ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 24 ห้องรับรองพิเศษที่หรูหรา



บทที่ 24 ห้องรับรองพิเศษที่หรูหรา

“เฉินเกอ นายเนี่ยนะ? นายจะมาจองห้องรับรอง? พระเจ้า? นายรู้ไหมว่าที่นี่ราคาเท่าไหร่? ”

เจียงเวยเวยมองเฉินเกอ อย่างเย็นชา เหมือน มองคนสติไม่ดี

ไอ้หมอนี่หรือว่าจะเป็นบ้าไปแล้ว ถึงได้มากินข้าว ที่ห้องครัวเจียหยวน

“คนสวย พวกคุณรู้จักกันหรือครับ?”

ผู้จัดการล็อบบี้ถามเฉินเสี่ยวด้วยรอยยิ้ม

พูดตามความจริง เพียงแค่มองการแต่งตัวของ เฉินเกอ เขาดูไม่เหมือนสามารถที่จะมากินข้าวที่นี่ได้ จริงๆ

มาตรฐานของที่นี่ มีตั้งแต่แปดร้อยแปดสิบแปด ถึง หนึ่งหมื่นแปดพันแปดร้อย

มาตรฐานแพงที่สุดของที่นี่ หนึ่งหมื่นแปดพัน แปดร้อย

คือราคาห้องรับรอง ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม เพราะมากินข้าวที่ถนนการค้าจินหลิงห้องครัวเจีย หยวนสิ่งที่กินคือรสนิยมและคุณภาพ!

ราคาแปดร้อยแปดสิบแปด ได้เพียงหนึ่งที่นั่งใน ล็อบบี้เท่านั้น
ชั้นไม่เหมือนกัน คุณภาพและราคาก็ย่อมแตก ต่างกัน

อย่างไรก็ตาม แม้แต่มาตรฐานที่ต่ำที่สุด ก็ยากที่ จะทำให้เฉินเกอรับไหว

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการล็อบบี้คนนี้ ก็ไม่ใช่คนที่ ประจบสอพลอผู้ที่มีฐานะสูงมากนัก จึงได้ถามอย่าง สงสัย

“รู้จักแน่นอน คนคนนี้ เป็นนายกระจอกยากจนที่ มีชื่อเสียง ในมหาวิทยาลัยจินหลิงของเรา จนขนาดที่ว่า ไม่สามารถจ่ายค่าอาหารและค่าเทอมได้!”

“ใช่ ยังอยากจะมากินข้าวที่ห้องครัวเจียหยวน อีก?”

สาวสวยทั้งสองที่อยู่ข้างหลังก็พูดขึ้น

หวังหยางอยู่ข้างๆ ยิ้มเยาะสายหัวแล้วพูดว่า “เวยเวย ก็อย่าพูดแบบนี้ ถ้าเป็นเฉินเกอ มาที่นี่แทนพวก สวีตง เพื่อจองห้องรับรองให้พวกเขาล่ะ?”

“ใช่สิ.”

ผู้จัดการล็อบบี้ยิ้มมองไปที่เฉินเกอในเวลานี้ “คุณ ผู้ชาย คุณจองห้องรับรองให้กับตัวเอง หรือจองให้ เพื่อน? ไม่มีความหมายอื่น ฉันแค่อยากจะแน่ใจหน่อย อีกอย่าง ขั้นต้นคุณต้องการจองในราคาเท่าไหร่?”

เฉินเกอมองผู้จัดการหญิงคนนี้ ก็ถือว่าในบรรดา พวกประจบสอพลอ สุภาพมีมารยาทคนหนึ่ง
พยักหน้าทันทีและพูดว่า “ฉันจองเอง คืนนี้ฉันจะ เลี้ยงข้าวที่นี่ ต้องการจองอาหารงานเลี้ยงสามโต๊ะ!”

“เฮ้ย! “นายจองเอง ยังจะเลี้ยงข้าว? เหอะๆ..”

เจียงเวยเวยมือกอดอกไว้

แม้ว่าพวกเขาจะจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มี ที่ท่าว่าจะไป ตั้งใจที่จะดูว่าเฉินเกอจะสั่งงานจัดเลี้ยงยัง

ไง

เฉินเกอรำคาญที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขา

เมื่อกี้เฉินเกอได้ยินแล้ว ที่พวกเจียงเวยเวยจอง คือราคามาตรฐาน 1888

แต่ เฉินเกอมองไปที่เมนูอาหารของมาตรฐานนั้น ดูตามพื้นฐานแล้ว อาหารไม่มีอะไรกินได้เลย

ถ้าอยากกินของที่อร่อย ระดับของห้องรับรอง ก็ ต้องยกสูงขึ้น

เลยพูดในขณะนั้นเลย “ฉันจองราคา 3888 แล้ว กัน และหาห้องรับรองสามที่ให้ฉัน!”

“ถ้าอย่างนั้นคุณผู้ชาย คุณต้องจ่ายค่ามัดจำอย่าง น้อย 10,000 หยวน!”

ผู้จัดการล็อบบี้ยิ้มเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน พวกเจียงเวยเวยที่อยู่ด้านข้าง แข็งที่อหมดแล้ว

ห้องที่นายกระจอกคนนี้เอา สูงกว่าหวังหยางด้วยซ้ำ แล้วยังเอาถึงสามโต๊ะด้วย!

นายจองมาตรฐานที่สูงขนาดนี้ จะกินแค่มันฝรั่ง เปรี้ยวหวานหรือไง?

บ้าไปแล้ว คนคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ!

เขามีเงินหรือ?

อวดอะไรกัน

ส่วนเฉินเกอไม่ได้มองด้วยซ้ำ หยิบ 10,000 หยวนจากกระเป๋า แล้ววางไว้ตรงหน้าผู้จัดการหญิง โดยตรง

เจียงเวยเวยสะดุ้ง “นายนี่มัน มีเงินออกมากินข้าว ฉันบอกให้นาย ทุนการศึกษาของนาย อย่าคิดที่จะสมัคร เลย! ค่าเทอมก็ไม่ต้องจ่ายแล้ว!”

“ขอบคุณที่เป็นห่วง เรื่องค่าเทอม ฉันจ่ายไป เรียบร้อยแล้ว!”

เฉินเกอหมดคำบรรยายกับผู้หญิงคนนี้แล้ว

สวยขนาดนี้เสียเปล่า เสียดายที่ประจบสอพลอ เงินทองมากเกินไป รังเกียจความจน รักใคร่ความรวย

กลับเป็นหญิงสาวที่เจอในห้องประชุมวันนั้น ชื่อ ว่าซูมู่หาน นิสัยดีกว่า

ความประทับใจที่หญิงสาวคนนั้นให้กับเฉินเกอ ก็ คือ สวยและเงียบมาก

มองแค่แวบเดียว ก็สามารถทำให้เฉินเกอหัวใจสั่นไหว

น่าเสียดาย วันนี้เธอไม่มา

ทางเจียงเวยเวยดวงตาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ นาย พูดว่าอะไรนะ? นายจ่ายค่าเทอมแล้ว? ตอนนี้เอาออกมา อีกหนึ่งหมื่น นั้นก็หมายความว่า นายมีเงินอย่างน้อยห ลายหมื่น? นาย…เกิดอะไรขึ้น?”

“โอ้ฉันถูกลอตเตอรี่!”

เฉินเกอจนปัญญา ถ้าหากไม่พูด ผู้หญิงคนนี้ สามารถบ่นจู้จี้ให้เขาตายได้ ดังนั้นก็ดำเนินคำโกหกให้ ถึงที่สุดแล้วกัน

“ถูกลอตเตอรี่ ถูกเท่าไหร่?”

เจียงเวยเวยรีบถามขึ้น

พฤติกรรมที่เฉินเกอแสดงออกมาในตอนนี้ แปลก ประหลาดมากเกินไป อย่างแรกคือ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

เพียงแค่ที่นั่งของห้องรับรองสามที่ ก็ใช้ไปหนึ่ง หมื่นหยวนแล้ว

นี่ยังไม่รวมค่าเครื่องดื่ม

ร้านอาหารขายอะไร? ก็คือเครื่องดื่มไม่ใช่หรือ

ถ้าเป็นเช่นนี้ สามโต๊ะยังไงก็ต้องใช้ราคา ประมาณหกหมื่น

ซึ่งก็หมายความว่า เฉินเกอจะต้องถูกรางวัล ได้ รับเงินหนึ่งแสนหยวนแน่นอน ไม่! อย่างน้อยต้องสองแสน และอาจมากกว่านั้น ขาถึงสามารถเย่อหยิ่งอย่างนี้

ได้!

“เอ่อ ไม่มากๆ แค่นี้ก่อนแล้วกัน!”

เฉินเกออ้างให้ผ่านพ้นไป แบกกระเป๋าไว้ด้าน หลัง หันหลังเดินจากไป

ตัวเองจะบอกกับเจียงเวยเวยมากขนาดนี้ทำไม กันส่วนใหญ่คือไม่อยากที่จะพบเจอกับเธออีก

“ฮึม! ก็แค่เพียงถูกลอตเตอรี่ ยอดเยี่ยมอะไรกัน เมื่อเทียบกับพวกลูกหลานไฮโซที่รวยจริงแล้ว นายเป็น แค่ตัวอะไรกัน!”

เมื่อเห็นท่าทางที่เย่อหยิ่งของเฉินเกอไม่สนใจตัว เองเลย ไม่ต้องพูดถึงว่าเจียงเวยเวยแค้นใจมากแค่ไหน “เหอะๆ เวยเวย เสียอารมณ์กับคนแบบนี้ทำไม!

เดี๋ยวกลับไปที่คณะฉันแจ้งให้สวีตง ให้เขาจัดการไอ้

หมอนี่ ก็จบแล้ว!”

หวังหยาง พูดอย่างเย็นชา

“ใช่เลย ก็แค่ถูกไม่กี่หมื่นไม่ใช่เหรอ มีอะไรน่า หยิ่ง ใครเห็นค่า!”

พวกเพื่อนผู้หญิงของเจียงเวยเวยก็พูดอย่างดูถูก เช่นกัน

แต่เจียงเวยเวยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เรื่องนี้ เธอ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน นายเฉินเกอที่สมควรตาย

คนนี้ ถูกเงินรางวัลเท่าไหร่กันแน่!
กระวนกระวายใจจริงๆ!

เฉินเกอก็ได้ขึ้นแท็กซี่กลับมหาวิทยาลัยแล้ว

คาบเรียนตอนบ่ายเฉินเกอเรียนได้สนุกมาก เพราะสายตาดูถูกที่คนพวกนั้นมีต่อตัวเอง ได้หายไป

แล้ว

ถ้ายังมี นั่นก็เป็นความอิจฉาของคนจำนวนน้อย

“เฉินเกอ ร้านอาหารจองไว้ที่ไหนเหรอ? คงไม่ใช่ ร้านอาหารเล็กๆ ธรรมดาๆ นะ?”

ตอนที่เลิกเรียน สวี่ตงและหวงเหมาหัวเราะเส แสร้ง แล้วเดินเข้ามาถาม

เพื่อนในห้องจำนวนไม่น้อย ก็มองเฉินเกอด้วย

ความอยากรู้อยากเห็น เฉินเกอยิ้มและพูดว่า “ไม่เช่นนี้ ครั้งแรกที่เลี้ยง

ข้าวเพื่อนเรียนของฉัน ยังก็ต้องให้พึงพอใจหน่อย ฉัน จองร้านอาหารที่ห้องครัวเจียหยวน!”

“อะไรนะๆ ห้องครัวเจียหยวน?”

สวี่ยงตกตะลึงมึนงงโดยตรง

แม้แต่เพื่อนในห้องเรียน ก็ยังมองเฉินเกอด้วย

สายตาตกตะลึง

“เฉินเกอ ห้องครัวเจียหยวนในถนนการค้าจิน

หลิงหรือ?”

หยางเสว่ เดินตรงไปข้างหน้าเฉินเกอทันที และถามอย่างเย็นชา

ห้องครัวเจียหยวน นั้นเป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาว เลยนะ ปกติแค่โต๊ะเดียว ยังไงก็ไม่ต่ำกว่าสองหมื่น แน่นอน นี่ยังไม่ราคารวมเครื่องดื่ม

เฉินเกอได้ถูกลอตเตอรี่รวมเพียงสองแสน นี่ถ้า เลี้ยงเพื่อนจริงๆ คาดว่าจะหายไปครึ่งหนึ่ง

แม้ว่าจะเลิกกับเฉินเกอ แล้ว แต่แสนหนึ่งที่ เฉิน

เกอใช้ไป ในใจของหยางเสว่ก็รู้สึกเสียดายมากจริงๆ ไม่ใช่ว่าเสียดายเฉินเกอแต่เสียดายเงินหนึ่งแสน หยวน ก็เหมือนกับว่า เฉินเกอซื้อกระเป๋าราคาสามแสน

หก ทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจมาก

ในสายตาของเธอ เงินเหล่านี้ จะต้องใช้กับเธอ หยางเสว่ในไม่ช้าก็เร็ว!

“ใช่แล้ว ก็คือที่นั่น!”

เฉินเกอยิ้มเบาๆ

“เฮ้ย! นายบ้าไปแล้วหรือไง!”

หยางเสว่ตะโกนอย่างโมโห เหมือนมองคนสติไม่

ดี

“เหอะๆ คุณชายเฉินเป็นคนใจกว้างจริงๆ ใช่แล้ว คุณชายเฉิน ตอนที่เราไป พาแฟนไปด้วยได้ไหม?” แม้ว่าสวีตงจะแสดงความเคารพต่อหน้า แต่ยังไง

ก็ไม่สามารถปกปิดเขาซ่อนความดูถูกในใจได้
ในเวลานี้ หยางฮุยลุกขึ้นยืนและพูดกับสวีตงว่า “เฮ้ย! ต่อให้เฉินเกอเลี้ยง พวกนายมีหน้าไปเหรอ?”

“หยางฮุย วันนี้คือเฉินเกอเลี้ยงข้าว เขาถูก ลอตเตอรี่ เราก็ดีใจกับเขา จะไม่ไปได้อย่างไร!”

สวีตงหัวเราะ

เฉินเกอพูดอย่างจำใจเล็กน้อย “ได้ พวกนาย อยากจะไป ก็ไปได้ พาแฟนของพวกนายไปด้วยก็ได้!”

เฉินเกอ จะมองไม่ออกว่าสวีตงคิดยังไงได้ อย่างไร แต่ในเมื่อเขาพูดว่าจะเลี้ยง ทุกอย่างก็ไม่สำคัญ

“เย้!”

ผู้ชายผู้หญิงในชั้นเรียน ต่างก็ตื่นเต้นในทันที

และหยางเสว่มองไปที่เฉินเกอที่สีหน้าเรียบเฉย ไม่เสียดายเงินเลยสักนิด เงินพวกนี้ เดิมทีเธออยากจะ หลอกเอามา

แต่เฉินเกอ น่าแค้นในยิ่งนัก!

ได้!

นายเลี้ยงเลย! วันนี้ฉันจะเรียกลู่หยางไปด้วย ไป กินไปดื่มของอร่อย

ค่ำคืนเดียว กินนายให้กลายเป็นไอ้ยากจนไม่ เหลืออะไร!

เมื่อถึงเวลานั้น ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเสียอารมณ์กับ เรื่องที่นายถูกลอตเตอรี่สองแสนแล้ว!
หยางเสว่คิดอย่างนี้ในใจ

สวีตงก็ไม่ได้หมายความอย่างนี้ เสียที่ไหน

หลังจากคุยตกลงกันเรียบร้อย ก็มีคนไปแจ้งลู่ หยางโดยปริยาย แม้แต่ครูเมิ่งไฉ่หรูก็อยู่ด้วย แต่ว่าเธอได้ขับรถเอง พาพวกสวิงไปพร้อมกัน

พวกเฉินเกอและหยางฮุย ก็ได้นั่งแท็กซี่ ตามมา ถึงที่ห้องครัวเจียหยวน กันติดๆ

“เฮ้ย! คือห้องครัวเจียหยวนจริงๆ!”

สวีตง รู้สึกประหลาดใจจริงๆ

แต่ว่า อย่างนี้ก็ดีเลย ตามสิ่งที่เขาคิดไว้ในใจ

“นายเฉินฉันคิดว่าพวกคุณมากันจำนวนไม่น้อย เกรงว่าห้องรับรองสามห้องที่จองไว้ตั้งแต่แรก คงจะไม่ พอนะ! อย่างน้อยก็ต้องเพิ่มอีกหนึ่งห้อง!”

ผู้จัดการหญิงในล็อบบี้ รีบเข้าไปกล่าว

“นั้นก็ได้ ก็เพิ่มอีกห้องหนึ่ง!” เฉินเกอครั้งนี้ ถือว่า เป็นการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยสรุ่ยสุร่ายจริงๆ หลังจากที่ กลายเป็นลูกหลานไฮโซแล้ว

“เดี๋ยวก่อน เฉินเกอถ้าหากต้องเพิ่มอีกห้องจริงๆ ครูของเราอยู่ที่นี่ ยังไงก็ต้องเพิ่มห้องรับรองที่หรูหราใช่

ไหม?”

ในเวลานี้ สตงมองไปที่เฉินเกอยิ้มแล้วพูด “ใช่แล้ว ครูเป็นผู้ใหญ่ของเรา จะมาอยู่ในห้องระดับเดียวกันกับพวกนักศึกษาอย่างเรา ได้ยังไง!” พวกสวีตงสร้างความว้าวุ่นทันที

และเมิ่งไฉ่หรู กลับได้กอดอกไว้อยากดูว่า เฉิน เกอจะพูดยังไง หยางฮุยที่อยู่ข้างๆ ถ้าไม่ใช่ว่า ครู อยู่ที่นี่ ก็ลงมือ

จัดการพวกสวีตง ตั้งนานแล้ว และในช่วงที่เฉินเกอ ยังไม่ได้พยักหน้า

ลู่หยางที่ยืนหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ ก็ก้าวออกมายิ้ม พูดว่า “เฉินเกอ ถ้านายไม่อยากที่จะเสียเงินแล้วก็ ฉันว่า เราสองคนแชร์ค่าใช้จ่ายในห้องรับรองพิเศษหรูหราแล้ว กัน! อย่างนี้ นายคงจะไม่รู้สึกตัวเสียดายไม่อยากจ่ายอีก นะ?”

ลู่หยางยิ้มเยาะเหน็บแนม

ในฐานะที่เขาเป็นคนห้องอื่น พูดตามตรง หน้า ด้านเหมือนอย่างสวีตง เขาไม่สามารถทำได้จริงๆ

ถ้าห้องรับรองพิเศษหรูหรา ค่าใช้จ่ายหารครึ่ง ตัว เองก็มั่นใจที่จะให้เฉินเกอ เสียเงินสั่งอาหารมากขึ้น ตัว เองก็มีข้ออ้างนี้แล้ว

ที่สำคัญคือมีหน้ามีตา!

ตามความคาดหมาย ขณะนี้เมิ่งไฉ่หรูมองไปที่ ลู่ หยางด้วยสีหน้าที่ชื่นชม

แม้แต่หยางเสว่ก็รู้สึกมีหน้ามีตา
ก็เป็นดั่งเช่นนี้ นายกระจอกรวยชั่วค่ำคืนจะยังไง แล้วก็เป็นได้แค่นายกระจอก

ดูการวางตัวเข้าสังคมของลู่หยางบ้านเรา นี่ถึง เป็นลูกหลานไฮโซที่แท้จริง!

“ค่าใช้จ่ายหารครึ่ง? ถ้าเป็นอย่างนี้ นั้นฉันไม่มี ปัญหา!”เฉินเกอเพียงแค่ยิ้มอ่อนๆ ในเมื่อ ลู่หยางตั้งใจที่ จะมาท้าชน นั้นก็มาท้าชนเลย ยังไงนี่ก็คือร้านอาหาร ของบ้านตัวเอง..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ