ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 97 เจ็ดวันจ่ายให้หมดพันล้าน



“หืม? พี เกิดเรื่องอะไรขึ้น เฉินเกอใจคอไม่ดี

สองพี่น้องรักกันมาก เมื่อกี้ที่เฉินเกอพูด เรื่องที่พี่สาวยอมเสียสละให้เขาเรียนหนังสือแทน ตัวเอง ไม่ยอมไปสอบนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ได้พูด หลอกเอาหลานล้น

ตอนนั้นสองพี่น้องอยู่อย่างยากจนมาก

พี่สาวสละสิทธิ์ในการสอบ

จะพูดถึงเรื่องที่พี่สาวยอมเสียสละให้ตัวเอง เรียนให้พี่สาวซ้ำใจไม่ได้ เพราะเธอยากที่จะลืม เรื่องนี้

“แกก็รู้เรื่องกฎระเบียบข้อบังคับแปลก ๆ ของครอบครัวเราดี มีข้อหนึ่งก็คือ ไม่ว่าแกจะ หาเงินได้เท่าไหร่ ใช้จ่ายไปเท่าไหร่ แกต้อง ทําการจดบันทึกไว้ทั้งหมด!

“ไม่ว่าแกจะใช้จ่ายเศษเงินกี่พันล้าน ก็

จําเป็นต้องจดบันทึกไว้ในบัญชีกลางของ ครอบครัว จะปกปิดครอบครัวไม่ได้เด็ดขาด เหมือนอย่างที่แกทํา รวมถึงบัตรเอทีเอ็มที่แกใช้ ครอบครัวของพวกเราก็มีข้อมูลตรวจเช็คได้ หมด”

“อ๋อ ๆ เรื่องนี้ผมรู้ดี”
นี่เป็นกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งของตระกูลเฉิน ไม่ว่าจะมีเงินเท่าไหร่ จะใช้จ่ายยังไงก็ได้ เงินของ ครอบครัวก็สามารถเอามาใช้ได้ แต่ว่า ห้ามปกปิด ผู้นําครอบครัวเด็ดขาด ซึ่งคนนั้นก็คือพ่อของเขา นั่นเอง

เขาจึงใช้ชื่ออื่นในการเก็บเงินต่างหาก

“พี่ไม่ได้ทําบัญชีบันทึกการใช้เงินเหรอ”

เฉันเกอเอ่ยถาม

“ใช่สิ บ้าจริง! ฉันก็เพิ่งจะรู้ตัววันนี้ เดิมที ตอนที่ฉันโดนจํากัดการใช้เงินสิ้นสุด ฉันก็เอาเงิน ที่แม่ให้มาหนึ่งร้อยล้าน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แล้วมีอยู่ วันหนึ่งฉันดื่มจนเมา อยากจะกินของในร้านแฟ รนไชส์แบรนด์หนึ่ง เลยใช้ให้ผู้ช่วยฉันไปซื้อมา ให้หน่อย”

“แต่แม่งเอ้ย แกรู้ไหม ไอโง่นั่นเอาเงินหกสิบ ล้านซื้อแฟรนไชส์ร้านนั้นมาเลย ตอนนั้นก็ยังไม่ เป็นที่นิยม แต่พอผ่านไปหลายปีร้านนี้กลับเป็นที่ นิยมมาก ทําเงินให้ฉันทั้งสองพันกว่าล้านแล้ว ฉัน ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ใครจะไปคิดว่าไอโง่นั่นจะซื้อ ร้านทั้งร้านเลยล่ะ”

“ทีนี้ ฉันเลยอยากจะแอบใช้เงินสองพัน ล้านนี้ให้หมด เพิ่งจะใช้ได้แค่ครึ่งเดียว พ่อของ เราก็เหมือนจะระแคะระคายขึ้นมา เพราะฉันซื้อ ของไปมากมาย แต่เงินกองกลางของครอบครัว กลับไม่ลดลงเลย ฉันเลยกลัว กลัวพ่อจะรู้ว่าฉันทําผิดกฎ ถ้าพ่อรู้ฉันต้องโดนลงโทษงดใช้เงินอีก หนึ่งเดือนแน่ ๆ พ่อเข้มงวดเรื่องนี้มาก ถึงแม่จะ ช่วยพูดก็ไม่ได้ผล

“ผมก็คิดว่าเรื่องอะไร แค่โดนงดใช้เงิน

หนึ่งเดือนเอง เวลาผ่านไปเร็วจะตาย” เฉินเกอปาดเหงื่อที่หน้าผากตัวเอง พี่สาว

เขามักจะเป็นกระต่ายตื่นตูมเสมอ

“ไม่นะ น้องชาย อย่าถึงหนึ่งเดือนเลย แค่ โดนงดใช้เงินหนึ่งวันฉันก็จะตายแล้ว ฉันไม่สน แกต้องช่วยพี่นะ ต้องช่วยฉัน!”

พี่สาวทําท่าใกล้จะร้องไห้แล้ว

“ก็ได้ ก็ได้ จะให้ผมช่วยยังไง

อิอิ แกช่วยฉันใช้เงินหนึ่งพันล้านให้หมด เกลี้ยงภายในเจ็ดวัน แกไม่ได้อยู่บ้าน พ่อไม่ตรวจ สอบอะไรแกมากหรอก”

ว่าไงนะ

เฉินเกอแทบจะกระอักเลือดออกมา “ใช้เงินหนึ่งพันล้านภายในเจ็ดวันเนี่ยนะ

เอาจริง ๆ เฉินเกอก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเงิน มากมายขนาดนี้ ทั้งรายได้จากถนนการค้าจิน หลิง และยังมีอุตสาหกรรมการผลิตที่พี่สาวใช้ชื่อ ของเขาลงทุนอีก ทุกเดือนจะมีรายได้พวกนี้เข้า บัญชีพันกว่าล้าน
ฉะนั้นเฉินเกอเขาไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน ทอง

เขาเตรียมจะใช้เงินพวกนี้ไปลงทุนเพิ่มเติม แต่ให้ใช้จ่ายเป็นพันล้าน มันฟุ่มเฟือยเกิน

ถ้านำเงินไปลงทุนยังพอว่า แต่นี่ให้ใช้จ่าย เล่น ๆ ไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุเหรอ อีกทั้งตัวเขา ก็ไม่ได้นิสัยเหมือนพี่สาว ที่มีปมเรื่องเงิน ใช้จ่าย ฟุ่มเฟือยเดือนหนึ่งหลายร้อยล้าน

“ก็แค่หนึ่งพันล้านเอง แกใช้ไม่หมดเหรอ เอาแบบนี้ละกัน แก อยานพาหนะเถอะ ฉัน แนะนําบริษัทจากเยอรมันให้แก แกจองเครื่องบิน สักล่า”

เฉินเกอ “……”

“ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ยอมโดนงดใช้ เงินหนึ่งเดือนหรอกนะ ยังไงก็ตาม ภายในเจ็ดวัน แกต้องใช้เงินให้หมด เดี๋ยวฉันจะให้คนโอนเงิน เข้าบัญชีแก”

พูดจบ เฉินเสี่ยวก็กดวางสายไป

โดนงดใช้เงินหนึ่งเดือนก็หนึ่งเดือนสิ จะให้ ฉันใช้เงินเป็นพันล้าน ทําให้ฉันลำบากใจเสียจริง ๆ เลย

เฉินเกอรู้สึกจนปัญญาถึงขั้นใช้มือดึงผมตัว

เอง
ถ้าซื้อเครื่องบิน เงินใช้ได้หมดเร็วก็จริง แต่ ตอนนี้จะเอาเครื่องบินไปทำอะไรล่ะ

ทุกวันนี้เฉินเกอใช้เงินหนึ่งหยวนก็รู้สึก เหมือนใช้เงินหนึ่งร้อยแล้ว เขาเป็นคนที่ขึ้ เสียดายเงินมาก

ติ้ง ตึง!

ข้อความจากธนาคารส่งมาอย่างรวดเร็ว แสดงว่าเงินเข้าบัญชีเขาแล้ว

พี่สาวเขานี่ไวจริง ๆ

แต่ว่าจะใช้จ่ายอะไรดีล่ะ

เชื้อ

ถ้าเอาไปลงทุน คนในครอบครัวต้องรู้แน่ ทําได้แค่ซื้อของเล็กน้อย พ่อน่าจะไม่ระแคะ ระคาย

หนึ่งพันล้าน เขาต้องซื้อของมากขนาดไหน

เครียดตายเลย

เฉินเกอตีหัวตัวเองไปมา ไม่มีอารมณ์เดิน เล่นแล้ว เขาจึงกลับไปนอนเล่นที่หอพัก

ผ่านไปสามวันแล้ว เฉินเกอยังคิดไม่ออกว่า จะใช้เงินยังไง

สามวันมานี้ เกิดเรื่องขึ้นสามเรื่อง
เรื่องแรกเอาหลานสันหยุดเรียน แม่ บังคับพาออกไป

เฉินเกอค่อนข้างไม่พอใจกับเรื่องนี้ อยาก หาทางช่วยเอาหลานล้น แต่เฮาหลานลั่นไม่ ออนไลน์เลย ติดต่อเธอไม่ได้

คิดไว้ว่าในสองวันนี้จะสืบเรื่องเธอ แล้วเอา เงินสักก้อนช่วยเธอ

อีกเรื่องก็คือ หานเฟยเอ่อกลายเป็นคนดัง ของมหาวิทยาลัยไปแล้ว อีกทั้งยังได้ไปร่วมงาน แอพสตูดิโอถงเฉิง ได้เป็นโฆษกในการถ่ายทอด สด เรียกได้ว่าเริ่มดังในระดับหนึ่งเลย

เรื่องที่สามก็คือ หลี่เจิ้นกั๋ววางแผนที่จะเอา แอพสตูดิโอถงเฉิงยกระดับเป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกใจ ชาวเน็ตทั่วประเทศ อีกทั้งจะลงทุนเพิ่มอีกสอง ร้อยล้าน เพื่อเพิ่มความผันแปรบนแพลตฟอร์ม จากระยะแรก

เฉินเกอก็ถือว่าลงทุนถูกที่แล้ว เพราะสร้าง รายได้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนี่เป็นการลงทุนครั้ง แรกของเขาในอุตสาหกรรมการผลิต เฉินเกอจึง อยากให้มันออกมาดีที่สุด

วันนี้ ขณะที่เฉินเกอกำลังทานข้าวอยู่คน เดียวในโรงอาหาร ก็ได้ยินคนข้าง ๆ พูดคุยจ๊อกแก๊กไม่หยุด

“นี่ พวกเธอรู้อะไรไหม วันนี้เป็นวันเปิดตัวขายคฤหาสน์หยุนติ้ง เดิมราคาขายอยู่ที่เจ็ดร้อย ล้าน แต่ตอนนี้ราคาพุ่งสูงถึงแปดร้อยล้านแล้ว”

“เปิดตัวขายบ้าอะไร วันนี้เป็นการเปิด นิทรรศการต่างหาก ใครจะไปซื้อบ้านราคาแปด ร้อยล้านกันล่ะ ไม่ใช่การลงทุนสักหน่อย”

“แต่คฤหาสน์หยุนติ้งก็สมราคาแปดร้อย ล้านนะ รูปภาพบางส่วนที่โชว์บนอินเตอร์เน็ต แม่ เจ้า ด้านบนมันงดงามมากจริง ๆ ถ้าได้อาศัยอยู่ ด้านบนนะ เหมือนอยู่บนสวรรค์ยังไงยังงั้นเลย”

“อืม ใช่ เห็นบอกว่าเป็นวิลล่า แต่ที่จริงฉัน ว่าเหมือนสร้างสถานที่ไว้ชมวิวมากกว่า เฉพาะ บัตรเข้าชมนิทรรศการนี้ ใบหนึ่งก็ราคาตั้งแสน กว่าแล้ว แถมยังจํากัดจํานวนคนอีกต่างหาก”

“พระเจ้า ราคาโหดมากจริง ๆ”

ได้ยินคนที่นั่งทานข้าวอยู่ด้านข้างพูดคุย กันไม่หยุดปาก

เฉินเกอก็คิดได้คิดมาทันที วันนี้นิทรรศการ คฤหาสน์หยุนติ้งนั้น เขากับหวงหยงหาวนัดกันไว้ แล้วว่าจะไปเที่ยวชมด้วยกัน

ทันใดนั้นเอง

โทรศัพท์มือถือของเฉินเกอก็ดังขึ้น

เป็นหวงหยงหาวโทรเข้ามา

“พี่ครับ ผมกำลังจะไปรับนะ ไปชม202221672_1399107653800881_1675536376474947819_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ