ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 200 ระหว่างทางกลับบ้าน



บทที่ 200 ระหว่างทางกลับบ้าน

“พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จ พวกเราทานอาหารเที่ยงด้วยกันดีไหม? ฉันจะรอคุณ ”

ฉินหยาส่งข้อความให้เงินเกอเป็นชุด แน่นอนว่าเฉินเกอได้เห็นแล้ว

หลังจากครุ่นคิดแล้วจึงตอบกลับไปว่า “ขอบคุณ ผมไม่ไป แล้ว หลังสอบเสร็จ ผมยังต้องรีบกลับบ้านอีก!”

เนื่องจากก่อนหน้านี้สอบอย่างกระจัดกระจายไปบางวิชาแล้ว ดังนั้นการสอบปลายภาคนั้น ก็เหลือเพียงแค่สองวิชาสุดท้ายใน วันพรุ่งนี้แล้ว

ส่วนเงินกอนั้น ไม่อยากจะพัวพันกับฉินหยาอีกต่อไป

จึงตอบกลับไปโดยตรง หลังจากตอบเสร็จ ก็ปิดโทรศัพท์และ พักผ่อนไปก่อน

วันต่อมา เฉินเกอสอบเสร็จทุกวิชาแล้ว

ก็รีบเก็บสัมภาระ

ใส่พวกผ้าห่มและของอย่างอื่นของตัวเองลงไปในถุงกระสอบ เดิมทีตามที่หลี่เจิ้นกั่วตั้งใจไว้ แน่นอนว่าส่งรถพิเศษไปรับเงิน เกอแล้วไปที่อำเภอผิงอันด้วยกัน
อย่างไรก็ตามโครงการในอำเภอผิงอันนั้น ตั้งแต่คุยโทรศัพท์ เมื่อวาน ก็พร้อมที่จะเริ่มแล้ว

หลี่เจิ่น วที่อยู่กับจ้าวจี่ ซึ่งพวกเขานั้นแน่นอนว่าจะต้องงาน ยุ่งแล้ว และต้องกลับไปกลับมา

ส่วนเงินกอนั้นไม่อยากทำตัวให้เป็นจุดสนใจขนาดนั้น

หลังจากที่เขากลับไป เรื่องแรกที่จะทำก็คือไปเยี่ยมอากมหา อาม่าหนูพวกเขา

สำหรับเรื่องการลงทุนนั้น ปล่อยให้หลี่เจิ้นถั่วและข้าวจอวิ่งไป

จัดการเองก็พอแล้ว

และเนื่องด้วยช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเกือบสามเดือนนี้เอง เฉินเก อก็อยากจะสงบจิตสงบใจ อ่านหนังสือและเรียนรู้อะไรบ้าง

เมื่อวันหยุดฤดูร้อนสิ้นสุดลง กลับมาเรียนอีกสามเดือน ก็จะ

ต้องเริ่มฝึกงานแล้ว

เมื่อถึงตอนนั้นถึงจะถือว่างานยุ่งมากจริงๆ ตอนนี้มีโอกาสพัก

ผ่อน ผ่อนคลายสักพักแล้วกัน!

เปิดโทรศัพท์ แน่นอนว่าในWechatก็ยังมีข้อความจากฉินห ยา

เงินเกอตอบกลับไปหนึ่งประโยค : “ผมกลับบ้านเกิดแล้ว ลา

ก่อน!

“อ๋อๆ โอเค! ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่รบกวนคุณแล้ว! ”
เงินเกอไม่ใต้ตอบและฉินหยาก็ไม่ได้พูดอ อย่างไรก็ตามคิดว่าต่อไปนี้…ก็คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว?

ก็ได้นั่งบนรถบัสจีนหลงเช่นนี้ เฉินเกอแทบไม่ได้มองไปที่ ทิวทัศน์นอกหน้าต่างอย่างเงียบๆเลย

อดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในความเศร้า

ลองคิดดูเมื่อไม่กี่เดือนก่อนตอนที่ตัวเองนั่งอยู่บนรถบัสจีน หลงมานั้น มีเงินติดตัวแค่สองร้อยหยวนเท่านั้น ในตอนนั้นสิ่งที่ ตัวเองคิดคือจะจัดการกับชีวิตในอนาคตและค่าเล่าเรียนอย่างไร นอกจากนี้ยังใกล้จะถึงวันคล้ายวันเกิดของหยางเสวอีกด้วย ตัว เองจะรวบรวมเงินเพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้เธอได้อย่างไร?

อีกอย่างยังจำได้ว่าวันนั้นตอนที่นั่งรถบัสมาโรงเรียนฝนยัง ตกหนักอีกด้วย ตัวเองนั่งอยู่บนรถ หยางเสวี่ยังไม่ลืมที่จะ โทรศัพท์มาหาตัวเอง บอกว่าเธอถึงที่โรงเรียนแล้ว รอให้ตัวเอง

ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน

เธอน่าอาหารอร่อยๆมาจากที่บ้าน

ในตอนนั้นหยางเสว่ยังเป็นหญิงสาวที่ดีมากๆ คนหนึ่ง แต่ในครั้งนี้ที่นั่งรถกลับไป กลับได้เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาด นี้แล้ว

ตัวเองได้รู้โดยบังเอิญว่าเป็นคนรวยรุ่นที่สอง และเป็นในแบบ ที่รวยมากๆด้วย
สําหรับหยางเสร่ เธอก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทั้งสองก็ได้เลิกรากัน

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปคือหลายเดือนก่อนตอนที่กลับมา โรงเรียนคิดว่าจะใช้เงินอย่างไรดี ตอนนี้ตอนที่กลับบ้านก็ยังคิด อยู่ว่าเงินจะใช้อย่างไรดี

เหอะเหอะ!

เงินเทอมองออกไปนอกหน้าต่างอย่าง ใจลอย

*เฉินเกอ? ”

ในเวลานี้ มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นจากด้านข้าง

เห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งจะแน่ใจได้ว่าเป็นเงินเกอ

เฉินเกอหันกลับไปดู ก็ได้เห็นหญิงงามอายุประมาณยี่สิบห้าปี นั่งอยู่ตรงเบาะข้างทางเดินบนรถประจำทาง

แต่งหน้าอ่อนๆ แต่งตัวอย่างสวยงาม

“คุณครูหมิน?

เฉินเกอก็คาดไม่ถึงเลยว่าจะเจอคนรู้จักบนรถ

อีกทั้งยังเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมของตัว

เองอีกด้วย

เธอชื่อหลิวหมิน เป็นครูสอนแทนวิชาภาษาอังกฤษใน โรงเรียนมัธยม สอนเฉินเกอเป็นเวลาสองปี ทั้งยังสาวและสวย ด้วย ช่วงนั้นเพิ่งเรียนจบจากมหาลัย และเข้าไปสอนในโรงเรียน มัธยมผ่านเส้นสายของครอบครัว
เงินเกือมีความทรงจำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเธอ

ก็เป็นเพราะคุณครูหมิ่นคนนี้นั้น มีจุดเด่นของสาวสมัยใหม่ แทบทุกอย่าง

ตัวอย่างเช่นการแต่งกายเปิดเผยมาก ช่วงนั้น ก็ใส่กระโปรงที่ สั้นมากและเสื้อผ้าที่เห็นสะดือมาสอนนักเรียน

และด้วยความสวยงาม ใครก็รู้ว่าเธอยังหาแฟนที่รวยมากๆ ด้วย แฟนของเธอยังซื้อรถออดี้ A6 ให้ขับอีกด้วย ซึ่งยอดเยี่ยม มากเลย!

แน่นอนว่าจุดเด่นที่สุดของเธอคือรังเกียจคนยากจนและรัก คนรวย

คล้ายกันกับเมิงไฉ่หรูอาจารย์ประจำชั้นของตัวเอง

นักเรียนที่ร่ำรวย ก็คือเพื่อนสาวเพื่อนชาย

ไม่มีเงินไม่มีอำนาจ คุณจะไปตายที่ไหนก็ไปเถอะ

บางครั้งพูดโดยไม่สนใจคนอื่น ก็ทำร้ายจิตใจคนมาก ดังนั้น เฉินเกอถึงได้มีความทรงจำที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเธอ

“เฮ้ย บังเอิญมาก ตั้งแต่เล็กจนโตนั่งรถบัสครั้งแรก ก็ได้เจอ

กับคุณ!

หลิวหมินยิ้มเจื่อนๆ

ราวกับกลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่นั่งรถบัสบ่อยๆ อย่างนั้นแหละ
“หมินหมิน เขาเป็นใคร? นักเรียนของคุณเหรอ? ” ด้านข้างหลิวหมิน ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทกล่าว

“อืมอิ่ม ฉันเคยบอกคุณก่อนหน้านี้แล้ว ห้องที่ฉันสอนมี นักเรียนยากจนคนหนึ่ง จะนำหมั่นโถวสองลูกและผักดองหนึ่งถุง ไปโรงเรียนทุกวัน อีกอย่างยังทานอาหารแค่มื้อเดียวคุณรู้ ไหม! ”

“อ๋ออ๋อ ผมจําได้แล้ว!!

“อืมอิ่ม ก็คือเขานั่นเอง! พูดขึ้นมาแล้ว เกือบสามปีแล้วที่ฉัน ไม่ได้เจอเขา มหาลัยที่เขาสอบติดนั้นไม่เลวเลย ไปเรียนที่มหา วิทยาลัยจินหลิงแล้ว! ”

“โธ่ ตอนนั้นห้องเรามีคนหนึ่งชื่อลี่เซียว ความจริงเด็กคนนั้น เก่งมากเลย เสียดายที่การสอบเข้ามหาลัยนั้นไม่ราบรื่น ถ้าฟ้ามี ตา ก็ควรจะให้เขาสอบติดที่ดินหลิง เสียดายคนที่ควรไปไม่ได้ไป คนที่ไม่ควรไปกลับได้ไป! จริงๆเลย! ”

หลวหมินพูดอย่างไม่พอใจ

“แต่เฉินเกอ ไม่พูดไม่ได้เลยว่าไม่เจอกันสองสามปี บุคลิก ของคุณดีขึ้นมากเลย ในดวงตาก็ไม่มีความรู้สึกต่ำต้อยแบบเมื่อ ก่อนแล้วดูเหมือนว่าเมืองหลวงนั้นได้ฝึกฝนอะไรให้คุณมาก เหมือนกันนะ!”

หลิวหมินพูดอย่างเรียบนิ่ง

“ขอบคุณครับ คุณครูหมิ่นคุณก็เหมือนกัน คุณสวยกว่าเมื่อก่อนมากเลย! ”

เงินเกอตอบกลับหนึ่งประโยค

พูดตามความจริง เขารู้สึกไม่ค่อยดีต่อหลิวหมินมากนัก แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรก็คือคุณครู จะไปมีความ บาดหมางข้ามชาติอะไรขนาดนั้น

“เหอะเหอะ ยังได้เรียนรู้ความกะล่อนมาด้วย คุณค่ะ ควรจะ จริงจังเล็กน้อยและซื่อสัตย์เล็กน้อย อย่าไปเลียนแบบคำพูดแบบ นั้นเลย ก็เป็นคำชมเหมือนกัน พูดออกมาจากปากของคุณ ทําไม ฉันฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลยล่ะ!

หลิวหมินทําหน้าบึ้ง

ถ้าคนร่ำรวยชื่นชมยกย่องคุณคุณก็จะรู้สึกดี คนจนชื่นชม ยกย่องคุณ คุณก็จะไม่รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ

นี่มันไม่ง่ายเหรอ

เฉินเกอคิดอยู่ในใจ

ปากกลับเบี่ยงเบนหัวข้อไป: “คุณครูหมิ่นพวกคุณเดินทาง ไกลครั้งนี้ไปทำอะไรมา? ”

“ฮิฮิ พวกเราไปเที่ยวต่างประเทศมา ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าเรา จะนั่งรถบัสกลับมาเหรอ จริงๆเลย! ยังไงก็ตามพูดกับคุณ คุณก็

ไม่เข้าใจหรอก! ”

หลวหมินควงแขนของผู้ชายในชุดสูทอย่างสนิทสนม
ส่วนเงินกอก็พยักหน้า

เห็นว่าหลิวหมินไม่มองตัวเองแล้ว ตัวเองก็ไม่พูดอะไรอีก หัน ศีรษะมองไปทางนอกหน้าต่าง แล้วนอนพักต่ออีกสักครู่

ไม่นาน รถบัสก็ได้มาถึงที่อำเภอยิงอื่น

ผู้โดยสารทยอยลงจากรถ

เงินเกยก็แบกกระเป๋าเดินทางของตัวเอง เตรียมจะโบกรถ แท็กซี่กลับไป

“เฮ้อ ยังดีที่มีเฉินเกออยู่พอดีเลย ให้เขาช่วยแบกกระเป๋าเดิน ทางของเราไปที่ตรงประตูทางออกเถอะ คนขับรถของคุณคนนั้น ก็จริงๆเลย เรื่องแค่นี้ยังจะมาสายได้ กลับไปแล้วก็ไล่ออก เถอะ!

หลิวหมินและแฟนของเธอมีกระเป๋าเดินทางทั้งหมดแค่ใบ เดียวเท่านั้น ในตอนนี้ท่าทางของทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใคร อยากถือเลย

คงจะรู้สึกว่าถือแล้วจะเสียหน้า

ก็ได้เห็นเฉินเกอพอดี หลิวหมินจึงโบกมือเรียกเงินเกอ

“เฉินเกอ คุณมาตรงนี้สักครู่ ช่วยเราถือกระเป๋าเดินทางออก ไปหน่อย! ฉันถือไม่ไหว! ”

หลิวหมินไม่รอให้เงินเกอพูดอะไร ก็ผลักกระเป๋าเดินทางไปไว้ ตรงหน้าของเงินเกอโดยตรง
ถือไม่ไหว? ถือไม่ไหวก็ไปตายซะ!

เฉินเกอด่าไปหนึ่งประโยค แต่ลองคิดดูแล้วก็ช่างเถอะ ช่วย คุณครูถือกระเป๋าเดินทางเท่านั้นเอง ตัวเองก็ไม่ได้จะเสียหาย อะไร

แบกกระเป๋าเดินทางของตัวเองไว้ในมือข้างเดียว มืออีกข้าง ลากกระเป๋าเดินทางของทั้งสองไว้ และเดินตามหลังทั้งสองคนไป ทางด้านนอกของสถานี

“ที่รัก คุณว่าการจัดหาเงินทุนของอำเภอผิงอันในครั้งนี้ ตระกูลของพวกคุณจะได้รับการลงทุนหรือไม่? ถ้าได้รับ อย่าง นั้นก็จะร่ำรวยจริงๆแล้วล่ะ! ฮ่าฮ่า ลองคิดดูว่าต่อไป อำเภอสิ่ง อันของเรา ก็จะกลายเป็นเมืองระดับมณฑลแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้น! ”

หลิวหมินมือข้างหนึ่งควงแขนของแฟนไว้และพูดไปด้วย

“เหอๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน บริษัทของพ่อผม ถือว่ามีศักยภาพ มากในอ่าเภอผิงอันแล้ว! ”

แฟนหนุ่มพูดด้วยความภาคภูมิใจ “เอ๊ะ? ทำไมมีรถจอดอยู่ นอกสถานีเยอะขนาดนี้? อีกทั้งยังเป็นรถส่วนตัวของ ใน อำเภออีกดูเหมือนว่าหัวหน้าพวกนี้จะมาเพื่อรับคนใช่ไหม?

“นั่นสิ นั่นเจียง” “ไม่ใช่หรือ? เขาก็มาด้วยเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ