ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 244 ไปบ้านตระกูลเจียงอีกครั้ง



บทที่ 244 ไปบ้านตระกูลเจียงอีกครั้ง

“เรื่องใหญ่อะไร?”

เงินเกอนิ่งไปสักพัก

“ที่นี่น่ะ เดิมเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกจาก สำนักงานกลุ่มนักลงทุนเมื่อปีที่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ กลุ่มผู้รับเหมา ใช้วัสดุที่ไม่ได้มารตฐาน ทำให้โครงการที่ก่อสร้างพังทลายลง คนงานได้รับบาดเจ็บสาหัสประมาณหกสิบกว่าคน บาดเจ็บกว่า อีกร้อยคน ยังดีที่ไม่มีคนเสียชีวิต!”

“เมื่อคืน ได้ยินมาว่าผู้รับเหมาต่างหนีไปหมดแล้ว คนของ สำนักงานกลุ่มนักลงทุนต่างได้รับผลกระทบ ได้ยินมาว่ามีคน หลายสิบคนรวมทั้งหัวหน้าจียงต่างก็ถูกไล่ออก และยังต้องรอรับ บทลงโทษอีก!”

พวกคนงานกล่าว

สำนักงานกลุ่มนักลงทุน จำได้ว่าคุณอาเจียงก็เป็นหัวหน้ากลุ่ม นักลงทุน ถูกไล่ออกแล้วหรอ?

แต่คิดอีกที เฉินเกอก็ถามขึ้น “งั้นคงไม่ถึงกับต้องหนีมั้ง? ไม่มี คนเสียชีวิตนี่นา ชดใช้ก็น่าจะได้มั้ง? ความรับผิดชอบหลักก็ไม่ น่าจะเกี่ยวกับสำนักงานนักลงทุนมั้ง?”

“เห่อๆผู้รับเหมาโครงการไม่มีเงินนานแล้ว ครึ่งปีก่อนก็ล่ำลือ กันว่าผู้รับเหมาไม่มีเงิน พวกเราก็ไม่รู้จะไปหาใคร ก็เลยมาเรียกร้องค่าแรงตรงนี้ สําหรับสำนักงานกลุ่มนักลงทุนนั้น เห่อๆ ยังไง ก็ต้องมีคนออกมารับผิดชอบไม่ใช่หรอ? และตอนนี้ก็มีบริษัท ยักษ์ใหญ่กำลังมาลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อำเภอผิงอัน แต่ว่าอำเภอผิงอันมาเกิดเรื่องแบบนี้เสียก่อน ผู้ว่าก็ต้องโกรธอยู่ แล้ว มันมีผลกระทบที่ใหญ่หลวง!”

เฉินเกอได้ฟังแบบนี้ก็เข้าใจแล้ว

จนปัญญา เรื่องนี้ตัวเองก็แต่ไม่ไหว

หลังจากที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ

ก็ขับรถอ้อมไป

ระหว่างทาง หลี่เฉินกั๋วก็ได้ส่งวีแชทมาหาเงินเกอ ก็ได้พูดเรื่อง ราวที่ตึกถล่ม เป็นเรื่องที่พบเจอในรอบร้อยปี

พอดีเฉินเกอกำลังจะบอกให้หลี่เฉินกั๋ว ช่วยเขาหาอาจารย์ที่ดู หยกให้หนึ่งท่าน

เพราะเขารู้จักคนเยอะกว่าตัวเอง

กลับถึงโรงแรมที่ตัวเองเช่าแล้ว เฉินเกออาบน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวจะออกไปหาที่ทานข้าว เวลานี้ คุณพ่อตัวเองได้โทรศัพท์มา

“ครับพ่อ?”

เฉินเกอกล่าว
“ลูกเอ๊ย ที่ลูกไปลงทุนที่บ้านเกิดของเรา ได้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว ได้ยินมาว่าตึกถล่ม?

“อืมๆ ใช่ครับ แต่ว่าไม่ใช่ของบริษัทเรา

เฉินเกอคิดในใจข้อมูลข่าวสารของพ่อช่างว่องไวเหลือเกิน

“อ้อๆ พ่อรู้ว่าไม่ใช่บริษัทของลูก ที่พ่ออยากจะบอกก็คือ คุณ อาเจียงของลูกถูกไล่ออกแล้ว ลูกดูสิว่า จะสามารถช่วยบ้านเขา ได้มั้ย?”

คุณพ่อกล่าว

“อะไรนะ? ผมบอกพ่อแล้วไม่ใช่หรอ? คุณอาเจียงเขาลืมเพื่อน อย่างพ่อไปนานแล้ว ทำไมพ่อยังต้องให้ผมไปช่วยเขาอีก?”

หลังจากที่เฉินเกอฟังแล้ว รู้สึกงงมาก

เพราะว่าเมื่อก่อนที่โทรหาพ่อ

พ่อมักจะพูดถึงตระกูลเจียง ความหมายส่วนใหญ่ก็คือ หากมี เรื่องลำบากอะไร ก็ต้องช่วยเหลือพวกเขาให้มากๆ

ไม่อย่างงั้นทุกครั้งที่เฉินเกอเห็นเจียงหรานหรานที่คอยดูถูก ตัวเอง เธอมีเรื่องทุกครั้ง ตัวเองก็ต้องจำใจช่วยเหลือเธอทุกครั้ง อย่างนี้เป็นเพราะอะไรละ

ก็เพราะคุณพ่อที่นักหนา

แต่ว่าครั้งที่แล้วที่ไปบ้านตระกูลเจียง เฉินเกอรู้สึกใจเย็นวาบ และได้บอกกับคุณพ่อแล้ว
ครั้งนี้ตระกูลเจียงเกิดเรื่อง ระหว่างทางที่มาเฉินเกอก็รู้แล้ว เพียงแต่ไม่อยากไปสนใจ

อย่างไรเสียก็ทําตามความต้องการของคุณอาเจียง หากไม่มี ธุระก็ไม่ต้องไปบ้านเขา

เพราะฉะนั้นเฉินเกอเลยไม่อยากสนใจ

“เฮ้ย เรื่องบางเรื่อง ไม่ใช่แค่พูดประโยคสองประโยคก็เข้าใจ ได้ ลูกเห็นน้าถางของลูกหรือยัง?”

จู่ๆคุณพ่อก็เปลี่ยนเรื่อง

ทำให้เงินเกอขมวดคิ้วทันที “เห็นแล้ว! ทำไมหรอ?”

“เห่อๆ เมื่อก่อนพ่อเคยทำเรื่องที่ผิดต่อคุณอาเจียงน่ะ ดังนั้น ในใจพ่อรู้สึกผิดนะ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่บ้านเขาจะทำยังไงกับ บ้านเราไม่ต้องไปสนใจ หากลูกสามารถช่วยเหลือก็ต้องช่วย เฮ้ย!”

คุณพ่อกล่าว

“แม่งเอ๊ย!”

เฉินเกออึ้งไปทันที

หรือว่าคุณพ่อเคยมีความสัมพันธ์กับน้าถาง?

สวมเขาให้คุณอาเจียง

“พ่อ เรื่องมันยังไงกันแน่? ยังมีเรื่องที่พ่อให้ผมไปตามหาผู้ หญิงที่ชื่อเมิงซินเรื่องมันยังไงกันครับ? น้าถางและเพิ่งซินคนนั้นใช่อันนั้นของพ่อเหลือเปล่า?”

เฉินเกอโมโหทันที

“เห่อๆ ไอ้ลูกเวร ลูกพูดมั่วอะไรเนี่ย สรุปแล้วพ่อกับเธอทั้งสอง ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างที่ลูกคิด ยังไงแล้วบ้านตระกูลเจียง และน้ากางของลูก หากลูกช่วยได้ลูกต้องช่วย ก็ถือเสียว่าหนี้ของ พ่อลูกมาชดใช้แทน ยังมีเพิ่งซิน ลูกรีบตามเธอให้พบ แม่ของลูก มาแล้ว แค่นี้ก่อนนะ!”

พูดจบก็วางสายโดยตรง

เฉินเกอถือ โทรศัพท์มืนงงอยู่ตั้งนาน นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย

ถึงขั้นทำให้เป็นเธอมีความคิดที่อยากจะโทรหาแม่ ถึงอย่างไร เฉินเกอก็ช่วยพ่อปกปิดแม่ ในใจรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก

เฮ้ย! คิดทบทวนดูแล้วก็ช่างมันเถอะ เชื่อคุณพ่อสักครั้ง

มองดูเวลาแล้วเพิ่งจะห้าโมงครึ่ง

เฉินเกอเกาหัวไปมา จนปัญญา ตัวเองก็เลยไปที่บ้านของคุณ อาเจียงอีกครั้ง

ขณะนั้นก็ลงไปขับรถไปยังบ้านตระกูลเจียง หลังจากที่ถึงแล้ว

วันนี้ที่บ้านตระกูลเจียงมีผู้คนมาเยอะพอสมควร
และคุณอาเจียงนั้น เนื่องจากต้องรับผิดชอบจึงถูกไล่ออก ทำให้กระทบกระเทือนที่ใจ ได้ล้มป่วยลง กำลังนอนให้น้ำเกลือ อย่างสะลึมสะลืออยู่บนโซฟา

แขกบางคน ก็นั่งอยู่ด้านข้างคุยเป็นเพื่อน

“เหล่าเจียง พอได้แล้ว เรื่องมันก็เกิดแล้ว อย่าทุกข์ใจไปอีก เลย ผู้ว่าในเมืองท่านก็กลัวผลกระทบที่ใหญ่หลวง อารมณ์ชั่ววูบ ถึงได้ไล่นายออก ไม่แน่ว่าผ่านไปสักพัก อาจจะเรียกกลับไป ประจําตำแหน่งก็ได้!

“ใช่แล้ว อีกอย่างถังหรานก็ยังทำงานอยู่ในธนาคารไม่ใช่หรอ และหรานหรานก็โตแล้ว เรื่องการเงินก็คงจะไม่ใช่ปัญหา

“ขอบใจพวกนายนะเหล่าหลี่เหล่าจ้าว คืนนี้ อยู่กินข้าวด้วยกัน

นะ?”

เจียงเว่ยตงพูดอย่างอ่อนล้า

“ไม่ละข้าวพวกเราไม่กินแล้ว ก็มาดูนาย โดยเฉพาะ ตอนนี้ก็ ต้องรีบกลับไปแล้ว!!

ทั้งสองลูกขึ้นเตรียมตัวจะกลับ

“เหล่าหลี่เหล่าจ้าว พวกนายว่าเรื่องของเหล่าเจียงไม่มีหนทาง อื่นแล้วจริงๆหรอ? พวกนายรู้จักคนตั้งมากมาย ต้องช่วยเหล่า เจียงของเราออกความเห็นด้วยนะ!”

ทั้งสองคนต่างส่ายหัวอย่างไม่มีทางเลือก แสดงออกว่าไม่วิธี

อื่นแล้ว
“น้าหวานคุณน้าอย่าเพิ่งร้อนใจครับ ก่อนที่ผมจะมา ผมได้ ถามพ่อเกี่ยวกับเรื่องของคุณอาเจียง…………

หลินตงก็ต้องอยู่นี่อยู่แล้ว

ขณะนี้ก็ได้พูดขึ้น

คำพูดนี้ที่พูดออกมา เจียงเวียตงและเจียงหวานหรานที่อยู่ ด้านข้างที่ผ่านการร้องไห้มาแล้วนั้นทุกคนต่างมองมาที่หลินตง

หลินตงคิดในใจ ในเวลาที่สำคัญแบบนี้ ก็ยังต้องเพิ่งตัว

เขา?

เจียงเว่ยตงดึงมือของหลินตงไว้แล้วพูด: เสี่ยวตง พ่อของนาย

ได้พูดอะไรหรอ?

“คุณพ่อพูดว่า เรื่องของคุณอาเจียงจะพูดว่าเป็นเรื่องก็เป็น เรื่อง จะพูดว่าไม่เป็นเรื่องก็ไม่เป็นเรื่อง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณอาโดยตรง ขอเพียงคุณอาสามา รถหาทีมรับเหมาทีมใหม่ มาปิดช่องว่าที่มีอยู่ จัดการดูแลคนงาน ที่บาดเจ็บและคนงานคนอื่นๆ ให้เรียบร้อยก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะ ว่าทุกคนต่างทำงานแลกเงินทั้งนั้น!!

หลินตงพูดอย่างยิ้มๆ

พูดให้ชัดเจน ความหมายก็คือต้องหาแหล่งเงินทุนแหล่งใหม่ มารับช่วงต่อ

“เฮ้ย แต่ว่าตอนนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ได้กลายเป็นเศษ เต้าหู้แล้ว ดีไม่ดีที่สร้างเสร็จแล้วอาจจะต้องรื้อออกก็เป็นได้ ใครจะยินยอมมารับช่วง โครงการอสังหาริมทรัพย์นี้ต่อละ และเงินค่า เสียหายก็ต้องให้เขตเราเป็นคนออก เงินมหาศาลนี้ เขตเราก็ ไม่มีเงินก้อนนี้!”

เจียงเวียงส่ายหัว

วิธีนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อน

ติ้งตอง

ในเวลานี้ เสียงกดออดก็ได้ดังขึ้น

เจียงเวียดงนึกว่าเพื่อนหรือหัวหน้ามาอีก รีบร้อน ให้ถังหรานพ ยุงตัวเองยืนขึ้นมา “หรานหราน” รีบไปเปิดประตูต้อนรับแขก

“อืมๆ!”

เจียงหวานหรานพยักหน้ารับ แล้วเดินไปเปิดประตู เห็นเฉินเกอแล้ว เจียงหรานหรานตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

“เฉินเกอ? ”

“เฮ้ย ทําไมถึงเป็นเขานะ!”

ถังหรานอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างผิดหวัง

เจียงเว่ยตงก็ส่ายหัวอย่างเซ็งๆ

ก็ให้ถังหรานพยุงเขานอนลง

ดูก็รู้เพราะเขาต่างนึกว่าเป็นแขกที่มีเกียรติมา แต่เห็นเป็นเงิน เกอนั้น ทำให้ผิดหวังอย่างมาก……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ