ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 923 ทหารผีเฝ้ายาม



บทที่ 923 ทหารผีเฝ้ายาม

เห็นเพียงคนผมขาวโพลนทั้งหัวคนหนึ่ง สวมชุดสีเทาขาวปรากฏ ตัวตรงหน้าเฉินเกอ

“คุณไม่ได้เป็นเพียงมนุษย์ แต่ยังเป็นผีด้วย! ”

หลังจากที่คนสวมชุดสีเทายาวต้องสังเกตเฉินเกอครู่หนึ่งก็เอ่ย

ปากพูดออกมา

ได้ยินคำพูดนี้ เฉินเกอรู้สึกตกใจเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าจะถูก คนคนนี้มองออก

“คุณคือ? ”

เงินเกอเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ฉันคือทหารยมทูตโยงจิตของแดนจี้หยิงถาบันรับผิดชอบ การคบค้าสมาคมกับคนนอกโดยเฉพาะ ดังนั้นฉันจึงรู้ดีถึงที่มาที่ ไปของคุณ”

ถาบันมองดูเฉินเกอพร้อมกับอธิบาย

“สวัสดีครับคุณทหารยมทูต ผมชื่อเฉินเกอ คุณพูดถูกแล้ว ผม ไม่เพียงมีฐานะเป็นแค่มนุษย์เท่านั้น ผมยังเป็นผีด้วย แต่ว่าร่าง ที่แท้จริงของผมคือผู้ฝึกตน! ”

เฉินเกอทักทายถาบันก่อน จากนั้นก็พูดฐานะที่แท้จริงของตัว เองออกมา ไม่ได้ไปปิดบังอะไร
“มิน่า มิน่าบนตัวของคุณถึงได้มีหุน (พลังวิญญาณ) กับหลัง ซี่ (พลังชีวิต) รวมกันมากมายเช่นนี้ แต่ว่าทุน (พลังวิญญาณ) ของคุณอันนี้ผสมปนเปกันมากเกินไป ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะ ต้องเกิดเรื่องแน่! ”

ถาบันก็มองเฉินเกอแล้ว ให้คําเตือน (ให้ระวัง) ด้วยความหวัง

ความจริงแล้วเป็นเกอก็รู้ถึงสถานการณ์ที่ถาบันว่ามันคือ อะไร มันก็คือกระบี่ซิงหยวนเล่มที่ตัวเองพกติดตัวเอาไว้

“ทหารยมทูต ผมมาเอาใบอนุญาตครับ! ”

หลังจากนั้น เฉินเกอก็มองไปที่ถาบันแล้วเอ่ยจุดประสงค์ที่ตัว

เองมา

ถาบันยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ฉันรู้ ที่คุณต้องการใบอนุญาต ก็เพื่อไปดินแดนเผ่าเช้านั่น ที่ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม? ” ถ้าบันหันกลับมาเอ่ยถามเงินเกออีก ครั้ง

“ถูกต้อง! ”

เฉินเกอไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าตอบรับโดยตรง

“แต่คุณรู้ไหมว่าถ้าอยากไปที่ดินแดนเผ่าเร่ส้านั่น จะต้องผ่าน การทดสอบจากฉันก่อน มีเพียงผ่านการทดสอบแล้วถึงจะได้ใบ อนุญาต! ”
ถาบันมองเฉินเกอแล้วเอ่ยต่อ

“ผมรู้ครับ ดังนั้นผมเลยมาหาคุณเพื่อผ่านการทดสอบ! “

เงินเกอตอบด้วยสีหน้าท่าทางที่แน่วแน่มาก

“ดี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วคุณเตรียมพร้อมจะรับการทดสอบ หรือยัง? ”

หลังจากนั้น ได้ยินเพียงถาบันเอ่ยถามยืนยันจากเงินเกอ

“ผมเตรียมพร้อมแล้ว เริ่มกันเถอะ!

เฉินเกอไม่ลังเลเลยสักนิด ตอบกลับไปโดยตรง

ขาดคำ บริเวณโดยรอบของเฉินเกอก็เปลี่ยนเป็นความมืดมิด ในทันที และถาบันก็หายไปต่อหน้าต่อตาเขา

เผชิญหน้ากับความมืดมิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สภาพ

แวดล้อมที่ยื่นมือออกไปแล้วไม่เห็นนิ้วทั้งห้าแบบนี้ บอกได้เลยว่า

ทำให้จิตใจของคนรับได้ยากจริงๆ

แต่ว่าเฉินเกอไม่ใช่คนทั่วไป ยืนตรงที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนด้วย ความสงบนิ่ง

“ดิง! ”

วินาทีต่อมา ประตูหินบานหนึ่งก็ปรากฏต่อหน้าเงินเกือ

“นี่จะเป็นบททดสอบด่านแรกของคุณ

ตามมาด้วยเสียงของถาบันที่ดังมาในความมืด
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ เฉินเกือก็เดินไปถึงหน้าประตูหน ผลักประตูหินออก เฉินเกอเห็นภาพที่ทำให้เขาตกใจอย่าง มาก

ข้างในภาพคนหลากหลายประเภทกำลังฆ่าฟันกันอยู่ ภาพ ของการเข่นฆ่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เฉินเกอจมอยู่ในความสงสัยทันที

“ตั้งแต่โบราณอดีตจนถึงปัจจุบัน สงครามก็ไม่เคยหยุดนิ่ง การเข่นฆ่าและความตายเชื่อมโยงต่อกันเป็นเส้น ตอนนี้มีทาง เลือกให้คุณสามทางเลือก คุณจะเลือกให้คนชั่วเหล่านั้นตายให้ หมด หรือว่าจะเลือกให้คนดีเหล่านั้นฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ หรือจะ เลือกปล่อยไปตามชะตากรรม”

เสียงของถาบันดังขึ้นมาอีกครั้ง บอกรายละเอียดเกี่ยวกับ สถานการณ์ของด่านนี้

หลังจากเฉินเกอได้ฟังแล้ว ก็คิดอย่างจริงจังและไตร่ตรอง อย่างลึกซึ้ง

ถึงแม้ด่านนี้ดูเหมือนจะง่ายมาก แต่ความจริงกลับไม่ใช่อย่าง นั้น ด่านนี้คือช่วงเวลาทดสอบความเป็นมนุษย์ของคนคนหนึ่ง

ความจริงแล้วทั้งสามทางเลือกนี้ล้วนแต่เป็นทางเลือกที่ไม่เลว มากๆ แต่ว่าเฉินเกอไม่รู้ว่าเลือกทางไหนถึงจะถูกต้อง เฉินเกอไม่ อยากให้ตัวเองล้มเหลวตั้งแต่ด่านแรก

หลังจากคิดรอบคอบอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเกอก็เอ่ยปากพูดว่า
“ผมเลือกปล่อยไปตามชะตากรรม! ”

เงินเกอเลือกทางเลือกที่สาม ปล่อยไปตามชะตากรรม “อ๋อ? ทำไมคุณถึงเลือกข้อนี้ มันทำให้ฉันประหลาดใจมาก จริงๆ! ”

หลังจากถ่านไฟังแล้ว เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

“ความจริงแล้วความเป็นความตายของคนทุกคนล้วนแต่ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองหรือคนอื่นจะสามารถตัดสินได้ ความเป็นความ ตายของแต่ละคนย่อมเป็นไปตามโชคชะตา ถ้าหากความตาย มาถึงจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีวิธีที่จะหยุดยั้งเอาไว้ได้ สิ่งที่ทำได้ เพียงอย่างเดียวก็คือรอคอยบทสุดท้ายของชีวิตด้วยความสงบ

“ผมไม่อยากไปเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนอื่น เพราะว่าผม ไม่มีสิทธิ์ ถึงแม้คนชั่วเหล่านั้นจะน่ารังเกียจมาก ผมแทบอยากจะ ให้พวกเขาตายไปในทันที แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายคนชั่วก็จะได้รับ กรรมชั่วที่ทำเอาไว้ บทสรุปของพวกเขาถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ผม ไม่อยากจะไปเปลี่ยนแปลง”

เฉินเกออธิบายเกี่ยวกับทางเลือกที่ตัวเองเลือกกับถาบัน

“แปะ แปะ แปะ! ”

หลังจากที่เฉินเกอพูดจบ บริเวณโดยรอบก็มีเสียงปรบมือดัง ขึ้นมา

“ไม่เลวไม่เลว คุณแตกต่างไปมากจริงๆ ยินดีด้วย คุณผ่านบททดสอบด่านแรกแล้ว! ”

บริเวณโดยรอบมีเสียงเอ่ยชมของถาบันดังขึ้นมาทันที

จากนั้นสภาพแวดล้อมที่มืดมิดก็กลับคืนสู่สภาพเดิม ถาบัน ปรากฏตัวต่อหน้าเงินเกออีกครั้ง

เฉินเกอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดไม่นึกถึงว่าทางที่ตัวเอง เลือกจะทําให้ผ่านบททดสอบได้สําเร็จจริงๆ

“ความเป็นความตายของคนทุกคนต่างไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองหรือ คนอื่นจะตัดสินใจได้ คุณพูดถูกแล้ว คุณไม่ใช่คนประเภทที่จะ ประทุษร้ายต่อชีวิตผู้อื่น! ”

ถาบันมองเฉินเกอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพอใจและ เอ่ยชมออกมา

“ขอบคุณสําหรับคำชมของคุณ ทหารยมทูต”

เงินเกอเอ่ยขอบคุณถาบันอย่างสุภาพไปคำหนึ่ง

“เอาล่ะ เตรียมตัวพร้อมหรือยัง กำลังจะเข้าสู่ด่านต่อไปแล้ว! ”

จากนั้นถาบันก็เอ่ยเตือนเฉินเกออีกคำหนึ่ง

“อืม ผมเตรียมพร้อมแล้ว! ”

เฉินเกอเอ่ยปากตอบทันที

ชวบ!

เสียงหยุดลง สภาพแวดล้อมรอบข้างของเฉินเกอเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ครั้งนี้ ตรงหน้าเฉินเกอมม่านแสงเพิ่มขึ้นมาแสงหนึ่ง ในม่าน แสงกำลังแสดงภาพฉากหนึ่งอยู่ ภาพฉากนี้เป็นประสบการณ์ที่คนหนึ่งคนประสบตั้งแต่เกิดจน

แก่ตายไป

“นี่ก็คือหนึ่งชีวิตของคน คุณมองอย่างไร? ”

เสียงของถาบันดังขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยถามไปทางเฉินเกอ

เฉินเกอมองภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ เขารู้สึกว่าด่านนี้น่าจะ เป็นการทดสอบว่าตัวเองเข้าใจเกี่ยวกับหนึ่งชีวิตของคนมาก น้อยแค่ไหน

ชีวิต ตกลงแล้วเป็นอย่างไร? แล้วหนึ่งชีวิตของคนเป็น อย่างไร?

“ทหารยมทูต คุณเคยผ่านประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์ไหม? ” หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เฉินเธอก็ถามกลับไปที่ถาบันที่อยู่ใน ความมืด

“ฉันเคยประสบกับมันมาแล้ว แต่ฉันไม่อยากประสบกับมันอีก ครั้ง! ” ได้ยินเพียงคำตอบที่ถาบันตอบกลับมาในทันที

ได้ยินคำตอบนี้ของถาบัน ดูเหมือนจะทำให้เงินเกอรู้สึกถึง ความรู้สึกเสียใจอย่างมาก

ถ้าหากว่าเฉินเกอเดาไม่ผิด ถ้ามันจะต้องเคยประสบกับชีวิตที่ทุกข์ทรมานอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้ถาบันรู้สึกว่าไม่อยากจะไป ประสบพบเจอและรู้สึกถึงกันอีกครั้ง

เวลานี้ เฉินเกอหลับตาทั้งคู่ของตัวเองแน่น

ชั่วขณะหนึ่ง ในสมองของเฉินเกอก็ปรากฏภาพมากมายหลาก หลาย

ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่เฉินเกอประสบพบเจอตั้งแต่เด็กจนโต ถึงแม้ตั้งแต่เด็กจนโตสิ่งที่เฉินเกอเคยประสบพบเจอจะไม่ได้ราบ รื่นเท่าไหร่นัก แต่ว่าอย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีชีวิตที่ดีมากจริงๆ

แต่ว่าชีวิตคนเราไม่ใช่ว่าจะได้ประสบการณ์จากความสุข ความทุกข์การพบและการจากหรอกหรือ?

ความคิดนี้เกิดขึ้นในสมองของเฉินเกอ

วินาทีต่อมา เฉินเกอก็ลืมตาขึ้นทันที

“ผมรู้แล้ว ชีวิตของคนเราเดิมทีก็เวียนว่ายตายเกิดตลอดอยู่ แล้ว ชีวิตของแต่ละคนก็ล้วนแตกต่างกันไป คนเราตั้งแต่เกิดมา จนถึงความตาย ความจริงแล้วเป็นกระบวนการอย่างหนึ่ง มี เพียงแต่ประสบกับกระบวนการเช่นนี้ คนถึงจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้น เรื่อยๆ ได้ ถึงจะอยู่รอดต่อไปได้ยาวนาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ