอวิเศษชนิดหนึ่ง หากคุณเฉินต้องการเกรงว่า จะต้องลองถามตระกูลหมิง ร้อยปีก่อน บรรพบุรุษของตระกูลห มิง มีคนเคยใช้หินสุ่ย เพื่อดำลงไปใต้ทะเลลึกเพื่อไปหาสมบัติ ล้ำค่า หินสุ่ย อยู่ที่ไหน ผมคิดว่า ตระกูลหมิง น่าจะรู้!

ท่านซินแสกุ่ย กล่าวขึ้น
ถ้าอย่างนั้นก็ง่าย ทุกอย่างของตระกูลหมิง ก็เท่ากับเป็น สิ่งของของตัวเขาเองแล้ว

“ขอบคุณมากนะครับ รอผมจัดการเรื่อง วังราชาสมุทร เสร็จ แล้วจะกลับมาเยี่ยมเยียนอีก

เงินเกอประสารมือเข้าด้วยกันเพื่อทําความเคารพ ท่าน ซินแสกุย แล้วรีบจากไป

เมื่อมองไปที่การจากไปของเฉินเกอ ท่านซินแสกุ่ย ก็มีสีหน้า ที่เปลี่ยนไปพร้อมกับสิ่งที่อยู่ในใจ

“สี่สิบปีก่อน ท่านอาจารย์ได้ทิ้งมรดกเองไว้ ฉันได้อุทิศตน ศึกษาด้วยความยากลำบาก คิดไม่ถึงเลยว่า หรือว่าสิ่งที่ท่าน อาจารย์คำนวณไว้จะเป็นจริง อีกไม่นาน โลกของเราจะประสบ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หายนะของมวลมนุษย์กำลังจะมา ถึง จนถึงวันนั้น จะมีชายหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นมาต่อสู้กับทุกเภทภัย ทั้งหมด ดูแล้วว่าคนผู้นั้นก็คงจะเป็นคุณชายเฉินนั่นเอง!

ท่านซินแสกุ่ย สับสนในใจ

คน ตระกูลหมิง เป็นพวกเจ้าเล่ห์เพทุบาย

ในตอนที่เฉินเกือคว้าคอของท่าน ตระกูลหมิง และอยู่ใน ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น เขาก็ได้พูดความจริงว่าแท้จริงแล้วตระ กูลหมิง รู้ว่า หินสุ่ย อยู่ที่ไหน

มันถูกฝังไว้ในเหมืองบรรพบุรุษของ มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่มี ค่ามากกว่าแผนที่ วังราชาสมุทร เสียอีก
แน่นอนล่ะ ตอนนี้ที่อย่างอยู่ในมือเฉินเกอแล้ว

“ไอ้แก่ รอให้ฉันได้ หินสุ่ย มา แกเซ็นชื่อ ให้ฉันเสียโดยดี!” ต่อหน้าตระกูลหมิง เฉินเกอโยนหมิงโจ๋วถัง ลงกับพื้น จากนั้นจึงเดินออกไปอย่างองอาจ

“สารเลว น่ารังเกียจ แล่เนื้อตระกูลหมิง ของฉันยังไม่พอ ยัง จะเบื่อหนังของตระกูลหมิง พวกเราอีก น่าเกลียด!

หมิงโจ๋วถัง หลั่งน้ำตาร่วงรินหยดลงไหลเป็นทาง

ชีวิตที่เคยมีความสุขสมบูรณ์บัดนี้ไม่มีแล้ว

ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นผ่านมาได้

อย่างไร

ยิ่งกว่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือการดูหมิ่น

ตอนนี้เขาต้องอารมณ์เสียเป็นที่สุด ถ้าหากว่าหลานสาวของ เขาไม่โง่ไปยั่วยุคนคนนี้ มันคงจะดีไม่น้อย แต่ใครจะรู้ คนผู้นี้ ช่างไร้เหตุผลหยิ่งทะนงทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าตระกูลหมิง

ตระกูลหมิง เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ในเมืองไห่เฉิง ซึ่งยืนยาว มาหลายร้อยปีไม่เคยมีมาก่อนไม่เคย

“คุณปู่ หินปี้สุ่ย เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้ายของ ตระกูลหมิง แล้ว บรรพบุรุษเคยสั่งเสีย ตระกูลหมิง อาจจะไม่มีลาภยศได้ แต่ จะไม่มีหินปี้สุ่ย ไม่ได้!”

“ใช่น่ะสิ ถ้าหากเอา หินสุ่ย ให้เขาไป พวกเราตระกูลหนึ่งก็ต้องสูญสิ้น เรียกว่าจบเห่แล้ว!”

คนรุ่นหลังแห่งตระกูลหมิง รายล้อมเข้ามา

ใช่ ต่อให้เงินเกอเอาทุกอย่างที่เป็นของตระกูลหมิง ไป หมิง โจ๋วถัง ก็ไม่ถือว่าสิ้นไร้ไม้ดอก เพราะขอให้เพียงตระกูลหมิง มี แค่ หินสุ่ย ก็ยังมีโอกาสจะกลับตั้งตัวได้ ภายในไม่กี่ปี ตระกูลห มิง ก็จะปรากฏตัวขึ้นอีก

แต่ในตอนนี้ เฉินเกอแย่งชิงเส้นเลือดหลักของตระกูลหนึ่ง ไปแล้ว

ใบหน้าของดู หมิงโจ๋วถัง ดุร้ายขึ้นอย่างฉับพลัน

เขาโกรธแค้นจนกลับออกมาและพูดขึ้น “พูดจามั่วชั่วอะ ไรกัน เฉินเกออยากจะได้หินสุ่ย มันจะง่ายอย่างนั้นจริงเหรอ? ตรงกันข้าม เขาจะสามารถเข้าไปในเหมืองบรรพบุรุษของตระกูล หมิง พวกเรา ฉันกลับเป็นปลื้ม ที่บรรพบุรุษดูแลปกป้องเราแล้ว จริงๆ!”

“คุณปู่ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” หมิง ถามอย่างขี้ขลาด

“หมิงจู เธอฉลาดที่สุด ทำไมตอนนี้กลับมึนซะได้ พวกเธอ ทุกคนอย่าลืมสิ ของพวกเราตระกูลหมิง ยังมีไฟไม้ตายอยู่

“ไพ่ไม้ตายอะไร?” ดวงตาของคนในตระกูลหมิง สว่างขึ้น และถามพร้อมเพรียงกัน

“หมอกพิษพันปี!”
ใบหน้าของหมิงโจ๋วถัง ดุร้าย เขากัดฟัน!

คนในตระกูลหมิง ต่างมองหน้ากันและเบิกตาโพลง หมอกพิษพันปี นี่คือหนึ่งในสามของสมบัติอันล้ำค่า แห่ง ตระกูลหมิง

แม้แต่ลูกหลานตระกูลหมิง ก็เพียงได้ยินเรื่องราวเล่าต่อกัน มาของ หมอกพิษพันปี แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของปู่แล้ว จึงได้ รู้ว่ามันมีพิษนี้อยู่จริง

ในตำนานเล่าว่าเพียงแค่สูดดม ไม่ว่าคุณจะเป็นเทพหรือ สัตว์ประหลาดมาจากที่ใด อวัยวะทั้งห้าจะเปื่อยยุ่ย

“เฉินเกอเก่งกาจไม่มีใครเทียบได้ แต่ว่าไม่รู้ว่าหมอกพิษ พันปี ของฉัน แกจะต้านทานได้หรือไม่! ฮ่า ๆ ๆ หมิงโจ๋วถัง ยืนขึ้นจากพื้นด้วยใบหน้าที่น่ากลัว

“หมิงยี่หมิงจู!”

“หลานชาย!”

“หลานสาว!”

“ตอนนั้นท่านซินแสกุ่ย เคยพูดกับพวกเรา ตระกูลหมิง ไว้ ประโยคหนึ่ง ทำลายคุณธรรมและละทิ้งความดี บอกว่าตระกูลห มิง ของพวกเราจะมีหายนะในปีนี้ ดังในวันนี้ ฉันของให้พวกเธอ ไปหาเขาและคำนวณดูอีกครั้ง ว่าพวกเรา ตระกูลหมิง จะรอดพ้น หายนะครั้งนี้ไปได้หรือไม่ แล้วเมื่อไหร่ที่เราจะกลับมายิ้มได้อีก
หมิงโจ๋วถัง ออกคำสั่ง

จากนั้นเขาก็เรียกหัวหน้าคนสำคัญภายในครอบครัวมาคุย เรื่องในห้องลับหลังบ้าน …


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ