ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 753 ฉันไม่คิดแบบนั้น



บทที่ 753 ฉันไม่คิดแบบนั้น

ปีศาจวัวพุ่งเข้ามาแล้ว

ทุกคนในที่เกิดเหตุถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึก

พวกเขาทั้งหมดรอปฏิกิริยาตอบกลับของหลี่เส้าจง

ต้องการดูว่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อย่างหลี่เส้าจงจะจัดการกับวัว ปีศาจตัวนี้อย่างไร

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ ในเวลานี้ หลี่เส้าจงก็ยัง

คงไม่เคลื่อนไหว

แต่เขากลับยังคงสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋าและหลับตาอยู่

เช่นเดิม

เกรงว่า ในสายตาของหลี่เส้าจง ปีศาจตัวไม่นับว่าเป็นตัวอะไร

สำหรับเขา!

“มาแล้ว! ”

เสียงดังขึ้นและเห็นว่าเมื่อเขาของปีศาจตัวขยับ มันก็เปล่ง ลําแสงสีขาวพุ่งออกมา

แสงอันร้อนแรงราวกับกำลังจะกวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้

ราบคาบ!

ผู้คนจํานวนมากถูกพัดออกไป
หลายคนเริ่มร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

ว่านเสก็กังวลใจเช่นกัน

เฉินเกอเองก็กำลังสังเกตเห็นฉากตรงหน้าเขาอย่างแน่นิ่ง

นั่นเพราะเขากำลังสงสัยอย่างยิ่ง เขาเคยเห็นหลี่เส้าจงมาก่อน เป็นคนมีพรสวรรค์อย่างแน่นอน

ด้วยวัยเท่านี้ กลับเป็นถึงนักพรตชั้นหนึ่งแล้ว มาถึงระดับเดียวกันกับระดับบำเพ็ญของอาจิ๋ว

หาได้ยากมาก

สิ่งที่ทำเงินเกอสงสัยก็คือ คนเมื่อครู่นั้นเห็นชัดๆ ว่าก็เป็น นักพรตชั้นหนึ่งแล้วเช่นกัน พลังของทั้งคู่ไม่ได้ต่างอะไรกันมาก

นัก

แต่หลี่เส้าจงเหตุใดถึงได้มีจิตมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาจะต้องอาศัย

อะไรแน่!

มิฉะนั้นคงไม่แน่นิ่งได้จนกระทั่งแม้แต่ภูเขาไท่ซานถล่มต่อ หน้าก็ไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้

เปลือกตาของเฉินเกอกระตุกเล็กน้อย และคอยสังเกตหลี่เส้า

ส่วนหลี่เส้าจง เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่มาจากทางด้านหลัง จากนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นมาทันใด
นั่นเพราะลมหายใจนี้ เขาสัมผัสได้ในทันทีว่า มันแข็งแกร่ง กว่าเขาหลายเท่า

“ไม่มีทาง! ”

จู่ๆ เขาก็มีท่าทีตกใจ

“สัตว์ร้ายตัวนี้ แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?

จากนั้น หลี่เส้าจงจึงไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป

เขาหันกลับมาอย่างสุดแรง และต่อต้านมันเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ลำแสงสีขาวนั้นกลับค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น เรื่อยๆ ต่อหน้าเขา!

ราวกับว่ามีพลังที่ไม่อาจต้านทานได้กระแสหนึ่ง

ตูม!

หลี่เส้าจงถูกโจมตีทันที

ปังปังปัง!

เสียงระเบิดดังขึ้น

หลี่เส้าจงใช้สองแขนต่อต้านเอาไว้ การระเบิดเกิดขึ้นราวกับ หม้อใบใหญ่กำลังปะทุ ควันก๊าซสีขาวลอยพุ่งขึ้นและมีเสียง ระเบิดกระจัดกระจาย

แขนทั้งสองข้างของเขามีฝุ่นปกคลุมลงมา

พรูด!
หลี่เส้าจงกระอักเลือดออกมาสายหนึ่ง จากนั้นจึงลอยออกไป บนแขนของเขา มีเส้นสีแดงเกิดขึ้นราวกับไส้เดือนกำลังนอน อยู่บนนั้น

“แกร่งกล้า!”

หลี่เส้าจงอ้าปากค้างสูดลมหายใจ

จนถึงตอนนี้เองที่ เขาค่อยเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดตัวนี้ขึ้น มาจริงๆ

“อาจารย์เคยบอกว่า บนโลกนี้มีสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งอยู่ พวกมันแค่ใช้จิตฟ้าดินและรับพลังทิพย์เข้ามาจากนั้นจึง เปลี่ยนแปลงเป็นมีเล่ห์กลขึ้น อีกทั้งบนตัวยังเกิดการพัฒนาจนมี รูปร่างประหลาด กลายเป็นปีศาจ ดังนั้นพวกมันจึงเป็นสัตว์ปีศาจ อีกทั้งเมื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตน พวกมันก็สู้ไม่ไหว!

“แต่ตอนนี้ เกิดเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งที่อาจารย์เคยบอกเอา ไว้ สัตว์ประหลาดชนิดนี้ได้พัฒนาขึ้นไปอีก ในระดับหนึ่ง และไป ถึงขั้นที่สามารถบำเพ็ญตนได้ ในเวลานั้น พวกมันจะมี ประสิทธิภาพในการต่อสู้อย่างยิ่ง แต่สถานการณ์นี้หาได้ยาก มาก! ”

“ส่วนตัวนี้ เห็นได้ชัดว่ามันนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่พัฒนาไป จนถึงขั้นที่สามารถบำเพ็ญตนได้แล้ว มันก็คืออสูรทิพย์! ”

หลี่เส้าจงตกใจ

เขาดูแคลนศัตรูและประเมินศัตรูต่ำเกินไปมาก
แค่เพียงการโจมตีเมื่อครู่นี้ ทำให้ปีกวิสุทธิ์คุ้มกายของตน แทบจะพังลงมาในทันที

หากเปลี่ยนเป็นเขา ตนเองคงได้รับภายในอย่างหนักแน่

หากมีการโจมตีเข้าอีกครั้ง ตนเองคงมีจุดจบไม่ต่างจากผู้ฝึก ตนเมื่อครู่แน่

หนี!

ในใจของหลี่เส้าจงรู้สึกกังวล

อย่างไรก็ตาม ปีศาจวัวดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าหลี่เจ้าจง ต้องการหลบหนี

ดังนั้น มันจึงพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง

“สายฟ้า”

ม่านตาของหลี่เส้าจงขยายกว้าง

จากนั้น เขาก็หยิบลูกประคำออกมาจากแขนและโยนมันไปที่ ปีศาจ ว

ทันทีที่ลูกประคำถูกขว้างออกไป มันก็ขยายใหญ่ขึ้นทันใด อีกทั้งยังมีสายฟ้าสีม่วงที่ถูกส่งออกมาด้วย เปรี้ยงเปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดกระหน่ำครอบคลุมทั้งร่างของปีศาจตัว ส่วนหลี่เส้าจงก็อาศัยโอกาสนี้ ส่งแรงไปที่ขา และลอยหนีออกไปทันที!

“คุณชายหลี่หนีไปแล้ว!”

“คุณชายหลี่ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้! ”

“อา!”

คราวนี้ ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ ล้วนตกใจถึงขีดสุด

พวกเขาวิ่งหนีกระจายออกไปรอบๆ

เพียงชั่วครู่ ก็มีผู้คนเหยียบย่ำไปมานับไม่ถ้วน

“ไม่ได้การแล้ว คุณหนู พวกเราเองก็รีบหนีออกไปเถอะ! ลุงไปปกป้องว่านเสวีเอาไว้

ว่านเสวพยักหน้ารัวๆ

ในเวลาเดียวในใจของเธอก็รู้สึกผิดหวังถึงขีดสุด

เธอไม่คาดคิดว่า คนในดวงใจของตน จะมาทอดทิ้งตัวเองไป แบบนี้ เขาเลือกชีวิตของเขาก่อน

แต่เมื่อคิดจะหนีในตอนนี้ กลับสายเกินไปแล้ว

ผู้คนรอบข้างต่างพากันลนลาน และผลักดันกันไปมา

ในไม่ช้า ว่านเสก็ถูกใครบางคนผลักลงบนพื้นโดยไม่ตั้งใจ ยังไม่ทันระวัง ก็ตกลงไปบนเวที

“อ่า! เสว่เสว่!”
พวกซิ่วซิ่วตะโกนร้องลั่น

ผู้คนรวมตัวกันหนาแน่ จนไม่มีทางจะดึงเธอขึ้นมาได้ ส่วนปีศาจวัวที่ถูกสายฟ้าฟาด มาตอนนี้คาถารอบด้านได้ สลายไปในที่สุด

“มอ!”

มันมองขึ้นไปบนฟ้าและคำรามด้วยความโมโห

มันกำลังระบายความโกรธที่ถูกหลี่เส้าจงวางแผนหลบหนีไป อีกทั้งความเจ็บปวดบนร่างกาย ก็ทำให้ดวงตาของมันกลาย เป็นสีแดงขึ้นทันที

รังสีสังหารของมันถูกปลุกขึ้นมา

และเป้าหมายแรก

ก็คือว่านเสวีที่อยู่ใกล้กันมากที่สุด

“มนุษย์น่ารังเกียจ! ตาย!”

ปีศาจวัวพ่นภาษามนุษย์

เสียงนั้นดังราวกับระฆัง

มันเดินเข้าไปหาว่านเส

ในขณะนี้ ว่านเสวกำลังตกใจจนแน่นิ่งไป เธอยืนเหม่อ ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง
ส่วนพวกลุงไปและซิ่วซิ่วในตอนนี้ กลับร้อนรนจนแทบอยาก จะร้องไห้ออกมาแล้ว

“ไม่!”

ว่านเสวค่อยๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นจึงถอย

หลังหนี

ปีศาจวัวไม่สนใจแต่อย่างใด มันยังคงตรงมา

ในเวลานั้นเอง ว่านเสวก็เดินมาถึงขอบของเวทีประลอง และ บนเวทีประลองนั้นตอนนั้นแทบจะไม่มีผู้คนเหลืออยู่แล้ว

มีเพียงเฉินเกอและเฉินเปียวเปียวเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่นี่

ว่านเสวมองไปยังเฉินเกอหาเพื่อขอความช่วยเหลือ

เงินเกอกลับยังคงไม่ขยับ

เป็นเงินเปียวเปียวที่หูตาไวและวิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะ ถึงว่านเสว่ขึ้นมาด้านบน

ในตอนนั้นเอง พวกลุงไปและซิ่วซิ่วถึงค่อยวิ่งตามมาถึงที่นั่น และนําตัวว่านเสวไปปกป้องไว้ด้านหลัง

“มอ!”

ที่น่าแปลกคือ ทุกคนล้วนรู้สึกได้ว่าปีศาจวัวกำลังจะโจมตี แต่ว่า มันกลับหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว นั่นเพราะมันเห็นคนๆ หนึ่ง คนๆ นี้ แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
มันรู้สึกว่าหากมันก้าวเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง มันก็จะแตกออกเป็น ชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ใช่ ขอแค่มันก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง มันต้องตายแน่

ความรู้สึกนี้ ชัดเจนอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ ปีศาจวัวจึงมองไปที่ชายคนนั้นด้วยความเกรงกลัว

แล้วคนๆ นั้น หากไม่ใช่เฉินเกอแล้วจะเป็นใครได้อีก

เป็นเวลาเนิ่นนาน

“มอ!”

ทันใดนั้นมันก็ค่ารามขึ้น และกระโดดออกจากเวทีไปพร้อมกับ นำลูกวัวหนีไปทางอื่น

ไม่เลว หนี!

ในไม่ช้า พวกมันก็หายไปในกระแสฝุ่น

“อะไรนะ? มันจากไปแบบนี้เลยหรือ?”

ซิ่วซิ่วกล่าวด้วยความไม่เชื่อ

รู้ไหม เมื่อครู่นี้เธอคิดว่าตนเองกำลังจะตายเสียแล้ว!

และว่านเสวก็รอดตายมาได้ด้วยความโชคดี เธอเหลือบมองเฉินเกอที่ยังคงแน่นิ่ง ในใจรู้สึกขมขื่นอยู่บ้าง เมื่อครู่ ตอนที่ตนเองกำลังเดือดร้อน ผู้ชายคนนี้กลับไม่ทำอะไรเลย?

เธอทำเพียงแค่มองไปที่เฉินเปียวเปียวและพยักหน้า “เมื่อครู่ ขอบคุณคุณจริงๆ หากไม่ใช่เพราะคุณ ฉันอาจถูกฆ่าโดยปีศาจ วัวตัวนั้นไปแล้ว! ”

“ไม่ต้องขอบคุณฉัน คุณหนูว่านเสว หากคุณต้องการขอบคุณ จริงๆ ก็ขอบคุณอา …”

“เอาล่ะเปียวเปียว สายแล้ว พวกเรายังต้องช่วยเซียวเหยียน ถามเรื่องของเขา พวกเราไปกันเถอะ!

เฉินเกอเอ่ยเรียบๆ

เขาไม่อยากเดือดร้อน อีกทั้งยังไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน

หากคิดจะทํา แต่เป็นเนื้อหายใจเล็กน้อย ปีศาจตัวเมื่อครู่ ก็คง วิญญาณสลายไปในทันทีเขา

แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ