ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 460 กลับไปที่จินหลิง



บทที่ 460 กลับไปที่จินหลิง

“คุณปู่!”

เว่ยชิงยินวิ่งไปด้วยความเร่งรีบ

“เชิญครับคุณเฉิน!”

เว่ยโป๋ออกมาพร้อมกับเฉินเกอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

และเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง เว่ยชิงยินเองก็สังเกตเห็นว่า สีหน้า ของคุณปู่เปลี่ยนไปเยอะมาก

“ชิงยินไม่ต้องเป็นห่วง คุณเฉินแน่ใจว่าสามารถรักษาคุณปู่ได้ หลังจากช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ตามคำพูดที่คุณเขาพูดแล้ว คุณปู่มี โอกาสที่จะหายเต็มตัวเลย!!

เว่ยโป้แสดงความเคารพ

“งั้นก็ยินดีล่วงหน้ากับท่านเวยนะครับ แต่ว่า ถ้าหากว่าศิษย์ พี่สามารถช่วยท่านปู่เว่ย ได้ ไม่รู้ว่าท่านปู่เว่ยจะสามารถช่วย เหลือศิษย์พี่ได้ไหมครับ?”

โจ๋วจงทาวพูด

“อ๋อ? คุณเฉินจะมีเรื่องอะไรที่สามารถใช้ฉันเว่ยโป้ช่วยได้ ครับ?”

“คืออย่างนี้ครับ ได้ข่าวว่าตระกูลเว่ยทางดินแดนใต้มีต้นโสม พันปีต้นหนึ่ง เจ้าตัวนี้ ร้อยปีเจอครั้งเดียว ศิษย์พี่ของฉันตามหาสิ่งของชิ้นนี้มานานมาก ถ้าหากว่าว่าท่านเว่ยยอมช่วยแล้วก็เป็น สิ่งที่ดีมากครับ!”

โจ๋วจงทาวพูด

ส่วนเฉินเกอก็หรี่ตายิ้ม

พูดความจริงแล้ว การปฏิสัมพันธ์กับภาคตะวันตกเฉียงใต้ ตระกูลเว่ย เฉินเกอคิดไว้ว่าหลังจากที่รักษาเว่ย โปแล้ว จะขอให้ ตระกูลเวียช่วยตามหาโสมพันปี

ไม่ว่ายังไงแล้วตัวเองก็ได้ไปหาที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้เป็น ช่วงเวลาหนึ่ง เพียงแค่ตัวคนเดียว อำนาจก็ไม่มี

ฉะนั้นถึงได้มีความคิดนี้ขึ้นมา

ส่วนซ่อโสมพันปีนั้น ฟังจากลงฉินแล้ว ถ้าหากว่าตัวเองมี โอกาสได้ใช้ ก็จะช่วยหล่อเลี้ยงเลือดเป็นอย่างมาก พอถึงเวลา นั้นตระกูลโม่ไม่เพียงแต่อยู่ไม่ในสายตาของลุงฉิน แม้แต่อยู่ใน สายของตัวเองก็ไม่ใช่ของอะไรทั้งนั้น

เฉินเกอก็ไม่ต้องมากังวลหน้าหลังแบบนี้ กังวลว่าตระกูลโม่จะ หวังร้ายกับตระกูลเฉินที่หนานหยาง แล้วไม่ต้องกลัวแบบนี้แล้ว

ไม่ว่ายังไงแล้วตามความสามารถของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าจะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าพอมีความเกี่ยวข้องลำบากกับตระกูลเฉิ นขึ้นมา งั้นตัวเองก็มีความสามารถที่ไม่เพียงพอแล้ว

ตอนที่ลุงฉินพูด โจ๋วจงทาวก็อยู่ด้วย
สิ่งที่ทำให้เงินเกอมีความซาบซึ้งคือ ตอนนี้เขายังจำเรื่องนี้ให้

ตัวเองได้อยู่ “ที่แท้โสมพันปีที่คุณเฉินต้องการนั้น ก่อนหน้านี้ที่ฉันป่วยหนัก ยังเคยคิดที่จะใช้เจ้าตัวนี้ แต่ว่าตามหาไปนานมาก บวกกับมีคน พูดว่า ถ้าหากว่าคนธรรมดา ใช้แล้วก็ สามารถทำให้กระแสเลือด เพิ่มขึ้นและแตกได้! สองปีก่อน ฉันถึงได้ตัดความคิดที่จะตาม

หา!”

เว่ย โป๊พูด

“แต่ว่าถ้าหากคุณเฉินต้องการงั้นสำหรับตระกูลเว่ยแล้ว ไม่ ถือว่าช่วยเหลือเลย หลังจากที่ฉันกลับไปแล้ว จะรีบเตรียมคน และม้า แล้วออกตามหา!”

“งั้นก็ขอบคุณท่านปู่เว่ยมากๆ แล้ว!”

เฉินเกอพูดด้วยความซาบซึ้ง

“ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็จะนำใบยา กลับดินแดงฝั่ง ตะวันตกเฉียงใต้แล้ว! ไปเตรียมการให้คุณ จากนี้ไปชิงชูก็อยู่ต่อ กับคุณไปก่อนนะครับ!”

“เสี่ยวเกอ เรากลับจินหลิงไปด้วยกันไหม?”

หลังจากนั้น เสี่ยวหนานก็หอบกระเป๋าเดินทาง เตรียมตัวจะ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้ว

เพราะว่าเฉินเกอเองก็พูดแล้วว่าเขาจะต้องกลับไปจัดการเรื่อง เรื่องหนึ่ง ฉะนั้นหม่าเสี่ยวหนานจึงถาม
“ใช่ กลับไปด้วยกันเถอะ!

เงินเกอตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

ไม่เพียงแต่จินหลิง หนานหยางเฉินเกอก็คิดที่จะกลับไปดู เพราะว่าสืบข่าวมาได้เรื่องบางอย่าง ไอ้โม่เจี้ยนคุณชายสาม ของตระกูลโม่ที่ทำร้ายเฟยเอ๋อ ช่วงนี้กำลังอยู่ที่จินหลัง

หานเฟยเอ๋อมาถึงจุดนี้เพราะตัวเอง

ความโกรธ ตราบใดที่ยังไม่สามารถระบายออกมาได้ เฉินเก อก็ยากที่จะนอนหลับ

“ได้สิ งั้นแบบนี้ก็มีคนคอยดูแลแล้ว!”

หมาเสียวหนานพูดด้วยความดีใจ

“ใช่แล้ว กระเป๋าเดินทางพวกนี้วางอยู่ที่นี่เธอไม่ต้องเอา ให้ เว่ยชิงซูไปเอา!”

เฉินเกอชี้ไปทางเว่ยชิงซูที่ซุกมืออยู่ในกระเป๋าทั้งสองข้างแล้ว

ยืนอยู่ข้างๆ

“ให้ฉันจับ?”

เว่ยชิงซูพูดด้วยความไม่พอใจ

“ทําไม? ไม่เชื่อฟัง?”

แววตาของเฉินเกอแน่วแน่อยู่

ส่วนเว่ยชิงชู ก็พยายามอดทน
“จับก็จับ มีอะไรน่าโอหัง!”

เว่ยชิงซูจับกระเป๋าเดินทางแล้วลงไป

รถของเว่ยซิงซูเก็บไว้ที่นี่

แน่นอนว่าเขาเป็นคนขับรถ ให้เงินเกอ

รอให้พวกเขาขึ้นมาบนรถแล้ว

“เดี๋ยวก่อน!”

“มีอะไรอีก?”

เว่ยชิงซูพูดด้วยความไม่พอใจ

เงินเดอมองไปทางอีกทางหนึ่ง

หลังจากนั้นก็เห็นข้างล่างของเขาเหมิงซาน

มีรถขบวนหนึ่งผ่านมา ในระหว่างรถขบวนนั้น มีผู้หญิงสองคน เดินลงมา

ทำให้เงินเกออึ้งเล็กน้อย

“เฮอะเฮอะ คุณเฉิน คุณโตขนาดนี้แล้ว คงจะไม่ใช่ว่าไม่เคย เห็นแม้แต่คนสวยหรอกมั้ง? แต่ว่าไม่พูดไม่ได้เลย ผู้หญิงสองคน นี้สวยจริงๆ!”

เว่ยชิงซูจับคางไปด้วย พูดอย่างมีรสชาติไปด้วย

“หุบปาก!”
แววตาของเฉินเก มีความแน่วแน่

ผู้หญิงสวยสองคนนั้น แน่นอนว่าเป็นคนที่มีเรื่องราวกับเฉิน

เกอ

เงินเกอเองก็คิดไม่ถึงว่า ในมณฑลนี้ จะพบเจอพวกเขาสองคน

ส่วนพวกเขาสองคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจียนนั้นและฟาง

ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่จากกันที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ก็ไม่ได้เจอ กันมาครึ่งปีแล้ว

และเรื่องของตัวเองกับสาวสวยเจียนนั้นคนนี้ ก็เป็นเรื่องที่ คุณพ่อเล่าให้ฟังทีหลัง

ที่แท้ เธอก็คือคนที่คุณปู่หมั้นให้กับตัวเองตั้งแต่เด็ก

พูดแล้ว นี่ก็ทำให้เป็นเธอไม่รู้ว่าควรจะยังไงดี

แต่ว่าในตอนนั้น ต่างก็ฮิตเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรอ เพื่อการมี พันธมิตรที่ดีต่อกัน

แน่นอนแล้ว เฉินเกอให้เว่ยชิงชูจอดรถ ไม่ใช่เพราะอยากจะดู สาว หรือว่าอยากจะไปทักทายเจียนนั้น

แต่เพราะว่าเจียนนั้นและฟางหยีสองคนนี้ เหมือนจะถูก ติดตามมาแล้ว

เฉินเกอเห็นเงาของสองคน อยู่ทางไม่ไกลมากนัก กำลังจอง พวกเธออย่างลับๆ ล่อๆ อยู่
นี่คือจุดที่ทำให้เงินเกอรู้สึกสงสัย

“มองพอหรือยัง? คุณเฉิน คนเขาขึ้นไปแล้วเนี่ย!!

เว่ยชิงชูพูด

“จะรอให้พวกเขาขึ้นดอยนั่นแหละ พอแล้ว นายรอฉันอยู่ที่นี่ แป๊บหนึ่ง!”

เงินเดอมองดูเจี้ยนนั้นและฟางขึ้นดอยไปแล้ว

จากนั้นก็เปิดประตู เดินไปเดินไปทางสองคนที่ลับๆ ล่อๆ

“ให้ตายเถอะ หรือว่าเขาจะไปตามผู้หญิงสองคนนั้นไปคุย ด้วย?”

เว่ยชิงชูมีความรู้สึกอันตรายขึ้นมา

“พวกเรารออยู่ที่นี่นะ! ฉันจะไปดูว่าเขาไปทำอะไร!”

เว่ยชิงชูก็ตามหลังเฉินเกอไปแล้ว

พอเฉินเกอเห็นเว่ยชิงชูเดินมา

ก็โบกมือไปทางเขา “นายมาได้พอดีเลย เห็นสองคนนั้นไหม ดูก็รู้ว่าเป็นคนที่ฝึกวิทยายุทธมา นายไปหาเรื่องพวกเขา แล้วล่อ พวกเขาไปทางซอยนั้น!!

“จะทําอะไรเนี่ย?”

รีบไป!”

เฉินเกอผลักเว่ยชิงชูออกไป
เว่ยชิงชูออกไปพร้อมไปด้วย

กับเจียนนั้นและฟางหนีนั้น ถือว่าเคยมีความสัมพันธ์ช่วงหนึ่ง

กันมาก่อน แต่ว่าเฉินเกอก็ไม่ใช่คนประเภทที่เห็นเรื่องอะไรแล้วก็จะไปยุ่ง

ก็เพราะว่ามีการหมั้นตั้งแต่เด็กๆ กับฟางเงี่ยนนั้น เฉินเกอจึง แทรกมือเข้ามา

หลังๆก็คือเพราะว่าคุณน้าสองเฉียงเวย ต่างก็เป็นคนตระกูล

ฟาง

ตระกูลฟางในตอนนี้ ก็มีความสัมพันธ์เหมือนญาติกับตระกูล

เฉิน

ฉะนั้น เฉินเกอกำลังสงสัยว่า ใช่ตระกูลซื้อถูคู่แข่งในตอนนั้น

กำลังทำอะไรพิลึกพิกลอยู่หรือเปล่า

ส่วนเว่ยชิงซูก็เป็นคนที่หาเรื่องเก่ง

ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองก็วิ่งตามเว่ยชิงซูไปทางซอยข้างในนั้น “รอก่อน ระวังเป็นกับดัก!”

และในตอนที่มาถึงหน้าซอย ทั้งสองก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติ

กำลังจะถอยออกไป

พอหันหลัง

ก็เห็นเงา เงาหนึ่งลอยผ่านไป
ยังไม่ทันดึงสติกลับมาได้

ตรงหน้าอกก็เจ็บปวดมาก

ทั้งสองตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วล้มไปข้างในของ ซอยด้วยความหนัก!

“นาย…..นายเป็นใคร? รู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร?

ทั้งสองจับหน้าอก ลุกก็ลุกไม่ขึ้น รีบพูดด้วยคำ

“ฉันไม่รู้ว่าพวกนายคือใคร แต่ว่าฉันรู้ ถ้าหากพวกนายไม่ ตอบฉันดีๆ ละก็ เดี๋ยวพวกนายจะกลายเป็นคนตาย!

เฉินเกอซุกมือเข้ากระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง แล้วพูดกับคนข้าง หน้าสองคนนี้ด้วยความเย็นชา

ให้ทั้งสองคน รับรู้ถึงความเย็นชาที่แปลกๆ ในเวลาเดียวกัน………


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ