ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 338 พบกันโดยบังเอิญที่สถานีรถไฟ



บทที่ 338 พบกันโดยบังเอิญที่สถานีรถไฟ

ตูในเมืองชวนที่เป็นใจกลางเมือง

แน่นอนว่าต้องเจริญรุ่งเรืองมาก

และรถขบวนนี้ อยู่ตรงหน้าทางออกของสถานีรถไฟที่ผู้คน มากมายพอดี ทำให้ผู้คนสังเกตเป็นพิเศษ

ถึงสถานีแล้ว

เฉินเกอลุกขึ้นมาขยับเอวเล็กน้อย แล้วพาซูเฉียงเวยและท่าน ฉินลงรถไปด้วยกันสามคน

แต่ว่าครั้งนี้ตอนที่เดินผ่านพวกหูฮียหมินไป เฉินเกอเดินไป ด้วยความเย็นชา

ไม่ได้ทําการทักทาย

“เฮอะ การกระทํานี้ ใครอยากจะสนใจนาย!”

เงินเกอจะดื้อรั้นขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้ามาทักทาย ตัวเอง

ใช่แล้ว ตามนิสัยที่เอาแต่ใจของหูฮียหมินแล้ว เธอทักทายฉัน ฉันสามารถไม่สนใจเธอได้ แต่ว่าเธอไม่ทักทาย โดยเฉพาะคน อย่างเฉินเกอ ก็รู้สึกแย่เหมือนถูกฝูงหมูมาดูถูก

แต่ก็ช่างมันเถอะ พวกหล่อนไม่กี่คนก็ลงรถต่อๆ กันมาแล้ว
“จุนเหวิน เธอบอกว่าพวกเราถึงสถานีแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมถึง ไม่มีคนมารับล่ะ?”

หูฮุ่ยหมินถาม

พวกเธอลงจากรถพร้อมกัน มองไปรอบๆ ข้าง

ตึดตืดตึด!

และในขณะนี้ มีรถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งขับมาแล้วกดแตร หลังจากนั้นก็ลดกระจกลง มีผู้ชายที่หล่อเหลาคนหนึ่งทักทาย

กับเฉินจุนเหวิน

“จุนเหวิน นี่!”

“หวางเจี้ยน!”

เฉินจุนเหวิน โบกมือ

“ว้าว รถแลนด์โรเวอร์เลยเนี่ย พี่จุนเหวิน เพื่อพี่ทำอาชีพอะไร เนี่ย?”

ผู้หญิงรอบๆ ข้างพูดขึ้นมา

“ตอนนั้นเป็นเพื่อนกับฉันในโรงเรียนทหาร แต่ว่าหลังจากจบ แล้ว ก็ไม่ได้เดินทางนี้ ถูกพ่อเขาเรียกไปสืบสานบริษัทต่อแล้ว ฮ่า ฮา!”

เฉินจุนเหวินพูด

ผู้หญิงที่อยู่รอบๆ ข้างอดไม่ได้พุ่งไปทางเฉินจุนเหวิน มีแววตานับถือเล็กน้อย

ทำไมคนที่เก่งถึงเป็นแบบนี้ตลอด คนที่รู้จักก็มีฐานะไม่ ธรรมดา

“จริงด้วยหุ้ยหมิ่น เธอบอกว่าที่มีเพื่อนสมัยมัธยมปลายข องเธอไม่น้อยเลยน ยังพูดว่าจะมารับพวกเราด้วย! ถ้าพวกเรานั่ง รถไปตอนนี้ งั้นเพื่อนของเธอก็มาเสียเปล่า!

ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น

“หุ้ยหมิ่น เพื่อนสมัยมัธยมปลายของเธอตอนนี้เป็นไงบ้าง เนี่ย? เธอพูดว่ามีธุรกิจเป็นของตัวเองไม่ใช่หรอ?”

เฉินจุนเหวินเดินตรงไปทางรถไฟด้วย ถามไปด้วย

“ใช่แล้ว ตอนนั้นพวกเราเป็นนักกีฬาของโรงเรียนกันทั้งนั้น มี เพื่อนไม่น้อยเลยที่สอบมาที่ ความสามารถก็เก่งๆ ทั้งนั้น ไม่ ว่ายังไงแล้วภารกิจของเราจะเริ่มขึ้นก็ต้องรออีกไม่กี่วัน ฉันก็ อยากจะไปเที่ยวหาพวกเขาเหมือนกัน แต่ว่า คงไม่เก่งเท่าหวาง เจี้ยนเพื่อนเธอหรอก!”

หูฮุ่ยหมินพูดด้วยความเจ็บปวด

หลังจากนั้น ก็มาถึงหน้ารถ แล้วทักทายทําความรู้จักกัน

ตึด-ตึดตืด!

และในขณะนี้ ก็มีเสียงแตรดังขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5ขับตรงมา
หน้าตาลดลง ครั้งนี้คนที่นั่งอยู่ตรงคนขับและข้างคนขับคือ ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง

โบกมือมาทางหูฮุ่ยหมิน “ฮาย! หุ้ยหมิ่น!”

“หวางเหวิน เหลียงเมิ่ง!”

หูฮุ่ยหมินก็ยิ้มด้วยความดีใจ

พอเห็นเพื่อนของหูฮุ่ยหมิน ต่างก็ขับรถหรูมารับ

ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ สองคนต่างก็อิจฉามาก

ไม่ว่ายังไงแล้วพวกเธอก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายแบบนี้ มีแต่ก็ ไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว

และเป็นการทำความรู้จักกันอีกครั้ง

ระหว่างผู้คนที่ประสบความสำเร็จ คำพูดที่พูดกันก็มีมากมาย อยู่แล้ว

“ปุ๋ยหมิ่น ไม่เจอกันหลายปีแล้ว คิดถึงเธอจะตายอยู่แล้วเนี่ย! ครั้งนี้ไปรวมตัวกันเลย!!

หวางเหวินเองก็สวยมาก ขณะนี้ถึงมือของหูฮียหมินแล้วพูด ด้วยความเป็นมิตร

“อืม?”

ทันใดนั้น หวางเหวินมองไปทางข้างหลังหูฮุ่ยหมินแล้วอึ้งไปเลย
“นั่น…..นั่นไม่ใช่เงินเกอหรอ? ไม่หรอกมั้ง?

หวางเหวินมองดูพวกเฉินเกอที่เดินออกจากสถานีรถไฟ

แต่ละคนมีทั้งหอยกระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่

“เฮอะ จะไม่ใช่ได้ไงล่ะ เขานั่นแหละ!”

หูฮุ่ยหมินหมด จะพูด

“เฉินเกอ!”

ขณะนี้หวางเหวินตะโกนเรียกขึ้นมากะทันหัน

เฉินเกอก็อึ้งไปเลย ทำไมถึงมีคนตะโกนเรียกชื่อตัวเอง

หันไปดู ถึงมองเห็นว่าเป็นพวกหวางเหวินเหลียงเมิ่ง

ถึงแม้ว่าตอนสมัยมัธยมปลายจะไม่ค่อยสนิทกัน นอกจากการ แข่งขันแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกันเป็นส่วนตัว

แต่พอพูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นความสมพันธ์ระหว่างเฉินเกอกับ หวางเหงินก็ไม่เลว

ส่วนเหลียงเมิ่งนั้น ก็เป็นคนประเภทที่ฐานะรวยๆ ปกติแล้วไม่ ค่อยได้พูดคุยกับเฉินเกอ

แต่ว่าจะดีกับพวกหูฮุ่ยหมิน

หลังจากนั้น ก็เดินตรงไปด้วยความประหลาดใจ

“หวางเหวินเหลียงเมิ่ง พวกเธอเองหรอเนี่ย?”
ในเมื่อเพื่อนๆ เจอกัน เฉินเกอก็ยังคงเป็นมิตรอยู่ เหลียงเมิ่งมองเฉินเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า พยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าเป็นการทักทาย

หวางเหวินกลับกระโดดตบไหล่ของเฉินเกอ

“เฮ้ย เฉินเกอ นานแค่ไหนแล้วเนี่ยที่ไม่ได้เจอนาย นายก เหมือนกัน ไม่ติดต่อพวกเราเลย!”

ตอนนั้นที่มีการแข่งขัน แข่งขันในกลุ่มเล็กๆ เฉินเกอกับหวาง เหวินอยู่กลุ่มเดียวกัน ในเวลาเดียวกันก็ชนะเพราะฉะนั้นทั้งสอง ยังคงมีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมแข่งขันอยู่

“ใช่แล้ว เราไม่เจอกันนานมากแล้วเนี่ย!!

เฉินเกอเองก็พูดตอบกลับ

“จริงด้วยเฉินเกอ ผู้หญิงสวยคนนี้คือแฟนของนายกับคนใน ครอบครัวหรอ? เอาอย่างนี้ละกัน พวกนายจะไปไหน ฉันให้เหลื ยงเมิ่งส่งพวกนายไปด้วยเลย!”

หวางเหวินพูด

“เดี๋ยวฉันจะต้องไปรับคนอื่นอีกนะ!”

เหลียงเมิ่งพูดขึ้นกะทันหัน

หวางเหวินยิ้มด้วยความอึดอัด แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อการ สนทนา “จริงด้วยหุ้ยหมิ่นเฉินเกอ พวกเธอยังไม่รู้เลย ฉันกับเหลี ยงเพิ่งจะแต่งงานกันแล้ว ท้องได้สามเดือนแล้วเนี่ย!!
“จริงหรอ งั้นดีใจด้วยนะ!” หูฮุ่ยหมินยิ้มด้วยความตกใจ

ก็ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงนี้คิดอะไรอยู่ ขณะนี้กลับมองดูอารมณ์สีหน้า ของเฉินเกอ

เหมือนว่าจะต้องเห็นสีหน้าที่เปรียบเทียบกับคนอื่นของเฉิน เกอ เป็นการผิดหวังที่เทียบไม่ติดแบบนั้นเธอจึงจะดีใจ

“อืม? เมื่อฉันไม่ทันระวัง ให้ตายเธอ พวกเธอดูขบวนรถนั้น

ขณะนี้ หวางเจี้ยนไปทางข้างๆ กะทันหัน

“อืม? ใช่แล้ว รถหรูเต็มเลย?”

ผู้หญิงไม่กี่คนต่างก็มองไป แล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ “ข้างหน้าสุด เหมือนจะเป็นประธานที่เปิดบริษัทและมีชื่อ

เสียงในจังหวัดนนะ?” เหลียงเมิ่งมองออกแล้ว ขณะนี้พูดด้วยความตกใจ

“ประธานจูจริงๆ ด้วย แปลกจัง คนที่อยู่ในตำแหน่งแบบนี้ ทําไมถึงมารับคนอื่นด้วยตัวเองล่ะ? จำได้ว่าตอนที่ฉันยังเด็ก พ่อ ของฉันพาฉันไปร่วมงานการค้าธุรกิจ ตอนนั้นฉันยังไม่รู้เรื่อง วิ่ง ไปมั่ว ปรากฏว่าเกือบไปชนโดนประธานจู เขายังลูบหัวฉันอีก ด้วย!”

หวางเจี้ยนพูดด้วยความอวดรวย
“ฉันไปทักทายหน่อยดีกว่า! ฉันเห็นผู้จัดการคนหนึ่งที่อยู่ข้าง หลังประธานจู รู้จักกับพ่อฉัน!”

หวางเจี้ยนพูดจบ ก็เดินไปจริงๆ ด้วย

ทุกคนต่างก็มองด้วยความนับถือและตกใจ

แล้วเห็นหวางเจี้ยนเดินไปคุยกับผู้จัดการคนหนึ่งจริงๆ ด้วย แต่ในไม่ช้าก็เดินกลับมาแล้ว

“ว่ายังไงบ้างหวางเจี้ยน?”

เฉินจุนเหวินพูดด้วยความนับถือ

“ทักทายไปคำหนึ่ง ฮ่าฮ่า วันนี้เขามารับท่านชนชั้นใหญ่ท่าน หนึ่ง ก็เลยไม่ได้คุยกับฉันมาก เมื่อกี้พึงประธานแค่หันมามอง ฉัน ฉันไม่กล้าพูดกับเขา!

ทุกคนต่างก็พูดคุยกันอย่างเป็นมิตร

เฉินเกออู่อยู่ที่นั่นก็ดูอึดอัดมาก

หลังจากทักทายกับหวางเหวินแล้วก็จากไปเลย

ขณะนี้หวางเหวินไม่ได้ตั้งไว้ เป็นความจริงที่ว่า ให้เป็นเธออยู่ ที่นี่ต่อ ก็ดูอึดอัดมากอยู่

“แปลกจัง ทำไมคุณชายเฉิน ยังไม่ลงมาเนี่ย?”

ส่วนทางนั้น จูหมิงมองนาฬิกาแล้วมองอีก ขณะนี้ กระวนกระวายจนเหงื่อท่วมหัวไปหมด
หลี่เจิ้นกั๋วไม่ได้สั่งให้จูหมิงไปรับคุณชายเฉิน แค่บอกว่าคุณ ชายเฉินจะมาถึงในวันนี้ ให้รอ โทรศัพท์ก็ได้แล้ว

เพราะว่าเฉินเกอพูดแล้ว ไม่ต้องจัดพิธีอะไร แต่ว่าคนพูดไม่คิดอะไร คนฟังมักจะคิดไปทั่ว จูหมิงจะรอช้าได้ยังไงล่ะ แต่ว่าพอรอไปรอมาก็รอไม่ถึงสักที

พูดแล้วเฉินเกอเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว ทั้งสามคนจึงหา โรงแรมแล้วพักอยู่ที่นั่น

และในตอนที่พึ่งปักหลักลง โทรศัพท์ของเฉินเกอก็ดังขึ้น กะทันหัน…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ