ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่698 บรรพบุรุษตระกูล



บทที่698 บรรพบุรุษตระกูล

“พี่ใหญ่มาแล้ว? ”

เถียเฉิงยังไม่ทันได้รู้สึกตัว

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่นานพวกเราก็จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว แม่เอ๊ย รอก่อนตระกูล ถึงเวลา ฉันจุดไฟเผ่าที่ให้สิ้นซากแน่!

ไปเสี่ยวเฟยกล่าวด้วยความโมโหโทสะ

ส่วนเฉินเกอ เขากับคู่หยูเซียวก็มาถึงในห้องของเขาคือแล้ว แผนผังห้องของเธอไม่ได้ซับซ้อนมาก และทางด้านหนึ่งของ ห้อง ก็มีโต๊ะทำงานวางอยู่

ส่วนด้านหลังเป็นชั้นหนังสือ

“ที่นี่ก็คือที่อยู่ของห้องลับเหรอ?

กู่เฟิงถาม

“อืม คุณย่ามีห้องลับด้วยกันสองห้อง ไม่รู้ว่าคุณรู้หรือเปล่า และครั้งก่อนภายในห้องทำงาน โดยเฉพาะของคุณย่า ซ้อนห้อง ลับไว้ห้องหนึ่ง ซึ่งก็คือห้องที่หญิงสาวชุดขาวถูกกักขังไว้ และเมื่อ สมัยยังเด็ก ฉันก็เคยเห็นคุณย่าเดินออกมาจากด้านใน ดังนั้น มันน่าจะแตกต่างกับห้องลับทำงานของคุณย่าไม่มาก”

กู่หยูเซียวกล่าว
ระหว่างที่พูดอยู่ เธอก็เดินไปที่ด้านข้างของชั้นหนังสือ และบิด ไปที่กล่องใส่ปากกาเบาๆ

ตามที่คาดไว้ไม่ผิด กล่องใส่ปากกามีเสียงแซ๊บๆดังออกมา จากนั้น ชั้นวางหนังสือก็ได้สั่น และเคลื่อนไปด้านข้าง หลุมมืดที่ทอดลงสู่พื้นดิน ก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง

“คุณเห็นห้องลับนี้ครั้งแรกเหรอ? ”

เมื่อเห็นว่าหยูเซียวมีท่าที่ความตกใจเล็กน้อย เพิ่งจึงถาม

ขึ้น

“อืม ห้องลับนี้กับห้องลับคราวก่อน แตกต่างกันมาก อีกอย่าง คุณรู้สึกได้หรือเปล่า ว่าห้องนี้มีความรู้สึกที่เย็นยะเยือกบาง อย่าง? ”

ก่หยูเซียวกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“เข้าไปดูก่อนค่อยว่ากัน คุณเดินตามหลังฉัน!

บอกตามตรง เฉินเกอเองก็รู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นบางอย่าง ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาพุ่งออกมาจากด้านใน ซึ่งทำให้เฉินเกอรู้สึกตกใจมาก

และในขณะนี้ ทั้งสองคนก็เดินเข้าไป

ทางเข้านี้เป็นทางเดินที่ยาวมาก

นอกจากนี้ทางเข้ายังถูกออกแบบด้วยช่องมืดมากมาย
และในช่องมืดนี้ มีสิ่งของวางอยู่มากมาย

หยูเซียวจุดตะเกียงน้ำมันในห้องให้สว่าง แล้วเดินวนไป

รอบ ๆ

“เจอแล้ว! ”

เธอรู้สึกดีใจ

และยันต์หยกสีน้ำเงิน ถืออยู่ในกำมือของเธอ

“กลิ่นอายของมันคล้ายกับกลิ่นอายของเครื่องรางที่ติดอยู่บน ร่างกายของไปเสี่ยวเฟยและเถียเจ๋ง คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งนี้แหละ อย่ารอช้า พวกเรารีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้เถอะ!

เฉินเกอรู้สึกถึงกลิ่นอายที่อธิบายไม่ถูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงพูด ด้วยความกลัวเล็กน้อย

“ได้! ”

แต่ทันทีที่หันกลับไป

ก็มีเสียงโครมครามดังขึ้น

ทางเข้าของด้านนอก เหมือนว่าถูกก้อนหินก้อนใหญ่ปิดผนึก

ทางเดินทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงันชั่วขณะ

“กรี๊ด! ”

หยูเซียวที่กำลังเตรียมตัวจะเดินไปดูลาดเลาด้านหน้า จู่ ๆเธอก็ถูกดูดด้วยแรงดูขนาดใหญ่

แล้วส่งเสียงกรีดร้องออกมา

แรงดูดนี้แข็งแกร่งมาก ซึ่งเฉินเกอเองก็รู้สึกได้เช่นกัน

ดังนั้นจึงรีบใช้วิชาศุภรวิเศษเพื่อต่อต้าน

แต่ว่า ตามที่พลังดูดได้เพิ่มขึ้น เฉินเกอเองก็ไม่สามารถ ต้านทานได้ และไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ถูกดูดเข้าไปในหลุมดำอีก หลุมหนึ่งโดยบังเอิญ

ปัง ปัง!

เฉินเกอและหยูเซียวล้มลงกับพื้นพร้อมกัน

และที่นี่เป็นห้องหินที่อยู่ติดกัน

ทันทีที่พวกเขาตกลงมา ไฟของรอบ ๆ ก็สว่างขึ้นทันที

และมีแสงสีดำที่เหมือน วนเวียนอยู่รอบ ๆ

“ฮ่าฮ่า ฉันรอมาตั้งนานแล้ว นอกจากเขาซื้อแล้ว ในที่สุดก็มี คนอื่นเข้ามา หรือว่าคุณสองคนเป็นลูกหลานของตระกูลกเรา? ”

แสงสีดำ ส่งเสียงที่แก่และดังออกมา

ทำให้หูของคนที่ฟังรู้สึกอึกทึก

“คุณเป็นใคร? ทำไมถึงอยู่ที่ตระกูลของเรา? ”

หยูเซียวถามด้วยความสงสัย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า? ตระกูลของคุณ? ……..เป็นตระกูลของ ฉัน! ทั้งตระกูล ฉันเป็นคนที่สร้างมาด้วยมือของฉันเอง เด็ก น้อยสองคนอย่างพวกคุณ ก็เป็นเพียงลูกหลานของฉันเท่านั้น!

แสงสีดำที่กำลังกล่าวอยู่ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนไป จนในที่สุดก็กลาย ร่างเป็นมนุษย์ชายวัยชราและปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาทั้ง สองคน

เขามีผมสีขาวที่กระจายไปทั่ว และเคราของเขาก็ยาวจนถึง หน้าอกของเขา

แวบแรกที่เห็นเขา ก็รู้สึกว่าเขาเหมือนเป็นนักพรตที่ได้บำเพ็ญ พรตมา

“คุณพูดว่าอะไรนะ? ”

กู่หยูเซียวตะลึง

เฉินเกอเองก็มองไปที่ชายวัยชราคนนี้อย่างคาดไม่ถึง

รูปแบบการดำรงอยู่ของเขา คล้ายกับพลังจิต

การดำรงอยู่ของพี่ชุดขาวมาก แต่ก็มีส่วนที่แตกต่าง นั่นก็คือ ความโหดร้ายทารุณบนร่างกายของเขา รวมไปถึงพลังที่เขา สามารถปล่อยออกมานั้น แข็งแกร่งกว่าพี่ชุดขาวมาก

และพี่ชุดขาวในตอนนี้ ก่อนที่เธอจะรวมร่าง เธอก็เป็นเพียงแค่ พลังจิตธรรมดาดวงหนึ่งเท่านั้น

แต่กับคนนี้นั้น มีบางอย่างที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงมาก
พลังของเขา สามารถเกิดขึ้นได้จริง อีกทั้งยังแข็งแกร่งมาก

ด้วย

ยากที่จะจินตนาการได้ ถ้าหากว่าเขาไม่ใช่พลังจิต แต่เป็น ร่างกายจริง ๆล่ะก็ แบบนี้พลังของเขา ไม่รู้ว่าน่ากลัวขนาดไหน

“ฉันบอกว่า พวกคุณสองคนเป็นเพียงแค่ลูกหลานของฉัน เท่านั้น ทำไม เรื่องราวของบรรพบุรุษตระกูลก พวกคุณสองคนไม่ เคยได้ยินเยวคือพูดถึงเหรอ?”

ชายวัยชรายิ้มและกล่าวอย่างเย็นชา

เฉินเกอส่ายตัวโดยไม่รู้ตัว

ส่วนหยูเซียวก็พยักหน้าอย่างหนัก : “เคยพูดค่ะ เรื่องราว ของบรรพบุรุษ คุณย่าเคยเล่าให้เราฟังมาเยอะ ตั้งแต่สมัยเรายัง เด็ก และบรรพบุรุษของตระกูล เหมือนว่าในหลายหมื่นปีก่อน เพราะได้ค้นพบโบราณสถานของยุคสมัยอารยธรรมการฝึกตน ที่เป็นผลให้ได้รับพลังมหาศาลมากมาย และก่อตั้งตระกูลกู่ และ หลังจากที่รอให้ตระกูลมีความมั่นคงขึ้น บรรพบุรุษก็จะออกเดิน ทางไปตามหาปาฏิหาริย์เพิ่มเติมจากยุคสมัยอารยธรรมการฝึก ตน แต่นับจากนั้นมา พวกเขาก็ไม่เคยปรากฏอีกเลย!

“คุณ คุณคือบรรพบุรุษของเราจริงเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร? ถ้าคุณเป็นบรรพบุรุษของเราจริง ๆ ทำไมคุณย่าถึงกักขังคุณไว้ที่

หยูเซียวถามขึ้น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! “จู่ ๆ บรรพบุรุษของตระกูลก็เงยหน้าและ

หัวเราะ

“คุณหัวเราะอะไร? ” หยูเซียวถาม

“เขาน่าจะไม่ใช่ถูกขังอยู่ในนี้ แต่คงเป็นเพราะเหตุผลอื่น ทำให้เขาไม่สามารถปรากฏตัวได้ ดังนั้นจึงอาศัยอยู่ในห้องลับ แห่งนี้ และแน่นอนว่า ต่อให้เขาไม่ออกไปด้านนอก แต่ว่า เขาก็ ควบคุมผู้นำของตระกูลทุกคนมาโดยตลอด

เฉินเกอมองไปที่เขา แล้วกล่าว

“หืม?

บรรพบุรุษตระกูล มองเฉินเกออย่างละเอียดอย่างไม่คาดคิด จากนั้นเขาก็พยักหน้า: “คิดไม่ถึงว่า ลูกหลานของตระกูล ฉัน ยังพอมีหลายคนที่ฉลาดอยู่ หลานคนนี้ ฉลาดมาก นั่นแหละ ถูกแล้ว ผู้นำของตระกูล ต่างก็ถูกควบคุมโดยฉันเอง!

หยูเซียวอ้าปากค้างด้วยความตะลึง

และเฉินเกอเองก็ตะลึงเช่นกัน

ก็ว่า พี่จื่อเยียนพูดอยู่ตลอดว่าตระกูลไม่ธรรมดา และเฉินเก อเองก็สงสัยว่าทำไมตระกูลกับสำนักฟีนิกซ์ถึงมีส่วนเกี่ยวข้อง กัน

และตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้ ผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงอยู่นี่เอง
อีกอย่างเป็นบุคคลที่อยู่มานานหลายหมื่นปีด้วย

“คุณคือบรรพบุรุษของเราจริงเหรอ?

จนถึงตอนนี้ หยูเซียวถึงเริ่มเชื่อเล็กน้อย

“แต่ว่า ในเมื่อท่านคือบรรพบุรุษของเรา แล้วทำไมถึงถูกขัง อยู่ที่นี่ตลอด และไม่ออกไปข้างนอกล่ะ เมื่อก่อนท่านทวด ไม่ใช่ ออกไปตามหาปาฏิหาริย์อารยธรรมแล้วเหรอ?

“เรื่องนี้มันยาว ฉันไปตามหาปาฏิหาริย์ก็จริง แต่เสียดาย ปาฏิหาริย์ทั้งหมด มักจะถูกปกป้องโดยพลังของสวรรค์ และฉันก็ ไม่สามารถต้านทานการระดมยิงของพลังของสวรรค์ได้ จน ร่างกายของฉันแหลกเหลว และในท้ายที่สุด ก็หลงเหลือเพียงแค่ พลังจิตที่หลุดรอดกลับมาได้ และในเวลานั้นศัตรูที่แข็งแกร่งของ ตระกูลก็เยอะอยู่พอควร เพื่อที่จะไม่ให้ตระกูลกล่มสลาย ฉะนั้น จึงมีการควบคุมโดยตรงของฉันในตอนนี้ และตั้งแต่นั้นมา ตระกูลกู่ก็ได้ค้นหาร่างปรมาจารย์ที่มีความสามารถเก่งกล้าเพื่อ ฉันมาโดยตลอด แล้วส่งมาให้ฉัน เพื่อดูดพลังจิตของพวกเขา และเพราะเหตุนี้พลังจิตของฉัน จึงอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้

บรรพบุรุษของตระกูลกกล่าว

“คุณว่าอะไรนะ? งานฝึกฝนประจำปีของตระกูลในทุก ๆ ปี อันที่จริง คือส่งคนมาให้คุณดูดพลังทิพย์ของพวกเขาเหรอ?

หยูเซียวก็ตระหนักขึ้นได้ทันที

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณพูดถูก แต่เสียดาย ต่อให้คนพวกนั้นมีจะมีร่างปรมาจาร แค่ไหน แต่ร่างที่มีความสามารถของพวกเขาก็ยังไม่ ถึงมาตรฐานของฉัน จนถึงตอนนี้ ในที่สุดฉันก็รอโอกาสดี ๆ มา จนได้ ซึ่งนั่นก็คือร่างวิญญาณของคนคนหนึ่ง ถ้าถูกฉันใช้งาน ฉันก็จะยิ่งสามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งได้จริง ๆ

บรรพบุรุษของตระกูลหัวเราะ

“ฉันเข้าใจแล้ว คนคนนั้น คุณหมายถึงเฉินเกอ ซึ่งก็คือเงินเก อคนที่คุณย่ากับสำนักฟีนิกซ์ร่วมมือกันจับกุมอยู่? เพราะว่าเขามี ร่างกายเทพจิตเก้าภพ ดังนั้นแน่นอนว่าร่างกายของเขา ก็เป็น ร่างที่ไม่ธรรมดาใช่หรือเปล่า?

หยูเซียวถามด้วยความตกใจ

“ถูกต้อง คุณเองก็ฉลาดมาก!

บรรพบุรุษของตระกูลหัวเราะ

ส่วนเฟิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่ใช่ เฉินเกอต่างหาก เมื่อเขาได้ เช่นนั้นก็ตกตะลึงอย่างมาก

“เทพจิตเก้าภพ? นี่มันอะไรกัน? ” แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ตัวเองเดาถูก นั่นก็คือคนพวกนี้พยายาม ตามหาตัวเองทุกวิถีทาง คิดว่า ภายในร่างกายของตัวเองนั้น ต้องมีความลับอะไรที่พวกเขาต้องการ………


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ