ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 423 มองเป็นศัตรู



บทที่ 423 มองเป็นศัตรู

“เข้าใจผิดแล้วคุณยาย ฉันไม่ได้มีความคิดที่จะแบ่งทรัพย์สมบัติ ของตระกูลหยางเลย!”

เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น

“ทีม ตั้งแต่แม่ของนาย ลูกสาวที่อกตัญญูออกจากตระกูล หยางแล้ว ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหยางอีกสักนิด ฉันก็ได้ ประกาศต่อสาธารณะแล้ว ตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกของเธอ สิ่งนี้ นายต้องเข้าใจ

คุณนายท่านหัวเราะเยาะ

เฉินเกอไม่ส่งเสียงอะไร

ส่วนน้า เมื่อเห็นบรรยากาศตึงเครียด ก็ไอไปทีหนึ่งแล้วพูด ขึ้นว่า

“แค่กๆ แม่ ดูสิ ยังไงเสี่ยวเกอก็เป็นหลานชายของแม่ เด็กมี ความกตัญญูก็เป็นเรื่องที่ดี เขาเข้ามาในบ้านเป็นครั้งแรก! อย่า ทำให้เสี่ยวเกอตกใจ! มาๆๆๆ เสี่ยวเกอ วันนี้ผู้อาวุโสในตระกูล อยู่ครบพอดีเลย มา เข้ามายกน้ำชาเคารพพวกลุงๆป้าๆของ นาย!”น้าสี่พูดยิ้ม

เฉินเกอเห็นว่า น้าสี่ของตัวเองดีไม่น้อย

จำได้ว่าแม่เคยพูดในเมื่อก่อนว่า น้าสี่และน้าห้า ดีกับเธอที่สุด
เลยพยักหน้าทันที

รับกานาซาจากมือคนรับใช้

เริ่มรินน้ำชาให้คุณนายท่าน

“คุณยาย!”

คุณนายท่านดูเหมือนจะนึกถึงเรื่องในอดีตที่น่าเศร้า บวกกับ ได้ยินสะใภ้คนโตบอกว่า เฉินเกอมาเยี่ยมเธอ เพื่อต้องการแบ่ง ทรัพย์สมบัติ เธอก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย

จึงหลับตาลงเสียเลย

เฉินเกอเลยได้ยินให้ลุงใหญ่อีกถ้วย

ลุงใหญ่ก็ไม่ดื่ม

จากนั้นคือลุงสองลุงสาม

หลังจากที่ได้ยิน ให้ป้าใหญ่เสร็จ

ไม่คาดคิดว่าป้าใหญ่ยิ้มอย่างเย็นชา “เชอะ ทำดีหวังผล

หลังจากที่พูดจบ เทน้ำชาลงบนพื้นโดยตรง

ทําให้เหล่าชายหญิงรุ่นหลังต่างมองไปทางเฉินเกอหลายครั้ง

ไม่ดื่มก็ช่างเถอะ อย่างนั้นเททิ้งไปเลย

เห็นได้ชัดว่า ป้าใหญ่กำลังตั้งใจเหยียบหน้าเฉินเกอ

ส่วนหยางเย่นั้น ก็แอบหัวเราะในใจ คิดในใจว่า ถ้าให้ฉันหยาได้เห็นฉากนี้เข้าก็คงจะดี

ทั้งเหตุการณ์ มีเพียงน้าสี่เท่านั้นที่ผมคนเดียว

“เฮ้ย ฉันขอแนะนำให้ใครบางคน อย่าคิดที่จะมีแผนการอะไร ช่างหาเวลาเหมาะสมจริงๆ ไม่มาก่อนหน้านี้ ไม่มาสายกว่านี้ ดันมา ในเวลานี้!”

ในเวลานี้ป้าสองพูดเยาะขึ้น

“ใช่เลย หมาก็รู้ว่าอาหารของบ้านไหนหอม! ยังไง ใช้ชีวิต ยากจนเกินพอแล้วอยากจะมาใช้ชีวิตร่ำรวยบ้าง?

ป้าใหญ่พูดอย่างเย็นชา

“หม ตอนนั้นที่ผู้หญิงคนนั้น และทิ้งไปทั้งตระกูล ให้ทั้งตระกูล ตกอยู่ในอันตราย แล้วยังทำให้คุณแม่โกรธแทบตาย กลับไป บอกกับผู้หญิงคนนั้น เสียใจในภายหลังไม่มีประโยชน์หรอก!”

ป้าสามก็พูดเช่นเดียวกัน

เมื่อเริ่มหัวข้อนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว

ต่างกล่าวหาแม่ของเฉินเกอกับตัวเฉินเกอเอง

“พอแล้วๆ ไม่ต้องพูดแล้ว!”

คุณนายท่านความดันเพิ่มขึ้นทันที ตบโต๊ะตะโกนใส่ในทันใด

ทั้งหมดถึงได้เงียบลง

“อะเชิง ช่วยพยุงฉันกลับไปพักผ่อน!”
“ครับ ท่านประธาน!”

จากนั้น คุณนายท่านก็จากไปโดยตรง

“โทษนายคนเดียว นายมันตัวซวย กลับมาทำไม! ต้องทําให้ ยายของนายโกรธแทบตายใช่ไหม?”

ป้าใหญ่ด่าทออีก

“พวกท่านอย่าว่าพี่ชายเลยได้ไหม? พี่ชายแค่อยากกลับมา เยี่ยมพวกคุณและคุณยายเท่านั้น ทำไมพวกคุณถึงทำแบบนี้?” หยางเสี่ยวเป้ยกังวลจนเกือบร้องไห้

“หม เสี่ยวเป้ย ตอนที่ผู้ใหญ่พูดกันเด็กอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมา พูดแทรก ยังไม่ได้ว่าแกก็ดีมากแล้ว ถ้าไม่ใช่พ่อของแกช่วย เหลือ ในตอนนั้น แม่ของเขาจะสามารถหนีการแต่งงานได้สำเร็จ หรือ!”

ป้าใหญ่ด่าว่าอย่างเย็นชา

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่หมายความว่ายังไง พี่พูดกับคนรุ่นหลังแบบ นี้หรือ?”

แม่ของเสี่ยวเป้ย ก็ไม่พอใจนัก

“แล้วจะทำไม? น้องสะใภ้ห้า? เด็กไม่รู้มารยาท ฉันไม่สามารถ สั่งสอนได้หรือ? เหอะๆ ก็ไม่มองเลยว่า ตอนนี้ครอบครัวของพวก เธอ มีสถานะอย่างไรในตระกูลหยาง หยางเสี่ยวเป้ยเธอเพิ่งเข้า ทำงานในกลุ่มบริษัทใช่ไหม พอดีเลย เธออยู่ในแผนก โครงการใช่ไหม เมื่อคุณนายท่านพูดในที่ประชุมแล้ว ตอนนี้งานเร่งด่วน ที่สุดก็คือต้องรับโครงการได้ โครงการใหญ่ที่สำคัญในปีนี้ ฉันก็ ส่งมอบให้กับแผนก โครงการของพวกเธอแล้วนะ!

“แกมันปากไม่ใช่เหรอ? ให้ฉันดูความสามารถของแกเป็น ยังไงบ้าง? ถ้าหากไม่สามารถทำประโยชน์เพื่อตระกูลได้ ฉันว่า พวกเธอสองแม่ลูก ก็แค่หวังที่จะแบ่งทรัพย์สมบัติของตระกูล หยาง!”

ปากของป้าใหญ่ โกวหรูราวกับปืนใหญ่

ครอบครัวของชายสี่และชายห้า เมื่อก่อนล้วนมีความสัมพันธ์ สนิท ใกล้ชิดกับ หยางฝั่ง

ส่วนหยางยู่ผิง ตอนนั้นมีความสัมพันธ์ที่แย่มากกับโกวหรู

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว คือสมัยที่โกวหรู อยู่ในบริษัท ได้ทำ บัญชีเท็จ แล้วถูกหยางยู่ฝั่งรู้เข้า

หยางผิง ไปรายงานเธอกับคุณนายท่านด้วยตัวเอง จากนั้นโกวหรู ก็ถูกคุณนายท่านตบหน้าดังก้อง ท่ามกลาง ผู้คนในที่ประชุมของตระกูล

หลังจากนั้นมา โกวหรูก็ถือว่าไม่สามารถเข้ากับหยางยู่ฝั่งได้ อีกต่อไป

เมื่อเกลียดใครก็จะเกลียดทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้น ก็ เลยเกลียดครอบครัวของชายสี่และชายห้าโดยปริยาย
ตอนนี้เธอกับหยางยู่ถึงครอบครองธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัท เป็นเหมือนดั่งรองประธาน ก็เลยมีสิทธิ์ที่จะพูด

ยังเป็นสาเหตุที่ครอบครัวของเสี่ยวเป้ย ไม่ถูกเห็นความสำคัญ

“ได้แล้วๆ ทุกคนพูดให้มันน้อยๆหน่อย แม่เพิ่งพูดเมื่อกี้เอง ตอนนี้ตระกูลสามัคคีกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!

หยางยู่ถึงพูดขึ้น

“พี่ใหญ่พูดถูก เสี่ยวเกอ นายก็อย่ายืนไว้เลย นั่งลงกินข้าว พร้อมกันเถอะ!”

น้าสี่พูดขึ้น

“หือ? ให้เขานั่งลง? มีสิทธิ์อะไร?”

ป้าทั้งหลายไม่พอใจ

และเฉินเกอเห็นว่า ถ้าตัวเองยังอยู่ต่อ แล้วยิ่งทำให้ความ สัมพันธ์ระหว่างพวกเธอกับน้าสี่แย่ลงไปอีก ก็จะไม่ดีแล้ว

เลยพูดแล้วยิ้มอย่างขมขื่น ไม่ต้องแล้ว น้าสี่ ฉันกลับไปก่อน

ดีกว่า! พวกคุณกินให้อร่อย!”

หลังจากพูดจบ เฉินเกอก็ตบไหล่ของ เสี่ยวเป้ยเบาๆ ส่ง สัญญาณให้เสี่ยวเป้ยอย่าสนใจตัวเองอีก แล้วก็จากไปเลย

“หึม! ฉันขอเตือนพวกคุณ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ ตระกูลหยางของเรา ถ้าหากให้ฉันรู้ว่า ใครยังคบหากับเขา ดูสิ ว่าฉันจะถีบมันออกจากบริษัทหรือไม่!!
ป้าใหญ่พูดกับพวกคนรุ่นหลัง

เจาะจง โดยเฉพาะหยางเสียวเปีย

ทุกคนต่างรับทราบ

เฉินเกอที่ออกมา ไม่คิดว่าความแค้นระหว่างตระกูลเฉินและ หยางจะร้ายแรงมากขนาดนี้

แต่เฉินเกอก็ไม่กลัวแต่อย่างใด อยากจะบรรเทาความสัมพันธ์ ระหว่างแม่กับคุณยาย

เฉินเกอเชื่อว่า เพียงแค่ยอมที่จะทำ ก็ไม่ใช่ปัญหา

ในตอนนี้ ถ้าหากเปิดไฟไปแล้ว เฉินเกือกลัวว่าจะได้รับ ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม

ก็ดูวันเกิดของคุณยายในวันพรุ่งนี้แล้ว เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เฉินเกอกโทรออกหมายเลขของให้ยิ่ง ให้โห้ผิง ไปจัดเตรียมของขวัญวันเกิด

จากนั้น ก็ถึงช่วงบ่ายแล้ว

เสี่ยวเปียกลับมาแล้ว ดูเหมือนกลุ้มใจไม่เบา เห็นได้ชัดว่า โดนวิจารณ์จากโกวหรูไม่น้อย

เพื่อตัวเองแล้ว ไม่รู้ว่าเสี่ยวเป้ยได้รับความไม่เป็นธรรมมาก แค่ไหน น้าสะใภ้ห้าแม้จะไม่พูดอะไร แต่สายตาที่มองดูตัวเองก็มี ความไม่เป็นมิตร
“เสี่ยวเป้ย ไป พี่ชายพาเธอไปซื้อเสื้อผ้า

เฉินเกอมองไปที่เสี่ยวเป้ย แล้วพูดขึ้น ส่วนเสี่ยวเปียนั้น เป็นสาวน้อยที่แสนดี แต่เนื่องจากถูกโกว หรู เพ่งเล็ง ช่วงสองปีที่ผ่านมา ก็มีชีวิตที่ไม่ค่อยดีนะ

เมื่อเทียบกับพวกลูกพี่ลูกน้องแล้ว การแต่งตัวนั้นด้อยกว่า พวกเธอมาก

นอกจากรถคันนั้น ตัวเองยังไม่ได้ให้อะไรกับเสี่ยวเปียเลย! “ห้า ไม่ต้องแล้ว พี่ชาย!”

เสี่ยวเป้ยรีบพูดอย่างขึ้น

“ไปเถอะนะ เธอไปเดินเล่นกับฉันพอดีเลย!ระหว่างพูด เสี่ยวเปียขับรถซีรีส์ 7 มาถึงที่ร้านเสื้อผ้าชื่อดัง จอดรถ ในที่จอดรถเรียบร้อย

ตึกๆ!

ล็อครถเสร็จ

“เสี่ยวหยา เธออย่ากลุ้มใจเลย แฮ่ๆ วันนี้ดูเหมือนว่าแต่ละ ร้านจะมีคอลเลคชั่นใหม่ๆเข้ามาเยอะมาก เราไปช้อปปิ้งอย่างมี ความสุขกันเถอะ ฮ่า!”

สองสาวที่ลงจากรถ

ไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือเป็นเมิ่งซ่าน และเธอดันจะพาฉินหยามาด้วย……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ